คำว่าพี่นั้นเรียกจนในใจของหลินหยางนั้นรู้สึกแปลกๆ เขาก็เลยกอดเด็กสาวเข้าอ้อมกอดอย่างเด็ดขาดแล้วเอียงตัวลงไปบนเตียงใหญ่
เตียงตัวนี้เป็นส่วนที่ควรชื่นชมที่สุดในห้องเพรสซิดิสูท แทบจะสามารถเทียบติดเตียงที่อยู่หลังห้องทำงานของไป๋เซียนเฉ่าเลย
เตียงที่ใหญ่โตรวมกับของตกแต่งที่หรูหรา นี่เป็นที่ที่เหมาะสมกับการหาความสุขที่สุดแล้ว ไฟในห้องกะพริบอย่างอัตโนมัติ แสงที่ทองได้สิ่งไปบนตัวของจ้าวหย่าจิ้ง เผยออร่าที่ทำให้คนหลงใหล
เด็กสาวถอดเสื้อผ้าที่เหลือของตัวเองจนหมด แล้วมองหลินหยางไว้อย่างนั้น ทำท่าทางเหมือนแล้วแต่จะทำอะไรเลย
หลินหยางรีบกลายร่างเป็นหมาป่าที่หิวโหยพุ่งเข้าไป การกระทำทั้งเบาและอ่อนโยน ทั้งสองคนต่างมองอีกฝ่ายไว้
“พี่ เวลายังเช้าอยู่ วันนี้พี่ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปนะ!” จ้าวชิวเชว่พูดอย่างตื่นเต้น
ค่อยเป็นค่อยไปก็หมายความว่าจะต้องทำให้แกะน้อยตัวนี้อิ่มหรือพอใจสินะ เขามุดเข้าไปในอกของเธอ ใช้ลิ้นในการเล่นหัวนม
ร่างกายของผู้หญิงอ่อนไหวมาก แค่เตะโดนนิดหน่อย ก็รู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว แล้วร้องออกเสียงโดยห้ามไม่อยู่
“อย่าจับตรงนั้น” ผู้หญิงพูด
นิสัยของหลินหยาง จุดไหนที่ไม่อยากให้ทำเขาก็ยิ่งอยากทำ มืออีกข้างหนึ่งของเขาก็ได้จับไปที่หน้าอกอีกข้างหนึ่ง ค่อยๆ นวดขึ้นมา
ตัวของจ้าวชิวเยว่นั้นเกร็งจนตัวเขี้ยวไปหมด หลินหยางก็ยังเอาแต่เล่นตรงนั้นไม่ยอมปล่อย ทำให้ผู้หญิงอึดอัดจนจะร้องไห้แล้ว
เพื่อห้ามหลินหยาง จ้าวชิวเยว่ใช้ขาทั้งสองในการรัดเอวของหลินหยางไว้แน่น ทำให้เขาขยับไม่ได้
“เธอจะมัดฉันหรอเนี่ย?” หลินหยางพูดทั้งยิ้ม
“ทำไมพี่เอาแต่ทำตรงนี่ล่ะ?ฉันกลัวจั๊กจี้มาก อึดอัด” จ้าวชิวเยว่พูดประท้วง
มือของหลินหยางได้ลงไปข้างล่าง แล้วจับตรงร่องนั้นไปทีหนึ่ง ลื่นๆ มือค่อยๆ เสียบเข้าไปในรูนั้นแล้วเอาออกมา ก็มีของเหลวไหลออกมา
จ้าวชิวเยว่เห็นก็รีบเอามือมาปิดตาไว้ เหมือนว่าแบบนี้ก็จะสามารถทำเป็นว่าของนั้นไม่ได้ไหวออกมาจากตัวเอง
“ไม่ต้องอายน่า ฉันก็แค่ให้เธอดูว่าถึงเวลาแล้ว ฉันจะเข้าไปแล้ว” หลินหยางพูด
จ้าวชิวเยว่บิดตัวไปมา กอดเขาไว้แน่เพื่อไม่ให้เขาทำอะไรมั่วๆ
“ทำไม?ไม่ให้ฉันเข้าไปแล้วหรอ?” หลินหยางถามอย่างสงสัย
