ไอ้หมอหลูยี่ก็เหมือนกับเป็นหมาบ้าตัวหนึ่ง ที่ปล่อยให้ลูกน้องกัดคนไปทั่ว และวันนี้เขาก็ได้ทำร้ายฉีเยนเอ๋อร์ ซึ่งในตอนนี้ส้งเจียวก็มีแนวโน้มที่จะตกอยู่ในอันตรายอีกด้วย!
เพราะว่า เดิมทีหลูยี่เป็นผู้ช่วยของส้งเจียว แต่เป็นเพราะเขาหลินหยางพวกเขาจึงแตกคอกัน และเป้าหมายที่จะลงมือต่อไปของหลูยี่ มีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นส้งเจียว
เมื่อนึกถึงจุดนี้ หลินหยางก็ปีนขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เอ๊ะ! คุณจะไปไหน?” ฉีเยนเอ๋อร์และซินเสี่ยวลื่ออุทานพร้อมกัน และพวกเธอก็ทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้หลินหยางออกไป
“นอนอย่างเชื่อฟัง และอยู่รอผมกลับมาอยู่กับพวกคุณนะ” หลังจากแยกจูบผู้หญิงทั้งสองแล้วหลินหยางก็กำลังจะออกไป
“ตาบ้าคนนี้ จะต้องไปทำร้ายผู้หญิงคนอื่นอีกแน่เลย” ฉีเยนเอ๋อร์พูดอย่างไม่พอใจอย่างมาก
“ฮ่าฮ่า หรือว่าเธอยึดครองเขาไม่สำเร็จ?” เธออดทนรอได้เหรอ?” ซินเสี่ยวลื่อหยอกล้อฉีเยนเอ๋อร์อย่างคลุมเครือ และรู้สึกถึงอารมณ์หึงหวงที่รุนแรงของฉีเยนเอ๋อร์
“ได้เลย ยัยบ้า กล้าหยอกล้อกับฉันเหรอ รอให้ไอ้สัตว์ตัวนั้นกลับมาก่อน ฉันจะบอกเขาให้รักษาเธอดีๆ!”
ทั้งสองหยอกล้อกันอยู่บนเตียง ส่วนหลินหยางก็อับอายจนเหงื่อตก แต่เขากลับไม่ได้สนใจไปหยอกล้อกับพวกเธอ จากนั้นก็รีบออกไปทันที และตรงไปยังที่อยู่ของส้งเจียว
เขาขับรถฮัมเมอร์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ และพุ่งตรงไปยังโรงแรมที่ส้งเจียวพักชั่วคราวด้วยความเร็วสูงสุด
“ส้งเจียวพักอยู่ห้องไหนครับ?” หลินหยางเดินไปถามพนักงานต้อนรับหญิงที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
“ขอโทษด้วยนะคะคุณผู้ชาย เราไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของแขกตามใจได้ค่ะ” พนักงานที่ใบหน้าเต็มไปด้วยสิวทำหน้าตึงแล้วตอบไปอย่างนั้น
หลินหยางพูดว่า “ฮ่าฮ่า น้องครับ ช่วงนี้ที่น้องทำเรื่องพวกนั้น ข้างล่างมักจะรู้สึกเจ็บมากใช่ไหม?”
“เอ๊ะ คุณรู้ได้ยังไง? ไอ้พวกกุ๊ย” คุณถามฉันไปทำไม? พนักงานประหลาดใจมาก ตัวเองก็ไม่ได้รู้จักไอ้หมอนี่ด้วย ทำไมแค่เห็นไปแวบเดียวถึงดูออกถึงปัญหาความหนักใจที่ตัวเองกำลังเจออยู่นะ?
“เพราะว่าคุณอดหลับอดนอนเป็นเวลานาน จึงทำให้รอบเดือนมาไม่ปกติ และที่ตรงนั้นจึงเกิดอาการปวดเมื่อยตามเส้นประสาท ดังนั้นเมื่อถูกกระตุ้น จึงเจ็บปวดเกินกว่าจะทำต่อไปได้” หลินหยางพูดถึงสาเหตุของอาการเจ็บปวดของพนักงานหญิงคนนั้นเป็น ที่จริงแล้วเขามองพนักงานหญิงคนนี้ไปแค่แวบเดียวเท่านั้นก็รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสภาพร่างกายของเธอไปเกือบหมดแล้ว
“แล้วควรทำยังไงล่ะ? ฉันไปรักษาที่โรงพยาบาลมาหลายแห่งแล้ว แต่ก็ยังรักษาไม่หายเลย!”
“ตอนนี้ผมสามารถช่วยคุณได้นะ แต่คุณต้องบอกหมายเลขห้องของประธานส้งให้ผม เป็นยังไงล่ะ?”
“ได้!” สุดท้ายพนักงานหญิงก็เลือกยอมประนีประนอม
“ยื่นมือออกมา”
เมื่อพนักงานหญิงยื่นมือออกไปที่เคาน์เตอร์ จากนั้นหลินหยางก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แล้ววางเข็มลงบนจุดฝังเข็มที่แขนของเธอ ในขณะเดียวกันที่หมุน ก็ใส่เจินชี่เข้าไปด้วย และรักษาเลือดลมในร่างกายของเธอ
ตอนแรกพนักงานหญิงยังคงครึ่งเชื่อครึ่งสงสัย แต่ไม่นานก็รู้สึกเจ็บมาจากส่วนที่ถูกปิดบังอยู่ และมันก็มีความรู้สึกที่อุ่นๆออกมาด้วย ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกสบายตัวมาก กระทั่งการเต้นของหัวใจก็เพิ่มเร็วขึ้น
“ได้แล้ว ต่อไปนี้ก็นอนดึกน้อยๆหน่อย พร้อมกับเพิ่มการบำรุงร่างกายให้มากขึ้น มันก็ไม่มีอันตรายอะไรล่ะ”
ขั้นตอนการรักษาทั้งหมดนั้นมันเรียบง่ายมาก และมันก็ใช้เวลาไปไม่ถึง 30 วินาทีด้วยซ้ำ จากนั้นหลินหยางจึงเก็บเข็มกลับมา
“งั้น ฉันก็สามารถทำอย่างนั้นได้แล้ว?” พนักงานพูดอย่างหน้าแดง
“ฮ่าฮ่า! ผมว่าตอนนี้คุณคงอยากทำแล้วใช่ไหม? ทำไมไม่โทรหาแฟนคุณ และกลับไปลองกับเขาที่บ้านล่ะ เชื่อว่าพวกคุณทั้งคู่จะต้องทั้งตื่นตกใจและดีใจแน่” หลินหยางพยักหน้า ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้ก็หิวกระหายจนทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
“ขอบคุณนะคะ พี่! ฉันจะขอเลิกงานก่อน! เอ่อใช่แล้ว ส้งเจียวอยู่ที่ห้องเพรสซิเดนสูทชั้นบนสุดนะคะ” พนักงานดีใจอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง แต่ก็ไม่ลืมที่จะตอบแทนหลินหยาง
หลินหยางก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขาขึ้นลิฟต์ไป และรีบไปที่ห้องเพรสซิเดนสูทชั้นบนสุด
หลินหยางแนบหูไว้ที่ประตู พร้อมกับกดกริ่งที่ประตู ทันใดนั้นหลินหยางก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่วุ่นวายจากด้านใน เขาตะลึงไปทันที หลังจากที่เกิดเรื่องกับส้งเจียว เขาก็พุ่งชนไปที่ประตูโดยไม่ทันได้คิดอะไรมาก
“คุณเข้ามาทำอะไร!?”
เสื้อผ้าของส้งเจียวดูยุ่งหยิง เธอยืนด้วยสีหน้าตื่นตระหนก สายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องไปที่หลินหยาง ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่พอใจอย่างมากกับการบุกเข้ามาของหลินหยาง
“ฉัน…เอ๊ะ เสียงแปลกอะไรน่ะ?”
หึ่งๆ…
หลินหยางยังไม่ทันได้พูดอะไร ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ดูเหมือนว่ามีบางสิ่งกำลังสั่นอยู่ และเสียงนั้นก็ดังมาจากร่างกายของส้งเจียว
“ไม่ ไม่มีอะไร คุณออกไปก่อน!”
ส้งเจียวยิ่งรู้สึกสับสนวุ่นวายมากขึ้น ใบหน้าแดงก่ำเหมือนกับกำลังโดนอบยังไงอย่างงั้น เธอไล่หลินหยางไปด้วย พร้อมกับวิ่งไปที่ห้องด้วยท่าทางแปลกๆ
โครม!
ดิลโด้ที่ดูเหมือนองคชาตก็ตกลงพื้นจากระหว่างขาทั้งสองของส้งเจียว และมันก็ยังคงสั่นขยุกขยิกอยู่
หลินหยางตะลึง แต่เขาก็เข้าใจ แล้วเรื่องแบบนี้ของส้งเจียวคนนี้มันก็ไม่ได้ผิดอะไร ยังมีกะจิตกะใจช่วยตัวเองอยู่อีกเหรอ ดูเหมือนว่าตัวเองจะบุกเข้ามา จนทำให้เสียเวลาสนุกของส้งเจียวซะแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะประหม่าและโกรธมากขนาดนี้
ส้งเจียวที่อยู่ต่อหน้าทุกคนจะเป็นภาพลักษณ์ที่เยือกเย็นและสูงส่งเสมอ แต่ในขณะนี้กลับถูกหลินหยางเห็นว่าตัวเองกำลังทำเรื่องพวกนั้น เธอจึงรู้สึกอับอายขายหน้าจนเท้าทั้งสองข้างอ่อนแรง และล้มลงบนโซฟา
“พี่เจียว นี่มันเป็นแค่ความต้องการทางสรีรวิทยาที่ปกติเท่านั้นเอง มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย”
หลินหยางเดินไปอย่างสงบ ปิดเครื่องดิลโด้ไป แล้วโยนทิ้งไปอีกฝั่ง พร้อมกับนั่งลงข้างกายส้งเจียว
“พี่เจียว ทำไมพี่ไม่หาแฟนสักคนล่ะ การแก้ปัญหาด้วยตัวเอง มันขัดธรรมชาติตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเลยนะ และมันก็ไม่ดีต่อสุขภาพตัวเองด้วย”
หลินหยางพูดโดยไม่มีการหยอกล้อ เหมือนมันออกมาจากมุมมองของแพทย์อย่างสิ้นเชิง
ส้งเจียวเป็นผู้หญิงที่สามารถควบคุมสติได้ดี ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สงบลงอย่างรวดเร็ว เหมือนกับว่าเธอจะโดนคำพูดของหลินหยางจี้ใจ “เฮ้อ ฉันคนนี้ดีเกินไป คนที่ชอบฉัน ฉันกลับไม่ชอบ
คนที่ฉันชอบ ก็แก่กว่าฉันอีก”
หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่เจียวมีทั้งความสามารถทั้งสวย อยากเป็นทาสชายของพี่ แค่เกรงว่าคงจะต้องเข้าแถวจากหัวเมืองไปจนท้ายเมืองกันเลยทีเดียว!”
ดวงตาส้งเจียวเป็นประกาย เธอกัดฟัน และจับจ้องมองไปที่หลินหยางพร้อมกับพูดขึ้นว่า “น้องพูดว่าพี่ดีขนาดนี้ แล้วน้องต้องการพี่ไหมล่ะ?”
“อะไรนะ?” หลินหยางตะลึงงัน ซึ่งเดิมทีเขาแค่อยากปลอบใจส้งเจียวเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าส้งเจียวจะชักนำตัวเองอย่างสุดฤทธิ์ขนาดนี้
“ฮึ่ม! คงพูดไม่ออกล่ะสิ พี่รู้อยู่แล้วว่า น้องแค่หลอกให้พี่ดีใจเท่านั้น” ส้งเจียวฝืนยิ้มอย่างหดหู่
“แค่พี่มีความต้องการ ผมก็สามารถตอบสนองพี่ได้”
หลินหยางไม่ใช่เจ้าแห่งความเขินอาย ซึ่งในความเห็นของเขา การที่หญิงสาวและชายหนุ่มจู๋จี๋กัน มันเป็นหลักการของฟ้าดินที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่แล้ว มันเป็นความต้องการปกติของมนุษย์ หากคุณทนทำไม่ได้เพราะข้อห้ามบางอย่าง นั่นถึงจะเป็นเรื่องที่สามารถทนได้
หลังจากพูดไปอย่างนั้น หลินหยางก็เปิดแขนของตัวเอง จากนั้นส้งเจียวก็รู้สึกเพียงว่าเหมือนตัวเองกระทำลงไปโดยไม่รู้ตัว ร่างกายก็กะเผลกเข้าไปในอ้อมแขนของหลินหยางอย่างไม่ได้ตั้งใจ
หลินหยางยิ้มอย่างเงียบๆ โดยรู้ว่าส้งเจียวมีอารมณ์แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่เสียเวลาอีกต่อไป เขาใช้ฝ่ามือลูบเบาๆที่หลังของส้งเจียว
ส้งเจียวรู้สึกคันและอบอุ่น ไปทั่วทั้งร่างกาย ในชั่วครู่นั้น จิตใจของเธอก็สับสนวุ่นวาย จากนั้นก็เริ่มส่งริมฝีปากตัวเองไปที่ปากของหลินหยาง
ส้งเจียวพูดกระซิบไปว่า “หลินหยาง ช่วยฉันด้วย ฉันอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเกินไปแล้ว ฉันอยากโดนผู้ชายกระทำสักครั้ง!”
“คืนนี้ผมจะบริการพี่เอง พี่อยากอยู่ตรงนี้หรือเข้าไปในห้องล่ะ?” หลินหยางถามอย่างเอกอกเอาใจ
“ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น แค่น้องสามารถทำให้พี่พอใจก็พอแล้ว”
ภายใต้การลูบไล้ของหลินหยาง เธอก็เสียสติไปแล้ว เธอฉีกกางเกงของหลินหยางตามอำเภอใจ
หลินหยางเองก็ให้ความร่วมมืออย่างมีความสุข และตัดสินใจทำให้ส้งเจียวอิ่มหนำบนโซฟาที่กว้างขวาง พร้อมกับแสงจันทร์ที่สว่างไสวข้างนอกนี้
แต่ ณ ขณะนั้น!
หลินหยางตกตะลึง และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง!
“ฮึ!”
ในขณะนั้นเอง ส้งเจียวก็ได้ถอดกางเกงของเขาลง พร้อมกับมุดหน้าเข้าไปในระหว่างทั้งสองข้างของเขา
“ฮึ!”
หลินหยางส่งเสียงฮึดฮัด ซึ่งมันแยกไม่ออกว่าตกลงเขากำลังรู้สึกดีหรือประหม่า เขารีบดึงเข็มสีเงินออกมา จากนั้นก็พลิกฝ่ามือพร้อมกับยิงไปที่อาคารซึ่งอยู่นอกหน้าต่างฝั่งตรงข้าม!
เข็มเงินนั้นเต็มไปด้วยเจินชี่ แม้จะส่งออกไปอย่างฉุกละหุก แต่ความแข็งแกร่งและความแม่นยำกลับเป็นอะไรที่ต้องตกตะลึง!
อึ้ก!
เข็มไม่ได้หายไปในค่ำคืนที่มืดมิด แต่กลับร่วงลงบนดาดฟ้าของอาคารหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากห้องที่หลินหยางอยู่ 50 เมตร โดยที่มันไปกระแทกกับเงาร่างร่างหนึ่ง
จัดการไปโดยที่คนคนนั้นยังไม่ทันได้เปิดเผยหน้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการลงมือลอบสังหารส้งเจียวกับตัวซวยอย่างตัวเอง ซึ่งหลินหยางเองไม่ได้เปิดเผยใดๆ
“เราไปที่ห้องกันเถอะ”
เพื่อความปลอดภัย หลินหยางอุ้มส้งเจียวขึ้นมา พร้อมกับย้ายไปที่ห้อง
“เร็วเข้า หลินหยาง ให้ฉัน!”
