ตอนที่ 501 ราวกับฝูงดาวตก
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย
ใครเป็นคนเป่าขลุ่ยด้วยทักษะเช่นนี้? ท่วงทํานองของขลุ่ยได้ลอยอยู่บนสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ ท่วงทํานองนั้นแสนจะบริสุทธิ์ มันเป็นเสียงที่ไร้ซึ่งพลังลมปราณ เสียงที่พัดผ่านทุกคนทําให้ผู้ที่ได้ฟังรู้สึกหลงใหล
ความจริงที่เสียงดนตรีที่ธิดาหอยสังข์เป็นคนเล่นสามารถควบคุมสัตว์ร้ายเป็นที่รู้กันในศาลาปีศาจลอยฟ้าดีแต่อย่างไรก็ตามสําหรับสัตว์ร้ายอย่างเทียนกูว การที่สัตว์ที่มีนิสัยดุร้ายจะทําตามคําสั่งจากเสียงดนตรีได้ก็ยังเป็นเรื่องน่าตกใจอยู่ดี
หยวนเอ๋อที่เห็นแบบนั้นปรบมือกันที่จะพูดชื่นชม “ดี ดีมาก…หอยสังข์เปาขลุ่ยต่อไป แค่นี้นกยักษ์นั่นก็จะไม่กล้าโจมตีอีก!”
ฮัวยู่จึงไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ลูกศรพลังงานของนางมีพลังเทียบไม่ได้กับเสียงดนตรีที่มนุษย์ธรรมดาเล่นขึ้น? ฮัวยู่จึงอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังเด็กสาววัย 16 เสียงดนตรีของธิดาหอยสังข์ไพเราะจนไม่มีข้อบกพร่อง นอกจากนี้การเคลื่อนไหวและท่าทางของนางก็ยังดูงดงาม แววตาที่สาวน้อยเปาขลุ่ยมันดูเคร่งขรึมและแน่วแน่มาก บางที่นี่อาจจะเป็นพรสวรรค์โดยธรรมชาติของนางก็เป็นได้
ลู่โจวเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เทียนกวไม่ใช่สัตว์ร้ายธรรมดาๆ เทียนกูวตัวนี้ดูจะผ่านการฝึกฝนอะไรบางอย่างจากชาวรั่วหลี่จนทําให้มันมีพลังเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แม้ว่ามันจะไม่สามารถทําลายม่านพลังได้ แต่เห็นได้ชัดว่าการโจมตีของมันแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกันต้วนมู่เฉิงยังคงกวัดแกว่งหอกราชันย์อยู่ที่หน้าห้องโถงใหญ่
ลานนีและลูกน้องของเขาทั้งหมดกําลังล้อมต้วนมู่เฉิงไว้
หอกราชันย์ได้แทงไปทางซ้ายและขวาอย่างรวดเร็ว.
“ท่านผู้อาวุโส เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดแล้วเข้าสามารถอธิบายได้!” ลานนีไม่คาดหวังว่าลูกศิษย์ของศาลาปีศาจลอยฟ้าเพียงคนเดียวจะมีพลังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ในตอนนี้ศิษย์ของศาลาปีศาจลอยฟ้าเพียงคนเดียวยังสามารถสร้างความกดดันได้ถึงขนาดนี้ ยิ่งการต่อสู้กินเวลานานไป ดูเหมือนว่าเขาจะมีพลังการต่อสู้และเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วขึ้น ลานนีไม่รู้เลยว่าจะรับมือการต่อสู้ที่ยังคงเกิดต่อไปได้อีกนานแค่ไหน ยังมีสาวกอีกหลายคนที่กําลังเฝ้ามองดูการต่อสู้นี้อยู่ เมื่อทุกๆคนจากศาลาปีศาจลอยฟ้าเคลื่อนไหว เมื่อถึงตอนนั้นลานนีก็คงจะรับมือต่อไปไม่ไหวแน่
ต้วนมู่เฉิงพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “แล้วเจ้าจะอธิบายอะไรล่ะ? ตายซะ!”
ต้วนมู่เฉิงที่พูดออกมาไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหว ผลของการฝึกฝนใต้น้ําตกอย่างต่อเนื่องได้แสดงผลลัพธ์ให้เห็นอย่างชัดเจน ทั้งความเร็วและแม่นยําเพิ่มขึ้นจนไร้ที่ติ
ชาวรั่วหลี่เป็นผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นในเรื่องของความเร็ว, ความคล่องตัว และความแข็งแกร่งทางร่างกายมาโดยตลอด แต่ถึงแบบนั้นพวกเขาก็ถูกต้วนมู่เฉิงไล่ต้อนจนเป็นฝ่ายรับ
“มีใครบางคนใช้เวทมนตร์คาถากับเทียนกูว…พวกมันต้องการให้เทียนกูวโจมตีปรมาจารย์แห่งปีศาจลอยฟ้า!” ลานนีที่พยายามหลบเลี่ยงการโจมตีได้อธิบายเสียงดัง
ลู่โจวเงยหน้าขึ้นก่อนที่จะเหลือบมองเทียนกูว ในตอนนี้มันบินอยู่บนอากาศอย่างเชื่อฟัง
หมิงซูหยินที่ได้ฟังข้อแก้ตัวได้พูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าหากเจ้าจริงใจจริงแล้วทําไมเจ้าถึงต้องใช้เวทมนตร์คาถากับเทียนกวด้วยล่ะ?”
“หืม?” ลานนีขมวดคิ้วอย่างหนัก
“ข้าน่ะชอบวิธีที่เจ้าใช้หยั่งเชิงจริงๆ แต่ว่าถ้าหากเทียบกับทักษะที่ข้าใช้หยั่งเชิงล่ะก็ มันก็ยังไม่พอ!” ในที่สุดหมิงหยินก็เข้าร่วมการต่อสู้
ตู้ม! ตุ้ม!
ชาวรั่วหลี่ทั้ง 2 คนต้องรับมือกับหมิงซูหยินแทน
หมิงซูหยินที่เข้าร่วมการต่อสู้หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน “ตาแก่ หยุดเสียเวลาพูดแล้วก็เข้ามาซะ!” การเข้าร่วมการต่อสู้ของหมิงซูหยินทําให้กระแสการต่อสู้เปลี่ยนไปในทันที
ในขณะนั้นเองลานนีก็เริ่มโบกสะบัดมือไปมา การโบกสะบัดมือทําให้เกิดพลังฝ่ามือขึ้น พลังฝ่ามือได้พุ่งเข้าหาโลงศพ
ซูวว! ซูวว! ซูวว!
โลงศพที่อยู่ในห้องโถงใหญ่เริ่มเคลื่อนไหว
เมื่อลานนีถอยกลับมา ไม่นานพลังอวตารราชาหมาป่าก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
ห้ากลีบ!
เมื่อพลังอวตารปรากฏตัวขึ้น โลงศพที่ตั้งอยู่ที่ใจกลางห้องโถงใหญ่ก็ส่องแสงประกายสีแดงก่อนที่จะพุ่งเข้าหาลานนี
หมิงซูหยินที่อยู่ระหว่างทางรีบหลบโลงศพ
ต้วนมู่เฉิงไม่ได้ทําแบบนั้น ตัวเขาคิดที่จะใช้หอกราชันย์จู่โจมไปที่โลงศพอย่างรวดเร็วแทน แม้ ว่าจะใส่แรงแค่ไหนแต่บนโลงศพก็ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
“นี่มันทํามาจากอะไรกัน? ช่างแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้!”
โลงศพที่ได้รับแรงกระแทกเริ่มหมุนรอบตัวเอง มันหมุนรอบตัวเองก่อนที่จะพุ่งชนต้วนมู่เฉิง
ตุ้ม!
ต้วนมู่เฉิงที่จะถูกโจมตีรีบใช้หอกราชันย์สกัดกั้นมัน เป็นเพราะแรงกระแทกที่ตัวเขาได้รับทําให้ต้วนมู่เฉิงกระเด็นกลับมา
ในที่สุดความแปลกประหลาดของโลงศพก็ปรากฏให้เห็น
ต้วนมู่เฉิงไม่อาจจะทําอะไรโลงศพใบนั้นได้ แม้แต่พลังหอกราชันย์ที่เป็นอาวุธระดับสรวงสวรรค์เองก็ยังไม่อาจจะทําอะไรได้เช่นกัน!
ที่ผิวของโลงศพยังคงส่องแสงสีแดงจางๆออกมา ถึงแม้ว่ามันจะมีเส้นเขตแดนพลังสลักอยู่แต่การที่จะได้เห็นเส้นเขตแดนพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะพบเจอกันได้ง่ายๆ
เมื่อพลังลมปราณถูกควบแน่นจนกลายเป็นพลังงาน เมื่อถึงตอนนั้นมันก็จะเป็นพลังแสงสีทอง แล้วทําไมโลงศพใบนี้ถึงได้ส่องแสงสีแดงแทนล่ะ?
หมิงซูหยินไม่คิดที่จะโจมตีโลงศพ ตัวเขาพุ่งไปหาลานนี ผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังอวตารดอกบัวห้ากลีบแทน ถ้าหากผู้บงการโลงศพถูกจัดการได้ โลงศพเองก็ย่อมที่จะถูกหยุดเอาไว้เช่นกัน หมิงซูหยินที่คิดแบบนั้นได้หยิบเคียวพื้นพิภพก่อนที่จะพุ่งตัวไปด้วยความเร็วสูง!
ลานนีที่เห็นหมิงซูหยินได้ผลักฝ่ามือทั้งสองข้างออกมา พลังอวตารราชาหมาป่าของเขาก็ได้กระโจนเข้าใส่คู่ต่อสู้ สิ่งที่ทําให้น่ากลัวไม่ใช่พลังอวตาร แต่เป็นสีของดอกบัวทองคําต่างหาก สีของดอกบัวทองคําภายใต้อวตารราชาหมาปาส่องแสงสีแดงเช่นกัน
“สีแดง?” สีหน้าของลู่โจวเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตัวเขาคิดถึงสิ่งที่ได้อ่านเจอจากในตําราอีกครั้ง ข้าชอบสีทอง ไม่ใช่สีแดง หรือว่าสีแดงที่ว่าจะหมายถึงแบบนี้กัน?
ตุ้ม!
หมิงซูหยินรีบหยุดการโจมตีก่อนที่จะหลบการโจมตีของลานนี ตัวเขารีบพุ่งไปบนอากาศก่อนที่จะลอยตัวกลับมา เมื่อใช้สายตาจ้องมองไปที่ลานนีให้ดี หมิงซูหยินก็สังเกตเห็นพลังของลานนีที่ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วได้
“นี่มันอะไรกัน?” หมิงซูหยินเหลือบไปมองโลงศพ
ที่โลงศพในตอนนี้มีต้วนมู่เฉิงคอยรับมืออยู่
ใครจะเชื่อกันว่าผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังอวตารดอกบัวห้ากลีบเพียงคนเดียวจะสามารถรับมือกับต้วนมู่เฉิงและหมิงซูหยินในเวลาเดียวกันได้? แต่ถึงแบบนั้นทั้งต้วนมู่เฉิงและหมิงซูหยินเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังอวตารดอกบัวสามกลีบและสี่กลีบเท่านั้น คงจะเป็นเรื่องเย่อหยิ่งสําหรับพวกเขาจนเกินไปที่คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้แข็งแกร่งในโลกอันกว้างใหญ่
เส้นเขตแดนพลังสีแดงบนโลงศพนั้นช่างเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ไม่นานนักเส้นเขตแดนพลังทั้งหมดก็เริ่มส่องสว่างมากขึ้น
ตุ้ม!
แขนของต้วนมู่เฉิงรู้สึกชาจากแรงกระแทกที่ได้รับ ตัวเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถอยกลับมา
บัดนี้โลงศพได้ลอยอยู่ตรงหน้าของลานนี ที่ด้านข้างของเขาถูกขนาบไปด้วยเหล่าลูกน้องทั้งหลาย “ท่านผู้อาวุโสข้าก็แค่อยากจะเยี่ยมเยียนท่านเท่านั้น ข้าไม่ได้คิดที่จะมาเป็นศัตรูแต่อย่างใด เหตุใดพวกเราถึงต้องกลายเป็นศัตรูกันด้วย?”
หมิงซูหยินได้ตอบกลับอย่างเย็นชา “เก็บลมปากของเจ้าเอาไว้หายใจเถอะ อย่าได้คิดว่าเจ้าจะออกจากศาลาปีศาจลอยฟ้าไปได้ง่ายๆ ศาลาปีศาจลอยฟ้าไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าอยากมาก็มา อยากจะไปก็ไป”
กลยุทธ์ในการหยั่งเชิงถือเป็นเรื่องธรรมดาสําหรับชาวดินแดนหยาน ชาวดินแดนหยานต่างก็คุ้นเคยกับกลวิธีนี้ดีกว่าชาวรั่วหลี่
ลานนีมองขึ้นไปที่เทียนกูวก่อนที่จะพลิกฝ่ามือ
โลงศพหน้าเขาเริ่มหมุนอีกครั้ง
ลู่โจวยกฝ่ามือขึ้น
ในตอนนั้นเองพลังฝ่ามือก็ได้พุ่งไปทางโลงศพ
ตุ้ม!
โลงศพยังคงหมุนต่อไป
การใช้พลังฝ่ามือครั้งนี้ดูเหมือนจะทําให้ลานนีมีความสุขและตื่นเต้นขึ้นมา “ฮาฮ่า! ข้ารู้แล้ว! ท่านไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ!”
“หืม?” ลู่โจวรู้สึกงุนงง “ฉันก็แค่ใช้พลังฝ่ามือไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่เจ้านี่บอกได้ว่าฉันไม่ใช่ผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ เจ้านี่มันทําได้ยังไงกัน?”
ลานนีเริ่มหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “สิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริง โลงศพใบนี้เป็นของจริง และตํารานั่นก็เป็นของจริงเช่นกัน! เจ้าของโลงศพใบนั้นเคยพูดเอาไว้ มีเพียงผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบเท่านั้นที่มีพลังมากพอที่จะทําลายเขตแดนพลังของโลงศพใบนี้ได้ คนของดินแดนหยานช่างไร้ยางอาย พวกเจ้าไร้ยางอายขนาดไหนกันถึงกล้าแพร่ข่าวเท็จเกี่ยวกับพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบได้!” จู่ๆลานนีก็เริ่มสะบัดนิ้ว ในตอนนั้นเองมีลําแสงจากนิ้วพุ่งเข้าหาเทียนกูวที่อยู่บนอากาศ
แสงจากปลายนิ้วได้กระทบเข้าหาดวงตาของเทียนกูว
ฮิวว!
เสียงร้องของสัตว์ร้ายเทียนกวได้ดังขึ้น มันดังจนเกินกว่าที่จะทนรับไหว
ในเวลานั้นเองเสียงขลุ่ยก็ถูกหยุดลง!
ลู่โจวหันกลับไปมองธิดาหอยสังข์และหยวนเอ๋อที่ยืนอยู่บนศาลาทางใต้
หยวนเอ๋อและฮัวยู่จิงต่างก็ปกป้องสาวน้อยอยู่จากทางด้านหลัง
ลูกศรพลังงานถูกสร้างก่อนจะถูกยิงออกมาอีกครั้ง
ตู้ม! ตุ้ม! ตู้ม!
ในขณะเดียวกันลู่โจวก็มองเห็นลานนีที่กระโดดขึ้นไปบนโลงศพก่อนที่จะบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
ลู่โจวเหลือบมองการ์ดการโจมตีของเพชฌฆาตก่อนจะถอนหายใจออกมา ตัวเขาเริ่มคิดไปถึงพลังวิเศษจากเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์แทน หลังจากนั้นตัวเขาก็มองกลับไปที่ลูกน้องทั้งสองคนของลานนี “จัดการเจ้าพวกนั้นซะ”
ต้วนมู่เฉิงและหมิงซูหยินต่างก็พยักหน้าตอบรับอย่างพร้อมเพรียงกัน หอกและเคียวได้พุ่งเข้าใส่ชาวรั่วหลี่ทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว
ลู่โจวไม่คิดลังเลอีกต่อไป ตัวเขารีบลอยขึ้นไปบนอากาศ ลู่โจวกางแขนตรงก่อนที่จะผลักฝ่ามือออกมา พลังฝ่ามือสีฟ้าได้พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา ที่พลังฝ่ามือมีตัวอักษรสลักอยู่ด้วย มันเป็นตัวอักษรที่อ่านว่า “สละปัญญา” พลังฝ่ามือที่ลู่โจวได้ปล่อยออกมาดูทรงพลังราวกับจะทําลายโลกทั้งใบได้!
ในขณะที่ยืนอยู่บนโลงศพ ลานนีก็สัมผัสได้ถึงพลังฝ่ามือขนาดใหญ่ที่กําลังพุ่งตรงมา
พลังฝ่ามือขนาดใหญ่นั้นดูรุนแรงราวกับฝูงดาวตก
ตุ้ม!