ชิวซิงเยว่หายใจอย่างหนัก ร่างหายไม่ได้ถูกควบคุมไว้แท้ๆ แต่กลับไม่มีแรงในการขัดขืนเลยแม้แต่น้อย ผู้ชายคนนี้ก็เอาแต่ทรมานเธอแบบนี้ ใช้เจินชี่ที่วิเศษของเขากลืนกินตัวเอง
“ไอ้บ้า นายแน่จริงก็ทำให้ฉันสบายซะ” ชิวซิงเยว่พูดด้วยสายตาที่เริ่มเบลอ
เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีสักวันที่ตัวเองถูกผู้ชายทับไว้ข้างล่าง หลายปีมานี้ มีแต่เธอที่เอามีดในการผ่าบนตัวของคนอื่น ตอนนี้ตัวของเธอกำลังจะเจอกับอันตราย เธอยังกล้าเยาะเย้ยหลินหยางขนาดนี้
หลินหยางไม่ได้คิดจะทำอะไรเธอเลย ยังใช้เจินชี่บทหลงเฟิ่งเจว๋ในการสางตัวของเธอให้ผ่อนคลาย ชิวซิงเยว่จะไปรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง เธอที่เกร็งตัวไว้นั้นได้ยั่วหลินหยางโดยไม่ได้ตั้งใจ
หายใจอย่างแรง หลินหยางตัดสินใจว่าจะไม่ทนอีกแล้ว จับปืนน้อยไว้แน่น แล้วถูอยู่ที่ร่องของเธอสักพักหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นก็รีบจับปืนน้อยแล้วส่งเข้าไปข้างในตัวของตัวเอง
เสียบเข้าไปได้อย่างราบรื่น ไม่มีสิ่งกีดขวางอะไรเลย ผู้หญิงกลับน้ำตาไหลออกมา หลินหยางรีบถามอย่างรนว่า “เป็นอะไร?”
“เจ็บ!” ผู้หญิงกัดปากแล้วพูด
ถึงแม้ว่าจะไม่มีอุปสรรคอะไรเลย แต่ว่าหลินหยางก็รู้สึกได้ถึงตัวของเธอที่สั่นได้อย่างชัดเจน เขาพูดอย่างสงสารว่า “ขอโทษ ผมไม่รู้ว่าคุณยังไม่พร้อม”
“ขอโทษจะมีประโยชน์อะไร นายก็เสียบเข้าไปแล้ว” ผู้หญิงเช็ดน้ำตาแล้วพูด
หลินหยางไม่รู้ว่าควรเข้าต่อหรือออกมา ได้แต่มองเธอไว้อย่างนั้น ผู้หญิงกลับใช้ขาทั้งสองหนีบเอวของเขาไว้แล้วพูดว่า “ฉันทำถึงขนาดนี้แล้ว นายยังคิดจะหนีอยู่หรอ?ตั้งใจบริการฉันให้ดีๆ ให้ฉันได้รู้หน่อยว่าตรงนั้นของผู้ชายมีดีกว่าผู้หญิงตรงไหน”
หลินหยางแทบจะหัวเราะออกมา คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างล่างจะเป็นเลสเบี้ยน ถึงว่าเมื่อกี้ที่เข้าไปไม่มีอุปสรรคอะไรเลยแต่เธอกลับเจ็บขนาดนี้
หลินหยางครุ่นคิดว่าในชีวิตประจำวันเธอคงจะชินกับการถูไปมา นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกผู้ชายเสียบ ครั้งนี้หลินหยางไม่มีความกังวลอะไรแล้ว รวบรวมเจินชี่แล้วเริ่มขยับ
ผู้หญิงเริ่มจะชินกับสิ่งแปลกปลอมในร่างกายแล้ว ความรู้สึกแสบๆ ร้อนๆ เมื่อกี้ได้หายไปทันที แทนด้วยความรู้สึกที่ชาๆ ชิวซิงเยว่กัดนิ้วไว้ ตอนที่เธอมีอะไรกับแฟนสาวของเธอยังไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย
ชิวซิงเยว่ไม่ได้รังเกียจผู้ชายคนนี้อยู่แล้ว แต่ว่านิสัยของเธอนั้นห้าวๆ ผู้ชายธรรมดาไม่กล้ามาหาเรื่องเธอเลย ผู้หญิงที่เหงาก็จะชอบคิดไปเรื่อย ชิวซิงเยว่เองเลยรู้สึกว่าตัวเองควรหาผู้หญิงมาลองคบดูบ้างไหม
ถึงแม้ว่าจะเคยลองทำกับแฟนสาวของตัวเองหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ตอนนี้แค่หลินหยางค่อยๆ ขยับไม่กี่ทีก็ทำให้เธอได้ริมรสอย่างแท้จริง
ร่างกายเหมือนกำลังลอยอยู่บนอากาศ ขึ้นลงไม่มั่นคง แต่ก็ไม่สามารถต่อต้านความสุขที่มาจากข้างล่าง
“ผู้ชายเฮงซวย คิดไม่ถึงว่านายก็มีประโยชน์เหมือนกันนิ นายทำให้ฉันรู้สึกสบายมากเลย” ชิวซิงเยว่พูดออกมาตามตรง
หลินหยางตั้งหน้าตั้งตาทำงานแล้วพูดว่า “ก็ต้องสบายกว่าของปลอมของคุณอยู่แล้ว เจินชี่บทหลงเฟิ่งเจว๋ของผมยังไม่ครอบคลุมตัวของคุณเลย ไม่อย่างนั้นมีให้คุณได้ลอง”
“ถ้าอย่างนั้นก็มาเลย” ผู้หญิงกัดนิ้วแล้วทำสีหน้าตั้งตารอคอย
ผู้หญิงที่ห้าวนั้นไม่จำเป็นต้องอธิบายด้วยคำพูด หลินหยางได้เพิ่มความเร็วในการขยับเอว มือทั้งสองก็ได้นวดหน้าอกที่นุ่มของเธอไว้อย่างนั้น หน้าอกที่นุ่มในฝ่ามือนั้น
ชีวิตก่อนหน้านี้ใช้มาอย่างไม่มีประโยชน์ซะจริงๆ คิดไม่ถึงว่าผู้ชายจะมีประโยชน์แบบนี้ด้วย ถ้ารู้ก็น่าจะลองตั้งนานแล้ว
ตัวของชิวซิงเยว่อ่อนเหมือนไร้กระดูกแต่กลับรัดหลินหยางไว้แน่น ทำให้พื้นที่ในการขยับของเขาน้อยมาก แต่ว่าในพื้นที่ที่มีจำกัดนี้หลินหยางก็ได้ทุ่มเทแรงทั้งหมดออกมา ร่างกายที่แข็งแกร่งและมีแรงนั้นได้ชนตัวผู้หญิงอย่างมีจังหวะ และมีเสียงเพี้ยะเพี้ยะสะท้อนอยู่ในห้องผู้ป่วยพิเศษ
ผู้หญิงที่อยู่ข้างล่างเริ่มรู้สึกว่าวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่างแล้ว กัดริมฝีปากแล้วก็ตัวสั่นขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่ชิวซิงเยว่รู้สึกถึงการเสร็จ ตัวได้เกร็งอยู่
“แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วหรอ?” หลินหยางพูดเยาะเย้ย
“นาย…..ไม่เลว ฉันชอบมาก” ผู้หญิงกอดตัวของหลินหยางแล้วพูดอย่างหอบ
“หลินหยางหึทีหนึ่งแล้วพูดว่า “ตอนนี้ยังเจ็บอยู่ไหม?”
“ไม่เจ็บตั้งนานแล้ว ความวิเศษของเจินชี่นายนี่มีประโยชน์ไม่น้อยเลย เป็นวิชาโรคจิตจริงๆ ด้วย” ชิวซิงเยว่พูดอย่างดีใจ
“ใครให้คุณเริ่มเล่นก่อนล่ะ วันนี้ผมถือว่าเป็นการเอาคืนโดยป้องกันตัว” หลินหยางพูดมั่ว
ชิวซิงเยว่ทำตาหลี่แล้วพูดว่า “ฉันชอบที่นายเอาคืนแบบนี้ ต่อไปถ้านายเองก็ชอบ พวกเราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับมันได้”
คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้ได้ตามตื๊อเขาแล้ว หลินหยางเกาหัวแล้วพูดว่า “คุณสบายแล้ว แต่ผมยังไม่เสร็จเลย”
ผู้หญิงยื่นมือลงไปจับดู ไอของนั้นก็ยังเสียบอยู่ข้างใน แข็งเหมือนกับเหล็ก เธอพูดอย่างประหลาดใจ “ถึงว่าทำไมนายถึงมีผู้หญิงเยอะขนาดนี้ ที่แท้ต่างหวังไอ้นี่ของนายนี่เอง ยังนิ่งอยู่ทำไมล่ะ ผู้หญิงไม่มีทางพอใจหรอกนะ”
หลินหยางพึ่งรู้ว่าผู้หญิงเป็นสัตว์ที่ไม่มีวันพอจริงๆ เขาก็ได้เริ่มพุ่งชนต่ออย่างไม่ลังเล เตียงที่สั่งทำเป็นพิเศษในห้องผู้ป่วยพิเศษก็ได้ขยับไปมาอย่างกับเรือเลย ในที่สุดหลังจากที่ผู้หญิงล่องลอยไปสามครั้งหลินหยางก็ได้ปล่อยของเหลวออกมาอีกครั้ง
ทั้งสองคนกอดกันไว้แน่น การรวมตัวกันของร่างกายทำให้ทั้งสองคนได้ละทิ้งความไม่พอใจต่อกันก่อนหน้านี้ไปจนหมด
“คุณรีบไปบอกเลิกกับแฟนสาวของคุณเลย ผู้หญิงของผมต้องเป็นของผมเท่านั้น” หลินหยางพูดอย่างเอาแต่ใจ
“นายนี่ใจร้ายจริงๆ คนอื่นเขายังเป็นแค่เด็กม.ปลาย ถ้าพูดให้ถูกฉันเป็นคนไปล่อเธอเอง ตอนนี้ถ้าไปบอกเลิกเธอตอนนี้ สงสัยเธอคงจะเกลียดฉันไปตลอดแน่” ชิวซิงเยว่กลับหัวเราะขึ้นมา
หลินหยางจ้องเธอด้วยสายตาที่ชั่วร้ายแล้วพูดว่า “ทำไม?ยังสบายไม่พอหรอ?”
ผู้หญิงเหนื่อยจนไม่มีแรงแล้ว รีบส่ายหน้าแล้วพูดว่า “พอแล้ว พอแล้ว ข้างล่างเริ่มรู้สึกเจ็บแล้ว นายเองก็ใจร้ายซะจริง ทำให้วิญญาณของฉันแทบจะหลุดออกไปแล้ว”
“ใครเป็นคนบอกว่าให้เร็วอีกหน่อย?แฟนสาวของคุณคนนั้นยังเด็กเกินไป คุณยังไม่ได้พาเธอหลงลึกเกินไป เธอยังสามารถกลับไปเดินในทางที่ปกติได้อยู่”
“ไม่อย่างนั้นนายไปสั่งสอนเธอหน่อย ไปช่วยเด็กสาวที่หลงผิดเถอะ!น้องคนนั้นยังใสๆ อยู่เลย ฉันแค่จับหน้าหน่อยก็หน้าแดงไปหมด ถึงตอนนี้ก็ยังไม่กล้าจูบกับฉันเลย” ชิวซิงเยว่พูดอย่างยั่ว
หลินหยางพูดอย่างจริงจังว่า .คุณคิดว่าผมเป็นเหมือนคุณหรอ ผมไม่มีทางไปคิดร้ายต่อคนอื่น ส่วนมากก็ช่วยผู้หญิงอย่างคุณให้พ้นจากความผิดพลาด”