หลินหยางพูดให้สัญญาณ โดยให้ส้งเจียวนั่งบนร่างกายของตัวเขา จากนั้นเสียงหอบหนักและรวดเร็วก็ดังก้องในห้อง
หลังจากผ่านไปชั่วโมงกว่า ส้งเจียวก็อ่อนแรงจนเหมือนดินเลนที่เฉอะแฉะ หลังจากที่หลินหยางช่วยเธอและตัวเองทำความสะอาดเสร็จ พวกเขาก็สวมเสื้อผ้า
“หลินหยาง เรื่องของคืนนี้ คุณไม่ได้รับอนุญาตให้พูดออกไปนะ”
ก่อนออกจากห้อง ส้งเจียวก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาทันที
“ไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าจากนี้ไปพี่เจียวยังต้องการผม สามารถมาหาผมได้นะ เพราะมันเป็นภาระหน้าที่ซึ่งผมปฏิเสธไม่ได้” หลินหยางยิ้มเล็กน้อย ซึ่งเขาก็รู้ว่าส้งเจียวเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง และไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่าเธอกินหญ้าอ่อนอย่างหลินหยาง
“คุณไปกันเถอะ ถ้าว่างฉันจะไปเยี่ยมหาลูกสาว” ส้งเจียวมองไปยังภาพด้านหลังของหลินหยาง ในดวงตาเธอเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ยังไม่แสดงมันออกมา
แต่หลินหยางกลับพูดอย่างเข้าใจ “ได้ครับ คุณก็พักผ่อนดีๆล่ะ ผมยังมีเรื่องที่ต้องทำ”
หลังจากพูดจบ หลินหยางก็ช่วยส้งเจียวปิดประตู จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
“ไอ้หมอนี่ ก็เก่งกาจจริงๆ ฉันไม่ได้โดนกระทำแบบนี้มาหลายปีแล้ว เฮ้อ น่าเสียดาย ฉันกับเขาเป็นได้แค่สามีภรรยาชั่วคราวเท่านั้น” ส้งเจียวส่งเสียงด่าว่าอย่างหดหู่ ความรู้สึกอ่อนเพลียจากศึกใหญ่ของเมื่อครู่นั้นค่อยๆเข้ามา จนทำให้เธอหลับสนิทไป
ในอีกด้านหนึ่ง หลินหยางจึงใช้ความเร็วสูงสุด พุ่งตรงไปยังดาดฟ้าของอาคารที่อยู่ตรงข้ามกับโรงแรม
“แน่นอนว่าเป็นคนของหลูยี่ ไอ้หมอนี่ยังไม่ตาย ดังนั้นหลินหยยางจึงใช้ประโยชน์จากตัวเขาขุดค้นเบาะแสของหลูยี่!”
หลินหยางสังเกตนักฆ่าที่ถูกเข็มของเขาโจมตี เหมือนกับชายในชุดดำที่ฉีเยนเอ่อร์ได้อธิบายไว้เลย
เขายิ้มอย่างมั่นใจ พร้อมกับยกมือขึ้นแล้วดึงเข็มสีที่คอของชายในชุดดำนั้นออกมา
เมื่อดึงเข็มที่คอของชายในชุดดำออกมา หลินหยางก็กดไปที่จุดฝังเข็มบนหน้าอกอีกครั้ง
เอ๊ะ ทำไมมีก้อนเนื้อ? หรือว่าความรู้สึกทางการสัมผัสด้วยมือไม่ถูก!
หลินหยางงุนงง จากนั้นเขาก็เอื้อมมือออกไปจับหน้าอกของชายในชุดดำอีกครั้ง เขาก็ตกใจขึ้นมาทันที ผู้หญิงเหรอ?
หลินหยางดึงหมวกของชายในชุดดำออก และหลินหยางก็อาศัยแสงจันทร์สังเกตชายในชุดดำ จากนั้นก็เห็นเพียงผมยาวที่สลวยเป็นมันเงาของชายในชุดดำสยายออกมา และอวัยวะบนใบหน้าภายใต้แสงจันทร์ของเธอ ก็เผยแสงที่สว่างไสวและสง่าออกมา มันเด่นชัดงดงามและละเอียดอ่อนมาก ซึ่งไม่สงสัยสักนิดเลยว่าเป็นสาวสวยคนหนึ่ง!