เดิมทีลู่โจววางแผนที่จะรอให้ไป่มาปรากฏตัวออกมาก่อน หลังจากนั้นตัวเขาก็จะสังหารไป่มาไปในทันทีด้วยการ์ดการโจมตีของเพชฌฆาต แต่หลังจากเฝ้ามองดูสถานการณ์ในปัจจุบันทั้งหมด ตัวเขาก็ได้รู้แล้วว่าสิ่งที่ไป่มาได้เตรียมตัวมานั้นมันเหนือเกินความคาดหมายของลู่โจวไปแล้ว การเตรียมการแบบนี้ไม่ง่ายเลยแม้ว่าจะใช้อายุขัย 200 ปีเพื่อแลกมันมา ไป่มายอมทุ่มเททั้งชีวิตของตัวเองก็เพื่อหุ่นเชิดพวกนี้ ถ้าหากมีหุ่นเชิดที่มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบปรากฏตัวออกมาอีก ไป่มาก็คงจะได้สละชีวิตของตัวเองไปหมดแล้ว
แม้ว่ากงหยวนจะเป็นเพียงแค่ซากศพ แต่ความสัมพันธ์ที่ตัวเขามีให้กับลูกประคำอธิษฐานก็ยังคงอยู่ กงหยวนที่ยังคงจำความรู้สึกเดิมได้พุ่งเข้าหาซู่จิงและเหล่านักบวชคนอื่นๆ ในตอนนั้นเองพลังอวตารสีดำขนาดใหญ่ก็ได้ปลดปล่อยพลังที่ดูคล้ายกับดาวตกออกมา
เล้งลั่วถอยกลับไปพร้อมๆ กับซู่จิงและคนอื่นๆ พวกเขาทุกคนได้ถอยกลับไปที่ก้อนหินก้อนใหญ่ คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาทุกคนไม่ใช่ใครอื่น คนคนนั้นก็คือลู่โจวที่ยังคงดูสงบเยือกเย็นมาตั้งแต่ต้น ทุกๆ คนได้แต่สงสัยว่าปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าคนนี้จะใช้วิธีการอะไรป้องกันการโจมตีที่สุดแสนจะน่ากลัวของกงหยวน ไม่ว่าลู่โจวจะทำอะไรสิ่งที่พวกเขาทั้งหมดพอจะทำได้มีเพียงเชื่อใจในลู่โจวเท่านั้น
ทุกคนต่างก็เงยหน้าขึ้นมองกงหยวน
ลู่โจวได้พลิกฝ่ามือของตัวเองขึ้นมา ในตอนนั้นมีของชิ้นหนึ่งได้ปรากฏออกมา มันไม่ใช่การ์ดวิเศษใบไหนๆ …ของสิ่งนั้นก็คืออาวุธนิรนามนั่นเอง อาวุธนิรนามได้เปล่งแสงสีฟ้าปนม่วงจางๆ ออกมา มันคือแสงจากพลังเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์นั่นเอง ทันทีที่พลังอวตารสีดำของวิถีพุทธปีศาจเข้ามาใกล้ ลู่โจวก็ได้ใช้พลังของชีวิตที่ผ่านมา!
ลู่โจวได้เหวี่ยงอาวุธนิรนามที่เปลี่ยนไปเป็นดาบอย่างสุดแรง ตัวเขาได้เหวี่ยงดาบจากมุมซ้ายล่างขึ้นสู่มุมบน ท้ายที่สุดแล้วอาวุธนิรนามก็ถูกเหวี่ยงออกไปเป็นเส้นทแยงมุม
ชิ๊ง!
