นี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ธรรมดา ก่อนหน้านี้ที่หลินหยางปะทะด้วยก็มีแค่เซินถูอ๋างหรันเท่านั้นที่มีกลิ่นอายแบบนี้
การยืนของทั้งสองคนนั้นแม่นยำมาก บังทางไปของหลินหยางไว้พอดี หลูยี่หลบอยู่ข้างหลังของพวกเขาสองคนปลอดภัยมาก
ทันทีที่สองคนนี้เปิดตัว คนอื่นๆ ก็ได้เปิดทางให้พวกเขา พวกเขาถึงจะเป็นแกนกลางที่แท้จริง หลินหยางกำหมัดแน่น เขาเข้ามาในพื้นที่ของศัตรูอย่างประมาท กลับลืมไปเลยว่าจัดการไอ้นี่ไม่ได้ง่ายๆ ไม่อย่างนั้นมันคงไม่อยู่ที่เจียงหลิงโดยที่ไม่มีไม้หลังได้ยังไง
ดูเหมือนสองคนนี้น่าจะเป็นไม้หลังของมันแน่เลย ตอนนี้หลินหยางมองพวกเขาด้วยสีหน้าอึมครึม ไม่กล้าขยับเลยแม้แต่น้อย ตรงข้ามต้องเป็นปรมาจารย์ก็เลยต้องรักษาความสงบไว้
อีกฝ่ายแค่ทำการตั้งท่า ถ้าหลินหยางอยากหนีไปตั้งแต่ตอนนี้ สงสัยอีกฝ่ายก็คงห้ามเขาไว้ไม่อยู่ เดิมทีหลินหยางไม่อยากทำแบบนี้ เขาอยากจะจับหลูหยี่ให้ได้ เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อไป๋เซียนเฉ่าและส้งซูยี่
หยุดไปแป๊บหนึ่ง หลินหยางก็ได้ออกมือโจมตี ท่าร่างอันดุเดือดรุนแรงของหลงเถิงฟ่งอู่คู่กับเจินชี่ของบทหลงเฟิ่งเจว๋ หลินหยางเริ่มโจมตีไปทางคนที่ไว้หนวดสองข้าง
ไอ้มัสทาชอยู่ใกล้หลินหยางที่สุด และเมื่อกี้ที่ดูจากท่าทางของเขาแล้ว ฝีมือก็น่าจะด้อยกว่าอีกคน หลินหยางใช้กำลังทั้งหมด โจมตีไปทางหัวของเขา นี่เป็นแค่ท่าหลอก อีกฝ่ายไม่ได้รนหรืออะไรเลย ยืนตั้งกระบวมท่าอยู่กับที่แล้วยกมือเพื่อรับการโจมตีของหลินหยาง
กลิ่นอายที่เย็นๆ ก็ได้บุกเข้ามาหา หลินหยางตกใจ เจินชี่ของผู้ชายคนนี้แตกต่างกับคนอื่นๆ ไม่นึกว่าจะมีความอ่อนนุ่มเหมือนผู้หญิงด้วย หลินหยางไม่ได้ลังเล เก็บท่าหลอกแล้วเปลี่ยนเป็นถีบไปที่ท้องน้อยของเขา
เสียงดังผัวะ ผู้ชายคนนี้กลับรับไว้อย่างกะทันหัน ไอ้มัสทาชถอยหลังไปสองก้าว จากนั้นก็ดันไว้อย่างนิ่ง เขาหัวเราะอย่างเย็นชาพร้อมพูดว่า “สุดยอดจริงๆ ด้วย แต่น่าเสียดายที่ยังไม่พอ ท่านพี่ พวกเราโจมตีพร้อมกัน”
ไอ้หน้าบากก็ได้ออกมือโจมตีทันที หลินหยางหลบไปมาอย่างว่องไว หลบการโจมตีของไอ้หน้าบากไปด้วย พร้อมกับโจมตีไปที่ไอ้มัสทาชต่อ เขาจะต้องหาโอกาสที่จะล้มคนหนึ่งก่อนถึงจะสามารถจับหลูยี่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็จะตกอยู่ในวงล้อมแน่ๆ
แต่ว่าฐานของไอ้มัสทาชสุดยอดจริงๆ ไม่ว่าหลินหยางจะโจมตียังไง ก็ไม่ยอมให้ผ่าน บังทางที่หลินหยางอยากไปไว้
เวลาได้ไหลไป ถ้ายังสู้ต่อไป กลัวว่าจะไม่ดีต่อตัวเอง การโจมตีของไอ้หน้าบากก็ไม่อ่อนข้อเลย หลินหยางเริ่มเพลียต่อการป้องกันแล้ว
