ส้งซูยี่ร้องไห้หนักมาก วิ่งออกไปข้างนอก หลินหยางรีบตามขึ้นไปทันที
สาวน้อยขึ้นลิฟต์ลงไปข้างล่าง หลินหยางก็วิ่งไปตรงทางออกอย่างเร็ว วิ่งด้วยกระโดดลงไปด้วยไล่ตามจนถึง ยังดีที่สาวน้อยนั้นใส่ชุดนอนทั้งชุด ที่เท้ายังใส่รองเท้าหมีไว้ก็เลยวิ่งได้ไม่เร็ว เดินถึงหน้าประตูก็ถูกหลินหยางจับไว้ เธอบิดตัวไปมาพูดทั้งร้องไห้ว่า “นายมันคนหลอกลวง หลอกฉัน ฉันไม่ชอบนายอีกแล้ว”
เห็นผู้หญิงสวยขนาดนี้พูดแบบนี้แต่เช้า คนที่เดินผ่านต่างใช้สายตาที่รังเกียจในการมองหลินหยาง
เขาเองก็ไม่สนอะไรแล้ว อุ้มผู้หญิงขึ้นมาแล้วแบกไว้ตรงไหล่ แล้วยัดเข้าไปในรถแลนด์โรเวอร์
คาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอแล้วหลินหยางถึงจะนั่งขึ้นไปในรถ
ทั้งสองคนไม่พูดอะไรกันเป็นเวลานาน สาวน้อยเอาแต่ปาดน้ำตา หลินหยางไม่รู้ว่าควรอธิบายยังไง
“ตาบวมหมดแล้ว” หลินหยางพูดอย่างเป็นห่วง
“ในเมื่อนายไม่ชอบฉัน จะมาห่วงกับฉันทำไม” ซูยี่พูดอย่างหงุดหงิด
หลินหยางพูดอย่างเสียงอ่อน “ฉันต้องห่วงเธอสิ ถ้าไม่ห่วงแม่เธอก็จะขายเธอให้ฉันแล้ว”
“ทำไมนายไม่ตกลงล่ะ?” ส้งซูยี่จ้องเขาแล้วพูด
แม่ลูกทั้งสองนี้เหมือนกันจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่โกรธยิ่งเหมือน หลินหยางพูดอย่างพะอืดพะอมว่า “สถานการณ์แบบนั้นฉันตกลงไม่ได้”
“อะไรคือสถานการณ์แบบนั้น?แม่ของฉันไม่ได้เอ่ยข้อเสนออะไรเลย” ส้งซูยี่พูด
หลินหยางลังเลสักพักแต่ก็อธิบายว่า ไม่เอ่ยข้อเสนอนั่นแหละน่ากลัวที่สุด ความคิดก่อนหน้านี้ของแม่เธอไม่ถูกอย่างมาก เธอเอาเรื่องอนาคตของเธอมาเป็นชิปในการต่อรอง นี่เป็นเรื่องที่ไม่สมควรที่สุด เธอมีชีวิตของเธอ อนาคตของเธอไม่ใช่ชิปบนโต๊ะพนันของเธอ และยิ่งไม่ควรเอาอันนี้มาขู่ฉัน บังคับให้ฉันตกลง เธอยังเด็ก รอรักษาเธอให้ดีขึ้นแล้วหลังจากโตมาแล้วถ้าเธอไม่ชอบฉันแล้ว แต่กลับต้องแต่งงานกับฉันนั้นมันไม่ยุติธรรมต่อเธอเลย”
“ฉันจะชอบนายไปตลอดแน่นอน” ซูยี่พูดแก้