มันเป็นการเคลื่อนไหวที่แสนจะเรียบง่ายและดูตรงไปตรงมา ถ้าหากดูเพียงแค่ผิวเผินการเหวี่ยงดาบของลู่โจวเป็นเพียงแค่การกวัดแกว่งดาบธรรมดาเพียงเท่านั้น แต่ทันทีที่ลู่โจวเหวี่ยงดาบ บรรยากาศที่อยู่รอบตัวของเขาก็ดูเหมือนจะเย็นลง
ทุกๆ คนที่เห็นแบบนั้นรู้สึกประหลาดใจ พลังดาบของลู่โจวที่เหวี่ยงออกไปได้ทำให้พลังร่างอวตารสีดำแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ถ้าหากดาบปีศาจอย่างยู่ฉางตงมองเห็นเหตุการณ์ที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาจะคิดยังไงกันแน่? สิ่งที่ยู่ฉางตงได้ทำเลยไปก็คือการใช้พลังสูงสุดของตัวเขาในการตัดทำลายพลังอวตารของกงหยวน แต่ผู้ที่เป็นอาจารย์ของเขาอย่างลู่โจวสามารถตัดทำลายพลังอวตารได้ด้วยการแกว่งดาบบนมืออย่างสบายๆ เท่านั้น
เมื่อพลังอวตารถูกทำลาย ผู้ฝึกยุทธผู้ที่ใช้พลังอวตารเองก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน กงหยวนเดิมทีได้ตายไปแล้ว เมื่อพลังอวตารสีดำของเขาถูกทำลายไป พลังงานสีดำก็ได้รั่วไหลออกจากตัวของกงหยวนมาก่อนที่ตัวเขาจะกระเด็นกลับไป แต่ไม่นานนักกงหยวนก็ตั้งหลักได้ก่อนที่จะพุ่งเข้าหาลู่โจวอีกครั้ง สำหรับผู้ที่ตายไปแล้วไม่มีอะไรที่จะต้องเกรงกลัวอีกต่อไป
ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นก็ได้ตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจ “เปล่าประโยชน์!”
“ทุกสิ่งล้วนกำเนิดมาจากความว่างเปล่า ทุกๆ สิ่งล้วนเวียนว่ายตายเกิด…ข้าจะส่งเจ้ากลับไปที่วัฏจักรโลกอีกครั้งด้วยการโจมตีนี้!”
กงหยวนยังคงพุ่งเข้าหาทุกคน กงหยวนพยายามที่จะจัดการชายชราที่อยู่ตรงหน้าให้ได้ด้วยพลังสุดแข็งแกร่งที่ตัวเขามี
พรึ๊บ!
ในตอนนั้นเองม่านหมอกสีม่วงก็ดูเหมือนจะแข็งตัวอยู่บนอากาศ
ทันใดนั้นเองม่านหมอกสีม่วงก็ได้พุ่งออกจากป่า ขณะเดียวกันก็มีคลื่นเสียงแผ่ออกมาด้วยเช่นกัน “ผนึกการเคลื่อนไหว!”
ชาวศาลาปีศาจลอยฟ้าที่ได้ยินเสียงที่แผ่ออกมาต่างก็ตกตะลึง พวกเขาทุกคนต่างก็มองหมอกที่อยู่รอบๆ ตัว หมอกที่ว่ากำลังก่อตัวกันจนกลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ มันได้ขวางเส้นทางการหลบหนีทั้งหมดของชาวศาลาปีศาจลอยฟ้าเอาไว้แล้ว หุ่นเชิดที่อยู่บนพื้นดินเองก็ยังไม่ลดละความพยายามที่จะโจมตีพวกของลู่โจวเช่นเดิม
ในที่สุดไป่มาก็ปรากฏตัวออกมาจนได้ “ข้าได้แลกชีวิตของข้ากับผนึกกักขังนี่ ไม่มีใครสามารถหลบหนีไปได้แน่ ทุกคนที่อยู่ที่นี่จะต้องตาย!”
กงหยวนเองยังพุ่งตรงไปหาลู่โจว
“ท่านปรมาจารย์ ระวัง!” ฮั๊ววู่เด๋าที่เห็นแบบนั้นรีบใช้งานพลังผนึกตราประทับทั้งหกของตัวเองออกมา แต่ถึงแบบนั้นมันก็สายเกินไป
ลู่โจวเหลือบมองไป่มาที่ลอยอยู่เหนือพวกเขา ตัวเขาได้แต่พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ‘ในที่สุดตัวการก็ปรากฏตัวแล้วสินะ’
ก่อนที่จะทำการโจมตีลู่โจวเลือกที่จะใช้การ์ดป้องกันไร้ที่ติ คราวนี้ไม่มีร่างของพุทธองค์ทองคำปรากฏตัวขึ้น มันเป็นพลังผนึกตราประทับทั้งหกและตัวอักษรทั้งสิบที่ปรากฏขึ้นมาแทน ตัวหนังสือที่พุ่งออกมาจากร่างกายของลู่โจวได้ขยายตัวเองอย่างรวดเร็ว
ตู๊ม!
หมอกควันสีม่วงที่ล้อมรอบชาวศาลาปีศาจลอยฟ้าเอาไว้ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี ดูเหมือนว่าพลังผนึกตราประทับของลู่โจวจะแข็งแกร่งกว่าพลังเวทมนตร์คาถาที่ว่า
ฮั๊ววู่เด๋าที่เห็นแบบนั้นถึงกับพูดไม่ออก นี่ใช่เคล็ดวิชาผนึกตราประทับทั้งหกของตัวเขาอยู่รึเปล่า? มันเป็นพลังผนึกที่ฮั๊ววู่เด๋าใช้เวลาศึกษาและสร้างขึ้นมาจริงๆ ใช่ไหม?
ตัวอักษรแต่ละตัวได้เปลี่ยนกลายเป็นพลังในการโจมตี นอกเหนือจากพลังผนึกทรงกลมแล้ว พลังที่เกิดจากตัวอักษรทั้งสิบก็ได้พุ่งเข้าใส่ตัวของกงหยวนอย่างแม่นยำ มันเป็นพลังการโจมตีติดต่อกันถึง 10 ครั้งด้วยกัน
ตู๊ม!
กงหยวนพยายามที่จะป้องกันการโจมตีจากตัวอักษรทั้ง 3 ตัวแรกที่กำลังพุ่งใส่ แต่เมื่อต้องรับมือกับพลังการโจมตีของตัวอักษร 4-6 กงหยวนก็ต้องล่าถอยกลับไป และเมื่อกงหยวนถูกการโจมตีของตัวอักษรตัวที่ 9 ร่างกายของเขาก็เริ่มที่จะระเบิดกลายเป็นชิ้นๆ และเมื่อตัวอักษรตัวที่สิบเข้าปะทะร่างกายของกงหยวน ร่างของเขาทั้งหมดก็ได้แหลกสลายหายไปในอากาศซะแล้ว
บางทีลู่โจวอาจจะแค่โชคดี พลังของการ์ดป้องกันไร้ที่ตินั้นเน้นไปที่พลังการป้องกันมากกว่าที่จะเป็นพลังทำลายล้าง
กงหยวนที่ปะทะเข้ากับพลังอักษรทั้ง 10 ในที่สุดก็ได้สลายหายไป
‘ถ้าฉันจัดการเจ้านี่ได้แล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะจัดการไม่ได้อีกครั้งหรอไงกัน!?’
ไป่มาที่เห็นแบบนั้นตื่นตกใจมาก “นี่เจ้าไม่ได้รับผลจากพลังผนึกการเคลื่อนไหวอย่างงั้นหรอ?”
ลู่โจวเหลือบมองไปที่หมอกควันสีม่วง ตัวเขาไม่ได้เสียเวลาพูดคุยกับไป่มา ลู่โจวได้ยกมือซ้ายออกมา ภายในมือซ้ายของตัวเขามีการ์ดการโจมตีของเพชฌฆาตอยู่นั่นเอง เมื่อการ์ดถูกใช้คลื่นพลังลมปราณที่ดูคล้ายกับกระแสน้ำวนก็เริ่มที่จะก่อตัวขึ้น
“ข้ารอคอยเวลานี้มานานแล้ว” ลู่โจวไม่เคยเกลียดเวทมนตร์คาถาเท่ากับวันนี้มาก่อน ตัวเขาถูกความเกลียดชังเข้าครอบนำจนไม่อยากที่จะพูดอะไรอีกต่อไป
ไป่มาที่เห็นแบบนั้นเบิกตากว้าง ตัวเขาสัมผัสได้ถึงพลังที่แสนน่ากลัวในฝ่ามือของลู่โจว ไป่มาได้พูดออกมาด้วยเสียงอันแหบพร่า “ถ้าหากเป็นแบบนี้ พวกเราก็จงตายไปพร้อมๆ กันซะเถอะ…” แทนที่จะถอยกลับไปไป่มาเลือกที่จะก้าวมาข้างหน้าแทน ตัวเขาได้พุ่งเข้าหาลู่โจวพร้อมกับพลังหมอกสีม่วง
