ประชันยุทธ์สะท้านฟ้า Peerless Battle Spirit – ประชันยุทธ์สะท้านฟ้า Peerless Battle Spirit – บทที่ 608

ประชันยุทธ์สะท้านฟ้า Peerless Battle Spirit - บทที่ 608

608 – รอก่อน!
ตู้มมม!
รูปปั้นจักรพรรดิผู้ล่วงลับประกายสีทองไปที่ร่างของ
หลงฮู่ และคนอื่นๆ เรืองแสงสีทองเหล่านี้อักแน่นไป
ด้วยโบราณวัตถุ น้าอมฤต ทักษะการต่อสู้ และอื่นๆ
แต่สิ่งเหล่านี่ไม่ได้ถือว่ามีค่าเลย
ผู้คนเองก็ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆออกมา
จากรางวัลนั้น มันแสดงให้เห็นว่ารูปปั้นจักรพรรดิผู้
ล่วงลับไม่พอใจอย่างมากกับพรสวรรค์ของเหล่าศิษย์
โจรวปี่ฮวาและหลินเฟิงเซี่ยวได้แลกเปลี่ยนความ
คิดเห็นกัน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความจริงที่ว่าพวกเขา
เป็นศัตรูกันมาก่อน ตอนนี่พวกเขาก็อยู่ฝ่ายเดียวกัน
แล้ว ดังนั่นการแสดงออกของทั้งสองจึงตึวเครียดขึ้นมา
โดยจิตใต้ส้านึก
รางวัลพวกนั่นไม่ได้มีความส้าคัญอะไร สิ่งที่จะเกิดขึ้น
ต่อไปนี้ต่างหากที่คือความกังวลที่แท้จริงของพวกเขา
ในขณะเดียวกัน ด้วยเหตุผลบางอย่างบรรยากาศของ
สถานที่นี้ก็แข็งทื่อขึ้นมา
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ยังไม่รู้ถึงสิ่งต่างๆ มองไปที่ตี่
เฟิงยวินราวกับว่าพวกเขาตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง
ตุบ! (เสียงกระแทกหนักๆ)
!!!
ตี่เฟิงยวินคุกเข่าลง ขณะที่เขาเปล่งเสียงค้ารามด้วย
ความจริงใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า “มหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่
ท่านได้สร้างอาณาจักรนภาลัยโบราณขึ้น มีการ
สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่! ยังไงก็ตาม แม้อาณาจักรนภาลัย
โบราณจะถือเป็นหนึ่งในสี่กลุ่มที่ทรงมหาอ้านาจ แต่ถึง
กระนั่นก็มีวิกฤตอันใหญ่หลวงเกิดขึ้น! คนรุ่นใหม่ของ
อาณาจักรนภาลัยโบราณขาดพรสวรรค์ ฉะนั้น
อาณาจักรของเราจึงแตกต่างจากกลุ่มอื่นๆอย่าง
สิ้นเชิง!!”
“ผู้รับใช้ตี่เฟิงยวิน ขอวิงวอนต่อนายท่านของข้าในการ
เปิดค่ายกล ให้ข้าได้สามารถมีส่วนร่วมในการ
ทดสอบ!… ข้าจะไม่เสียใจไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง!!”
ค้าพูดของเขาถูกเปล่งออกมาราวเสียงค้ารามสายฟ้า
ปลุกให้ผู้เชี่ยวชาญมากมายตื่นจากอาการตกใจจนตา
ค้างของตน
ไอ้เจ้าตี่เฟิงยวินนี่มันเล็งที่จะเอาสมบัติภายในรูปปั้นไว้
นิ!
มันก้าลังจะเกิดขึ้นแล้ว!
ความคิดมากมายผุดขึ้นในจิตใจของโจรวปี่ฮวาและ
หลินเฟิงเซี่ยว ท้าให้พวกเขาจ้องมองด้วยดวงตาที่
แหลมคม
