บทที่ 215 นางฟ้านางสวรรค์เปื้อนเลือด
คำพูดอันแสนดื้อรั้นของจางยี่ทำให้หลินหยางผงะไปชั่วครู่ น้องเมียคนนี้กินยามาผิดหรือเปล่า?
“อย่ามองฉันแบบนี้! ฉันก็ต้องการ ทำไมพวกเธอได้กันหมด ฉันถึงไม่ได้ล่ะ!” เด็กสาวใช้ข้ออ้างอันนี้ได้ช่างเฉียบคมจริงๆ
หลินหยางพูดอย่างเก้อเขิน “ระวังว่าพี่สาวของคุณจะมาจัดการกับคุณ รีบกลับไปนอนเดี๋ยวนี้เลย!”
“จัดการฉันก็ไม่กลัว เพราะยังไงวันนี้ฉันต้องได้!” จางยี่ลุกขึ้นยืน จากนั้นก็แทรกเข้ามาทันที
ที่นี่คือห้องพักของหนานกงหยูน เตียงนอนก็ไม่ได้ใหญ่เลย เผลอแวบเดียวแต่ดันเบียดเสียดยัดเยียดไปกันทั้งสามคน หนานกงหยูนทำท่าเหมือนรอคอยที่จะดูละครฉากเด็ดจากพวกเขาอยู่ ความจริงแล้วเรี่ยวแรงในการถูกทรมานทำเรื่องอย่างว่านั้นไม่เหลือแม้แต่น้อย
หลินหยางถูกจางยี่กอดเอาไว้แน่น ทว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ได้ทำอะไรต่อ เขาเองก็ไม่ได้เริ่มขยับเขยื้อน
ไม่ใช่ว่าจางยี่ไม่อยากจะขยับ แต่ว่าปกติความบ้าบิ่นนั้นราวกับมันได้มลายหายไปหมดสิ้นแล้ว ตอนที่ร่างกายได้อิงแอบแนบชิดกับหลินหยางรอยหยักในสมองก็หยุดการครุ่นคิดต่างๆ ลง สติสัมปชัญญะนั้นก็เตลิดไปไกล
ทว่าหลินหยางเองก็ไม่อาจรับสภาพได้ไหว เพราะว่าหน้าอกก้อนกลมๆ มันเต่งตึงมาก แถมยังอวบอิ่มและทิ่มลงบริเวณแผ่นอกของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นรดใบหูของจางยี่ มันจั๊กจี้ จนในใจก็จั๊กจี้ตาม
สุดท้ายแล้วก็ตัดสินใจได้ จางยี่ดึงเสื้อสายเดี่ยวออก ก้อนกลมๆ อันอวบอิ่มนั้นเตะเข้าตาหลินหยาง ก้อนกลมๆ คู่นี้เมื่อกับใบหน้าเล็กๆ อันงดงามของจางยี่เอามารวมกันแล้วเป็นการเปรียบเทียบที่ช่างแสนงดงามมาก หลินหยางเห็นแล้วไฟราคะในร่างกายยิ่งทวีคูณ
“คุณคลำตรงนี้!” จางยี่พูดล่อลวง
หลินหยางเองก็ไม่ได้คิดตาม จางยี่เริ่มออกตัวก่อน จากนั้นก็ดึงมือของเขามาประกบด้านบน ก้อนกลมที่ทั้งนุ่มนิ่มร้อนระทวย พอได้อยู่ในมือของหลินหยางแล้วก็แปรเปลี่ยนรูปร่างทันที เขาเดินเครื่องเพิ่มพลังมังกรและหงส์อย่างไม่รู้ตัว
จางยี่หลับตาลง พลางส่งเสียงฮึมฮึมในปาก ยามเมื่อเจินชี่พลังมังกรและหงส์ปะทะเข้ามานั้นเธอก็ไม่อาจควบคุมอาการกัดฟันพร้อมทั้งส่งเสียงครวญครางออกมาดังลั่น
เมื่อเห็นว่าหลินหยางยังถ่วงเวลาอยู่ตลอด หรือว่าเป็นเพราะตัวเองนั้นคอยเรียกเขาว่าพี่เขยเขาเลยรู้สึกลำบากใจไปด้วย? จางยี่พลันหันตัวกลับมาแล้วตะโกนเรียก “พี่ชาย ฉันจะเอา!”