เด็กสาวส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า “น่าอายเกินไปแล้ว พี่เอาแต่แกล้งฉัน”
หลินหยางทนหัวเราะแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้รังแกเธอนะ นี่เป็นการสื่อสารความรู้สึกที่พื้นฐานที่สุด เธอต้องนอนไว้นิ่งๆ เพราะรถไฟกำลังจะออกตัวแล้ว สถานีต่อไปคือสวรรค์”
มาเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ หลินหยางมีความอดทนต่อจ้าวชิวเยว่และอ่อนโยนมาก
จ้าวชิวเยว่ยิ้มแล้ว เธอรู้ว่าโอกาสที่จะสามารถมีอะไรแบบนี้ได้เหลือไม่เยอะแล้ว เธอต้องเข้าขาให้ดีๆ ทำให้ความสุขครั้งนี้ได้อยู่นานและลึกซึ้งหน่อย
หลินหยางเองก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด ไม่ได้แกล้งเธออีก เสียบเข้าไปในส่วนลึก
ข้างในนั้นเปียกและร้อนนานแล้ว ปืนน้อยถูกห่อหุ้มไว้จนหมด ถึงจะไม่แค่ครั้งแรก แต่ร่างกายของทั้งสองคนก็ค่อยๆ คุ้นชินต่อกัน แต่ว่าความรู้สึกทุกครั้งจะไม่เหมือนกันเลย
ครั้งนี้หลินหยางรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าอารมณ์ของจ้าวชิวเยว่นั้นร้อนแรงกว่า สามารถรับของตัวเองที่บุกเข้าไปไว้ได้หมด ผู้หญิงก็เหมือนกับนา ถ้าทิ้งไว้ไม่ทำการเพาะปลูกก็จะเสื่อมสภาพเลย
หลังจากที่เพาะปลูกครั้งแรกแล้ว คอยมาดูแลอีกหน่อย นาถึงจะดูแล้วมีชีวิตชีวา
จ้าวชิวเยว่ในตอนนี้นั้นมีแรงเต็มเลย ถึงแม้จะถูกหลินหยางทับไว้ข้างล่าง แต่เธอก็ยังสามารถประคองตัวขึ้นมารับการกระแทกของเขา ทั้งสองคนเป็นคนที่ฝึกกังฟู การเอาใจอีกฝ่ายนั้นทำให้การกระทำของทั้งสองคนยิ่งรุนแรงขึ้น
เดิมทีหลินหยางว่าจะยืนนานหน่อย แต่พอนึกถึงเด็กสาวที่ตอนนี้ร้อนแรงขึ้นมาแล้ว รถไฟที่เดินด้วยความเร็วสูงนั้นทำให้หลินหยางไม่อยากให้มันหยุดลง
ถ้าอย่างนั้นก็รุนแรงอีกหน่อยเถอะ หลินหยางที่เป็นหัวรถได้พาจ้าวชิวเยว่วิ่งด้วยความเร็วสูง
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ จ้าวชิวเยว่ถึงจะตื่นมาจากความหมดสติ ถามหลินหยางอย่างงงว่า “เมื่อกี้ฉันเป็นอะไรไปหรอ?”
“ไม่มีอะไร ก็แค่รู้สึกถึงความสนุกที่สุดของคนเท่านั้นเอง” หลินหยางประคองหน้าของเธอแล้วพูด
ผู้หญิงมีความสุขมาก มองหลินหยางแล้วพูดว่า “ทันใดนั้นฉันเหมือนไม่มีความทรงจำเลย ไม่รู้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง!”
“ฉันบอกเธอนะ เมื่อกี้เกิดเรื่องที่มีความสุขที่สุด เธอดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองโมงแล้วนะ” หลินหยางยิ้มพร้อมพูด
จ้าวชิวเยว่อึ้งไปทันที เงยหน้าดูก็บ่ายแล้วจริงๆ ด้วย นี้ก็หมายความว่าทั้งสองคนได้กลิ้งไปมาบนเตียงเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้วหรอ
จ้าวชิวเยว่กัดริมฝีปากแล้วถามว่า “ทำไมเวลาถึงผ่านไปเร็วจังเลย ฉันยังรู้สึกว่าพึ่งได้นอนลงมาเอง เวลาก็ผ่านไปแล้ว”
“เอาล่ะ ฉันกอดเธอไว้ เธอพักหน่อยละกัน จะได้มีแรงในตอนดึก” หลินหยางพูดอย่างอ่อนโยน
หลินหยางนวดที่ขมับของเด็กสาว ทำให้เกิดไออุ่น จ้าวชิวเยว่รู้สึกว่าง่วงมาก หลับตาลงแล้วพิงไว้ที่ตัวของหลินหยางหลับไป
หลินหยางก็หลับตาเพื่อพัก จนมาถึงตอนดึก เขาถึงจะลุกขึ้นนั่ง
ห่มผ้าห่มให้จ้าวชิวเยว่เสร็จ หลินหยางก็เปิดผ้าม่านแล้วจองไปที่ตึกตรงข้าม
ค่ำคืนที่เงียบสงบ ทำให้ย่านธุรกิจนั้นดูร้างขึ้นมาทันที ผู้คนในตึกก็ยิ่งอยู่ยิ่งน้อย มีแค่ไม่กี่คนที่ยังทำโอทีอยู่ในห้องที่เปิดไฟอยู่ แต่ชั้นบนสุดก็ยังมืดเหมือนเดิม
ตอนที่พระจันทร์ลอยขึ้นมา ก็เป็นเวลา 1 ทุ่งกว่าแล้ว เด็กสาวก็ยังหลับอย่างสนิท ฝีมือในการนวดของหลินหยางนั้นสามารถทำให้เธอหลับสนิทได้ทั้งคืน เขาไม่อยากให้จ้าวชิวเยว่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความอันตราย เรื่องพวกนี้เขาจัดการคนเดียวก็พอแล้ว
การรออย่างใจเย็นๆ นั้นคุ้มค่าจริงๆ ตอนเวลา 2 ทุ่งไฟชั้นบนสุดของตึกตรงข้างก็เปิดขึ้นมา หลินหยางใช้สายตาที่เกินคนนั้นมองไปทั่ว ถึงจะไม่แน่ใจว่าหลูยี่อยู่ข้างในไหม แต่ก็สามารถมั่นใจได้ว่าไอ้นี่กำลังวางแผนอะไรอยู่แน่ๆ
หลินหยางพยายามจำโครงสร้างภายในตึกตรงข้าม จนมีร่างที่คุ้นเคยเข้ามาในขอบเขตสายตา หลินหยางถึงจะยิ้ม หลูยี่ปรากฏตัวแล้ว
หลินหยางจากไปอย่างเงียบๆ ก่อนจะออกไป ได้จูบจ้าวชิวเยว่เบาๆ แต่เด็กสาวทำปากจู๋อย่างกับว่ายังไม่พอใจ
แต่งตัวชิวๆ หลินหยางวิ่งยองๆ มาจนถึงตึกอาคารกว่างหวา ยามที่นี้มีความรับผิดชอบมาก ได้สอบถามและจดเหตุผลที่มาของหลินหยางแล้วถึงจะปล่อยเขาเข้าลิฟต์
หลินหยางว่าจะขึ้นไปชั้นบนสุดโดยตรง แต่ว่าลิฟต์โดยสารกลับถึงแค่ชั้นที่ 38 ท่าทางหลูยี่จะเฝ้าระวังเป็นอย่างมากจริงๆ
นอกจากเดินขึ้นลิฟต์เฉพาะของชั้นบนสุด ไม่อย่างนั้นขึ้นไปไม่ได้แน่
หลังจากที่หลินหยางลองเช็ดดูดีๆ ก็สังเกตเห็นตรงชั้น 38 มีทางผ่าน สามารถเชื่อมไปถึงข้างบนได้ ถึงแม้ว่าทางผ่านนี้จะขึ้นได้แต่ออกไม่ได้ นี่ทำอะไรหลินหยางไม่ได้หรอก เขาจกเข็มเงินออกมา หลังจากที่เสียเวลาไปเล็กน้อย ก็เปิดประตูได้
ตอนนี้ในตึกสว่างไปหมดเลย โผล่หัวออกไป หลินหยางกวาดตามองไปก็ไม่เห็นมีใครเลย
หลินหยางเอาตัวแนบกับกำแพงแล้วเดินไปอย่างระมัดระวัง หูที่ว่องไวของเขาได้ฟังเสียงในตึกนี้ทั้งหมด
ถึงแม้ว่าการกั้นเสียงของที่นี่จะดี แต่หลินหยางก็ยังได้ยินเสียงของหลูยี่ที่เหมือนกับเสียงของเป็ด
อยู่ข้างหน้าไม่ห่างจากนี้แล้ว หลินหยางขยับเข้าไปแล้วถีบประตูออกอย่างแรง เข้าไปมองดู หลินหยางก็อึ้งไปหมดเลย ข้างในนี้เต็มไปด้วยคนที่ใส่ชุดอาวุธครบมือ
“หลินหยาง นายนี่ก็เก่งใช้ได้เลยนะ ที่สามารถสืบหาที่หลบซ่อนของฉันได้ละเอียดขนาดนี้” หลูยี่หัวเราะเสียงดัง
“หลูยี่ นายจะใจกล้าเกินไปแล้ว หลังจากหนีออกมายังกล้าหลบอยู่ในเมืองเจียงหลิง นายคิดจะทำอะไรกันแน่?” หลินหยางถามอย่างใจเย็น
หลูยี่แบมือแล้วพูดว่า “นายเห็นแล้วไม่ใช่หรอ?นี่เป็นคนของฉันทั้งหมด เป็นทหารดีเด่น ต่างฝีมือไม่น้อยด้วย ถ้านายอยากรู้ว่าฉันอยากจะทำอะไร ก็ลองเจรจากับพวกเขาดูสิ”
พวกคนที่แต่งตัวครบชุดพร้อมอาวุธได้ลุกขึ้นยืนทันที หลินหยางมองไป ร่างกายของพวกเขานั้นแข็งแกร่ง เป็นคนที่เคยผ่านการฝึกหนักมา แต่ว่าตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจเบื้องหลังของพวกเขา ว่าเกี่ยวข้องกับตระกูลผู้ดีรึเปล่า
หลินหยางถูกล้อมไว้ตรงกลางทันที หลูยี่หัวเราะอย่างเย็นชาว่า “หลินหยาง ถ้านายยอมแพ้แล้วคุกเข่าลงให้ฉันละก็ ยังมีโอกาสรอดได้นะ”
หลินหยางไม่สนใจเขา เขาได้เริ่มทำการโจมตีก่อน ต่อหน้าเหตุการณ์ที่เลวร้าย เขาต้องเป็นคนเปิดก่อน ฝ่ามือทั้งสองไปตบออกไปพร้อมกัน สองคนที่บังอยู่ตรงหน้าไม่ทันตั้งตัว ถูกหลินหยางตบจนล้ม ท่านี้ของหลินหยางได้ใช้เจินชี่อย่างเต็มเพื่อแสดงอำนาจ ถึงแม้ว่าสองคนนี้จะลุกขึ้นได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว
อยู่ๆ ก็โจมตีอย่างแรง ทำให้ผู้ชายทั้งสองที่อยู่ข้างหน้าปลิวได้ ทำให้คนพวกนี้อึ้งไปหมดเลย หลูยี่เห็นก็รีบตะคอกว่า “ยังรออะไรอยู่?รุมเข้าไปจัดการมันให้ตายซะ”
คำพูดของหลูยี่ก็คือคำสั่ง พวกเขาได้เข้าไปพร้อมกันทันที คนพวกนี้เป็นคนที่หลูยี่ออกเงินมหาศาลเพื่อจ้างมา พวกเขาส่วนใหญ่เป็นทหารหน่วยรบพิเศษจากเมืองเล็กๆ ทางทิศใต้ ต่างมีประสบการณ์ที่สู้รบอย่างแท้จริง
ถ้าจะบอกว่าฆ่าคน คนพวกนี้แกร่งกว่าหลินหยางไม่ใช่แค่ 100 เท่าแล้ว คนพวกนี้โจมตีแต่จุดสำคัญและโจมตีจากคนละทิศคนละทางเพื่อให้โดนจุดที่อ่อนแอที่สุดของหลินหยาง
หลินหยางในตอนนี้ถึงจะมีหัวสามหัวกับแขนหกแขนก็สู้ลำบากเหมือนกัน เพราะฉะนั้นหลังจากที่แสดงอำนาจแล้ว เขาก็สังเกตถึงความแท้จริงของอีกฝ่ายได้แล้ว เป็นแค่ทหารรับจ้างเท่านั้น แต่ว่าจำนวนคนของพวกเขาเยอะเกินไป เขาจัดการคนเดียวไม่ไหว
เกิดความคิดขึ้นมาอย่างเร็ว หลินหยางได้เอาเข็มเงินออกมาจากกระเป๋าเป็นกำ หลินหยางยกมือแล้วขว้างออกไปเลย ภายใต้ไฟที่สว่างเจิดจ้า ทำให้เข็มเงินมีการย้อนแสงที่เป็นสีรุ้ง
5 คนที่พุ่งเข้ามาก่อนโดนเข้าทุกคน หลินหยางได้โยนเข็มเงินออกไปอีก 5 ดอก ได้โดนจุดฝังเข็มของพวกเขาอย่างแม่นยำ ทั้ง 5 คนได้นอนลงกับพื้นอย่างอ่อนแรงทันที
จากนั้นหลินหยางก็พุ่งตรงเข้าไปทางหลูยี่ทันที จับโจรต้องจับหัวหน้าโจรก่อน ไม่ว่าคนของพวกเขาจะเยอะแค่ไหน ขอแค่จับมันได้ก็พอแล้ว
สีหน้าของหลูยี่เปลี่ยนไปทันที คิดไม่ถึงว่าหลินหยางจะเก่งขนาดนี้ สามารถล้มคน 7 คน เพื่อหาทางออกให้ตัวเองพุ่งออกมาได้ทันที
“รีบห้ามมันไว้” หลูยี่ตะโกน
ทันใดนั้น อยู่ๆ ก็มีคนสองคนที่ผอมเหมือนกับลิงได้กระโดดออกมาจากท่ามกลางกลุ่มคนมาห้ามหลินหยางไว้
สองคนนี้ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย หลินหยางรู้สึกได้ว่ากลิ่นอายของอีกฝ่ายนั้นนิ่งมาก ไม่ใช้คนธรรมดาแน่ๆ คนหนึ่งไว้หนวดสองข้าง อีกคนบนหน้าผากมีรอยแผล
หลินหยางจกเข็มเงินออกมาแล้วโยนออกไป ได้ใช้เจินชี่ของบทหลงเฟิ่งเจว๋นั้นทำให้เข็มเงินปล่อยออกไปเหมือนกับกระสุนเลย ผู้ชายทั้งสองคนตาไวมือไว แค่หันข้างก็หลบไปได้แล้ว หนึ่งในนั้นกลับใช้มือในการรับปลายเข็มอย่างแม่นยำ
“ไอ้หนุ่ม นายฝีมือจริงๆ ด้วย แต่ว่าวันนี้นายโชคไม่ดีที่เจอพวกเราสองพี่น้อง ยอมแพ้ซะดีๆ เถอะ” คนที่ไว้หนวดสองข้างได้พูดขึ้นมา