เหมือนกับว่าไม่มีคนอยู่ข้างๆ เลย ไป๋เซียนเฉ่าไม่ได้รู้สึกเกร็งหรืออะไรทั้งนั้น
จ้าวหย่าจิ้งเริ่มฟื้นฟูกำลังขึ้นมาหน่อยแล้ว จ้องหลินหยางแล้วถามว่า “พวกนายทั้งสองคนไม่มีความละอายบ้างเลยหรอ?”
“นี้ต้องถามเธอสิ เธอครอบครองผู้ชายของฉัน แล้วยังกล้ามามีอะไรกันที่บริษัทของฉันอย่างเปิดเผยซะขนาดนี้” ไป๋เซียนเฉ่าพูด
มองดูหน้าอกที่เด้งไปเด้งมาของผู้หญิงคนนี้ จ้าวหย่าจิ้งก็เกิดอยากแก้แค้นขึ้นมา ยื่นมือไปบีบ ไป๋เซียนเฉ่าก็ร้องออกมาเพราะตกใจ
“รอบนี้เธอยังมีอะไรจะพูดอีกไหม?เรียกฉันว่าพี่สาวซะดีๆ” จ้าวหย่าจิ้งหัวเราะพร้อมพูด
ไป๋เซียนเฉ่าไม่ได้อ่อนไหวง่ายเหมือนจ้าวหย่าจิ้ง อีกอย่างตอนนี้เธอรู้สึกสบายมาก หลับตาแล้วค่อยๆ เพลิดเพลินไปความสุขที่หลินหยางนำพามาให้
“ไม่เรียก หลินหยาง นายเร็วอีกหน่อย ให้หล่อนได้เห็นว่าอะไรคือความสุขที่แท้จริง”
หลินหยางถูกกั้นไว้ตรงกลางผู้หญิงทั้งสอง เลือกยากจริงๆ ก็เลยทำเป็นไม่สนใจพวกเขาแล้วทำเรื่องของเขาต่อไป
เทียบกับปกตินี้ ครั้งนี้จะยั่วยวนกว่าเดิมอีก ยิ่งผู้หญิงทั้งสองคนนั้นอารมณ์ไม่ดีด้วย หลินหยางอยากจะปลอบคงจะยากหน่อย
ยังดีที่ตอนนี้เป็นเวลาสยิว ไม่ว่าผู้หญิงจะทำเป็นปากแข็งสักแค่ไหนก็ทนการถล่มของหลินหยางไม่ไหว โดยเฉพาะหลังจากที่หลินหยางท่องเจินชี่บทหลงฟ่งเจว่แล้วยื่นมือมา ทั้งหน้าและหลังของไป๋เซียนเฉ่าอ่อนเพลียและชาไปหมด
“เป็นยังไง?ยังทนไหวไหม?ขอแค่เธอเรียกฉันว่าพี่สาวฉันก็จะปล่อย!” จ้าวหย่าจิ้งยิ้มซิซิ
ไป๋เซียนฉ่าหลับตาลงพร้อมกับกัดริมฝีปากไว้ ยอมตายก็ไม่ยอมแพ้ อยู่ๆ จ้าวหย่าจิ้งก็ยื่นลิ้นออกมาแล้วเลียแถวไหปลาร้าของเธอไปมา ครั้งนี้ไป๋เซียนเฉ่ารนแล้ว เพราะจุดอ่อนไหวบนตัวถูกผู้ชายและผู้หญิงสองคนนี้จับไว้หมดแล้ว
“รีบเรียกพี่สาวสิ ไม่อย่างนั้นฉันมีวิธีอีกเยอะในการทำให้เธอทนต่อไปไม่ได้อีก” จ้าวหย่าจิ้งยิ้มพร้อมพูด
วันนี้หลินหยางเองก็ถือว่าได้เปิดโลกเปิดตาของตัวเองแล้ว ผู้หญิงสองคนนี้เหมือนกับเลสเลย ที่ร่างทั้งสองทับซ้อนกันไว้นั้นเต็มไปด้วยความยั่วยวน
การกระทำของหลินหยางยิ่งอยู่ยิ่งแรง ไป๋เซียนเฉ่าทนไม่ไหวแล้วล้มลงไปที่อกของจ้าวหย่ากะพริบแล้วพูดขอร้องว่า “พี่สาวแสนดี หยุดเลียได้แล้ว”
