บทที่ 236 บ้าคลั่ง
คำพูดของจ้าวหย่าจิ้งเหมือนกับก้อนหินที่อยู่ในบ่อน้ำข้างในใจของหลินหยาง ทำให้เกิดกระแสน้ำกระเด็นขึ้นบ่อยๆ
“นายกจ้าว ผมเป็นแค่นักเรียนแพทย์ที่ยังไม่จบ ขอบคุณมากครับที่ยกระดับของผมสูงแบบนี้ เห็นคุณพูดแบบนี้สงสัยผมคงช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอก” หลินหยางพูดพร้อมส่ายหน้า
“นายนี่เจ้าเล่ห์ขึ้นเยอะจริงๆ ด้วยสิ ฉันพูดถึงขั้นนี้แล้ว นายถอยก้าวหนึ่งไม่ได้เลยรึไง?” มือของจ้าวหย่าจิ้งพาดไว้ที่ไหล่ของหลินหยาง แล้วทำสีหน้าน่าสงสาร
การแสดงของผู้หญิงนี่สุดยอดจริงๆ ขนาดพูดโกหกยังสามารถทำให้ใจคนหวันไหว เสียดายที่อัตราการเต้นหัวใจของเธออยู่ในกำมือของหลินหยาง
ไม่ว่าจะโกหกยังไงอันนี้ไม่มีทางโกหกคนได้ ฉะนั้นหลินหยางหลบคำพูดของเธออย่างว่องไวแล้วพูดว่า “ถ้าคุณจริงใจ ใจจริงคงไม่เย็นชาขนาดนี้ ผมไม่ใช่คนโง่นะ”
หลินหยางลุกขึ้นแล้วเดินจากไป ทิ้งให้จ้าวหย่าจิ้งคิดมากคนเดียว เธอยังคิดที่จะลองดูท่าทีของเขา แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายนั้นเจ้าเล่ห์กว่า
ไม่รู้ว่าส่วนไหนของตัวเองที่เผยจุดอ่อน จ้าวหย่าจิ้งเดินเข้าไปในห้องของจ้าวชิวเยว่อย่างโกรธ
จ้าวชิวเยว่ในขณะนี้เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็มุดเข้าไปในผ้าห่มเรียบร้อย จ้าวหย่าจิ้งก็ขึ้นไปตาม
“ยัยตัวดี ให้มันลักพาตัวไปได้นะ เสียดายที่ฉันเป็นห่วงเธอขนาดนี้” จ้าวหย่าจิ้งจับแก้มของเธอไว้แล้วพูด
“คุณป้า หนูไม่ได้……..” จ้าวชิวเยว่คิดจะอธิบาย
จ้าวหย่าจิ้งพูดหึทีหนึ่งแล้วพูดว่า “ยังจะบอกว่าไม่ใช่ เธอดูหน้าของเธอ ตอนที่กลับมานั้นแดงขนาดไหน ยังไม่กล้ามองตาฉันอีก อีกอย่างทำไมเธอถึงเปลี่ยนเสื้อละ?ถูกไอสัตว์นรกนั้นฉีกเสื้อเธอขาดใช่ไหม?”
คิดไม่ถึงว่าจ้าวหย่าจิ้งจะพูดแค่คำเดียวก็พูดความจริงทั้งหมดออกมาได้ นี่ทำให้เธอพูดอะไรไม่ออกเลย
จ้าวหย่าจิ้งจิ้มที่หน้าผากของเธอแล้วถอนหายใจก่อนพูดว่า “ผู้หญิงก็เป็นผู้หญิงวันยันคำ ในเมื่อเขาได้กินหลานแล้ว แล้วแต่พวกเธอว่าจะทำอะไร แต่ว่าต้องห้ามทำร้ายเรื่องใหญ่ของพวกฉัน รอเขายอมช่วยอย่างเต็มใจเมื่อไหร่ แล้วแต่พวกเธอจะเอายังไง”
อาจจะเป็นเพราะรู้สึกผิด วันนี้สองหลินหยางไม่กล้าไปที่เซียนเฉ่าเก๋อ แต่ไปโรงเรียนแทน
ช่วงนี้มาโผล่ที่โรงเรียนบ่อยๆ คนที่ดีใจที่สุดก็ต้องเป็นหลัวหยุน ผู้หญิงคนนี้เอาแต่ตามติดตัวของไปไหนมาไหนตลอด
“ทำไมรู้สึกว่ายิ้มของนายเหมือนรู้สึกผิดเลย” หลัวหยุนพิงที่ไหล่ของหลินหยางแล้วพูด
“เปล่า แค่ช่วงนี้มีเรื่องทำให้ฉันเครียดนะ” หลินหยางพูดกลบเกลื่อน
ตอนนี้พวกเขาทั้งสองอยู่ในห้องชั้นบน หลัวหยุนมองไปทั่วๆ ห้องเห็นว่าไม่มีคนเลย ก็เลยกอดเขาแล้วมองตาทั้งสองของเขาไว้
“ไม่ใช่ นายมีเรื่องปิดบังฉันอยู่แน่ๆ” หลัวหยุนรู้สึกได้ว่าหลินหยางมีความในใจ
หลินหยางพยายามยิ้มแล้วพูดว่า “เธอรู้ไหม? นายกผู้หญิงที่มาใหม่ ฉันเหมือนไปทำอะไรให้หลานของเธอ ตอนนี้ไม่รู้ว่ากำลังนินทาอะไรฉันอยู่”
“นายกผู้หญิง?เหมือนฉันจะเคยเห็นในทีวี สวยมากเลย นายคงไม่ได้ลงมือกับเธอหรอกนะ?” ความคิดของผู้หญิงคงมีแค่นี้
หลินหยางรีบส่ายหัวแล้วพูดว่า “หล่อน38ปีแล้วนะ ฉันจะไปยุ่งกับหล่อนทำไม อีกอย่างคนที่ฉันทำอะไรให้เป็นแค่หลานของหล่อนเท่านั้นเอง”
“ไม่ใช่หรอกมั้ง ดูแล้วอย่างมากหล่อนก็แค่ 30 ปีเอง อีกอย่างออร่าดีมากด้วย คนสวยอีกต่างหาก ตอนที่ฉันเห็นในทีวีคิดว่าเป็นพิธีกรซะอีก” หลัวหยุนพูดอย่างตะลึง
หลินหยางก็ยังพูดเรื่องของจ้าวหย่าจิ้งไม่หยุด เหลือแค่เรื่องที่หล่อนเป็นหญิงบริสุทธิ์บวกกับที่หน้าอกข้างหนึ่งใหญ่ข้างหนึ่งเล็กนั้นด้วยที่ยังไม่ได้พูด
“นายรู้เยอะขนาดนี่ หล่อนไม่ตามล่านายหรอ?” หลัวหยุนพูดพร้อมหัวเราะ
“ก็ใช่ไง เพราะอย่างนั้นฉันก็เลยเป็นห่วงไง เพื่อกันการถูกฆ่าปิดปาก ฉันก็เลยเอาเรื่องของหล่อนมาบอกเธอหมดเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉันเธอก็บอกไปเลยว่าเธอก็รู้เรื่อง” หลินหยางพูดพร้อมหัวเราะ
หลัวหยุนมองบนใส่เขา จากนั้นก็นึกถึงปัญหาของตัวเองขึ้นมา เธอเลยถามอย่างเบาว่า “นายบอกว่าสามารถช่วยรักษาโรคหัวใจของฉันได้ไม่ใช่ ?นายช่วยรักษาฉันตอนนี้เลยได้ไหม”
“ตอนนี้ ?ที่นี่ ?คงไม่ได้ เพราะต้องถอดเสื้อทั้งหมดนะ” หลินหยางปฏิเสธ
“ถ้าอย่างนั้นก็ออกไป หาที่ที่สงบๆ กันเถอะ” หลัวหยุนทำหน้าตั้งตาคอย
หลินหยางเลยจำใจตกลง ทั้งสองคนก็ขึ้นรถเพื่อออกไปเปิดห้องที่โรงแรม
คิดไม่ถึงว่าหลัวหยุนขึ้นรถทันทีก็สังเกตเห็นว่าผิดปกติ เงยหน้าดูก็เห็นเป็นคราบแดงๆ ในเพดานรถ
หลินหยางก็มองไปตามที่เธอมองก็เห็นเหมือนกัน ในใจคิดว่าตัวเองประหม่าไปหน่อย
“นั้นเป็นอะไร!” หลัวหยุนถามอย่างโกรธ
“อาจจะเป็นมีที่ไหนเสียก็ได้” หลินหยางพูดเยาะเย้ย
หลัวหยุนพูดอย่างเย็นชา “คงไม่ใช่สิ่งของสำคัญของผู้หญิงบ้านไหนเสียหรอกนะ หรือว่าจะเป็นเพราะอันนั้นของจ้าวจินฟ่งมา ก็เลยเลอะออกมา? แต่เมื่อวานนายยัง………..กับเธออยู่เลย”
เซ้นส์ของผู้หญิงนี่น่ากลัวจริงๆ หลินหยางไม่ยอมพูดอะไรทั้งนั้น เพราะพูดไปก็เหมือนแก้ตัว
“ไอ้บ้า นายทำผู้หญิงเสียความบริสุทธิ์กี่คนแล้ว?” หลัวหยุนจ้องแล้วถามเขา
“ก็ไม่เท่าไหร่……..” หลินหยางพูดอย่างเอื่อยเฉื่อย
หลัวหยุนเริ่มรู้สึกอารมณ์เสียแล้วบิดตัวไปมา ก็เริ่มรู้สึกว่าเจ็บไปทั่วหัวใจทันที
เห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของหลัวหยุน หลินหยางก็เลยรีบกอดเธอไว้ แล้วใส่เจินชี่บทหลงเฟิ่งเจว๋เข้าไปในตัว เพื่อให้เธอรู้สึกสบายขึ้นมาหน่อย
เห็นหลินหยางกังวลแบบนี้ หลัวหยุนก็พูดอย่างเศร้าว่า “เดิมทีฉันคิดว่าฉันแทรกแถวเข้ามา เลยไม่ดีถามนายพวกนี้ แต่ทำไมนาย……..โลภขนาดนี้ล่ะ”
ผู้ชายก็ต้องโลภสิ จะไม่ให้แอบไปมีอะไรได้ยังไง?หลินหยางก้มหัวลงแล้วจูบเธอไว้
อาจจะเป็นเพราะจูบเป็นยาผ่อนคลายที่ดีที่สุด หลัวหยุนหลับตาลง ค่อยๆ ลิ้มรสจูบของหลินหยาง
ไม่ใช้คำพูดใดๆ ทั้งสิ้น แค่จูบอ่อนโยนแต่ดูดเดือดก็ทำให้หลัวหยุนนั้นไม่ขัดขืนแล้ว
จูบที่ยาวนาน ร่างกายของหลัวหยุนเริ่มอ่อนเพลีย เธอพูดเบาๆ ว่า “นายมันปีศาจที่กินหัวใจของฉันทั้งดวง”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะคืนหัวใจที่แข็งแรงกว่านี้ให้เธอเอง” หลินหยางยิ้มปลอบ
หลินหยางขับรถมาถึงโรงแรมที่อยู่ในซอยเปลี่ยว เปิดห้องแล้วลากหลัวหยุนเข้าไป
นี่เป็นครั้งแรกที่หลัวหยุนมาเปิดโรงแรมกับผู้ชาย พอนึกถึงเรื่องลับๆ ที่เพื่อนๆ เคยพูดขึ้นมา ตอนนี้หน้าของเธอแดงไปหมดเลย
“เธอไปแช่น้ำอุ่นก่อน ให้ร่างกายผ่อนคลายหน่อย” หลินหยางแนะนำ
หลัวหยุนหยักหน้าเบาๆ นั่งลงไปในอ่างอาบน้ำที่กว้างใหญ่ หัวใจเต้นเร็วไปหน่อย ถึงจะรู้ว่าหลินหยางจะไม่เตะต้องเธอง่ายๆ แต่ในใจเธอกลับคาดหวังเล็กหน่อย เหมือนว่าจะถูกรอยสีแดงในรถนั้นกระตุ้นเข้าให้ หลัวหยุนกำหมัดแน่น ตัดสินใจแล้วว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง
เช็ดตัวให้แห้งอย่างละเอียด หลัวหยุนคลุมผ้าเช็ดตัวไว้ตัวเดียวก็เดินออกมาเลย ตอนนี้แอร์ในห้องถูกหลินหยางเปิดไว้ ได้ปรับอุณหภูมิที่ไม่สูงและไม่ต่ำมาก ทำให้รู้สึกสบายตัวทันที
“สาวสวยออกจากห้องน้ำ” หลินหยางพูดอย่างเซอร์ไพรส์
หลัวหยุนไม่สนใจเขา แต่ในใจกลับดีใจมาก นั่งลงไปบนเตียงที่ขาวสะอาดแล้วถามว่า “ฉันต้องทำอะไรไหม?”