พอเปลี่ยนคำเรียกเท่านั้นแหละหลินหยางดูรับได้มากกว่าเดิม เขาก้มศีรษะลงพลางงับจุดเล็กๆ บนฐานนมของเธอ พลันใช้ลิ้นเค้นดึงขึ้นมาอย่างเบาๆ จางยี่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกเสียวซ่านจนสติเตลิดเปิดเปิง จนอวัยวะด้านล่างนั้นผงาดขึ้นมาทันที
หลินหยางหายใจหนักหน่วง และต้องการจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับหญิงสาวที่เก่งกาจคนนี้ แต่ใจหนึ่งก็กลัวว่าเธอจะแสดงพฤติกรรมอะไรบางอย่างที่เหนือเกิดคาดออกมา
เพราะว่าจางยี่ไม่ใช่หญิงสาวเฉกเช่นหญิงสาวธรรมดาทั่วไป เธอเห็นหลินหยางที่ยังคงลิ้มลองแต่ผิวเผิน จนถามกลับอย่างโมโห “พี่ชาย หรือว่าคุณไม่ไหวแล้วใช่ไหม ทำไมไม่มาสักที!”
คำถามที่ไม่ควรถามผู้ชายที่สุดนั้นคือไหวหรือไม่ไหว ยิ่งเป็นหลินหยางแล้วด้วยที่เป็นผู้ชายที่มีพรสวรรค์ด้านนี้อยู่แล้ว! เขาพลันดึงสิ่งป้องกันด้านสุดท้ายของจางยี่ถูกดึงออก กางเกงชั้นในสีชมพูก็ถึงดึงไปเกาะอยู่ที่ข้อเท้า จนเห็นผืนป่าสีดำขลับ
หลินหยางยื่นมือออกไปค้นหา พลางยิ้มตอบ “ในป่าสมบูรณ์นี้มีลำห้วยซ่อนอยู่ด้วยนี่!”
“พี่ชาย ถ้ายังไม่เข้ามาลำห้วยสายนี้ก็จะแปรเปลี่ยนเป็นมหาสมุทรแล้วนะ!” จางยี่พูดแบบโกรธเคือง
หลินหยางจ่อจนประชิดทันที ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจางยี่จะเป็นคนแอ่นหน้าพร้อมทั้งเอื้ออำนวยจนครอบงำอาวุธขนาดใหญ่ของเขา ทว่าก็มีบางสิ่งที่ยังคงขัดขวางทางไว้อยู่ หลินหยางอยากจะอ่อนโยนลงหน่อย เพราะยังไงเธอก็เป็นเด็ก แต่ว่าจางยี่ไม่ใช่หญิงสาวแบบคนทั่วไป เธอกัดฟันเอาไว้แน่นพร้อมทั้งแอ่นตัวกระแทกใส่อย่างแรงจนทั้งสองคนไม่มีอะไรขวางกั้นกันอีกแล้ว
แม้ว่าน้ำตาแห่งความเจ็บปวดจะไหลรินออกมา ทว่าจางยี่ยังคงยิ้มหน้าบานเป็นจานกระด้ง ในที่สุดเธอก็ได้ลิ้มรสชาติแบบนี้แล้ว
หลินหยางสงสารเธอจับใจ พลันใช้เจินชี่ในการปลอบโยนร่างกายของจางยี่ เพื่อให้เธอได้หายเจ็บจากอาการเจ็บปวดอย่างรวดเร็ว หลินหยางค่อยๆ ขยับจังหวะ ทว่าหญิงสาวอย่างจางยี่คนนี้ไม่ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ เพราะคิดว่าเจ็บแวบเดียวก็ดีขึ้นแล้ว เลยปีกกล้าขาแข็งยกสะโพกเพื่อร่วมหัวจมท้ายไปพร้อมกับเขาด้วย
ทว่าเรื่องพรรค์นี้ยังไงก็คือครั้งแรก โดยเฉพาะการได้มาประสบพบเจอชายหนุ่มที่มีความสามารถเรื่องนี้อย่างหลินหยางแล้วด้วย ยิ่งเพิ่มแรงมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งทำให้ตนเองได้รับความเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น
“เจ็บ” จางยี่พูดอย่างออดอ้อน
หลินหยางยิ้มให้ พลันใช้เงยหน้าจ้องมองแล้วพูดกับเธอ “คุณนี่เป็นผู้หญิงที่โง่มาก ยังจะฝืนทนต่ออีก! เมื่อครู่ฉันได้ช่วยให้คุณได้คลายความเจ็บปวดลงแต่ก็ได้ใจจนลืมไปแล้วสิ!”
