My Disciples Are All Villains – ตอนที่ 447

ตอนที่ 447

เฟิงชิงเป็นผู้ที่รอดชีวิตมาจากการโจมตีของจอมวายร้ายจีเทียนเด๋าได้ แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ไม่วายถูกศิษย์สาวกของศาลาปีศาจลอยฟ้าหลอก ไม่มีทางเลยที่เฟิงชิงจะทนรับเรื่องแบบนี้ได้ ตัวเขาได้จี้ไปที่จุดตันเถียนของตัวเองก่อนที่จะผลักตัวเองออกจากพื้น เฟิงชิงกำลังพุ่งเข้าหาหมิงซี่หยิน

“พวกเราจงตายไปพร้อมกันซะเถอะ…”

หวืออ!

หมิงซี่หยินเรียกพลังอวตารของตัวเอง

เฟิงชิงที่เห็นร่างอวตารได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึก “สามกลีบอย่างงั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินความสามารถของเจ้าสูงเกินไปแล้วล่ะ!”

พรึ๊บ! พรึ๊บ! พรึ๊บ!

เฟิงชิงปล่อยพลังฝ่ามือของตัวเองออกมาอย่างต่อเนื่อง

หมิงซี่หยินที่เห็นแบบนั้นก็ร่อนลงบนพื้น พลังอวตารของตัวเขาเองก็ร่อนลงสู่พื้นเช่นกัน ทันทีที่หมิงซี่หยินลงถึงพื้นตัวเขาก็ได้ใช้เคียวพื้นพิภพที่มีอยู่ในมือเข้าปะทะกับเฟิงชิง

ตู๊ม!

หมิงซี่หยินสัมผัสได้ว่าแขนของตัวเขาชาไปทั้งแขน แต่อย่างไรก็ตามหมิงซี่หยินไม่ถูกผลักให้กระเด็นถอยกลับ ในทางกลับกันเฟิงชิงนั่นแหละที่ถูกผลักให้กระเด็นถอยกลับไปซะเอง

เฟิงชิงเอนตัวไปที่ด้านหน้าในขณะที่พุ่งเข้าใส่ ตัวเขาที่ถูกกระแทกกลับมาจึงสะดุ้งในทันที ดวงตาเฟิงชิงเบิกกว้างก่อนที่จะจับจ้องไปยังหมิงซี่หยินที่กำลังลอยตามมา “สี่กลีบอย่างงั้นเหรอ?”

ที่ใบหน้าของหมิงซี่หยินเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม อาวุธระดับสรวงสวรรค์ภายในมือของเขาได้ส่องประกายแห่งความหนาวเหน็บออกมา “ทำได้ไม่เลวเลย เจ้าบังคับให้ข้าต้องใช้พลังถึง 2 ใน 3 เองนะ!”

เฟิงชิงรู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง ตัวเขาประเมินความสามารถของคู่ต่อสู้ต่ำไป! เดิมทีเฟิงชิงตั้งใจที่จะเผาผลาญจุดพลังลมปราณของตัวเองให้น้อยที่สุด แต่ในตอนนี้ตัวเขาจะต้องเปลี่ยนใจซะแล้ว “แต่ยังไงเจ้าก็ฆ่าข้าไม่ได้หรอก!”

หมิงซี่หยินหายตัวไปอย่างกะทันหัน

ในตอนนั้นเองหน้าอกของเฟิงชิงก็เริ่มรัดตัวแน่น ในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นตัวเขาก็สัมผัสได้ถึงความหวาดกลัว นี่คือพลังของผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวสี่กลีบจริงๆ อย่างงั้นเหรอ?

หวืออ!

เกิดแสงสว่างขึ้นมาอย่างกะทันหัน

เฟิงชิงที่ลอยอยู่บนฟ้าร่วงหล่นสู่พื้นดินอย่างรวดเร็ว

ในแววตาของตัวเขามีเพียงหมิงซี่หยินเท่านั้น และแล้วการต่อสู้ก็ได้จบลง

หมิงซี่หยินยิ้มออกมาก่อนที่จะเฝ้ามองเคียวพื้นพิภพของตน ตัวเขาส่ายหัวก่อนที่จะเช็ดและเก็บมันเข้าฝักไป

เฟิงชิงที่อยู่บนพื้นได้หัวเราะออกมา “ข้าบอกเจ้าแล้ว…เจ้าน่ะไม่สามารถฆ่าข้าได้หรอก”

หมิงซี่หยินไม่ได้สนใจอะไรเฟิงชิง ตัวเขาเลือกที่จะเดินไปยังหุบเขาแทน ตัวเขาต้องการดูว่าไพ่ตายที่เฟิงชิงซ่อนเอาไว้คืออะไรกันแน่

เฟิงชิงที่เห็นแบบนั้นขมวดคิ้ว ตัวเขากำลังจะลุกขึ้นมาแต่กลับรู้สึกเย็นไปทั้งคอ สายลมอ่อนๆ ของหุบเขาได้พัดผ่านไปยังต้นคอของเขา ดูเหมือนว่าที่คอจะมีของเหลวไหลออกมา เฟิงชิงเอื้อมมือไปสัมผัสมันตามสัญชาตญาณ นิ้วของเขาเปื้อนไปด้วยของเหลวสีแดง ในไม่ช้าความเจ็บปวดก็ได้แผ่ซ่านจากลำคอลงไปสู่ร่างกาย เฟิงชิงอยากที่จะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่น่าเสียดายตัวเขาไม่อาจจะทำแบบนั้นได้ ชีวิตของเฟิงชิงกำลังจะหลุดลอยไปในขณะที่ตัวเขาเริ่มนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น

แม้ว่าหมิงซี่หยินจะรู้ว่าเฟิงชิงมีสมบัติล้ำค่าบางอย่างที่จะรักษาชีวิตของเฟิงชิงเอาไว้ได้ แต่ตัวเขาก็ไม่ได้เร่งรีบที่จะถอดมันออกมา หมิงซี่หยินระมัดระวังตัว สำหรับผู้ฝึกยุทธอย่างเฟิงชิง แม้ว่าตัวเขากำลังจะตายแต่มันก็มีแนวโน้มสูงว่าเฟิงชิงจะโจมตีตัวเขาอย่างสุดชีวิตในช่วงเวลาสุดท้าย หมิงซี่หยินคิดเอาไว้ว่าการที่เฟิงชิงเอาตัวรอดจากผู้เป็นอาจารย์ของเขาได้นั่นหมายความว่าการจะจัดการเฟิงชิงไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าเฟิงชิงอาจจะดูเหมือนคนธรรมดาทั่วไปแต่เขาคนนี้ก็ก็ได้ใช้ทั้งความคิดและความพยายามอย่างมากกว่าที่จะมาถึงตรงนี้ได้ อันที่จริงแล้วเฟิงชิงสวมชุดป้องกันบางอย่างเอาไว้ แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้ป้องกันคอ

ครู่ต่อมาในที่สุดหมิงซี่หยินก็เดินมาถึงหุบเขาจนได้

พื้นของหุบเขาที่ยืนอยู่เต็มไปด้วยตอไม้ ตอไม้ทั้งหมดต่างก็ถูกแกะสลักอะไรเอาไว้บางอย่าง นอกจากตอไม้แล้วมันยังมีกระท่อมที่แสนจะเรียบง่ายตั้งอยู่

ถ้าหากหมิงซี่หยินไม่คิดที่จะเดินมายังสถานที่แห่งนี้ตัวเขาก็คงจะไม่รู้เลยว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ หมิงซี่หยินไม่ได้รีบร้อนที่จะตรวจสอบมัน ท้ายที่สุดแล้วเฟิงชิงก็เคยพูดเอาไว้ว่าไพ่ตายของตัวเขามันซ่อนอยู่ที่นี่ หรือบางทีนี่อาจจะเป็นกับดักก็เป็นได้

เอี๊ยด!

ประตูกระท่อมถูกเปิดออก ในตอนนั้นเองเสียงอันเก่าแก่และนุ่มลึกก็ได้ดังขึ้น “ขอโทษทีที่ข้าไม่ได้ต้อนรับท่านแม้ว่าท่าจะเดินทางไกลมาก็ตาม”

หมิงซี่หยินสัมผัสได้ถึงพลังที่แฝงมากับน้ำเสียง ตัวเขาก้าวถอยหลังก่อนที่จะพูดออกมา “ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะมาล่วงเกินท่านหรอกนะ ผู้อาวุโส”

“เอ๊ะ?”

ตุ๊บ! ตุ๊บ! ตุ๊บ

หญิงชราหลังงอเดินออกมาจากกระท่อมไม้ นางใช้ไม้เท้าพยุงตัวก่อนที่จะเดินออกมาช้าๆ ในที่สุดนางก็เดินออกมาจากกระท่อมจนได้ นางมองไปที่หมิงซี่หยินในตอนที่แสงจันทร์ยังสลัว แม้ว่านางจะไม่ได้มีสายตาที่เฉียบคมอะไร แต่ถึงแบบนั้นนางก็พอจะแยกแยะได้ว่าใครเป็นใคร “หนุ่มน้อย เจ้าได้ฆ่าเฟิงชิงไปแล้วสินะ?”

หมิงซี่หยินที่ได้ฟังแบบนั้นหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ดูเหมือนว่าหญิงชราคนนี้จะรู้เรื่องนั้นดี

หญิงชราเหมือนจะเห็นความสับสนที่เกิดขึ้นบนสีหน้าของหมิงซี่หยิน นางได้หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงอันนุ่มลึกก่อนที่จะพูดต่อ “ข้าน่ะอาศัยอยู่ที่หุบเขาแห่งนี้มากว่าหลายปีแล้ว ไม่มีใครเลยที่จะมาเยี่ยมเยียนสถานที่แห่งนี้…เฟิงชิงเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มา”

“ท่านมาจากสำนักเจินชางอย่างงั้นสินะ?” หมิงซี่หยินพร้อมที่จะหลบหนีในทันที แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็สัมผัสถึงจิตสังหารจากหญิงชราไม่ได้เลย เพราะแบบนั้นหมิงซี่หยินจึงตัดสินใจพูดคุยต่อ

“ข้าไม่ได้มาจากที่นั่น”

“อืม เจ้าก็พูดได้นิหน่า” หญิงชราคนนั้นตอบกลับมา

“ถ้าเป็นแบบนั้นข้าน้อยขอลา”

“ช้าก่อน” หญิงชราคนนั้นพูดขึ้น “ข้าเคยสัญญากับเฟิงชิงเอาไว้อย่างหนึ่ง”

“แล้วมันคืออะไรกัน?”

“ข้าจะทำทุกอย่างด้วยพลังที่ข้ามีเพื่อที่จะฆ่าผู้ที่กล้าย่ามกายเข้ามาในหุบเขาแห่งนี้”

“…” หมิงซี่หยินพูดไม่ออก ความอยากรู้อยากเห็นของตัวเขากำลังจะฆ่าตัวเอง ถ้าหากหมิงซี่หยินรู้แบบนี้ตั้งแต่แรกตัวเขาก็คงจะไม่กล้าเข้ามายังที่แห่งนี้ “ช้าก่อนผู้อาวุโส! เฟิงชิงพยายามที่จะฆ่าข้าก่อน เพราะแบบนั้นข้าก็เลยต้องป้องกันตัว!”

หญิงชราคนนั้นมองไปที่ดวงจันทร์ที่อยู่ตรงข้ามกับหุบเขา “ถ้าหากเจ้าสามารถฆ่าเฟิงชิงได้จริง เจ้าก็ต้องมีพลังวรยุทธที่ลึกล้ำอยู่พอสมควร ข้าน่ะไม่ได้อยากจะรังแกคนหนุ่มแบบเจ้าหรอกนะ เอาล่ะพวกเรามาต่อสู้กันอย่างยุติธรรมเถอะ”

“ไม่ ไม่ ไม่…ท่านน่ะฝีมือสูงส่งเกินไป ไม่เหมาะที่ข้าจะเป็นคู่ต่อสู้ให้กับท่านหรอก ผู้อาวุโส” หมิงซี่หยินพยายามพูดออกมาให้นอบน้อมมากที่สุด “วันนี้ข้าก็แค่บังเอิญเท่านั้น ข้าก็แค่โชคดีที่จัดการเขาได้” หลังจากที่พูดมาถึงตรงนี้หมิงซี่หยินก็เผลอเอามือปิดปาก สิ่งที่ตัวเขาได้พูดออกมามันเท่ากับว่าตัวเขาได้ยอมรับไปแล้วว่าสังหารเฟิงชิง

“…” หญิงชราพยักหน้าอย่างช้าๆ นางเดินออกมาจากกระท่อมก่อนที่จะเดินไปยังตอไม้ “เจ้ากล้าหาญจริงๆ”