หลูยี่หัวเราะฮ่าฮ่าแล้วพูดว่า “หลินหยาง นายมีปัญญามากไม่ใช่หรอ?นายไม่ใช่ว่าจะทำให้ฉันได้ทันทีไม่ใช่หรอ?ฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้มา นายมาฆ่าฉันสิ”
ที่พูดเยาะเย้ยแบบนี้ก็เพื่อจะกวนสมาธิของหลินหยาง แต่ว่าหลินหยางในตอนนี้ไม่มีเวลาไปสนใจเขา ต้องรีบจัดการให้เสร็จซะแล้ว
หลินหยางตะคอกทีหนึ่ง เสื้อบนตัวก็ถูกระเบิดออกจนหมด เจินชี่ไหลออกมาจากจุดตันเถียน บนมือของเขาได้จับเข็มเงินไว้สามเล่ม
สองเล่มได้แยกกันทำงานซ้ายขวา ได้โยนไปทางไอ้หน้าบากและไอ้มัสทาช และยังมีอีกหนึ่งเล่มได้พุ่งตรงไปตรงหน้าของหลูยี่
ผู้ชายทั้งสองคนรู้ถึงความอันตรายของเข็มนี้แล้ว ก็เลยรีบก้มตัวลงเพื่อหลบ สุดท้ายเข็มเงินนี้ก็ไปเสียบอยู่บนหน้าผากของหลูยี่เต็มๆ ไอ้นี่มันกลัวจนไม่รู้ว่าควรหลบยังไงแล้ว ยังดีที่ไอ้มัสทาชกล้าหาญพอ รีบพุ่งเข้าไปโดยใช้ร่างกายรับเข็มนั้นไว้
ไอ้มัสทาชร้อยโอ๊ยแล้วล้มลงกับพื้น ช่องแคบที่สั้นๆ นี้ถูกหลินหยางจับไว้ทันที เขารีบก้าวแล้วพุ่งเข้าไป
หลูยี่รีบหันเพื่อจะหนี แต่จะหนีพ้นได้ยังไง หลินหยางอยู่ตรงหน้าแล้ว ห่างจากเขาไม่ถึงครึ่งเมตร เขาเบิกตากว้าง แล้วกำลังจะเหวี่ยงหมัดลงไป
อยู่ๆ ก็มีเสียงปั้งดังขึ้น ไอ้หน้าบากเอาปืนออกมาชี้ตรงหลังของหลินหยางแล้วยิงไปนัดหนึ่ง หลินหยางก็ได้ล้มลงไปกับพื้นตามเสียง เลือดสดไหลออกมาไม่หยุด
หลูยี่โล่งใจทันที แล้วพูดทั้งหัวเราะว่า “ไอ้ห่าเอ๊ย ไม่คิดว่าจะเก่งขนาดนี้ ไม่ว่ามึงจะเก่งขนาดไหนมึงคิดว่าจะหลบกระสุนได้หรอ?”
หลินหยางโกรธมาก ตะโกนอ๊ากทีหนึ่ง อยู่ๆ ก็กระโดดขึ้นมา หลูยี่รีบไปหลบอยู่ด้านหลังของผู้ชายสองคนนั้น
ตอนที่หลินหยางที่บาดเจ็บรู้ว่าสถานการณ์ไม่ดี เขาต้องรีบถอยแล้ว ในตอนนี้เองหน้าต่างก็ดังปั้งถูกทุบแตก เชือกเส้นหนึ่งได้มาคล้องตัวของหลินหยางไว้อย่างแม่น เขาถูกลากออกไปด้านนอกหน้าต่างแล้วหายไปทันที
หลูยี่รีบวิ่งไปคลานไว้ที่หน้าต่างแล้วมองลงไปข้างล่าง บนนี้คือชั้นที่ 39 นะ สูงขนาดนี้โดดลงไปตายสถานเดียว
“บอส มันถูกคนช่วยไปแล้วครับ!” ไอ้หน้าบากเก็บปืนพกแล้วพูด
“เป็นไปได้ยังไง?เชือกเมื่อกี้มันอะไรกัน?” หลูยี่พูดอย่างโมโห
ไอ้หน้าบากพยุงไอ้มัสทาชที่อยู่บนพื้นขึ้นมา ใช้กำลังภายในเพื่อบีบให้เข็มในตัวเขาออกมา ยังดีที่ไอ้มัสทาชบาดเจ็บไม่ใช่จุดอันตราย
ทำการปรับลมสักพัก ไอ้หน้าบากก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “วิชาเมื่อกี้น่าจะเป็นของตระกูลเซินถู ครอบตัวหลินหยางแล้วพามันหนีไปครับ!”