ชิวซิงเยว่พอใจมาก ผู้ชายตรงหน้าได้นำพาความประสบการณ์ที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน และได้ทำให้ความเป็นผู้หญิงในตัวของเธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
ทั้งสองคนกอดกันไว้นาน สุดท้ายก็จูบแล้วแยกจากกัน ชิวซิงเยว่ไปช่วยเตรียมอาหารค่ำให้กับหลินหยาง แต่ว่าตอนที่กลับไปในห้องผู้ป่วยถึงจะรู้ว่าที่ตัวเองไปเตรียมอาหารค่ำนี่เป็นสิ่งที่เปล่าประโยชน์ เพราะได้มีผู้หญิงที่เซ็กซี่ถือถังแจ็คเก็ตรักษาอุณหภูมิมา
เถียนเสี่ยวเสี่ยวในตอนนี้กำลังป้อนหลินหยางด้วยมือตัวเองอย่างน้ำใสใจจริง เด็กสาวคนนี้ได้ตั้งใจไปฝึกกับแม่บ้านเป็นเวลานาน ในที่สุดก็มีโอกาสใช้งานได้
“พี่ชาย วันนี้ต้องขอบคุณพี่จริงๆ ถ้าไม่ได้พี่หนูกับเสี่ยวสิ่วคงตกใจตายแน่ๆ” เถียนเสี่ยวเสี่ยวพยุงคางแล้วพูด
หลินหยางยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันไปเจอโดยบังเอิญ ยังดีที่เธอไม่เป็นอะไร คนกลุ่มนั้นได้ส่งให้ตำรวจแล้วใช่ไหม?เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ในโรงพยาบาลนี้?”
“หลังจากที่พี่ไปแล้วหนูก็โทรหาพี่สาวคนที่มากับพี่คนนั้น พี่สาวได้ทั้งเบอร์ไว้ให้หนู พี่สาวคนนั้นสวยจริงๆ” เถียนเสี่ยวเสี่ยวยิ้มพูด
“พวกเธอสองคนต่างกันไม่เยอะเลย ต่างก็เป็นแค่เด็กอายุ 18 ปี” หลินหยางหัวเราะแล้วพูด
เถียนเสี่ยวเสี่ยวทำปากจู๋แล้วพูดว่า “พี่สาวเขาเก่งกว่าหนูเยอะเลย สามารถสู้กับคนร้ายเยอะขนาดนั้นกับพี่ได้”
“ใช่แล้ว เขาก็ต้องเก่งอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นจะไปยุ่งเกี่ยวกับสาวสวยมากมายได้ยังไงล่ะ!” ชิวซิงเยว่ยืนโด่อยู่หน้าประตูแล้วพูด
หลินหยางแนะนำอย่างพะอืดพะอมว่า “ท่านนี้เป็นหมอของฉัน ชิวซิงเยว่ เป็นมือหนึ่งของที่นี่”
“ขอบคุณพี่สาวมากเลยนะคะ พี่ชายก็รบกวนพี่สาวด้วยนะ” เถียนเสี่ยวเสี่ยวยิ้มแล้วพูด
เด็กที่น่ารักขนาดนี้ ชิวซิงเยว่เองไม่อยากหึงแล้ว มองบนใส่หลินหยางแล้วพูดว่า “แพทยศาสตร์ยานฟู่ของนายนี่ไม่เบาเลยจริงๆ คนสวย เธออยู่เฝ้าเขาอยู่ตรงนี้ดีๆนะ ข้าวกล่องนี้คงไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ฉันเอาไปเลยละกัน”
หลินหยางรีบพูดขึ้นมาว่า “มีประโยชน์สิ จะให้ผมดื่มแต่นำซุปไม่ได้ ต้องกินข้าวด้วย”
ชิวซิงเยว่ถึงจะออกไปอย่างพอใจ เถียนเสี่ยวเสี่ยวพูดอย่างออดอ้อนว่า “พี่ชาย พี่ทำเรื่องอะไรไม่ดีต่อเธอใช่ไหม?”