“พี่ชาย คุณช่วยฉันที!” จางยี่ใช้ขาทั้งสองข้างเกี่ยวรัดหลินหยางเอาไว้พร้อมทั้งพูดออดอ้อน
พร้อมทั้งทอดเสียงยาวให้ กระดูกของหลินหยางก็เบาแรงได้ไปเยอะ แต่ใช้พลังมังกรและหงส์หมุนอยู่ในท้องน้อยของเธอ ผ่านไปชั่วครู่ เธอถึงได้สบายตัวขึ้น
พอกลับมาที่เดิมอีกครั้ง หลินหยางพลันแนบชิดโอบกอดเธอเอาไว้แน่น เนื้อที่ส่งถึงปากก็สามารถกลืนกินได้
การตั้งรับระหว่างกัน ร่างกายที่เชื่อมโยงกัน หลินหยางนั้นถลำตัวทั้งตัวเข้าหา แต่เขากลับลืมไปว่าด้านข้างยังมีหนานกงหยูนอยู่ด้วย เรี่ยวแรงของคุณหนูใหญ่ของตระกูลได้ฟื้นกลับมาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าสองคนนี้หน้าด้านหน้าทนมาทำเรื่องอย่างว่าต่อหน้าต่อตาของตนเองโดยไม่มีการปิดบัง ความอิจฉาริษยาพลันพุ่งเข้ามาในใจทันที
หนานกงหยูนพลันพลิกตัวแล้วทับจนลำตัวด้านบนของหลินหยาง พลันพูดว่า “สารเลว ทำไมคุณถึงได้จองหองขึ้นทุกวัน ฉันจะทับคุณให้ตายเลย!”
คนที่จะโดนทับให้ตายนั้นไม่ใช่หลินหยาง จางยี่รู้สึกว่าทรวงอกของตนเองหายใจไม่ค่อยออก หนานกงหยูนผู้หญิงคนนี้ได้ใช้พลังกดทับ หลินหยางรีบใช้พละกำลังทั้งแขนขาทั้งสี่ทิศ ในการยับยั้งการกดทับทั้งหมดเอาไว้
ร่างกายของจางยี่ถึงได้สบายขึ้น พลันกัดฟันพูดเยาะเย้ยกลับ “พี่ชาย เราสองคนก็จองหองกลับเลย คุณไปยับยั้งพลังเธอเอาไว้ ส่วนฉันอยู่ข้างล่างก็จะจัดการทำเอง!”
จางยี่เป็นคนพูดแล้วไม่คืนคำ เธอไม่สนใจได้สนใจว่าร่างกายจะสามารถรับสภาพได้ไหม ตนเองพยายามแอ่นสะโพกเข้าหาเขา หลินหยางต้องรับศึกหนักทั้งสองข้าง ศึกหนักจากแรงกดทับของหนานกงหยูน อีกศึกก็คือเด็กสาวที่กำลังทำลีลาเร่าร้อนที่อยู่ใต้ร่างกายของเขา
หลังจากผ่านการปรุงรสอย่างเร่าร้อนไปสักครู่ ในที่สุดหลินหยางก็น้ำแตก จางยี่ก็ค่อยๆ ลดสะโพกลง
“พี่ชาย ฉันสบายใจจัง!” จางยี่กอดเขาเอาไว้พร้อมทั้งพูดอย่างตื่นเต้น
หนานกงหยูนเริ่มดึงพลังภายในกลับ ราวกับรู้สึกได้ว่าคนสองคนที่อยู่ใต้ร่างกายของเธอต่างถึงจุดสุดยอดแล้วทั้งคู่ พลันบ่นพึมพำออกมา “พอล่ะ ไม่ทรมานพวกคุณแล้ว!”
หลินหยางรีบลุกขึ้นพลางรีบนวดให้จางยี่ทันที เมื่อครู่ เด็กสาวคนนี้ดื้อรั้นมาก จนช่วงล่างนั้นมีเลือดเปรอะจนเป็นรอย ผ้าปูเตียงสีขาวบริสุทธิ์เปรอะเปื้อนไปทั่ว เลือดสีแดงสดมันทำให้เขาปวดใจ
“คุณนี่มันเป็นเด็กโง่จริงๆ เลย!” หลินหยางบ่น
“ไม่ ฉันไม่ได้โง่! พี่ชาย พี่ช่วยนวดให้ฉันหน่อยนะ ตรงนี้ฉันบวมเป่งแล้วเนี่ย!” จางยี่พูดด้วยความละอายใจ
หลินหยางไม่พูดพร่ำทำเพลง พลางใช้เจินชี่ในการนวดให้เธอทันที ดีที่ว่าร่างกายของจางยี่ถือว่าไม่เลวเลย หลังจากการนวดอยู่สักพักแล้วก็สามารถฟื้นคืนกลับมาได้เกือบจะเป็นปกติแล้ว แค่ต้องนอนให้หลับพรุ่งนี้อาการก็จะกลับมาดีดังเดิม
“พอแล้ว พวกคุณสองคนก็ยอมแพ้กันได้แล้ว อย่าได้ก่อสงครามกันต่อเลย!” หลินหยางพูดกำชับ
“เชอะ ก็เธอมาเยาะเย้ยฉันก่อน!” หนานกงหยูนพูดอย่างไม่พอใจ
จางยี่ยอมแพ้แล้วก็ไม่ดื้อรั้นที่จะต่อสู้อีก แต่ก็กอดแขนหลินหยางเอาไว้แน่นพลันพูดว่า “พี่ชาย นอนกอดฉันนะ!”
หนานกงหยูนก็ไม่น้อยหน้า พลันกอดหลินหยางไว้แน่น
ทั้งสามคนก็นอนเบียดเสียดด้วยหันแบบนี้ ผู้หญิงสองคนนอนกันคนละข้างในฝั่งของตนเอง พร้อมทั้งกอดแขนของหลินหยางเอาไว้แน่น มันยากนักที่จะสงบลง ทว่าจางยี่ก็ไม่อาจสงบลงได้ พลันใช้มือเรียวเล็กของตนเองก่อกวนกระบอกปืนย่อมๆ ของหลินหยางอยู่ตลอดเวลา
หลินหยางเองก็ส่งเสียงคอยเตือนเธอเอาไว้ แต่ว่าเด็กสาวคนนี้กลับจองหองไม่ยอมลดละ แต่ว่าครั้งนี้หนานหงหยูนก็ช่วยเหลือเขาไว้ พลางยื่นมือไปคว้าข้อมือของจางยี่เอาไว้ทันที จางยี่รีบปล่อยมือจากกระบอกปืนย่อมที่เริ่มผงาดตื่นตัวเล็กน้อยแล้ว
“รีบนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ห้ามไปทำงานที่ร้านซักรีดสาย!” หนานกงหยูนพูดอย่างไม่ไว้หน้า
“พี่ชาย ฉันเหนื่อยมากเลย พรุ่งนี้ขอกลับไปที่บ้านพี่สาวไปพักผ่อนสักวันได้ไหม?” จางยี่พูดจาขอร้อง
หลินหยางเพิ่งจะทำให้เธอเสียตัว แถมยังรู้สึกไม่ถูกกับการที่ทำกับเธอแบบนี้ เลยตอบตกลง
แต่ว่าสามารถลดความวุ่นวายไปได้เรื่องหนึ่ง หลินหยางย่อมดีใจมากอยู่แต่ ต่อไปจะได้ไม่ต้องมามัวแต่กังวลว่าตนเองจะต้องมาคอยต่อกรกับผู้หญิงบ้าบิ่นคนนี้ยังไงดี
เช้าวันรุ่งขึ้น หลินหยางตื่นนอนแต่เช้า จางยี่เองก็ไม่กล้าตื่นสาย พร้อมทั้งขึ้นรถแลนด์โรเวอร์อย่างมึนๆ งงๆ ไปกับหลินหยาง
“พี่ชาย ฉันเหนื่อยมาก รีบสั่งฉันกลับไปนอนเร็ว!” จางยี่พูดจาออดอ้อน
ความจริงแล้วทั้งคืนหลินหยางถึงจะเป็นคนนอนได้เหนื่อยที่สุดมากแล้ว เพราะผู้หญิงทั้งสองคนเอาขนของตนเองไปเป็นหมอนทั้งคืน!