“ข้าไม่บังอาจ” หมิงซี่หยินถอยกลับ

“ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ถือสาข้ากับความตายของเจ้าหรอกนะ…ข้าจะต้องทำตามที่ได้สัญญาไว้” หญิงชราถอนหายใจออกมาเบาๆ “ไม่เป็นไรหรอก เจ้าน่ะอ่อนแอกว่าข้าก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างมันจะต้องเป็นไปอย่างราบรื่นแน่” หญิงชราเดินต่อไปโดยที่ไม่ใช้ไม้เท้าอีก

ช่วงเวลาที่นางก้าวเท้าไปบนตอไม้ ตอไม้ก็ได้ส่องแสงออกมา บนตอไม้มีผนึกเครื่องรางถูกสลักเอาไว้นั่นเอง

“เฟิงชิงเป็นผู้ท้าทายอาจารย์ของข้าโดยที่ไม่รู้จักประมาณพลังของตัวเอง เฟิงชิงรนหาที่ตายเอง…” หมิงซี่หยินพูดต่อ “อาจารย์ของข้าไม่ใช่คนที่ใจร้อนเลย” แม้ว่าจะพูดออกมาอย่างเคอะเขิน แต่ในตอนนี้หมิงซี่หยินจนมุมแล้ว ตัวเขาต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะเอาตัวรอด

“อาจารย์ของเจ้าอย่างงั้นเหรอ?”

“อาจารย์ของข้าคือปรมาจารย์ศาลาปีศาจลอยฟ้า, จีเทียนเด๋า”

ตุ๊บ

หญิงชราหยุดเดิน นางในตอนนี้ดูเหมือนกำลังใช้ความคิดอยู่

หมิงซี่หยินที่เห็นแบบนั้นรู้สึกโล่งใจ ‘เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ ชื่อของอาจารย์ช่างทรงพลังจริงๆ แม้แต่นางยังต้องสั่นสะท้านไปด้วยความกลัว’

“อาจารย์ของเจ้าเป็นไงบ้าง?” หญิงชราได้ถามออกมา

หมิงซี่หยินไตร่ตรองก่อนที่จะพูดออกมาอย่างไม่พอใจในตัวเอง “อาจารย์ของข้าฝึกฝนตัวเองไปถึงขั้นที่เก้าได้แล้ว เขาเป็นยอดฝีมือคนแรกที่สามารถฝึกฝนตัวเองไปถึงขั้นที่เก้าได้!”

พรึ๊บ!

ดอกไม้ได้พุ่งออกมาจากพื้นดิน มันเป็นพลังที่เกิดมาจากพลังแผ่สวรรค์ มันกำลังลอยไปหาหมิงซี่หยิน

ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!

หมิงซี่หยินยกมือขึ้นมาก่อนที่จะใช้พลังฝ่ามือ

ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม…!

ทุกๆ ครั้งที่พลังของทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกัน พลังแผ่สวรรค์ก็จะระเบิดพลังออกมา

ในเวลาเดียวกันหมิงซี่หยินก็ได้แต่ถอยกลับมา ตัวเขาทำได้เพียงปัดป้องพลังจากตอไม้เท่านั้น! หมิงซี่หยินตื่นตระหนก ดูเหมือนว่าหญิงชราคนนี้จะแข็งแกร่งกว่าที่หมิงซี่หยินเคยประเมินเอาไว้

“เจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เจ้าคิดว่าข้าจะถูกหลอกได้ง่ายๆ อย่างงั้นเหรอไงกัน?”

My Disciples Are All Villains

My Disciples Are All Villains

เรื่องย่อ

ลู่โจว ชายคนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลและพบว่าตัวเขานั้นกำลังอยู่ในร่างกายของใครบางคนอยู่ เขาคนนี้กำลังอยู่ในร่างกายของปรมาจารย์ผู้ชั่วร้ายนามว่าจีเทียนเด๋า

ชายคนนี้เป็นผู้ที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของโลกใบใหม่นั่นเอง! แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น ร่างกายของจีเทียนเด๋าผู้นี้นั้นแก่ชราเกินไป

พลังวรยุทธ์ทั้งหมดที่เคยมีเองยังสูญหายไปอีกด้วย นี่ฉันจะต้องกลายเป็นคนแก่ไร้ค่าไปแล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท