ถูกพิษ? สองคำนี้ทำให้ส้งเจียวสั่นสะท้านอย่างตื่นตระหนก เธอจินตนาการผลภายหลังไม่ออกเลย
หลูยี่ยิ้มอย่างเย็นชา “ประธานโจว นี่เป็นทักษะทางการแพทย์ของคุณงั้นเหรอ?”
ส้งเจียวหน้าถอดสี แต่ก็ยังข่มอารมณ์เอาไว้ “ประธานโจว มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“อย่าเพิ่งพูดอะไรก่อน ผมต้องให้เธออาเจียนออกมา!” หลินหยางขมวดคิ้วพูด
หลังลงเข็มไปหลายเข็ม ส้งซูยี่ก็อาเจียนอย่างหนักออกมาทันที อาเจียนยาที่ดื่มไปก่อนหน้านี้จนหมด จากนั้นสีหน้าจึงเริ่มดีขึ้น
“วันนี้เธอกินอะไรไปบ้าง?” หลินหยางถาม
“ของที่ซูยี่กินวันนี้พวกเราก็กินมาแล้วนะ!” ส้งเจียวนึกย้อนไปแล้วพูด
หลินหยางส่ายหน้า “จะต้องมีปัญหาอะไรแน่ นี่ไม่ใช่พิษรุนแรงอะไร เป็นแค่พิษอัมพาตธรรมดาชนิดหนึ่ง จะทำให้ปวดที่ช่องท้องและไม่สบายตัว”
“ผมว่าเพราะยาคุณมีปัญหานั่นแหละ!” หลูยี่แดกดัน
“ยาของผมเองก็ดื่มมันเข้าไปแล้ว เด็กคนนี้จะต้องกินของที่ไม่ควรกินเข้าไปแน่!” หลินหยางเอ่ยอย่างมั่นใจ
หลูยี่เอ่ยถากถาง “วันนี้คุณหนูทานอาหารด้วยกันกับพวกเรา ผลไม้และอย่างอื่นพวกเราก็ลิ้มรสกันหมดแล้ว ไม่มีของอะไรที่ไม่ควรกิน จะมีก็แต่ยาของคุณ! เมื่อกี้คุณดื่มไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ใครจะรู้ว่าข้างในนั้นคุณใส่อะไรเอาไว้!”
“เอาล่ะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาทะเลาะกัน ประธานโจว คุณบอกหน่อยว่าอาการมันร้ายแรงรุเปล่า?” ส้งเจียวเอ่ยด้วยสีหน้าหม่นหมอง
หลูยี่เงียบไปทันที แต่กลับใช้สายตาโหดเหี้ยมจ้องเขม็งไปที่หลินหยาง
หลินหยางส่ายหน้าพูด “ไม่ใช่ยาพิษร้ายแรงอะไร เพียงแต่เธอจะพูดอะไรไม่ได้ไปสักพัก!”
สาวน้อยหลับตาแน่น ร่างกายสั่นเทิ้มเล็กน้อย ความเจ็บปวดเมื่อครู่นั้นทรมานมาก โชคดีที่มือใหญ่ของหลินหยางซ้อนทับที่หลังของเธอแล้วส่งถ่ายเจินชี่เข้ามาทำให้เธอรู้สึกสบายขึ้นมาก
ผ่านไปพักใหญ่เด็กสาวถึงหันมามองเข้าน้ำตาคลอ นั่นทำให้หลินหยางรู้สึกแย่อย่างมาก เขาถามอย่างจริงจัง “เสี่ยวชัยหง บอกฉันมาว่าเธอได้ไม่ระวังกินอะไรเข้าไปรึเปล่า?”
ส้งซูยี่กัดริมฝีปากไม่พูดอะไร ไม่จำเป็นต้องพูด สาวน้อยคนนี้แอบกินอะไรไปจริง ๆ ส้งเจียวขมวดคิ้ว “ลูกรัก แม่ไม่คิดเล็กคิดน้อยเรื่องพวกนี้กับลูกหรอก บอกแม่หน่อยว่าลูกกินอะไรไป”
หลูยี่เอนไปข้างหลัง หลินหยางถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เสี่ยวชัยหง บอกฉันมาว่าเธอกินอะไรไป พูดออกมาไม่เพียงไม่ถูกลงโทษ ยังได้รางวัลด้วยนะ!”
สาวน้อยชี้ไปที่แคนตาลูปในตะกร้าผลไม้ในห้อง หลินหยางยืนขึ้นมองสังเกตุมันทันทีแล้วเอ่ย “ประธานส้ง ผมต้องเอากลับไปตรวจสอบสักหน่อย!”
“ไม่ได้ คุณเอาไปแล้ว ใครจะรู้ว่าคุณจะเอาไปทำอะไร!” หลูยี่คัดค้าน
“ผมจะจับผี คุณตายก็ยังไม่รู้เลยว่าตายยังไง!” หลินหยางยิ้มเย็น
ส้งเจียวพยักหน้าตกลง หลูยี่สีหน้ามืดทะมึน
เมื่อนำแคนตาลูปกลับไปที่ห้องแล็บ อานเสี่ยวซิงนั้นยังไม่ไปไหน เห็นเขาเข้ามาด้วยสีหน้าโกรธเคือง
“เกิดอะไรขึ้น?” อานเสี่ยวซิงเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ตรวจสอบหน่อยว่าแตงที่มีปัญหาอะไรรึเปล่า!” หลินหยางเอ่ยเสียงเย็นชา
อานเสี่ยวซิงทำตามทันที ผ่านไปนาน ในที่สุดผลลัพธ์ก็ออกมา หลินหยางมองส่วนประกอบในใบรายงานผลแล้วยิ้มออกมาอย่างเย็นชา เจ้าเล่ห์จริงนะเจ้าหมอนี่!
วันต่อมา เมื่อหลินหยางไปเยี่ยมส้งซูยี่อีกครั้ง หลูยี่ก็ขวางอยู่ที่ประตู “คุณยังจะมาทำอะไรอีก? คุณล้างข้อกล่าวหาของตัวเองได้รึเปล่า?”
“ผมมาก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ โทษฐานก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะสามารถตัดสิน!” หลินหยางผลักเขาออกแล้วเดินเข้าไป
หลูยี่แทบล้มหกคะเมน เขาประคองตัวให้มั่นคงอย่างยากลำบาก ความโกรธในหัวใจกลืนกินเขาอย่างสมบูรณ์
ในตอนนั้นส้งเจียวนั่งอยู่บนเตียงป้อนอาหารเช้าให้เด็กสาว เมื่อเห็นหลินหยางเข้ามา เธอรีบถาม “เป็นยังไงบ้าง?”
“ผลลัพธ์ค่อนข้างซับซ้อน พูดสองสามประโยคคงอธิบายได้ไม่ชัดเจนนะครับ!” หลินหยางเกาหัว
“ผมว่าคุณหาข้อแก้ตัวไม่ได้มากกว่า ยาของเขาต้องมีปัญหาแน่ ยานี้กินอีกไม่ได้แล้ว!” หลูยี่ดุด่าเสียงดัง
หลินหยางหัวเราะฮ่าฮ่า “ผมป้อนยาให้เสี่ยวชัยหง คุณจะเคร่งเครียดขนาดนั้นทำไม? คุณกลัวว่าเสี่ยวชัยหงจะกลับมาแข็งแรง แล้วฟื้นความทรงจำกลับมาใช่มั้ย?”
หลูยี่ตื่นตกใจ พูดอย่างรีบร้อน “จะเป็นไปได้ยังไง ผมกลัวอะไร? มีอะไรน่ากลัวกัน?”
ส้งเจียวมองพิจารณาเขา แล้วหันกลับมา “ประธานโจว คุณบอกฉันมาว่ามันเป็นสถานการณ์ซับซ้อนยังไงกันแน่!”
“ตัวยาที่ผมจ่ายไม่มีปัญหาอะไร ต่อร่างกายเองก็จะไม่สร้างอันตรายแบบนี้ ในแคนตาลูปเมื่อวานลูกนั้นก็ไม่มีส่วนผสมที่เป็นพิษ แต่ที่ฉลาดก็คือด้านบนแตงนั้นได้ซ่อนส่วนประกอบทางยาชนิดหนึ่ง มันเกิดขัดกันกับยาของผม จึงเป็นผลให้เสี่ยวชัยหงมีอาการปวดท้อง” หลินหยางอธิบาย
ส่งเจียวประหลาดใจ “คุณหมายความว่าปัญหามันอยู่บนแตงนั่นอย่างนั้นเหรอ?”
“ยังไม่กล้ายืนยันแน่ชัด แต่ข้อสงสัยนั้นใหญ่มาก ว่ามีคนทำอะไรบางอย่างบนแตงนี้ ไม่รู้ว่าใครที่สามารถทำแบบนั้นได้?” หลินหยางมองไปยังหลูยี่แล้วเอ่ยขึ้น
หลูยี่พูดอย่างเฉยเมย “แตงนี้เป็นของที่โรงแรมส่งมา จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเคยแตะต้อง ถ้าจะตรวจสอบละก็น่ากลัวว่าจะมีผู้มีอิทธิพลต่อโรงแรมนี้เป็นผู้ต้องสงสัยสินะ?”
“พูดได้ดี ผู้ช่วยหลู วิธีที่คุณสุมไฟเผาตัวผมนั้นฉลาดมาก! ฉันอยู่เจียงหลิงก็พอมีกำลังอยู่บ้าง คำพูดของผมยังใช้ประโยชน์ได้ในบางที่ แต่มีคำพูดที่ว่าเรื่องชั่วที่เคยทำไว้ ยังไงก็ปรากฏขึ้นในสักวัน! ผู้ช่วยหลู พวกเราไปดูวิดีโอบันทึกภาพกันเถอะ!” หลินหยางยิ้มเย็น
อุบัติเหตุของส้งซูยี่ทำให้ทางโรงแรมตื่นตกใจไปแล้ว เดิมทีที่พวกเขาได้ให้ส้งเจียวผู้ยิ่งใหญ่มาพักก็นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งแล้ว ตอนนี้เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นพวกเขาจึงตื่นตระหนกอย่างมาก เมื่อส้งเจียวต้องการตรวจสอบวิดีโอ จึงส่งให้ทันทีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง แล้วเฝ้าดูมอนิเตอร์วิดีโออย่างระวัดระวัง อันที่จริงมีเพียงส้งซูยี่เท่านั้นที่แตะต้องแคนตาลูปในห้องนั่งเล่นด้วยตัวเอง คนที่ได้สัมผัสมันมาก่อนมีเพียงพนักงานบริการที่ส่งเข้ามาเท่านั้น ทางโรงแรมเตรียมให้พนักงานคนนั้นมาสอบสวนในทันที
“ไม่ต้องหรอก เจ้าตัวคงจะหนีไปแล้ว!” หลินหยางยิ้มเย็น
ตามคาด คนคนนั้นได้ขอลาไปแล้ว โทรศัพท์มือถือเองก็ปิดเครื่อง
หลูยี่ดันแว่นตาแล้วเอ่ยขึ้น “ประธานโจว คุณเตรียมการได้รอบคอบและพิถีพิถันจริง ๆ !”
“เก็บประโยคนี้ไว้ชมตัวเองเถอะ หลูยี่ ไม่นึกว่าคุณจะมีความประมาทอยู่ในแผนรอบคอบนั้น ปรมาจารย์ต้องการทำลายบางอย่างแต่ไม่นึกว่าสุดท้ายคุณจะทำลายตัวเอง!” หลินหยางยกยิ้ม
หลูยี่หน้าถอดสี แล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “หลินหยาง คุณอย่ามาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น คุณรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับกระบวนการวางแผนทั้งหมด ไม่ใช่คุณแล้วจะเป็นใครได้?”
“ถ้าผมต้องการฆ่าใครสักคนในพวกคุณ จะต้องแต่งตัวเป็นพระเจ้าเล่นปีศาจแบบนี้เหรอ? แค่เข็มเล่มเดียวผมก็สามารถเอาชีวิตคุณได้ในไม่กี่วินาที และตอนชันสูตรพลิกศพก็จะไม่ตรวจพบอะไรเลยด้วย!” หลินหยางเอ่ยอย่างเย็นชา
ส้งเจียวลุกขึ้นยืน จ้องไปยังหลูยี่ “ผู้ช่วยหลู บอกฉันมา นายเป็นคนทำรึเปล่า!”
หลูยี่สีหน้าเหมือนถูกปรักปรำ “ประธานส้ง คุณสงสัยผมได้ยังไง? ผมทำงานอย่างหนักติดตามคุณมานาน ผมเคยทำอะไรให้คุณเสียใจตอนไหน? เจ้าหมอนี่ใส่ร้ายป้ายสีผม เขามีอำนาจมากในเมืองเจียงหลิง คุณควรจะตรวจสอบเขาให้ดีนะครับ!”
“ฉันต้องตรวจสอบใครฉันย่อมรู้ดี แต่ฉันแค่อยากรู้ว่านายทำรึเปล่า!” ส้งเจียวตวาด
น้ำเสียงของหญิงสาวเฉียบขาดมาก แต่ไม่ได้เกรี้ยวกราดนัก หลินหยางอดชื่นชมไม่ได้ หายากจริง ๆ ที่จะได้เจอผู้หญิงที่มีสมองและสามารถสังเกตจากสีหน้าและคำพูดได้ดีสักคน การเติบโตอย่างกะทันหันของตระกูลส้งคงจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มีคนคุมหางเสืออย่างส้งเจียว จะต้องฝ่าลมโต้คลื่นไปได้แน่
ความตื่นตระหนกฉายออกมาทางใบหน้าของหลูยี่ แล้วยืนกรานทันที “ประธานส้ง ผมเป็นผู้บริสุทธิ์ จงรักภักดีต่อคุณมาตลอด จะไปทำเรื่องแบบนั้นกับคุณหนูได้ยังไงกัน? ชายคนนี้ต่างหากที่เป็นคนร้าย ผู้หญิงรอบตัวเขาเยอะแยะมากมาย ยังจะปรารถนาคุณหนูอีก! ระหว่างการรักษาในวันนั้น ผมได้ยินมาว่าเขาให้คุณหนูถอดเสื้อผ้าจริง ๆ !”
“ถูกต้องแล้ว นั่นก็อธิบายชัดเจนแล้ว! ส่วนผสมในใบสั่งยาของผมมีเพียงผมและผู้ช่วยอานเสี่ยวซิงเท่านั้นที่รู้ เธอเป็นคนที่จะไม่เปิดเผยความลับให้กับคนอื่น นั่นก็เห็นได้ชัดแล้วว่าคุณแอบฟัง! แล้วคุณยังรู้อีกว่าเด็กคนนั้นชอบกินแคนตาลูป จึงได้จัดการให้พนักงานเล่นตุกติกบนแคนตาลูปนั่น!” หลินหยางยิ้มอย่างเย็นชา
ส้งเจียวฟังแล้วก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก การคาดเดาของหลินหยางสอดคล้องกับที่คาดไว้ทั้งหมด เพียงแต่ทำไมหลูยี่ต้องทำแบบนั้น?
เมื่อเห็นส้งเจียวจ้องมองตัวเองด้วยความเคลือบแคลง หลูยี่ก็หัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง แล้วชี้ไปที่หลินหยาง “ผมชื่นชมจินตนาการของคุณจริง ๆ ! ทำไมคุณถึงสงสัยว่าผมทำ ผมทำแบบนั้นแล้วจะเกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา?”
“คำถามนี้ผมเองคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ คุณเต็มใจยอมเป็นสุนัขรับใช้ประธานส้ง ในสถานการณ์ปกติ คุณคงจะไม่ทำเรื่องบ้า ๆ แบบนี้หรอก! แต่เมื่อคืนวานคุณไม่ยอมรับยาของผมตั้งแต่เริ่มต้น ผมจึงคิดว่าคุณกลัวว่าผมจะรักษาซูยี่หายรึเปล่า คุณมีจุดอ่อนอะไรอยู่ในมือของเธอ ถ้าเธอจำได้ขึ้นมาคุณก็จบเห่!” หลินหยางคาดคะเน
สีหน้าของหลูยี่เต็มไปด้วยความตกใจ เขายิ้มแล้วพูดต่อ “ช่างเป็นการอนุมานที่ฉลาดอะไรอย่างนี้ ทำไมคุณไม่มาเป็นนักสืบล่ะ?”
“ถ้าอย่างนั้น ผมก็เป็นหมอไม่ได้น่ะสิ แล้วรักษาเสี่ยวชัยหงไม่ได้ด้วย! ที่จริงตอนที่ประธานส้งสงสัยเมื่อวาน การกระทำอย่างหนึ่งของคุณยิ่งทำให้ผมสงสัยมากขึ้น ตัวของคุณเอนไปข้างหลังเล็กน้อย! การกระทำนี้อานเสี่ยวซิงบอกผมว่ามันคือการเคลื่อนไหวแบบหนึ่งของจิตสำนึกการป้องกันตัวเอง คุณกำลังกลัว! การคาดเดาทั้งหมดของผมถูกต้อง คุณกำลังหวาดกลัว! ตอนนี้รีบอธิบายอย่างตรงไปตรงมาซะเถอะ!” หลินหยางคำราม
ส้งเจียวเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ผู้ช่วยหลู ถ้านายยอมรับตามความจริงตอนนี้ บางทีฉันอาจจะเห็นแก่ความขยันหมั่นเพียรที่ติดตามฉันมาปีกว่า ฉันจะให้ทางรอดกับนาย!”
ในที่สุดหลูยี่ก็ตื่นตระหนก เขาพูดอย่างตื่นกลัว “ ประธานส้ง คุณอย่าเชื่อคำพูดข้างเดียวของหมอนั่นเด็ดขาดนะครับ! ทั้งหมดของเขาล้วนเป็นการคาดเดา ไม่มีหลักฐานใด ๆ เลย! ผมจะทำร้ายคุณหนูได้ยังไง?”
“เขาเป็นคนเลว!” ทันใดนั้นส้งซูยี่ก็ลุกขึ้นมาจากเตียงผู้ป่วย
หลินหยางหัวเราะร่า “เห็นรึยัง? เสี่ยวชัยหงที่ไร้เดียงสายังชี้ให้เห็นธาตุแท้ของคุณเลย คุณยังจะเล่นลิ้นอะไรอีก? การที่คุณลงมือกับแคนตาลูปนั้นไม่ฉลาดเอาซะเลย! ทำไมคุณถึงจะรีบร้อนลงมือแบบนี้ จะต้องมีเหตุผลอะไรอยู่ใช่มั้ย? ถ้าตอนนี้คุณพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา ผมรับรองว่าคุณจะสามารถเดินออกไปจากประตูนี้ได้!”
หลูยี่หัวเราะลั่น “ฮ่าฮ่า น่าตลกสิ้นดี หลินหยาง คิดว่าตัวเองเป็นใคร? อยู่ที่เจียงหลิงนายคิดว่าตัวเองสามารถควบคุมทุกอย่างได้ใช่มั้ย? ก็ไม่ผิด มันเป็นฝีมือของฉัน ฉันจัดการวางแผนทั้งหมด แผนทั้งหมดสมบูรณ์แบบไม่มีช่องโหว่ ทั้งยังทำให้ความสนใจตกอยู่ที่ตัวนายอีกด้วย! น่าเสียดายที่ผู้หญิงสองคนนี้ไว้ใจนายอย่างโง่เขลา! มันเป็นเรื่องของโชคแล้วล่ะ หลินหยาง ครั้งนี้นายชนะ พวกเราคงได้เจอกันอีกแน่!”
สิ้นเสียงพูด การระเบิดอย่างรุนแรงก็ดังขึ้น! หลินหยางรีบกอดส้งเจียวและส้งซูยี่เอาไว้ แล้วหมอบลงบนเตียง