“ไม่เป็นไร นอนเอนหลังให้หลับสนิทสักครู่ พอถึงบ้านพี่สาวคุณแล้วก็ค่อยพักผ่อนให้พอ!” หลินหยางพูด
พลันเหยียบคันเร่งสตาร์ทเครื่อง ทว่าตลอดทางจางยี่ไม่อาจสงบนิ่งได้เลย พร้อมทั้งสนใจเครื่องยนต์ดุดันขึ้นมาแทน
“พี่ชาย รถยนต์คันนี้มันยอดเยี่ยมมาก สามารถให้ฉันได้ลองหน่อยได้ไหม?” จางยี่ทำสีหน้าสนใจใครรู้ตอนพูดออกมา
“ไม่ง่วงแล้วเหรอ? ได้สิ งั้นให้คุณลอง!” หลินหยางยิ้มตอบ
พลางจอดริมข้างทาง จางยี่รีบปีนมาหาทันที หลินหยางอยากจะเอาที่นั่งของตนเองให้เธอ แต่จางยี่กลับกอดเขาเอาไว้แน่น
“พี่ชาย ท่านี้ได้ไหม? เมื่อคืนนี้มนุษย์ป้าก่อกวน ฉันเลยไม่ได้รับรักคุณได้เต็มที่!” จางยี่เกี่ยวลำคอของเขาเอาไว้
เช้าตรู่ขนาดนี้แล้วจะมาเล่นขย่มรถแต่เช้าเลยเหรอ? ถึงแม้ว่าหลินหยางจะคิดแบบนี้ เพราะโดยรอบๆ ต่างก็มีคนอยู่
“ไปเบาะหลัง มันมีฟิล์มสะท้อนแสงอยู่!” จางยี่เม้มริมฝีปากเอาไว้ตอนพูด
มือของจางยี่พลันสัมผัสค้นหาไปช่วงล่าง และลูบคลำผ่านกางเกง หลินหยางเริ่มไม่อาจฝืนทนความเร่าร้อนของเธอได้ พลันกอดเธอและมุดไปอยู่ที่เบาะหลังทันที
ท่ามกลางแสงแดดที่สาดส่องในเวลากลางวัน ทั้งสองคนช่างกล้าหาญชาญชัยมากที่ทำเรื่องพรรค์นี้ข้างถนน
ดีที่ว่าอาศัยว่าตำแหน่งที่นั่งด้านหน้าของรถแลนด์โรเวอร์นั้นมันมีฟิล์มสะท้อนแสงกลับที่ดีมาก การที่สองคนใช้มุมบังตาถือว่ายากมากที่ใครจะเห็นได้
ครั้งนี้จางยี่ขึ้นคร่อมอยู่ด้านบน พลันนั่งคร่อมอยู่บนตัวหลินหยาง ทั้งสองคนโอบกอดอยู่ด้วยกัน
“พี่ชาย แบบนี้แหละ กอดแบบนี้อยู่ตลอดเลยได้ไหม!” จางยี่บ่นพึมพำ
เสียงเรียกพี่ชายอย่างออดอ้อนมันทำให้หัวใจของหลินหยางนั้นอ่อนระทวยทันที หลินหยางตั้งกระบอกปืนเพื่อสู้รบ ครั้งนี้มันแฉะพอแล้วไม่ต้องใช้พลังกังฟูใดๆ ในการยัดแทรกตัวเข้าไป
จางยี่ที่กำลังนั่งคร่อมอยู่พลันถูกใจทันที จนงึมงำออกมา “พี่ชาย วันนี้มีแค่เราสองคน คุณต้องรักฉันให้เต็มที่!”