“ฉันจะไปทำเรื่องไม่ดีอะไร?” หลินหยางพูดอย่างร้อนตัว
“แล้วทำไมเธอต้องหึงขนาดนี้ด้วย หนูว่าพี่ต้องทำอะไรไม่กับเธอไว้แน่ แล้วเธอก็เลยนึกว่าพี่เปลี่ยนใจสินะ” เถียนเสี่ยวเสี่ยวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
หลินหยางเกาหัวแล้วพูดว่า “เหลวไหล แล้วเพื่อนเธอคนนั้นละ?ได้รับบาดเจ็บไหม?”
ความสามารถในการเปลี่ยนเรื่องของหลินหยางนั้นนับเป็นที่หนึ่ง เด็กสาวได้ลืมข้อสงสัยของตัวเองไปทันที แล้วยิ้มกริ่มพร้อมพูดว่า “เธอไม่เป็นอะไร เธอยังบอกอีกว่าจะมาขอบคุณพี่ด้วย เดี๋ยวก็มาแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องแล้ว ขอแค่ตัวไม่เป็นอะไรก็พอ ต่อไปพวกเธอสองคนต้องระวังหน่อยนะ คนไม่ดีในสังคมนี้เยอะเกินไป ยามเฝ้าซอยนั้นของพวกเธอทีแรกยังใช้ได้ แต่ว่าตอนนี้เริ่มไม่น่าเชื่อถือแล้ว” หลินหยางพูด
เถียนเสี่ยวเสี่ยวทำปากจู๋แล้วพูดว่า “แล้วหนูควรทำยังไง?ไม่อย่างนั้นหนูไปอยู่บ้านพี่เลยเป็นไง?”
“ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องซื้อวิลล่าหลังใหญ่ๆ ไม่อย่างนั้นให้เจ้าหญิงอย่างเธอเข้ามาอยู่จะน่าสงสารเกินไป” หลินหยางพูดพร้อมหัวเราะ
ตอนนี้ก็มีคนมาเคาะประตู ก็มีหัวเล็กได้แหย่เข้ามา เป็นเด็กสาวเสี่ยวสิ่วนี่เอง
เด็กสาวได้เอากระเช้าดอกไม้มาด้วย ยังมาผลไม้ที่เป็นกระเช้าอีก เธอโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะ พี่หลินหยาง”
“ไม่ต้องเกรงใจ เอาของมาเยอะจังเลย” หลินหยางยิ้มแล้วพูด
เสี่ยวสิ่วไปนั่งอยู่ข้างๆ เถียนเสี่ยวเสี่ยว เด็กสาวสองคนที่มัดผมทวินเทลทั้งคู่นั่งเรียงกันแบบนี้สบายตาจริงๆ นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยอารมณ์ก็ดีขึ้นเยอะเลย
“เสี่ยวสิ่ว เธอมีลูกพี่ลูกน้องที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลนี้ไม่ใช่หรอ?การศัลยกรรมของเธอเก่งมากเลย ให้เธอมาช่วยพี่ชายดูหน่อยไหม”
“ไม่ต้องรบกวนหรอก แผลเล็กน้อยเอง อีกอย่างมีมือหนึ่งคนหนึ่งในการทำให้ฉันปวดหัวแล้ว ถ้ายังเรียกอีกคนหนึ่งมาฉันคงไม่เหลือแน่ๆ” หลินหยางพูดล้อเล่น
แต่เสี่ยวสิ่วกลับตอบอย่างจริงจังว่า “ไม่ได้ ลูกพี่ลูกน้องของหนูเป็นหมอที่เก่งที่สุดในโรงพยาบาลนี้ ให้พี่สาวมาดูจะมั่นใจกว่า”
เด็กสาวเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรออก สักพักคนที่เสี่ยวสิ่วพูดว่าเป็นมือหนึ่งก็ได้มา เป็นไปตามที่คาดเลยเป็นชิวซิงเยว่จริงๆ ด้วย หลินหยางและเถียนเสี่ยวเสี่ยวมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาอย่างน่าอาย
“เสี่ยวสิ่ว คนนี้หรอที่เป็นคนที่มีบุญคุณต่อเธอ?” ชิวซิงเยว่พูดทำนองว่าแกล้ง