ลู่โจวไม่ได้รู้สึกกลัวไป่มาเลยแม้แต่นิดเดียว จนถึงตอนนี้ตัวเขายังไม่ได้ใช้การ์ดประกันชีวิต การ์ดที่จะช่วยทำให้ตัวเขารอดจากการโจมตีที่อันตรายมาได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช้พลังพิเศษจากเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์ไป่มาก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรตัวเขาได้อยู่ดี แต่สำหรับไป่มา เป็นธรรมดาที่ตัวเขาจะไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้ที่เจออยู่มีอาวุธครบมือที่แสนจะน่ากลัวมากสักแค่ไหน
เวลา 10 วินาทีได้ผ่านพ้นไปในชั่วพริบตา
พลังผนึกตราประทับทั้งหกและอักษรทั้งสิบได้หายไปแล้ว
พลังจากการ์ดการโจมตีของเพชฌฆาตได้เข้ามาแทนที่พลังผนึกตราประทับทั้งหกก่อนที่จะพุ่งตรงไปที่ด้านหน้า
ฝ่ามือที่ลู่โจวได้ปลดปล่อยออกมาเป็นพลังฝ่ามือมากมายหลายชนิด ทุกพลังได้ผสานเข้าหากันจนดูเหมือนกับพลังฝ่ามือเดียว มันคือสุดยอดพลังฝ่ามือทั้งเก้า
ทุกๆ คนที่เห็นสุดยอดพลังฝ่ามือของลู่โจวก็ได้แต่ตกใจ แม้ว่ามันจะเป็นครั้งที่สองที่ได้เห็นแล้วก็ตามแต่มันก็ยังน่าประทับใจและยังน่ากลัวเช่นเดิม
สุดยอดพลังฝ่ามือแรกของลู่โจวได้เข้าปะทะกับไป่มาราวกับเป็นการโจมตีธรรมดาทั่วไป
ตู๊ม!
เช่นเดียวกับกงหยวน ไป่มาพยายามที่จะต้านทานพลังของลู่โจวอย่างสุดความสามารถ แต่เมื่อพลังฝ่ามือทั้งแปดกระทบเข้ากับร่างกายของไป่มา ในตอนนั้นก็มีอะไรบางอย่างที่แตกต่างกันเกิดขึ้น หมอกรอบตัวของไป่มากระจัดกระจาย ใบหน้าของเขาสว่างไสวไปด้วยสุดยอดพลังฝ่ามือทั้งเก้า
ในระหว่างที่รับการโจมตีของลู่โจว ใบหน้าของไป่มาก็เต็มไปด้วยบาดแผล ขอบตาของเขากำลังปิดลง ที่ทวารทั้งเจ็ดของไป่มามีเลือดกำลังไหลริน
ในตอนนั้นเองไป่มาก็รู้สึกราวกับว่าเวลาได้หยุดลง
“ติ้ง สังหารเป้าหมาย ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 2,000”
เมื่อลู่โจวเห็นการแจ้งเตือนนี้ ตัวเขาก็รู้ได้ทันทีว่าไป่มาได้ตายไปแล้ว แต่ถึงแบบนั้นไป่มาก็ได้ฝึกฝนตัวเองให้ร่างกายที่ตายไปแล้วของตัวเขาสามารถโจมตีเป้าหมายต่อไปคล้ายกับหุ่นเชิดที่ตัวเขามี
เมื่อพลังฝ่ามือทั้งเก้าได้หยุดลมหายใจของไป่มาไว้ได้ แต่ถึงแบบนั้นร่างของไป่มาก็ยังคงอยู่ มันเป็นร่างกายที่ไม่มีชีวิตอีกต่อไป
“ร่างของผู้ฝึกยุทธด้วยเลือด…” เล้งลั่วพยายามพูดเตือนลู่โจว
ลู่โจวส่ายหัว ตัวเขาก้าวไปที่ด้านหน้าก่อนที่จะพูดอย่างมั่นใจ “ในเมื่อข้าจัดการเจ้าได้แล้วครั้งหนึ่ง ข้าก็จะจัดการเจ้าอีกครั้งเอง”