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ตี่เฟิงยวินพยายามที่จะเอาสมบัติ!
อย่างไรก็ตาม ในความพยายามก่อนหน้านี้ เขาก็
ล้มเหลวอย่างเต็มประตูในรอบแรก!
มันอาจจะเป็นว่าเขามีบางอย่างที่จะช่วยให้เขา
สามารถเพื่อเปิดค่ายกลของรอบแรกได้งั้นหรอ?
นอกจากพวกเขาแล้ว ขุนนางทั้งสิบและเสนาบดีต่างก็
สงสัยหลังจากที่พวกเขารวบรวมความคิด
พรึบบ!
ในตอนนั้นเอง รูปปั้นจักรพรรดิผู้ล่วงลับก็สั่นสะเทือน
อย่างรุนแรง ขณะที่ปล่อยล้าแสงสีทองไปสู่
สภาพแวดล้อมรอบข้าง ราวกระแสน้าที่ก่อตัวกันเป็น
เกีลยวคลื่นบนมหาสมุทร
รูปปั้นจักรพรรดิผู้ล่วงลับได้ตอบรับค้าวิงวอนของตี่
เฟิงยวิน!
พรึบบ!
ในเวลานั้น ก็ได้มีแสงสีม่วงถูกปล่อยออกมาจากศีรษะ
ของรูปปั้น ซึ่งมันขยายตัวเร็วเหมือนงูยักษ์ในค่ายกลสี
ม่วงลึกลับที่ลอยอยู่บนหน้าอก
“ค่ายกลจะเริ่มขึ้นแล้ว!”
“ครั้งล่าสุด ตี่เฟิงยวินล้มเหลวในการเปิดค่ายกล งั้น
ตอนนี้เขาจะท้าอะไรกันนะ?”
“เขาต้องมีความมั่นใจถ้าเขาตัดสินใจวิงวอนต่อรูป
ปั้น!”
ผู้เชี่ยวชาญและเสนาบดีต่างกังวลใจ ซึ่งไม่ยอมที่จะ
กระพริบตาแม้แต่น้อย
“กุญแจจักรพรรดิ!”
ในตอนนั้นเอง ตี่เฟิงยวินลุกขึ้นจากพื้นและส่งเสียง
ค้ารามที่ยิ่งใหญ่ พร้อมกับใช้พลังอ้านาจแห่งขอบเขต
ราชันย์จักรพรรดิในร่างเรียกกุญแจยักษ์ขนาดเท่าแขน
ออกมา ซึ่งกุญแจมีสีม่วงและเปล่งแสงเช่นเดียวกับค่าย
กล!
ผู้คนรวมทั้งโจรวปี่ฮวา หลินเฟิงเซี่ยว และคนอื่นๆ
ต่างตกตะลึง
“กุญแจจักรพรรดิ! เขามีกุญแจจักรพรรดิ!”
“กุญแจจักรพรรดิ! นั่นเป็นหนึ่งในโบราณวัตถุที่
จักรพรรดิผู้ล่วงลับทิ้งไว้ ซึ่งถูกใช้เฉพาะเพื่อเปิดค่ายกล
ต่างๆ! แต่มันไม่ได้ถูกท้าลายหรอกเรอะ? เขาไปเจอมัน
ได้ยังไงกัน?”
“นั่นไงละไพ่ตายของเขา!”
ดวงตาของโจรวปี่ฮวาวูบวาบอย่างเยือกเย็น เขาบินขึ้น
ในอากาศทันที และกระทืบเท้า ปลดปล่อยการ
ปราบปรามแห่งขอบเขตเทวะออกมา
เขามีกุญแจจักรพรรดิ!
ค่ายกลก้าลังจะเปิด!
ข้าต้องหยุดเขาไม่ว่ายังไงก็ตาม!!
ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้ส่งเสียงไปยังวิหคเพลิงโลหิต!
คนของตี่เฟิงยวินได้เตรียมพร้อมส้าหรับเรื่องนี้ไว้แล้ว
ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่สัตว์อสูรศักดิ์สอทธิ์ทั้งสองจะได้
ปรากฏตัว!!
“โจรวปี่ฮวา เจ้าพยายามจะท้าอะไรไม่ทราบ?” พยัคฆ์
ขาวนภาค้ารามจ้องมองอย่างโหดเหี้ยม
เป็นเวลาเดียวกัน กับที่มีฝ่ามือยักษ์ใหญ่คว้าที่ไหล่ของ
พยัคฆ์ขาวอย่างแน่นหนา ซึ่งคือองค์จักรพรรดินภาลัย
โบราณ
“ท่านพยัคฆ์ขาว อย่าตื่นตระหนกไปเลย ผู้น้ากองพัน
โจรวมีเหตุผลอย่างแน่นอน”