“มันจะเป็นได้หรอที่พวกมันโดดลงไปจากชั้น 39 แบบนี้?” หลูยี่แทบจะตะคอกออกมา
“ไม่ใช่ครับ เชือกเส้นเมื่อกี้ก็คือวิธีที่พวกเขาใช้หนีเพื่อรอดชีวิต วิชาตัวเบานี้ต้องการแค่เชือกเส้นหนึ่ง ถึงจะเป็นตึกที่มีความสูง 100 ชั้นก็ห้ามพวกเขาไว้ไม่อยู่ครับ” ไอ้หน้าบากส่ายหน้า
หลูยี่เริ่มรู้สึกท้อ แต่ไม่นานก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ปลาตัวเล็กหนีก็ช่างเถอะ พวกเราตั้งหน้าตั้งตารอปลาตัวใหญ่มาดีกว่า”
คนที่ช่วยหลินหยางออกมาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นจ้าวชิวเยว่ หลังจากที่เธอตื่นมาเห็นว่าหลินหยางไม่อยู่ ก็เลยรีบตรงมาที่นี่เพื่อหาเขา เธอหลบไปบนดาดฟ้าอย่างคล่อง และได้ช่วงเขาไว้ทันเวลาพอดี
ด้านหลังของหลินหยางโดนยิง ร่างกายก็จะอ่อนเพลีย เห็นตัวเองลอยลงมาจากบนตึกที่สูง30กว่าชั้นถึงจะมองหน้าของจ้าวชิวเยว่ได้ชัด
“ขอบคุณที่เธอมาช่วยฉัน” หลินหยางยิ้มอย่างอ่อนแรง
“พี่ เวลาแบบนี้แล้วยังจะพูดแบบนี้ทำไม?ฉันเกลียดพี่จริงๆ ที่ทิ้งฉันไว้ในโรงแรมคนเดียว” จ้าวชิวเยว่พูดอย่างโมโห
เอาหลินหยางยัดเข้าไปในแลนโรล์เวอร์ จ้าวชิวเยว่ก็ขับตรงไปที่โรงพยาบาลเลย ยังดีที่บาดแผลจากปืนนี้ไม่ถึงแก่ชีวิต แค่เนื้อหนังแตกเฉยๆ ไม่ได้โดนแม้แต่กระดูกด้วยซ้ำ
ในห้องผ่าตัด ก่อนที่สติของหลินหยางยังไม่ถูกยาชาครอบงำ ได้เห็นใบหน้าที่สวยงาม แต่ว่าใบหน้านี้กลับไม่พอใจที่จะได้ทำการผ่าตัดให้เขาเลย
ตอนที่ตื่นขึ้นมา รอบๆ ล้อมไปด้วยผู้หญิงหลายคน ต่างใช้สายตาที่ร้อนแรงในการมองตัวเอง หลินหยางพูดขึ้นมาอย่างเขินว่า “พวกเธอมาหมดเลยหรอ?ฉันไม่ได้เป็นไรมากแค่แผลนิดหน่อยเอง”
พวกผู้หญิงไม่พอใจทันที ต่างพูดขึ้นมาโทษว่าเป็นเพราะเขาวู่วามเกินไป
ในเวลานี้เอง หมอก็ได้เดินเข้ามาแล้วพูดอย่างโมโหว่า “พวกคุณนี้มาเยี่ยมคนไข้หรือว่ามาทะเลาะกันแน่?เงียบๆ กันหน่อย ตอนนี้ขอเชิญพวกคุณออกไป ฉันต้องการทำการตรวจเช็กให้คนไข้”
ไป๋เซียนเฉ่า จ้าวหย่าจิ้งพวกเธอใครที่ไม่ใช่ฐานะตำแหน่งสูงๆ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะถูกหมอดุแบบนี้
ผู้หญิงทั้งสองคนต่างไม่กล้าเถียงอะไรกับหมอเลย หลินหยางหัวเราะฮ่าฮ่าแล้วพูดว่า “ฉันโชคดีจริงๆ ที่ได้เห็นท่านนายกและเศรษฐีลำดับหนึ่งกลับยอมทน”
หมอไม่สนว่าพวกเขาฐานะตำแหน่งอะไร จ้องหลินหยางแล้วพูดว่า “คุณก็ไม่ต้องหัวเราะแล้ว ถ้าหัวเราะแล้วแผลเปิดฉันก็จะกรีกให้คุณเพิ่มอีกหนึ่งแผล”
ไป๋เซียนเฉ่ากับจ้าวหย่าจิ้งก็ไม่กล้าอยู่ต่อ บอกลาหลินหยางเสร็จก็ไปแล้ว
หลินหยางพึ่งนึกได้ว่าหมอที่ทำการผ่าตัดให้ตัวเองน่าจะเป็นผู้หญิงคนนี้ ใบหน้าที่สวยนี้ดูแล้วไม่น่าจะถึง 30 สวยมากๆ คนที่อยู่ในชุดสีขาวนี้อาจจะเป็นคนที่มีหัวใจของนางฟ้า หรืออาจจะเป็นหัวใจที่กำยำ
หมอท่านนี้ก็กำยำแบบนี้แหละ จ้าวหย่าจิ้งกับไป๋เซียนเฉ่าถูกเธอทำให้กลัวจนออกไปหมด
หลินหยางมุดอยู่ในผ้าห่มไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้น หมอคนนี้เหมือนจะมีความสนใจต่อการผ่าตัดเป็นอย่างมาก
“หลินหยาง?นายก็คือหลินหยางที่พ่อของฉันพูดถึงทั้งวันหรอ?ฉันดูแล้วนายก็ไม่ได้มีสามแขนหรือหกขานี่น่า ทำไมพวกผู้เฒ่าถึงเชิดชูนายขนาดนี้?พ่อบอกฉันว่านายเป็นผู้นำของแพทย์แผนจีนคนรุ่นใหม่ ถ้าอย่างนั้นฉันต้องขอคำปรึกษาจากนายหน่อยแล้ว”
หลินหยางมองดูเธอ ท่าทางพ่อของเธอก็ได้เข้าร่วมการประชุมแพทย์แผนจีนครั้งก่อน คาดว่าน่าจะเอาแต่พูดชมตัวเขา จนผู้หญิงคนนี้ฟังจนเบื่อ วันนี้อาจจะอยากแก้แค้นเขา
“หลังของผมยังรู้สึกเจ็บอยู่เลย ไม่ใช่ว่าคุณแอบกรีดไปหลายรอบหรอกนะ?” อยู่ๆ หลินหยางก็ถาม
หมอผู้หญิงหัวเราะฮ่าฮ่าออกมา เสียงหัวเราะนี้อุ่นใจมาก ไม่มีการวางท่าเสแสร้งอะไรเลย หลินหยางชอบนิสัยที่ตรงไปตรงมาแบบนี้มาก
“ฉันก็อยากจะกรีดบนตัวนายหลายทีอยู่นะ แต่ว่าคณบดีเตือนฉันว่านายเป็นคนไข้ที่สำคัญ พอเห็นวันนี้ก็รู้เลยว่านายกและหัวหน้าใหญ่ของเซียนเฉ่าเก๋อต่างเป็นคู่ชีวิตของนายหมดเลยสินะ นายนี้โชคดีจริงๆ เลย ใครมันที่ใจกล้ายิงนายจากด้านหลังเนี่ย?” หมอผู้หญิงถาม
“วงการนักเลงมาเฟียก็เลือดสาดเป็นหยดน้ำแบบนี้แหละ คุณไม่ต้องถามเยอะดีกว่า” หลินหยางพูด
หมอผู้หญิงหึทีหนึ่งแล้วพูดว่า “นายคิดว่าคุณเป็นพระเอกพวกนี้หรอ?ยังจะวงการนักเลงนี่มันสมัยไหนกันแล้ว?”