“เรียกอีกที เสียงดังกว่านี้” จ้าวหย่าจิ้งพูดเชิงแก้แค้น
ไป๋เซียนเฉ่าส่ายหัวแล้วพูดด้วยเสียงที่สั่นว่า “พี่สาว ขอร้องล่ะ”
จ้าวหย่าจิ้งถึงจะยอมปล่อยเธอแล้วพูดกับหลินหยางว่า “นายเร่งหน่อยสิ รีบทำให้เธอเสร็จได้แล้ว”
หลินหยางไม่ต้องตอบ ใช้การกระทำก็สามารถบ่งบอกถึงคำตอบของเขาได้เลย ตัวของไป๋เซียนเฉ่าบิดเป็นตัว S ในที่สุดความรู้สึกที่คุ้นเคยนั้นก็มาแล้ว หลังจากที่เสร็จก็นอนไว้บนโต๊ะทำงานอย่างอ่อนแรง
ทั้งสามคนเหมือนพึ่งออกมาจากในสระน้ำ ตัวเปียกไปหมดเลย
ผู้หญิงทั้งสองคนไม่มีแรงอะไรแล้ว จำเป็นต้องให้หลินหยางเป็นคนเก็บกวาดสนามรบ ใส่เสื้อผ้าให้พวกเธอ ทำความสะอาดโต๊ะทำงานที่เปียกไปหมด “พวกเธอสองคน จะไปพักก่อนไหม?” หลินหยางถาม
พึ่งตื่นมาเมื่อกี้ จะให้ไปพักนั้นมันก็จะดูไม่ดีเลย ผู้หญิงทั้งสองคนส่ายหัว ไม่อยากแม้แต่จะขยับเลย
“พวกเธอสองคนคงไม่ใช่ว่าเป็นเลสไปจริงๆหรอกนะ แฮะ” หลินหยางเริ่มกลัว
จ้าวหย่าจิ้งด่าเขา “ไอ้บ้า ไม่ใช่เพราะนายหรอ?”
หลินหยางส่ายหน้า ไม่ต้องไปเถียงกับผู้หญิงดีกว่า เขาต้องรีบไปยุ่งเรื่องงานของตัวเองแล้ว
เรื่องบนมือของเขาในตอนนี้ไม่น้อยเลยจริงๆ ต้องรักษาให้ส้งซูยี่ ยังต้องทดลองยาแกล้งตายอีก การทำการทดลองยาแกล้งตายนั้นยากมาก ที่จดบันทึกไว้ในสมุดโบราณบางอันเริ่มหายสาบสูญ บางอันก็ใช้ไม่ได้ ต้องทำการจัดใหม่และทดลองอย่างเดียว
แต่ว่าตอนนี้จ้าวชิวเยว่มา ไม่ใช่มาหาเหล่าโกวของเธอ แต่มาเพื่อบอกเขาว่าเจอร่องรอยของหลูยี่แล้ว
หลินหยางรีบไล่ถาม “เธอไปเจอที่ไหน?”
“ก็เจอในย่านธุรกิจใจกลางเมือง ที่แรกฉันว่าจะรอเหล่าโกวอยู่ที่นี้พร้อมกับทำการเยี่ยมชมไปด้วย แต่คิดไม่ถึงว่าจะเจอคนที่นายเคยพูดถึง” จ้าวชิวเยว่พูด
หลินหยางได้ขอให้พวกใต้ดินช่วยหาหลูยี่ ก็เลยได้ส่งรูปหลู่ยี่ให้กับจ้าวชิวเยว่ด้วย แต่คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเธอจะเจอ
สงสัยวันนี้จ้าวหย่าจิ้งคงไม่ได้ไปเยี่ยมชมแล้ว หลินหยางยิ้มแฮะแล้วพูดว่า “พยายามหาแทบตายกลับหาไม่เจอ พอเลิกหาเลิกสนใจกลับหาเจอซะง่ายๆ แบบคาดไม่ถึงซะอย่างงั้น ไอ้นี่ช้างใจกล้าจริงๆ ยังกล้าอยู่ที่เจียงหลิงอยู่ หรือว่ามันจะมีธุระอะไรที่ยังจัดการไม่เสร็จหรือยังไง?”
