บทที่ 231 ใจเต้น
จ้าวชิวเยว่ที่อีกแค่สองเดือนก็จะอายุครบ 18 บริบูรณ์เจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ตั้งแต่เล็กจนโตเธอนั้นมีครูเป็นเซินถูอ๋างหรัน ได้เรียนรู้วิธีการฆ่าคน แต่ไม่มีวิธีไหนเลยที่จะสามารถจัดการกับผู้ชายตรงหน้านี้ได้เลย
ถ้าเธอสามารถเลือกได้ตอนนี้ละก็ ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงเธอไม่มีทางเลือกที่จะมาจัดการผู้ชายคนนี้
“ทำไมต้องให้ฉันทำเรื่องอย่างนี้ด้วย” จ้าวชิวเยว่น้ำตาไหลอย่างห้ามไม่อยู่
“เพราะว่าเธอทำผิด ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ นี่แค่หนึ่งในบทลงโทษ เธออยากได้มากกว่านี้ไหมล่ะ” หลินหยางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
จ้าวชิวเยว่รีบส่ายหัวอย่างเร็ว “ไม่เอา ไม่เอา ฉัน……..ยอมเป็นเส้นสายของนายก็ได้ แต่ว่าฉันทำร้ายคุณป้าของฉันไม่ลง เพราะว่าเธอเป็นคนดี”
“งั้นฉันเป็นคนร้ายหรอ” หลินหยางหันกลับมาถาม
“นาย…….ก็ไม่ใช่ ถ้าฉันยอมไปสืบแผนของคุณป้าให้นาย นายก็ปล่อยฉันไปเถอะนะ” สาวน้อยมองหลินหยางอย่างกลัวๆ
ไม่มีการตอบรับหลินหยางเหยียบคันเร่ง ขับไปทางกลับเมืองจิงหลิง ตลอดทางทั้งสองคนเงียบไม่พูดออะไรเลย
จ้าวชิวเยว่ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ยังมีแผนอะไรอีกกันแน่ ก็เลยไม่กล้าพูดอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า
“เอาละ ถึงแล้ว ข้างหน้านี้ก็คือเทศบาลแล้ว คงไม่จำเป็นต้องให้ฉันส่งเธอเข้าไปหรอกใช่ไหม” หลินหยางชี้แล้วพูด
“ไม่ต้องแล้ว ฉันไปได้แล้วใช่ไหม” สาวน้อยถามอย่างไม่มั่นใจ
หลินหยางกลั้นหัวเราะแล้วพูดว่า “ได้ แต่ต้องจำคำพูดของฉันไว้ดีๆ ไม่อย่างนั้นพวกแมลงพวกนั้นก็จะมุดออกมา” จ้าวชิวเยว่รีบวิ่งออกไป ถ้ายังอยู่กับเขาแม้แต่วินาทีเดียวเธอคงกรี๊ดออกมาแน่ๆ
ยังไงก็ยังเป็นเด็กน้อย ยังขาดประสบการณ์แย่งชิง หลินหยางจะไปมีกู่วิเศษได้ยังไงกัน แค่เรื่องโกหกที่เอาไว้หลอกหล่อนเท่านั้นเอง เขาดูออกตั้งแต่แรกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูเข้มแข็ง แต่จริงๆ แล้วนั้นในใจอ่อนแอสุดๆ
จ้าวชิวเยว่กลับไปที่บ้านพักของจ้าวหย่าจิ้งอย่างช้าๆ จ้าวหย่าจิ้งกำลังอาบน้ำอยู่ มองผ่านกระจกทึบก็จะเห็นร่างที่สง่างามของเธอ
ได้ยินเสียงเปิดประตู จ้าวหย่าจิ้งคลุมด้วยผ้าเช็ดตัวก็ออกมาแล้ว รูปร่างที่สุดยอดนั้นทำให้จ้าวชิวเยว่ที่เป็นผู้หญิงเองก็มองตาค้างเหมือนกัน จ้าวหย่าจิ้งผิวขาวใสเนียนเหมือนกับผิดของเด็กทารกเลย สาวสวยที่ออกมาจากห้องน้ำแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่คนปกติจะเห็นได้ง่ายๆ เลยนะ
“คุณหญิง หุ่นคุณดีจังเลยค่ะ” จ้าวชิวเยว่อดไม่ได้ที่จะชม
“ดีอะไรล่ะ แก่จะตายอยู่แล้ว เธอไม่ได้ยินที่ไอเด็กบ้านั้นพูดหรอว่าฉันใกล้จะหมดอายุแล้ว” จ้าวหย่าจิ้งพูด
จ้าวชิวเยว่พอนึกถึงผู้ชายคนนั้นแล้วก็รู้สึกว่าคันไม้คันมือไปหมด แต่แล้วก็ไม่กล้าขัดใจเขา สงบสติอารมณ์สักพักแล้วพูดว่า “คุณหญิง คุณไม่ต้องไปฟังคำพูดมั่วๆ ของเขา พวกเรามีแผนเยอะที่จะจัดการกับเขาได้ค่ะ”
“เขาไม่ได้พูดมั่วหรอก ทักษะทางการแพทย์ของผู้ชายคนนี้ถูกผู้หลักผู้ใหญ่ชมไวเยอะ ตอนนั้นที่มีการประชุมแพทย์แผนจีนนั้นเขาได้เป็นผู้นำคนรุ่นใหม่ครั้งนี้มาเจียงหลิงต้องการความร่วมมือจากเขาเธอต้องห้ามวู่วามเด็ดขาดวันนี้เขาได้รังแกหลานไหม” จ้าวหย่าจิ้งถาม
“ปะ……เปล่าค่ะ” จ้าวชิวเยว่จับตรงอกโดยไม่ทันระวังตัวแล้วพูดว่า
จ้าวหย่าจิ้งพูดอย่างเย็นชา “ไอเด็กบ้านี่ช่างใจกล้าจริงๆ มันจับหน้าอกหลานใช่ไหม?”
จ้าวชิวเยว่หน้าแดงไปหมด ไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้น เพราะกลัวว่าตัวเองจะหลุดปากพูดทุกอย่าง
“สาวน้อยใจแตกแล้วใช่ไหม? รีบไปส่องกระจกหน่อยไป หน้าของหลานในตอนนี้แดงยิ่งกว่าตูดลิงอีกนะ” จ้าวหย่าจิ้งหยอกเล่น
จ้าวชิวเยว่รีบปิดหน้าตัวเองอย่างเขินอาย
จ้าวหย่าจิ้งหัวเราะแล้วพูดว่า “สาวน้อยบ้านเราเป็นสาวแล้ว อีกไม่นานก็จะอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์แล้ว ถ้าไอเด็กนั้นรังแกหนูต้องบอกน้านะ แน่นอนว่าถ้าหลานยอมให้เขารังแกก็ต้องบอกน้าเหมือนกัน พ่อที่ไร้ความรับผิดชอบของหลานคงไม่สนใจว่าหลานจะมีความสัมพันธ์ยังไงกับไอเด็กบ้านนั้นแน่ ถ้าหลานชอบ น้าจะคอยหนุนหลังหนูเอง!”
“คุณป้า!” จ้าวชิวเยว่พูดอย่างไม่พอใจ
“เอาละ เอาละ ไม่แกล้งหลานรักฉันแล้ว!” จ้าวหย่าจิ้งกอดเธอไว้แล้วพูด
ค่อยๆ ปล่อยผ้าเช็ดตัวออก เผยอกที่กลมเด้งดั่งพระจันทร์ จ้าวชิวเยว่อึ้งไปสักพัก แล้วก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงกับรูปร่างของคุณป้า แต่ที่ทำให้จ้าวชิวเยว่ตะลึงมากกว่าคือหน้าอกทั้งสองข้างนั้นไม่เท่ากัน
“มองพอรึยัง ทำไมหลานถึงเป็นเหมือนพวกโรคจิตพวกนั้นเลย จุดที่ทำให้คุณป้ารู้สึกไม่เสียใจกลับถูกไอเด็กบ้านนั้นมองออกซะอย่างนั้น ไม่รู้ว่ามันมองออกได้ยังไงกันนะ” จ้าวหย่าจิ้งพูดอย่างเสียใจ
จ้าวชิวเยว่อึ้งไปสักพัก คิดไม่ถึงเลยว่าคนเลวนั้นจะเก่งขนาดนี้ พูดถึงจุดด้อยของ คุณป้าถูกจริงด้วย
หน้าอกของจ้าวหย่าจิ้งถึงจะใหญ่เล็กไม่เท่ากันแต่ถ้าวงบนตัวผู้หญิงทั่วไปก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรใหญ่โต แต่สำหรับผู้หญิงอย่างจ้าวหย่าจิ้งที่แสวงหาความสมบูรณ์แบบนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทนได้
“คุณป้า คงไม่ใช่ว่าอยากให้เขาช่วยน้ารักษาหรอกนะค่ะ?” จ้าวชิวเยว่ถาม
จ้าวหย่าจิ้งจ้องเธอแล้วพูดว่า “เด็กโง่ ถ้าจะรักษาฉันจำเป็นต้องลงทุนมาเป็นนายกที่นี่ด้วยหรอ? เรื่องนี้ยังต้องวางแผนกันอีกยาวไกล อย่างน้อยก็ต้องมั่นใจให้ได้ก่อนว่าไอเด็กนั้นจะยอมช่วยฉันอย่างเต็มใจซะก่อน!”
ไม่กล้าถามต่อ จ้าวชิวเยว่แบ๊ะปากแล้วพูดว่า “หนูรู้สึกว่าน้าจะยกระดับของเขาสูงไปแล้ว เขามีค่ามากขนาดที่น้าต้องยุ่งยากขนาดนี้เลยหรอค่ะ ?จับเขามาแล้วทรมานเขา อย่างนี้เขาจะไม่ยอมทำงานให้คุณน้าได้ยังไง?”
“ต้องให้เขาเต็มอกเต็มใจถึงจะได้ เด็กน้อย วิธีจัดการผู้ชายมีมากมาย แต่ความคิดของหนูนั้นรุนแรงและซื่อเกินไป ! สามารถมีวิธีอื่นๆ ที่ใช้จัดการกับเขาได้ อย่างเช่นส่งหนูไปยั่วเขา แล้วให้เขาก้มกราบอยู่ใต้กระโปรงของหลาน!” จ้าวหย่าจิ้งหัวเราะแล้วพูด
ถูกล้อเล่นโดยผู้ใหญ่นั้น ทำให้จ้าวชิวเยว่ทั้งเขินทั้งหงุดหงิด ในตัวมีความรู้สึกแปลกอ้อร้นออกมาไม่หยุด อดคิดเรื่องหน้าอกครั้งนั้นโดยไม่รู้ตัว
วันที่ 2 หลินหยางกลับไปที่โรงเรียนอีกครั้ง เขาจะไปหาหลัวหยุน
ผู้หญิงที่มีชีวิตชีวาคนนี้ทำให้หลินหยางตะลึงนิดหน่อย หลินหยางหาจนทั่วโรงเรียนสุดท้ายหาเธอเจอโรงร้านอาหาร หญิงสาวนั่งกินอาหารเช้าอยู่ตรงนั้น แสงแดดยามเช้าส่องลงมาอยู่บนตัวเธอ ทำให้หลินหยางใจเต้นชั่วขณะ
หลินหยางเดินเข้าไป แล้วนั่งลง
“นายมาทำไม?” หลัวอี้จ้องเขาแล้วพูด
คิดไม่ถึงว่าข้างๆ จะมีคนที่น่ารำคาญอยู่ด้วย เมื่อกี้ไม่รู้ว่าทำไมถึงเซนเซอร์เขาออกจากสายตาตัวเองไปซะอย่างนั้น
“ไม่ได้มาหาคนที่แพ้ละกัน!” หลินหยางยิ้มแล้วพูด
หลัวหยุนหัวเราะแล้วพูดว่า “เอาละ น้องชาย นายรีบไปขึ้นเรียนได้แล้ว ฉันมีเรื่องนิดหน่อย!”
“พวกนายสองคนจะมีเรื่องอะไรได้ หลินหยางฉันเตือนนายไว้ก่อนนะ นายห้ามคิดที่จะทำอะไรพี่สาวของฉัน!” คำพูดของคนที่แพ้นั้นน้ำเสียงอ่อนลงไปหลายเท่า
หลินหยางไม่ใส่ใจเขา คว้าไดอารี่เล่มนั้นออกมายื่นไปพร้อมพูดว่า “เมื่อคืนฉันดูจนจบ ข้อเสนอของเธอดีมากจริงๆ เลยมาขอบคุณเธอเป็นพิเศษ!”
“ไม่ต้องเกรงใจ แต่ว่าแค่พูดว่าขอบคุณนั้นไม่มีความจริงใจเลย” หญิงสาวพูดอย่างซน
“ในเมื่อเธอซื้ออาหารเช้าแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันเลี้ยงข้าวเที่ยวเธอละกัน” หลินหยางเสนอ
หลัวหยุนยื่นมือไป นาฬิกาVanCleef&Arpelsรุ่นผู้หญิงบนข้อมือนั้นแสดงเวลาเป็น 08:00 เธอทำปากจู๋แล้วพูดว่า “นายจะให้ฉันรอถึงเที่ยงเลยหรอ?”
“งั้นเธอว่าละ!” หลินหยางแบมือทั้งสองแล้วพูด
“เชิญฉันไปดูหนังละกัน ช่วงเช้าไม่มีคาบพอดี” หลัวหยุนเสนอ
ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่เป้าหมายของเขาในครั้งนี้คือมาคุยเรื่องการเขียนกับเธอ
ฟังข้อเสนอของเธอ หลินหยางเลยขับรถพาเธอไปที่โรงหนัง
มองดูโปสเตอร์ที่ติดเต็มไปหมด หลินหยางไม่รู้ว่าจะดูอะไรดี เลยถามความคิดเห็นของหลัวหยุน
“Titanic 3D remake” หลัวหยุนกล่าว
ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงชอบดูหนังที่เก่าขนาดนี้นะ แต่ว่าพวกผู้หญิงก็ชอบเรื่องรักๆ พวกนี้อยู่แล้ว หลินหยางก็เลยซื้อตั๋วหนัง 2 ใบ
“ขอโทษด้วยนะค่ะ ตอนนี้เหลือแค่ที่นั่งฮันนีมูนค่ะ” คนขายกล่าวทั้งยิ้ม
“ถ้าอย่างนั้นเอาที่นั่งฮันนีมูนก็ได้ครับ” หลินหยางมองหลัวหยุนที่เขินจนหน้าแดงแล้วพูด
ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือป๊อปคอร์นกับน้ำอัดลม ซื้อเสร็จทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในโรงที่กำลังจะฉายหนัง
นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่หลินหยางมาดูหนังกับผู้หญิง หลินหยางใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พอเนื้อที่อลังการประกฏอยู่ตรงหน้าเขาถึงดึงสติกลับมาแล้วตั้งใจมองหน้าจอ
ผู้หญิงข้างๆ อยู่ติดเขามาก ข้อดีของที่นั่งฮันนีมูนนั้นก็คือระหว่างทั้งสองคนจะไม่มีอะไรมากั้นเลย ยังมีพื้นที่พอเพียงสำหรับการวางสิ่งของอีกเยอะ
ป๊อปคอร์นกับน้ำอัดลมยังไม่ได้กินเลยแม้แต่น้อยหลัวหยุนขยับตูดอย่างระมัดระวัง เพื่อลดระยะห่างระหว่างเธอและหลินหยางจาก 5 เมตรจนเหลือแค่ 2 เมตร แต่ผู้ชายข้างๆ กลับเอาแต่จ้องดูหนัง ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
จู่ๆ หลินหยางก็หันมา ถอนแว่น 3D แล้วถามว่า “ก่อนหน้านี้เธอเคยดูหนังเรื่องนี้มาก่อนไหม?”
“อือ……เคยดูตอนเด็ก ตอนนี้ลืมหมดแล้ว” หัวใจของหลัวหยุนเต้นเร็วมาก
เริ่มรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก หลัวหยุนลูปที่อกเบาๆ เธอพยายามสงบอารมณ์ตัวเอง แต่ไม่ว่ายังไงก็สงบอารมณ์ไปลงไปสักที ยิ่งตอนที่เธอแอบขยับตัวไปแนบชิดกับเขาแล้วนั้น รู้สึกว่ามึนไปหมดเลย
หลัวหยุนรู้ว่าตัวเองหาเรื่องให้ตัวเอง แต่เธอก็ห้ามตัวเองไม่อยู่ เพราะเธอแอบจ้องผู้ชายข้างกายมานานแล้ว โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับเขาแบบนี้ไม่ได้มีง่ายๆ เลย แล้วดูหนังที่เธอดูไปจนนับไม่ถ้วนแล้ว
ตอนที่หนังฉายมาถึงช่วงที่แจ็ควาดรูปให้โรส หลัวหยุนรู้สึกว่าเวียนหัวมากกว่าเดิม เธอกัดฟันทน ทนการทำงานเกินขีดจำกัดของหัวใจ
มือกำลังคลำหาอะไรสักอย่าง จับโดนป๊อปคอร์น หลัวหยุนเหมือนจับโดนสิ่งที่ช่วยชีวิตได้เลย รีบเอามาแล้วยัดเข้าปากไปหลายเม็ด
พอมาถึงฉากคลาสสิก แจ็คกอดโรสแล้วยืนตรงหัวเรือ กางแขนทั้งสองข้างเพื่อเพลิดเพลินกับความสุขในช่วงเวลานั้น ใจของหลัวหยุนค่อยๆ สงบลง เธอจินตนาการว่าตัวเองและหลินหยางเป็นตัวละครในหนัง
หัวใจของเธอกลับมาเต้นแรงกว่าเดิม หลัวหยุนรู้ว่าตัวเองตายแน่ๆ เพราะควบคุมอะไรไม่ได้แล้ว
ร่างกายเริ่มชาและแข็งทื่อไปหมด เอียงตัวไปข้างๆ พิงโดนที่ไหล่ของหลินหยาง
อุตส่าห์เอาความสนใจไปไว้กับหนังแล้ว ฉากที่อลังการงานสร้างทำให้หลินหยางรู้สึกประทับใจมาก จู่ๆ ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ กลับพิงลงมา ทำให้หลินหยางตะลึงไปเลย
กำลังคิดอยู่ว่าผู้หญิงคนนี้จะทำอะไรกันแน่ ไม่กล้าหันหน้าไปมองเธอ ก็เลยพยายามรักษาท่าเดิมไว้ มือก็ไม่กล้าวางลงเลย
แต่หลังๆ หลินหยางรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ ผู้หญิงที่ข้างกายนั้นหายใจผิดปกติ เหมือนกำลังจะจมน้ำเลย
หันมาดู ก็เห็น หลัวหยุนปิดตาไว้แน่น พร้อมกับกัดริมฝีปากอย่างทรมาน
หลินหยางรีบกอดหลัวหยุนไว้ ยื่นมือไปประคบที่ชีพจรของเธอ แย่แล้ว!โรงหัวใจผู้หญิงคนนี้กำเริบแล้ว!
เอาผู้หญิงนั้นนอนลงบนขาตัวเอง มือที่ใหญ่ของหลินหยางวางไว้ที่อกของเธอพร้อมกับกดลงไป
จุดที่มือสัมผัสโดนนั้นรู้สึกสุดยอดมาก แต่หลินหยางในตอนนี้ไม่มีกระจิดกระจายไปสนในจุดนั้น เอาแต่ทำCPRเพื่อให้เธอหายใจ ก้มหน้าลง ทำการผายปอดให้เธอ
คนข้างๆ เหลือบเห็น ก็ทำตามหลินหยางขึ้นมา อยากจะเอาผู้หญิงข้างกายนอนลง แต่ที่ไหนได้กลับถูกตบหน้าด้วยเสียงที่ดัง
การทำCPRของหลินหยางเห็นผลแล้ว หลัวหยุนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เห็นว่าหลินหยางกำลังกดหน้าอกของตัวเองและยังจะจูบตัวเองอีก
ความรู้สึกที่มึนก็ได้พุ่งขึ้นมา ผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้ก็สลบไปอีกครั้ง