จักรพรรดินภาลัยโบราณเอ่ยออกมาเบาๆ
พยัคฆ์ขาวนภาค้ารามโกรธทันที แต่แม้จะมีการต่อสู้
มันก็ไม่สามารถที่จะหลุดพ้นจากมือของเขาไปได้!!
ฝ่ามือหนักแน่นดั่งภูเขา การปราบปรามโบราณ!
หวูบบบ!
โจรวปี่ฮวาลงมาสู่พื้นเช่นเทพปีศาจที่น่าสะพรึงกลัว
ซึ่งมือของเขาคว้าไปที่ร่างของตี่เฟิงยวินอย่างไม่ลังเล
“หยุดมัน!”
ฝ่ามือที่อัดแน่นด้วยพลังอันน่าเกรงขาม แม้กระทั่งขั้น
สูงสุดขอบเขตราชันย์จักรพรรดิอย่างตี่เฟิงยวิน ก็ไม่
อาจมีโอกาสต่อต้านได้
“โจววปี่ฮวา ข้ารู้ว่าท่านจะมาหยุดข้า! แต่ช่างน่า
เสียดายนะ….ที่ไม่มีใครจะสามารถหยุดข้าได้ในวันนี้!!”
ตี่เฟิงยวินส่งเสียงค้ารามพร้อมกับร่างสีขาวที่ระเบิด
ออกมาจากร่างกายของเขา ซึ่งคือร่างจ้าแลงของพยัคฆ์
ขาวนภาค้าราม
ขณะที่ร่างจ้าแลงของพยัคฆ์ขาวนภาค้ารามปรากฏ
มันก็หวดกรงเล็บทันที ซึ่งปล่อยรัศมีอันทรงพลังออกมา
พุ่งตรงไปยังทิศทางของโจรวปี่ฮวา
ดวงตาของโจรวปี่ฮวาเบิกกว้างในทันที
แม้กระทั่งจักรพรรดินภาลัยโบราณเองก็ยังประหลาด
ใจเช่นกัน
ในเวลาเดียวกัน รอยยิ้มอันน่าเกลียดก็ปรากฏขึ้นบน
ใบหน้าของพยัคฆ์ขาวนภาค้าราม
พยายามที่จะหยุดพวกข้าหรอ?
ไม่มีทางหรอกไอ้พวกโง่!!
การต่อสู้ได้เกิดขึ้นทันที ร่างของโจรวปี่ฮวาถูกปกคลุม
ด้วยเปลวเพลิงดั่งวิหคเพลิง ขณะที่เขาพุ่งไปที่ร่าง
จ้าแลงพยัคฆ์ขาวนภาค้าราม…. ในเพียงพริบตาร่าง
จ้าแลงนั่นก็สลายเป็นชิ้นๆ
ในขณะเดียวกัน เขาก็สับสนไปด้วย ท้าไมวิหคเพลิง
โลหิตและราชันย์เต่าทมิฬถึงยังไม่ปรากฏตัวอีกละ?
มันจะสายเกินไปที่พวกเขาจะปรากฏจัวในไม่ช้าแล้ว!!
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น ตี่เฟิงยวินได้ท้าการ
เคลื่อนไหว
กุญแจจักรพรรดิส่องแสงเจิดจ้า เมื่อมันแทรกเข้าไปใน
ค่ายกลสีม่วง
คลิก
ราวกับว่าโลกได้เข้าสู่ความเงียบ ที่มีเพียงเสียงของ
ประตูที่ถูกปลดล็อคเท่านั้นที่ดังสะท้อนไปทั่วบริเวณ
โดยรอบ
ตึ้งงงงง!!! (เสียงดังก้อง)
การระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้น ณ ด้านบนเก้า
สวรรค์
แสงสีทองอันงดงามถูกยิงออกมาจากรูปปั้น ซึ่งปก
คลุมร่างของตี่เฟิงยวินราวหม้อใบยักษ์
ในขณะเดียวกัน ภาพลวงตาของอัศวินก็ปรากฏอยู่ใน
เรืองแสงสีทอง
“ค่ายกลถูกเปิดแล้ว เจ้าได้ผ่านรอบแรกของการ
ทดสอบ!”
อัศวินพูดด้วยน้าเสียงที่เยือกเย็น
อัศวินผู้นี้เป็นจิตวิญญาณผู้พิทักษ์ของรูปปั้นจักรพรรดิ
ผู้ล่วงลับ!
“ตี่เฟิงยวิน! เจ้าออกมาจะดีกว่า! หมัดวิหคเพลิงไร้
พ่าย!!”
การแสดงออกของโจรวปี่ฮวาเปลี่ยนไปขณะที่เขา
ตะโกน ร่างนับไม่ถ้วนของวิหคเพลิงถูกปล่อยออกมา