“ฉันก็สงสัยเหมือนกัน เขาไม่ได้ตัวคนเดียวด้วยนะ ข้างตัวเขายังมีบอดี้การ์ดอีกสองคน ความรู้สึกที่สองคนนี้ให้ลึกลับจนคาดเดาไม่ถูก ฉันเองก็มองเบาะแสของพวกเขาไม่ออกเลย ก็เลยมาเจรจากับนาย ไม่อย่างนั้นฉันคงลงมือไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว” สาวน้อยตบมือ
หลินหยางตบไหล่ของเธอแล้วพูดว่า “เธอทำดีที่สุดแล้ว ที่เหลือปล่อยให้หน้าที่ฉันละกัน ในเมื่อมันกล้าอยู่ที่นี้ ก็แปลว่ามันมีความมั่นใจในการจัดการกับฉัน พวกเราต้องระวังไว้จะดีกว่า เธอจะไปดูเรื่องสนุกกับฉันไหมล่ะ!”
จ้าวชิวเยว่พูดอย่างดีใจ “แน่นอนสิ หลายวันมานี้ฉันเอาแต่อยู่เป็นเพื่อนเหล่าโกว เบื่อจะตายแล้ว”
ผู้หญิงคนนี้มีความรุนแรงมาตั้งแต่เกิด ชอบฆ่าฟัน หลินหยางขับรถแลนด์โรเวอร์พาเธอขับตรงไปที่ย่านธุรกิจใจกลางเมือง ตอน10โมงเช้า เป็นช่วงเวลาที่ตรงนี้คึกคักที่สุด
พวกพนักงานต่างเบียดกันออกมาจากรถไฟใต้ดิน เพื่อวิ่งเข้าไปในตึกใหญ่ๆ สูง หลินหยางคอยมองตึกสูงที่หลูยี่ซ้อนตัวอย่างชิวๆ
ตึกอาคารกว่างหวา ทั้งหมดมี 40 ชั้น ข้างในเต็มไปด้วยบริษัทใหญ่ที่เปิดบริษัทย้อยในเจียงหลิน ข้างในก็เต็งไปด้วยชนชั้นนำของเจียงหลิง ถ้าไม่ใช่เพราะว่จำเป็นจริงๆ หลินหยางไม่มีสิทธิ์ก่อเรื่องในที่แบบนี้ เพราะแค่โยนก้อนหินเข้าไปหนึ่งลูกก็อาจจะโดน CEO เป็นแถบ
“พี่ พี่เตรียมจะทำยังไง?” จ้าวชิวเยว่ถาม
หลินหยางเกาหัวแล้วมองไปรอบๆ เห็นว่าตรงข้ามของตึกอาคารกว่างหวาก็เป็นโรงแรม ความสูงของโรงแรมนั้นก็ไม่แพ้ตึกอาคารกว่างหวาเลย เป็นจุดที่เฝ้ามองดูที่ดีสุดๆ
หลินหยางลากจ้าวชิวเยว่แล้วไปที่โรงแรมตรงข้าม ได้เหมาห้องเพรสซิเดนสูทชั้นบนสุดไว้
ยืนอยู่ในห้องเพรสซิเดนสูท นี่เป็นครั้งแรกที่หลินหยางเกิดความรู้สึกที่ได้มองผู้คนจากด้านบน มิน่าล่ะพวกไอ้แก่พวกนั้นถึงชอบตึกสูง
จ้าวชิวเยว่ขยับหัวเข้าใกล้แล้วถามว่า “พี่ ไกลขนาดนี้ไม่ใช่กล้องมองทางไกลจะดูยังไง?”
“ไม่ได้ดูตอนนี้อยู่แล้ว ตอนนี้เป็นเวลาที่เสียงดัง คนก็เต็มไปหมด มองอะไรไม่เห็นหรอก รอถึงกลางคืน หลูยี่ต้องปรากฏตัวออกมาเองแน่ ไม่ต้องรีบ ต้องมีความอดทน” หลินหยางพูดอย่างใจเย็น
“แล้วตอนนี้พวกเราควรทำอะไร?” จ้าวชิวเยว่ถามอย่างสงสัย
หลินหยางเกาหัวแล้วพูดพร้อมยิ้มว่า “เหมือนจะไม่มีเรื่องอะไรที่ควรทำเลย เอางี้ เธอไปพักก่อน กลางคืนพวกเราสลับกับดูเหตุการณ์ข้างนอก”
จ้าวชิวเยว่รู้สึกใจไม่ดี นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสได้อยู่กับหลินหยางตามลำพัง และยังอยู่ในห้องที่หรูขนาดนี้ แต่เสียดายที่ผู้ชายคนนี้ไม่มีอารมณ์เลยจริงๆ เอาแต่จ้องตึกตรงข้าม ห่างกันขนาดนี้ เขาจะไปมองเห็นอะไร
แต่ว่าจ้าวชิวเยว่คิดไม่ถึงว่าหลินหยางจะมองได้จริงๆ หลังจากที่เข้าขึ้นที่สามของบทหลงเฟิ่งเจว๋ ตาของหลินหยางก็มองได้ไกลกว่าเดิม
ถึงแม้ว่าจะห่างกันขนาดนี้ แต่เขาก็ยังสามารถมองเห็นเงาของคนตรงข้ามได้ ถึงจะมองได้ไม่ชัดเจนขนาดนั้น แต่ก็สามารถแยกแยะออกว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร แล้วมีหน้าตายังไง
หลังจากมองแบบนั้นจนทั่วตึก หลินหยางก็ได้บทสรุป หลูยี่น่าจะใช้ชีวิตอยู่ในตึกที่ห่างจากชั้นบนสุดไม่มากนัก
มีแค่ตึกเหล่านั้นเท่านั้นที่กระจกปิดไว้มิด ไม่สามารถเห็นเหตุการณ์ข้างใน ตึกอื่นๆ กลับสามารถมองเห็นคนข้างในได้
ถ้าไม่ใช้เพราะวัวสันหลังหวะ ก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังไว้แบบนี้ในกลางวันแสกๆ เทียบกันแล้วหลูยี่น่าจะกำลังวางแผนทำเรื่องใหญ่อยู่แน่ๆ
หลินหยางมองจนหมกมุ่น จ้าวชิวเยว่ก็เริ่มเบื่อ ผู้หญิงเบื่อขึ้นมาก็จะคิดอะไรไม่เรื่อย อยู่ๆ เธอก็พูดขึ้นมาว่า “พี่ ตอนเช้าเหล่าโกวมาหาพี่ใช่ไหม?”
หลินหยางอึ้งไปสักพักแล้วหันกลับมาตอบว่า “ใช่ ตอนนี้น่าจะอยู่กับประธานไป๋นะ”
“พวกพี่……ได้ทำเรื่องไม่ดีไหม?” จ้าวชิวเยว่ถามตรงๆ
หลินหยางตกใจ แต่สีหน้าควบคุมได้ดี ยิ้มจางๆ แล้วพูดว่า “พวกเราจะทำเรื่องไม่ดีอะไรกัน เป็นเด็กยังกล้ายุ่งเรื่องของเหล่าโกวแล้วหรอ?”
“อย่าโกหกฉันนะ ตอนเช้าที่พึ่งเจอกันก็ได้กลิ่นน้ำหอมไวโวเล็ตบนตัวเหล่าโกวแล้ว” จ้าวชิวเยว่ทำปากจู๋
เด็กนี้จมูกดีจริงๆ ตอนเช้าหลังจากที่พวกเขามีอะไรกัน หลินหยางลืมปกปิดร่องรอยบนตัวตัวเองแล้วจริงๆ
เห็นหลินหยางเงียบไป จ้าวชิวเยว่ก็ขยับเข้ามา กอดคอของเขาไว้แล้วพูดว่า “พี่ ฉันรู้ ฉันไม่ไปพูดมั่วๆ หรอก เหล่าโกวรักฉันขนาดนี้ เห็นเธอมีความสุขฉันเองก็มีความสุข แต่ว่า……ตอนนี้พี่อยู่เป็นเพื่อนกับฉันได้ไหม!”
เด็กสาวทำตาเหมือนรอคอย หลินหยางใจอ่อนแล้วพูดว่า “ได้สิ ตอนนี้ฉันก็อยู่กับเธออยู่ไง”
“ไม่ใช่ซะหน่อย พี่เอาแต่มองตึกตรงข้าม ไม่รู้ว่าพี่จะมองเห็นอะไรด้วยหรอ” จ้าวชิวเยว่บ่น
หลินหยางหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ฉันดูออกสิ แต่ว่ารู้สึกขอโทษต่อเธอด้วย ที่เมื่อกี้ไม่ได้สนใจเธอ ตอนนี้ฉันจะเอาความสนใจทุกอย่างมาไว้บนตัวเธอเป็นไง?”
“ต้องอย่างนี้สิ” เด็กสาวพูดด้วยปากจู๋
ริมฝีปากที่สวยๆ นั้นทำให้หลินหยางรู้สึกคันๆ ที่ใจ ก้มหัวลงแล้วจูบลงไปที่ปากของเธอ
ไม่ใช่การจูบที่ดูดเดือด แต่เป็นจูบที่จางๆ จังหวะการของหัวใจจ้าวชิวเยว่นั้นเร็วมาก อารมณ์ของเธอถูกหลินหยางนำพาไป หลินหยางชำนาญในด้านนี้ สามารถจับอารมณ์ของผู้หญิงได้อย่างแม่นยำ ทั้งสองคนจูบกันโดยทำให้หัวใจของอีกฝ่ายจะละลายไปเลย
จ้าวชิวเยว่ได้ทิ้งความอิจฉาไปหมดแล้ว เธอในตอนนี้เหลือแต่อยากเพลิดเพลินไปกับความสนุกที่หลินหยางนำพามาให้
ทั้งสองคนต่างเป็นยอดฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้ กำลังภายในได้ไปถึงขั้นใหม่แล้ว กำลังภายในก็เลยยาว และนี้ก็ทำให้การจูบของต่อเนื่องได้ยาวนาน ผู้หญิงไม่ใช่คู่ต่อสู้จริงๆ ด้วย พึ่งผ่านไปสักพักก็หอบไม่ไหวแล้ว
“พี่ ดึงผ้าม่านปิดได้ไหม!” เด็กสาวพูดอย่างอาย
ยังต้องพูดอะไรอีก หลินหยางก็ต้องทำตามอยู่แล้ว ในห้องได้มืดลงทันที สวิตช์ตรวจจับอัตโนมัติก็ได้เปิดขึ้นมา ห้องที่เหลืองอร่ามแวววาวนั้นดูแล้วโรแมนติกเข้าไปใหญ่ ผู้หญิงง่ายที่จะหลงเข้าไปในนั้น
จ้าวชิวเยว่พิงไว้ที่ไหล่ของหลินหยาง ร่างกายอ่อนเพลีย และมือที่ใหญ่ของเขาในตอนนี้ก็ได้ยื่นเข้าไปในเสื้อเอง สักพักก็จับหน้าอกของเธอไว้ทันที
“อุ๊ย พี่นิสัยไม่ดี พี่แกะบราของฉันออกได้ยังไงเนี้ย?ฉันไม่รู้สึกตัวเลย” จ้าวชิวเยว่พูดอย่างเขิน
นี่เป็นความสามารถที่หลินหยางฝึกได้ในช่วงนี้ วันนี้ก็เลยทำการทดลองกลับสำเร็จซะอย่างนั้น หัวนมทั้งสองตกไปอยู่ในกำมือของเขา
รอบนี้สายตาของจ้าวชิวเยว่ก็เริ่มเบลอขึ้นมา เธอพูดพึมพำว่า “พี่ เอาฉัน!”