“อะไรก็ไม่ต้องทำ นอนราบลงไปก็พอ” หลินหยางเอาเข็มเงินทั้งชุดของตัวเองออกมาเรียบร้อย
หลัวหยุนนอนราบลงไปอย่างเชื่อฟัง จากนั้นเธอถอดผ้าคลุมออกด้วยตัวเอง รูปร่างที่งดงามนั้นได้ปรากฏออกมาทั้งหมด
หลินหยางจ้องตาถลนพร้อมอ้าปากค้าง ร่างกายที่อยู่ตรงหน้ามันงดงามเกินไปแล้ว
ร่างกายของหลัวหยุนนั้นไม่ใช่แบบที่โดดเด่นอะไรขนาดนั้น แต่คือมันสมส่วนไปซะทุกทีอย่างพอดี
“น้ำใสเลี้ยงสาวสวย ธรรมชาติแกะสลัก” หลินหยางพูดชื่นชมอย่างจริงใจ
“ตาบ้า ยังจะมองอีก” หลัวหยุนพูดอย่างดีใจ
ก็ต้องดูสิ ยังดูไม่พอด้วย แต่ว่าสติของหลินหยางถือว่าควบคุมได้ดีมาก เอาเข็มเงินขึ้น เริ่มเสียบลงไปอย่างตั้งใจ
เข็มเล็กตรงหัวใจที่มีปัญหา หลินหยางเคยเปิดดูสมุดบันทึกของปู่บ่อยครั้ง ถึงแม้ว่าประสบการณ์ด้านนี้ของตัวเองจะยังไม่พอ แต่มีวิธีตั้งเยอะ บวกกับเจิ่นชี่ของบทหลงเฟิ่งเจว๋ก็สำเร็จไปครึ่งแล้ว
เห็นที่อกตัวเองถูกเสียบด้วยเข็มเงินเต็มไปหมด หลัวหยุนพูดอย่างกลัว “น่ากลัวจังเลย”
“ไม่ต้องห่วง ปล่อยวางเรื่องทุกอย่างที่อยู่ในใจ หลับตาลง จากนั้นตอนเธอลืมตาขึ้นมา ก็จะเหมือนกับฝันที่สวยงามเลย” หลินหยางพูดพร้อมยิ้ม
หลัวหยุนหลับตาลงอย่างเชื่อฟังมาก หลินหยางเริ่มนวดแถวๆ ขมับให้เธอ
จากนั้นปล่อยเจินชี่เข้าไปอย่างเหมาะสม ทำให้ร่างกายของหลัวหยุนอ่อนไปหมด จากนั้นเธอก็เข้าสู่ฝันที่สวยงาม
การบำบัดโดยสะกดจิตเป็นจุดสุดยอดของการรักษาโดยเจินจิว เพราะมีผู้ป่วยหลายรายที่ถูกกระตุ้นขมับอย่างแรงแล้ว จะควบคุมร่างกายไม่ได้ กันเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หลินหยางได้สะกดจิตเธออย่างลึก
รอบนี้หลินหยางเอาเข็มแทงลงไปในจุดที่สามารถกระตุ้นหัวใจได้ ร่างกายอาจจะผิดปกติได้ตลอด เพราะฉะนั้นเขาต้องตั้งสมาธิในจ้องอย่างมาก ดีที่เขารู้จุดสำคัญต่างๆ ในร่างกายอย่างแม่นยำ ใส่เจินชี่เข้าไปก็สามารถผ่อนคลายการผิดปกติของร่างกายได้
บนหน้าผากของหลัวหยุนเริ่มมีเหงื่อเม็ดใหญ่ๆ ออกมา หลินหยางรู้ว่าวิธีของตัวเองนั้นเห็นผลแล้ว ก็ได้ใส่เจินชี่เข้าไปทางขยับของเธอไม่หยุดอย่างช้าๆ อยู่ในท่านั้นจนถึงชั่วโมงครึ่ง
หลินหยางเองก็เหงื่อท่วมหัวแล้ว ร่างกายของหลัวหยุนตอนนี้ออกสีชมพูๆ ทำให้ใจคนหวั่นไหวไม่น้อย
หลินหยางใช้สมาธิอย่างมากในการดึงเข็มออกมาแล้วเก็บ หลัวหยุนก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นมา
เหมือนว่าได้ฝันดียาวๆ ในฝันนั้นมีภาพที่น่าอายมากมาย หลัวหยุนนึกไม่ออกแล้ว
หลินหยางใช้ตากวาดมองร่างของเธอ เหมือนจะมีกำเดาไหลเลย เขารีบเอาผ้าห่มมาคลุมให้เธอ
หลัวหยุนกลับจับมือของเขาไว้แน่นแล้วส่ายหัวพร้อมพูดว่า “อย่า นายกอดฉันหน่อยได้ไหม?”