หลินหยางยิ้มแต่ไม่พูด จับปลอดที่ตัวเองเอามาวัดไข้ จากนั้นก็โยนออกไปอย่างนั้น ก็ได้ตกลงไปในกระเป๋าของหมอผู้หญิงที่ยืนห่างหลายเมตร
“คุณเล่นกายกรรม?” หมอผู้หญิงพูดอย่างตะลึง
“นี่เป็นแค่วิชาที่พื้นฐาน ถ้าที่ผมจับเป็นเข็มเงิน ผมสามารถทำให้บนตัวคุณมีเข็มเสียบไป 5 เล่มทันที” หลินหยางพูดอย่างห้าว
หมอผู้หญิงไม่กล้าดูถูกหลินหยางแล้ว ขยับเข้ามานั่งแล้วถามหลินหยาง “ถ้าอย่างนั้นคุณลองบอกฉันสิ ไปเจอนักสู้ฝีมือปรมาจารย์ใช่ไหมคุณถึงบาดเจ็บหนักแบบนี้?ไม่ใช่สิ พวกมันใช้ปืน ไม่ใช่ปรมาจารย์”
หลินหยางก็นอนจนเบื่อ อธิบายให้เธอว่า “อีกฝ่ายเป็นปรมาจารย์จริง เก่งมากด้วย ที่แรกสู้กับผมอยู่ แต่ว่าผมตอนนั้นใจร้อนเกินไปอยากจะโจมตีหัวหน้าของพวกมัน เลยทำให้มันลอบโจมตีได้จากด้านหลัง ไม่อย่างนั้น ผมไม่มีทางตกอยู่ในมือคุณหลอก”
หมอผู้หญิงเหมือนจะสนใจเบื้องหลังของเรื่องนี้มาก เบิกตาโตแล้วพูดว่า “ที่แท้ก็มีปรมาจารย์จริงๆ ด้วยสินะ สูงแค่ไหน บินไต่กำแพงได้ไหม?”
“คุณอ่านนิยายมากไปรึเปล่า วิชาตัวเบาดีที่สุดก็แค่ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า สามารถตกลงมาจากที่สูงๆ มาถึงพื้นอย่างเร็วโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่นี่ก็สำหรับคนที่กำลังภายในแกร่งถึงจะทำได้ ถ้าจะพูดมันซับซ้อนมาก คุณที่เป็นผู้หญิงฟังแล้วก็จะเบื่อเหมือนกัน” หลินหยางส่ายหัวแล้วพูด
แต่หลินหยางไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนกันผู้หญิงคนอื่นๆ เธอเป็นผู้หญิงที่หลงใหลในนิยายกำลังภายในตั้งแต่เด็ก พ่อก็เป็นแพทย์แผนจีนที่อาวุโสอีก อยากรู้อยากเห็นพวกจุดฝังเข็มเป็นอย่างมาก
“ฉันเบื่อพอดี คุณลองพูดให้ฉันอย่างละเอียดสิ” เธอทำท่าทางเหมือนเด็กที่สงสัยในการพูด
“ได้สิ แต่ว่าสำหรับคนที่มีการฝึกมานั้นไม่ควรเอาเรื่องนี้มาพูดเล่น แต่ผมที่อาชีพเดียวกับคุณก็สามารถแนะนำคุณได้นะ” หลินหยางยิ้มพร้อมพูด
หมอผู้หญิงยึดอกแล้วพูดว่า “หึ คุณยังชอบวางท่า ต่างกับที่พ่อฉันบอกว่าถ่อมตนมากเหลือเกิน”
หลินหยางอึ้งไปสักพัก แล้วมองไปที่ป้ายชื่อตรงอกของเธอ ชิวซิงเยว่ หลินหยางก็นึกถึงตอนประชุมครั้งนั้นที่ท่านชิวเป็นคนพูด เขาถามอย่างประหลาดใจว่า “พ่อของคุณคือ ‘ปราบผีสามเข็ม’ รองคณบดีของสมาคม?”