“ตามใจไอ้คนเจ้าชู้อย่างคุณ แล้วเติมเต็มจนคุณอิ่มหนำสำราญ” หลินหยางขยับจังหวะอย่างมีความสุข
ทั้งสองคนกำลังเล่นเสียวกันอยู่ข้างถนนในเขตนอกเมือง จนเริ่มหนักหน่วงขึ้นไปทุกที จนหลินหยางนั้นลืมถึงสภาพแวดล้อมที่ตนเองที่เป็นอยู่ในขณะนี้เลย
ประสิทธิภาพในการสั่นสะเทือนของรถแลนด์โรเวอร์นั้นจะดีถึงขั้นไหนก็ไม่อาจรับมือการแรงกระแทกสั่นสะเทือนของคนสองคนนี้ได้ รถยนต์เหล็กคันแข็งแกร่งเริ่มสั่นเทาอยู่ไม่หยุด ย่อมตกเป็นเป้าสายตาให้คนได้สนใจได้ง่าย
ทว่าตอนที่กำลังมีคนใช้สายตามองมา ณ จุดนี้นั้น พลันมีรถสปอร์ต เมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดประทุนคันหนึ่งทะยานพุ่งเข้ามาทันที เสียงคำรามดังกึกก้อง จนเรียกสายตาของทุกคนไปหมด
การขับเคลื่อนของรถสปอร์ตคันนี้ขับมาได้ไม่ปลอดภัยเลย พลันชนกับรถแลนด์โรเวอร์เข้าอย่างจัง
หลังจากที่มีเสียงชนดังสนั่นหวั่นไหว หลินหยางกับจางยี่ก็รับรู้ได้ถึงการถูกชนเข้าอย่างรุนแรง อีกนิดทั้งสองคนก็จะกลิ้งล้มไปอีกฝั่งแล้ว
หลินหยางรีบใส่เสื้อผ้าทันที พลางประคองตัวจางยี่แล้วเอ่ยถาม “เป็นไงบ้าง ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ปวดหัวจัง มันโดนชนตรงหน้าผาก!” จางนี่พูดด้วยอาการมึนๆ งงๆ
พลางลูบคลำเบาๆ ตรงหน้าผากนั้นนูนขึ้นมาเป็นลูกมะนาว แต่คนไม่เป็นไรก็ดีแล้ว พลันรีบใส่เสื้อผ้าให้เธอ หลินหยางผุดลุกนั่งทันที
เมื่อออกมามอง หลินหยางผงะตกใจทันที เพราะท้ายรถของรถแลนโรเวอร์โดนชนจนบุบหมดสภาพ รถสปอร์ตเปิดประทุนชนจนหมดสภาพแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ท่ามกลางควันที่พวยพุ่งออกมาเต็มบริเวณ หลินหยางก็เห็นว่าในตำแหน่งคนขับนั้นมีผู้หญิงใส่ชุดขาวที่กำลังนอนสลบอยู่
พลันรีบเข้าไปอุ้มคนออกมา เมื่อเงยหน้ามองแล้ว หลินหยางถึงกับมองจนชะงักไปชั่วครู่อย่างไม่รู้ตัว
ผู้หญิงคนนั้นสลบไป หน้าผากยังมีรอยแผล เลือดไหลอาบแก้ม ดูท่าทางเจ็บปวดทรมานมาก แต่ว่าใบหน้าของเธอนั้นช่างสวยสดงดงามมาก ใบหน้าเล็กอันวิจิตรตระการตา เครื่องหน้าที่งดงาม ปากนิดจมูกหน่อยรูปหน้าอันโดดเด่น ราวกับตอนที่เทวดาได้นิรมิตสร้างสรรค์ให้เธอเป็นของขวัญอันแสนพิเศษ ใบหน้านี้เป็นใบหน้าที่งดงามสะดุดตาที่สุดเท่าที่หลินหยางเคยพบเจอมา เป็นนางฟ้านางสวรรค์จริงๆ พลันอุ้มร่างกายอรชรของเธอเอาไว้จนตะลึงไปชั่วครู่ถึงได้นึกขึ้นมาได้ว่าต้องเรียกรถพยาบาล