นี่กะจะพรากชีวิตของเขาเลยใช่ไหม?ให้แนบชิดกับร่างกายแบบนี้หลินหยางจะทนต่อไปได้ยังไง
แต่เห็นท่าทางของหลัวหยุนแล้ว หลินหยางกัดฟันแล้วมุดลงไปกอดเธอไว้แน่น ไม่กล้าขยับไปมั่ว แค่กอดเธอไว้อย่างนั้น และใส่เจินชี่เข้าไปในตัวของเธอเพื่อให้เธอไม่อ่อนเพลีย
ผลการเจินจิวครั้งนี้เห็นผลดีมาก การเต้นของหัวในที่มีแรงนั้นทำให้หลัวหยุนดีใจมาก แต่ว่าจิตใจของเธอตอนนี้ไม่อยู่ที่นี่ เธออยากได้ความสุขที่มากกว่านี้ อยากจะกอดผู้ชายคนนี้เข้าร่างตัวเองอย่างเด็ดขาด
“นายจับตรงนี้ ดูว่าการเต้นของหัวใจฉันว่าเป็นยังไงบ้าง” หลัวหยุนมองหลินหยางแล้วพูด
หลินหยางอึ้งทันที มือก็ไม่ได้ขยับ แต่ว่าหลัวหยุนรอไม่ไหวแล้ว ลากมือของเขามาไว้ข้างบน
หัวใจเต้นแรงอยู่ข้างล่างฝ่ามือของตัวเอง แต่ว่าความสนใจของหลินหยางไม่ได้อยู่ตรงนี้ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตรงนั้นของหลัวหยุนแข็งขึ้นมา เมล็ดถั่วนั้นดันฝ่ามือของเขาไว้
“เป็นยังไงบ้าง?” หลัวหยุนกัดริมฝีปากไว้แล้วถาม
“ดีมาก เห็นผลได้ดี” คำพูดของหลินหยางนั้นแห้งๆ ไว้ เขาไม่รู้ว่าควรตอบกลับไปยังไงแล้ว
หลัวหยุนยิ้มอ่อนๆ แล้วพูดว่า “นอกจากการเต้นของหัวใจ ยังรู้สึกถึงอะไรไหม?”
อยากส่ายหัว แต่เขากลับพยักหน้าลงไปแล้วพูดว่า “แข็งแล้ว”
หลัวหยุนยิ้มแล้วเอามือลงไปจับปืนน้อยของเขาแล้วพูดว่า “นายก็แข็งแล้ว”
หลินหยางกลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “ไม่เหมือนกัน เธอจะจับมั่วไม่ได้นะ”
“ทำไมไม่ล่ะ” หลัวหยุนทำปากจู๋แล้วพูด
“เธอยัง……รับไม่ไหว” หลินหยางคิดไปคิดมาก็เลยพูดคำนี้ออกมา
หลัวหยุนรีบลุกขึ้นนั่งแล้วพูดอย่างดื้อด้านว่า “ไม่ ฉันจะเอา”
“เธอไม่ต้องคิดไปเรื่อยเปื่อย ร่างกายของเธอยัง……” หลินหยางปฏิเสธ
“ร่างกายเป็นของฉัน ฉันก็ต้องรู้ดี อีกอย่าง ถึงแม้ว่าจะต้องตาย ฉันก็จะเอา” หลัวหยุนพูดอย่างเด็ดขาด
หลินหยางรู้สึกประทับใจมาก ผู้หญิงคนนี้พูดขนาดนี้แล้วเขายังลังเลอะไรอยู่อีกละ
“ตายก็จะรัก หลินหยาง ฉันจะให้นายรักฉัน” หลัวหยุนจ้องเขาไว้แล้วพูด