“ฉันก็เชื่อ แต่ว่าเธอต้องรู้ อนาคตเป็นอนาคตเพราะเรื่องมันยังไม่เกิด เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ทุกอย่าง เธอลองคิดดูนะ ถ้าถึงตอนนั้นแล้วฉันไม่ได้เป็นแบบที่เธอชอบแล้ว หรืออาจจะทำให้เธอโกรธ เธอยังต้องแต่งงานกับฉัน อนาคตของเธอก็จะทุกข์มากใช่ไหม?เพราะฉะนั้นที่ฉันปฏิเสธไม่ใช่ข้อเสนอของแม่ของเธอ แต่เป็นทัศนคติของเธอ สิ่งที่มีค่าที่สุดของคนคืออิสระ ตอนนั้นที่เธอหนีออกจากบ้านก็เพราะอิสระถูกเธอปิดกั้น ถ้าเธอพนันด้วยอิสระของเธออีกครั้ง ฉันไม่มีทางตกลง” หลินหยางพูดอย่างใจเย็น
ส้งซูยี่ถึงจะยอมหันมามองหลินหยางอย่างตั้งใจแล้วพูดว่า “ที่นายพูดเป็นความจริง?ห้ามโกหกฉันอีกนะ”
“ฉันไม่มีทางโกหกเธอ เธอลองคิดที่แม่เธอพูดดูสิ” หลินหยางยิ้มแล้วพูด
คิดไม่ถึงว่าสาวน้อยคนนี้จะสามารถเข้าใจทุกอย่างที่ตัวเองพูดได้ ดูเหมือนสติปัญญาของเธอเริ่มฟื้นฟูแล้ว การรักษาเป็นไปด้วยดี
ส้งซูยี่ก้มหัวไว้แล้วพูดว่า “จะโทษแม่ฉันทั้งหมดก็ไม่ได้ ช่วงนี้แรงกดดันเธอเยอะมาก ได้พูดเรื่องในบ้านกับฉันมากมาย แม่จะรู้สึกอึดอัดฉันเข้าใจ แม่เองก็หวังดีต่อฉัน นายอย่าเอาความผิดทุกอย่างโยนไปให้เธอแบบนี้”
หลินหยางกะพริบตา ผู้หญิงคนนี้เป็นปิศาจจริงๆ ด้วย ถึงได้มองทุกอย่างออกชัดเจนขนาดนี้ เขารีบถามว่า “ที่บ้านเธอเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“บ้านของฉันเป็นตระกูลที่ใหญ่ ข้างในมีคนดีก็ต้องมีคนไม่ดี พวกคนที่ไม่ดีไม่อยากให้แม่ของฉันยุ่งกับพวกเขา” ผู้หญิงเบะปากแล้วพูด
ตระกูลใหญ่ๆ นี่มีความทุกข์ของตัวเองจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าส้งเจียวกำลังเผชิญหน้ากับแรงกดดันอะไร ถึงได้เอาการรักษาลูกสาวมาเป็นข้ออ้างในการหนีมาเจียงหลิง
“เอาล่ะ นั้นเป็นเรื่องของแม่เธอ วันนี้พวกเราไม่คิดเรื่องพวกนี้แล้ว พาเธอรับลมดีกว่า” หลินหยางพูด
“ดีสิ จริงด้วย เพื่อที่ไปดูครั้งก่อนล่ะ?เรียกไปด้วยกันสิ” ส้งซูยี่พูดอย่างใหญ่โต
พูดถึงเถียนเสี่ยวเสี่ยว หลินหยางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเด็กผู้หญิงเสี่ยวสิ่วที่ใสๆ เด็กสาวคนนั้นแทบจะถูกชิวซิงเยว่พาผิดทางแล้ว ยังดีที่วันนั้นชิวซิงเยว่ได้พูดกับเธอแล้ว เธอคงจะไม่มีทางเดินทางผิดแล้ว
“ได้สิ งั้นพาเธอไปหาเธอเลย” หลินหยางดีดนิ้วแล้วพูด
รถแลนด์โรเวอร์มาถึงหน้าชุมชนจื่อตงอีกครั้ง ครั้งนี้ยามไม่ได้ห้ามเขาแล้ว ครั้งก่อนที่จ้าวชิวเยว่ให้พวกเขาดูใบรับรองของสำนักรักษาความปลอดภัยสงสัยทำให้พวกเขาตกใจใหญ่
เข้าไปในบ้าน เถียนเสี่ยวเสี่ยวเห็นว่าเป็นหลินหยางก็ตื่นเต้นมาก กอดเขาไว้แล้วพูดว่า “พี่ชายมาแล้วหรอ?เด็กติดคนก็มาด้วย”
“ฉันไม่ใช่เด็กติดคน ฉันมีชื่อ ฉันชื่อว่าส้งซูยี่” สาวน้อยเบะปากแล้วพูด
ขยี้หัวของเธอแล้วหลินหยางพูดว่า “เอาล่ะ วันนี้เธอไม่ค่อยมีความสุข ฉันเลยพามาหาเพื่อนใหม่ของเธอ”
“ยังมีเพื่อนอีกคนหนึ่งนะ” เถียนเสี่ยวเสี่ยวพูด
“เสี่ยวสิ่วหรอ?เธอก็อยู่หรอ?” หลินหยางถาม
เงาที่ใสซื่อนั้นเดินออกมาพอเห็นหลินหยางก็รีบหันเข้าไปในห้องนอนทันที
“ดูเหมือนยังโกรธอยู่เลย พวกเราไปสั่งสอนหน่อยเถอะ” หลินหยางยิ้มแล้วพูด
เถียนเสี่ยวเสี่ยวจับมือของเขาแล้วพูดว่า “หนูก็อยาก แต่ว่าหนูจะรู้ได้ยังไงว่ามันจะมีความชอบแบบนั้น แต่ว่าเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของหนู หนูไม่อยากเห็นมันซึมแบบนี้ต่อไป”
“ความชอบอะไร?” ส้งซูยี่ถามอย่างสงสัย
“อันนี้อธิบายยาก พูดง่ายๆ ก็คือผู้หญิงต้องแต่งงานกับผู้ชาย แต่ว่าเพื่อนของเถียนเสี่ยวเสี่ยวจะแต่งงานกับผู้หญิงอย่างเดียว” หลินหยางพูดอย่างง่ายดาย
ส้งซูยี่อ้อทีหนึ่งแล้วพูดว่า “เลสเบี้ยนหรอ ฉันก็รู้ ถูกคนอื่นหลอกแน่นอน สัตว์ร้ายตัวใหญ่ฉันส่งนายไปช่วยเหลือเธอละกัน”
หลินหยางแทบจะหัวเราะจนหายใจไม่ออก สาวน้อยคนนี้เข้าใจทุกอย่าง สติปัญญาที่เพิ่มขึ้นนี้เกินความคาดหมายของเขาจริงๆ
แต่จะว่าไป ปัญหาของเสี่ยวสิ่วเขาก็มีส่วน เขาต้องรับผิดชอบด้วย
“เสี่ยวเสี่ยว ซูยี่ปล่อยให้เธอดูแลนะ ฉันจะไปกอบกู้สาวน้อยที่หลงผิดแล้ว” หลินหยางยิ้มแล้วพูด
เคาะประตู เสี่ยวสิ่วตะโกนจากข้างในว่า “ข้างในไม่มีคน อย่าเคาะแล้ว”
ดูเหมือนจะโกรธไม่น้อย หลินหยางไม่สนแล้ว เอาลวดออกมาทำตามวิธีที่จ้าวชิวเยว่สอนเขาเปิดประตูได้จริงๆ ด้วย
“นาย….นายเข้ามาได้ยังไง ฉันล็อกประตูแล้วแท้ๆ” เสี่ยวสิ่วพูดอย่างประหลาดใจ
หลินหยางส่งสัญญาณให้เธอใจเย็น ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ใช่คนร้ายอะไรซะหน่อย ฉันอยากลองคุยกับเธอ”
สาวน้อยเบะปากแล้วมองเขาไว้ ยักคิ้วแล้วถามว่า “นายอยากพูดคุยอะไร?นายเสกเวทมนตร์อะไรใส่พี่ของฉัน ถึงทำให้เธอเริ่มชอบผู้ชายแล้ว”
หลินหยางไอเบาๆ ทีหนึ่งแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ ฉันจะค่อยๆ บอกเธอ ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษเธอก่อน เพราะเรื่องความรู้สึกนี้ไม่ใช่เรื่องที่ฉันควบคุมได้ หมอชิวเธอเองก็พิเศษ ทำอะไรก็ชอบตรงไปตรงมา เพราะฉะนั้นอาจจะทำให้เธอได้รับบาดเจ็บในใจ”
“ฉันไม่ต้องการขอโทษ เอาพี่คืนฉันมาก็พอ” สาวน้อยนั่งกอดเข่าแล้วพูดอย่างเย็นชา
สาวน้อยปล่อยผมยาวคลุมไหล่ อากาศหนาวขนาดนี้ยังใส่แค่กระโปรงพรีทสายเดี่ยว ขาที่ขาวๆ โผล่อยู่ข้างนอกหลินหยางเห็นแล้วรู้สึกคันๆ ในใจ
“เธอไม่หนาวหรอ?” หลินหยางถามอย่างเป็นห่วง
“ในใจฉันหนาวกว่า” สาวน้อยตอบอย่างมีศิลปะ
คิดไปสักพัก หลินหยางก็หัวเราะฮ่าฮ่าออกมา “ถ้าอย่างนั้นฉันมาตอบคำถามก่อนหน้านี้ของเธอละกัน ถ้าพูดในทางแพทยศาสตร์แล้ว รสนิยมทางแพทย์ไม่ใช่สิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อีกอย่าง ฉันจะอธิบายหน่อยว่าที่หมอชิวเป็นแบบนี้เพราะว่าสภาพครอบครัวทำให้เธอกดดันเกินไป ก็เลยอยากจะลองอะไรที่ไม่เหมือนกัน เธอที่เป็นเด็กก็เลยตกเป็นเหยื่อของเธอ พูดแบบนี้เธออย่าโกรธนะ ถ้าจะบอกว่าฉันเสกเวทมนตร์อะไร งั้นฉันต้องยอมรับจริงๆ ว่าฉันได้เสกเวทมนตร์ให้เธอหลงรักฉัน”
เสี่ยวสิ่วจ้องหลินหยางแล้วถามอย่างโกรธว่า “ฉันรู้อยู่แล้ว นายมันคนไม่ดีที่ใช้วิธีชั่วๆ นายขมขื่นเธอใช่ไหม”
“กลับกันเลย ฉันถูกเธอข่มขืนต่างหาก” หลินหยางพูดมั่ว
เสี่ยวสิ่วถามอย่างไม่เชื่อว่า “เป็นไปได้ยังไง เธอไม่ชอบผู้ชายนะ”
“แล้วเธอเคยบอกเธอไหม?เธอไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อน ฉันเสียบเข็มใส่เธอไปหลายเข็ม จากนั้นก็ใช้วิธีการนวดทำให้ร่างกายของเธอรู้สึกถึงรสชาติที่ถูกผู้ชายรัก เธอก็เลยกลับมาใช้ชีวิตผู้หญิงตามปกติ” หลินหยางอธิบาย
“ฉันไม่เชื่อ นายต้องใช้วิธีแข็งอะไรแน่นอน นายสามารถฆ่าคนเยอะขนาดนั้นในทีเดียวได้ นายต้องขู่เธอแน่ๆ” สาวน้อยก็ยังไม่ยอมเชื่อ
หลินหยางถอนหายใจแล้วพูดว่า “เอาแบบนี้ พวกเรามาลองดู ถ้าเธอได้ลองความรู้สึกของเธอแล้วฉันเชื่อว่าเธอต้องเข้าใจ”
“ลองอะไร?นายจะข่มขืนฉัน?” สาวน้อยหดตัวแล้วพูด
“ฉันยังไม่เลวถึงขั้นทำลายดอกไม้เล็กๆ แบบนั้น ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ใช่คนร้าย ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่มีทางฝ่าอันตรายไปช่วยพวกเธอหรก”
เสี่ยวสิ่วคิดสักพักแล้วพูดว่า “ก็ได้ ฉันจะลองดูว่านายจะเปลี่ยนความคิดฉันยังไง”
หลินหยางเอาเข็มเงินออกมาหลายเล่ม ให้เสี่ยวสิ่วนอนราบดีๆ ไม่ต้องถอดเสื้อผ้าเลย เสียบเข้าที่เส้นลมปราณโดยตรง ปล่อยเจินชี่ของบทหลงเฟิ่งเจว๋เข้าไปด้วย นี่เป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะทำให้เสี่ยวสิ่วรู้สึกได้ถึงความพิเศษของบทหลงเฟิ่งเจว๋
เสี่ยวสิ่วนอนอยู่บนเตียงอย่างนิ่งๆ ตอนที่เข็มเล็กๆ พวกนั้นเสียบเข้าไปในตัว เธอก็มีปฏิกิริยาขึ้นทันที ไอร้อนๆนี่มันเข้ามาได้ยังไง เส้นประสาทในตัวเริ่มเกร็งขึ้นมา หัวใจก็เริ่มเต้นเร็วขึ้น
เสี่ยวสิ่วรู้สึกไม่สบายใจ เธอไม่รู้ว่าทำไมวิธีที่ง่ายๆ แบบนี้ถึงมีผลวิเศษแบบนี้ ร่างกายไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย โดยเฉพาะร่องข้างล่าง ถ้าจะบอกว่าเธอเคยทดลองมีอะไรกับพี่สาวคนนั้น ถ้าอย่างนั้นความรู้สึกตรงหน้าจะรุนแรงกว่านั้นเป็นสิบเท่าร้อยเท่า
ร่างกายเหมือนตกลงไปในน้ำที่กำลังเดือด ร้อนๆ ได้เผาบริเวณจุดที่น่าอาย จากนั้นก็ค่อยๆ มีของเหลวไหลออกมา สาวน้อยเริ่มครางออกเสียง
“ไอ้บ้า รู้สึกอึดอัดมากเลย” สาวน้อยพูดประท้วง
หลินหยางเห็นว่าเห็นผลแล้ว มือทั้งสองรีบท่องบทหลงเฟิ่งเจว๋แล้วนวดแถวขมับของเธอ ทำให้ประสาทของเธอได้รับการผ่อนคลาย
“เป็นยังไง รู้สึกถึงความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันรึยัง?” หลินหยางถาม
กัดริมฝีปาก ถึงจะอยากโกหก แต่ว่าความรู้สึกที่แท้จริงนั้นทำให้เธอปฏิเสธไม่ได้ พยักหน้าเล็กน้อย เสี่ยวสิ่วพูดพึมพำว่า “นายใช้วิธีแบบนี้ในการทำให้พี่สาวเสียแรงต่อต้านใช่ไหม?”
ฉันแค่ให้เธอได้ลองความรู้สึกที่วิเศษนี้เท่านั้น ไม่ใช่ของปลอมอะไรทั้งนั้น เข้าใจรึยัง?” หลินหยางยิ้มแล้วพูด
สาวน้อยเศร้าเล็กน้อย แต่ว่าความรู้สึกของร่างกายสบายเกินไปแล้ว เธอแทบจะหลงใหลอยู่ในนั้นแล้ว สายตาที่เริ่มเบลอของเสี่ยวสิ่วมองไปที่หลินหยาง มือเล็กๆ นั้นได้จับโดนข้างล่างที่แข็งตัวของโดยไม่ได้ตั้งใจ