จากก้าปั้นของเขา รวมเข้ากับเปลวเพลิงอันโหดร้ายที่
กระแทกเข้าใส่ก้าแพงสีทอง
ตู้มมม!
แววตาของอัศวินวูบวาบอย่างเยือกเย็น ขณะที่เขา
กระทืบเท้าและเหวี่ยงหมัด
ตู้มมม!
โจรวปี่ฮวาสะดุ้งตกใจ ขณะที่สัมผัสได้ถึงพลังอันน่า
สยดสยองที่ใกล้เข้ามา ซึ่งกระแทกเข้าใส่ร่างของเขาจน
ถอยออกไปหลายร้อยก้าว!
อัศวินนี่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทวะ และไม่ใช่แค่คน
ธรรมดา!
“เฉพาะผู้ที่มีจิตวิญญาณขั้นปฐพีระดับ 8 และ
เหนือกว่า และการบ่มเพาะที่ต่้ากว่าขอบเขตเทวะได้รับ
อนุญาตให้เข้าร่วมการทดสอบนี้! ถ้าใครพยายามที่จะ
บุกเข้ามาด้วยความรุนแรง ความตายคือบทลงโทษ!!”
อัศวินพูดด้วยน้าเสียงเย็นชา ซึ่งเสียงระเบิดอยู่ในหัวใจ
ของฝูงชน
ขั้นปฐพีระดับ 8!
ต่้ากว่าขอบเขตเทวะ!
ฝูงชนกลั้นหายใจ
ตี่เฟิงยวินเป็นคนเดียวในอาณาจักรนภาลัยโบราณที่
ตรงตามเงื่อนไขนั้น!
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาเท่านั้นที่เป็นผู้เข้าร่วมการ
ทดสอบนี่ ไม่มีคู่แข่งหรือฝ่ายตรงข้ามใดๆ ฉะนั้นสมบัติ
ก็จะเป็นของเขาในที่สุด!
“ฮ่าๆๆ! โจรวปี่ฮวาตั้งใจดูให้ดีละ และเป็นพยานว่าข้า
ได้สมบัติอย่างไร!!” ตี่เฟิงยวินหัวเราะเยาะออกมา
ขณะที่เดินเข้ามาอัศวิน
ในช่วงเวลานี้ ข้าได้ส่องประกาย!
ข้าเป็นผู้เข้าร่วมการทดสอบเพียงคนเดียว!
แต่อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น
“รอก่อน!!!”
จากผู้แปล
ต้องขอโทษส้าหรับคนที่รออ่านเรื่องนี้ด้วยนะค่ะ ที่
หายไปไม่ได้แปลเลยและยังที่ลงบ้างไม่ลงบ้างอีก ปีนี่
เรียนหนักเอาเรื่องอยู่ค่ะ สอบถี่มากด้วย (เรียนจัดการมี
เต้นด้วยอ่ะ TOT)
ตอนนี่ใกล้ปิดเทอมย่อยแล้วค่ะ ได้พักฟื้นที่ล้าสะสมสัก
หน่อยคิดว่าน่าจะได้ลงรัวๆ แน่นอนค่ะ ;’))))
อย่าทิ้งเก๊าน่าาาาาาา
—————————

ประชันยุทธ์สะท้านฟ้า Peerless Battle Spirit

ประชันยุทธ์สะท้านฟ้า Peerless Battle Spirit

Status: Ongoing

รายละเอียด ในแผ่นดินหมอกคราม หากผู้ใดปรารถนาจักกลายเป็นยอดยุทธ์ ผู้นั้นจักต้องปลุกวิญญาณยุทธ์แห่งตนขึ้นมา เพื่อสื่อสารกับพลังฟ้าดิน และต้องบำเพ็ญตบะ เพื่อดูดซับลมปราณฟ้าดิน

วิญญาณยุทธ์มีมากมายมหาศาลมิอาจคณานับ ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นสี่ระดับใหญ่… หวง เสวียน พิภพและสวรรค์

แต่ละระดับแบ่งย่อยอีกสิบขั้น ยิ่งวิญญาณยุทธ์สูงส่งเพียงใด คนผู้นั้นจักฝึกฝนได้อย่างรวดเร็ว แข็งแกร่งและมีศักยภาพที่สูงยิ่งขึ้น

ฉินหนาน มหาอัจฉริยะในใต้หล้าจักสร้างวิญญาณยุทธ์ไร้ผู้เทียบเคียง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท