Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 291

ตอนที่ 291

หลังจากคืนที่ ‘ได้อยู่คนเดียว’ แบบนี้ วาห์นรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป หรือถ้าพูดให้เจาะจงหน่อยก็คือมีบางอย่าง ‘หายไป’

รู้สึกว่าการประกอบร่างกับเฮสเทียทุกคืนนั้นได้ฝังเข้าไปอยู่ในสมองของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไรแอบแฝง แต่ตอนนี้ร่างกายดันมีปฏิกิริยาแปลกๆ ไปแล้วน่ะสิ

นานมากแล้วที่เขาสั่งเจ้าสหายร่วมศึกไม่ได้ และตอนเช้าๆ แบบนี้ก็ยิ่งทำให้มันตื่นตัวมากกว่าปกติ…

พอเดินลงมาทานข้าวเช้าและเห็นขอบตาที่ดำเป็นหมีแพนของเฮสเทีย วาห์นก็รู้เลยว่าเขาไม่ได้คิดเป็นตุเป็นตะไปคนเดียว สุดท้ายเขาก็ต้องอุ้มเธอกลับห้องด้วยความเป็นห่วง

วาห์นยังนวดให้เฮสเทียอีกเล็กน้อยและสังเกตเห็นว่าตอนนี้เธอมีปฏิกิริยาแบบเดียวกับโลกิแทนแล้ว หวังว่าเธอจะอาการดีขึ้นหลังจากได้นอนอีกสักตื่น

สำหรับเรื่องอื่นๆ ในคฤหาสน์ ตอนนี้อาคิได้กลายมาเป็น ‘ศูนย์รวมข้อมูล’ ของทุกคนไปแล้ว เพราะเธอตอบคำถามได้หมดทุกอย่าง ไม่ว่ามันจะเป็นปัญหาจุกจิกแค่ไหนก็ตาม

แม้จะเคารพในตัวริวแบบสุดๆ เหมือนเดิม แต่บางครั้งความเงียบและสีหน้านิ่งๆ ของเอลฟ์สาวก็ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกว่าเธอเป็นคนที่เข้าหาได้ยาก

เพราะอาคิมาช่วยดูแลตรงจุดนี้ วาห์นก็เลยมีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้น

เขารู้สึกแปลกใจมากที่เห็นฮารุฮิเมะไปนั่งข้างอาคิแทนที่จะพยายามมานั่งข้างตัวเองเหมือนเช่นทุกวัน

ช่วงนี้จิ้งจอกสาวคงกำลังปรับตัวอยู่ และวาห์นเชื่อว่าเธอน่าจะพยายามเข้าหาเขาในลักษณะที่ ‘เป็นธรรมชาติ’ มากกว่าเดิม

หากไม่ใช่เพราะออร่าสีชมพูที่โถมใส่เขาไม่หยุด วาห์นก็คงเชื่ออย่างสนิทใจว่าฮารุฮิเมะเริ่มเปลี่ยนมาคิดเรื่องอนาคตของตัวเองแทนแล้ว

ที่เปลี่ยนไปมากอีกคนเห็นจะเป็นพรีเซีย เพราะช่วงนี้เธอค่อนข้างเปิดใจรับและคุยกับคนอื่นมากขึ้น โดยเฉพาะกับฮารุฮิเมะ มิโคโตะ และเฟนเรียร์

เพราะเฟนเรียร์ชอบให้มีคนมาแปรงขนให้ เธอก็เลยสนิทกับฮารุฮิเมะมากเป็นพิเศษ

ภาพที่ทั้งสองผลัดกันแปรงขนให้กันนั้นกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเห็นได้ทั่วไป

วาห์นยังตระหนักด้วยว่าช่วงนี้เฟนเรียร์ควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าแต่ก่อน แถมตอนนี้ก็ไม่ต้องเข้าดันเจี้ยนเพื่อ ‘ระบายอารมณ์’ เลยด้วย

นี่อาจเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก แต่วาห์นก็ยังอยากให้เด็กสาวมีชีวิตปกติโดยไม่ต้องมาพะวงกับเรื่อง ‘ความหิว’ อีกเลย

ไม่กี่วันต่อมา ตอนนี้วาห์นรู้สึกว่าทุกอย่างมันช่างดูสงบซะเหลือเกิน

หลังจากเริ่มนำกฎต่างๆ ออกมาใช้ ทุกอย่างในคฤหาสน์ก็ดูเรียบร้อยมาก

ถ้าไม่เดินไปคุยกับใครแบบเจาะจง วาห์นก็จะใช้เวลาไปกับงานและเวลาว่างของตัวเองแทน

เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าการมีเวลาส่วนตัวจะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตได้มากขนาดนี้

นอกจากนั้นแล้วเขายังหาเวลาไปเรียนเรื่องการจัดการแฟมิเลียจากอาคิด้วย… บางครั้งก็เลิกเรียนเร็วหน่อยและเปลี่ยนไปเล่นสนุกกับเธอแทน

แต่ช่วง ‘เล่นสนุก’ นี่แหละที่ทำให้วาห์นมีโอกาสได้ตรวจสอบค่าสถานะต่างๆ ของริวและอาคิ

ริวนั้นค่อนข้างโอเคกับการใช้ชีวิตของวาห์นในตอนนี้ เพราะมันทำให้ทั้งสองมีเวลาอยู่ด้วยกันแบบสองต่อสองมากขึ้น

เพราะเป็นพวกที่ไม่ชอบแสดงความรักเมื่อมีคนอื่นอยู่ด้วย ก่อนหน้าที่เธอก็เลยได้แต่เก็บมันไว้ในใจ

มีอยู่วันนึงที่ริวได้อยู่คฤหาสน์นานหน่อย ทั้งสองก็เลยไปนั่งเล่นกันอยู่ที่ห้องสมุดพลางคุยเรื่องความก้าวหน้าของสาวๆ แต่ละคนไปด้วย

พวกเขาไม่ได้ทำอะไรที่หวือหวาจนเกินไปนัก แต่อย่างน้อยๆ วาห์นก็ได้เห็นท่าทางเขินอายในตอนที่อีกฝ่ายโดนเขาแง่มหู

(A/N: นักผจญภัยเลเวล 4 แน่นอนว่าสกิลเพียบ

———————————————————————————-

[[ค่าสถานะ]]

ชื่อ: ริว ไลอ้อน

เผ่าพันธุ์: เอลฟ์

เลเวล 4

พลังโจมตี: F385

ความอดทน: F311

ความแม่นยำ: B798

ความว่องไว: A804

พลังเวท: C645

สกิล: [เอโอลัส:สกิลแฝง(ถูกผนึก)], [ภูติน้อยขับกล่อม:C], [ประจุพลัง:C], [เอโร่มานา:A], [ร่ายเวทต่อเนื่อง:A]

เวทมนตร์: [จ้าวแห่งสายลม:สกิลแฝง(ถูกผนึก)], [ลูมินัสวินด์:B], [โนอาห์ฮีล:D]

สกิลที่กำลังพัฒนา: [นักล่า:B], [ต้านทานสภาวะผิดปกติ:B], [ต้านทานเวทมนตร์:C]

[ภูติน้อยขับกล่อม]

ระดับ:C

การใช้งาน: เพิ่มประสิทธิภาพของเวทมนตร์ในช่วงเวลากลางคืน

[ประจุพลัง]

ระดับ:C

การใช้งาน: เพิ่มพลังโจมตีตามปริมาณมานาที่ใส่ลงไป

[เอโร่มานา]

ระดับ:A

การใช้งาน: เพิ่มพลังโจมตีตามความเร็วในการวิ่งของผู้ใช้

[ร่ายเวทต่อเนื่อง]

ระดับ:A

การใช้งาน: ทำให้ผู้ใช้สามารถร่ายเวทในระหว่างเคลื่อนที่ได้ เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมพลังเวทและยับยั้งผลสะท้อนจากการที่เวทมนตร์ถูกขัดจังหวะ

[ลูมินัสวินด์]

ระดับ:B

การใช้งาน: เวทมนตร์โจมตีที่อัญเชิญละอองดาวสีเขียวลงมาฟาดฟันศัตรู

บทร่าย: ณ ท้องนภาแห่งผืนป่าอันไกลโพ้น หมู่ดาราเจิดจรัสท่ามกลางความมืด โปรดฟังเสียงจากข้าผู้น้อย ปกปักษ์รักษาด้วยเพลิงแห่งดารา แผ่แสงแห่งเมตตาแด่ผู้ที่เคยทอดทิ้งเจ้า จงมาเถิด วายุพเนจร วายุผู้ท่องไปทั่ว ข้ามผ่านท้องฟ้า มุ่งสู่แดนไพร รวดเร็วเหนือสิ่งอื่นใด อาบแสงแห่งดาวเดือน พิชิตศัตรูให้สิ้น

[โนอาห์ฮีล]

ระดับ:D

การใช้งาน: เวทมนตร์ที่ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บและฟื้นฟูค่าพละกำลังบางส่วน

บทร่าย: บทเพลงแห่งผืนป่าอันไกลโพ้น เสียงแห่งชีวิตอันแสนคิดถึง ขอจงโปรดเผื่อแผ่เมตตา รักษาผู้ที่พาลพบเจ้า

[นักล่า]

ระดับ:B

การใช้งาน: เสริมความสามารถต่างๆ เมื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่เคยสู้ชนะไปแล้ว

[ต้านทานสภาวะผิดปกติ]

ระดับ:B

การใช้งาน: สลายผลของสภาวะผิดปกติ เช่นการติดพิษ โดยประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับระดับสกิล

[ต้านทานเวทมนตร์]

ระดับ:C

การใช้งาน: เพิ่มความต้านทานต่อการโจมตีด้วยเวทมนตร์

———————————————————————————-

[[ค่าสถานะ]]

ชื่อ: อันนาคิตตี้ ออทั่ม

เผ่าพันธุ์: มนุษย์แมว

เลเวล 4

พลังโจมตี: E441

ความอดทน: F320

ความแม่นยำ: C605

ความว่องไว: C663

พลังเวท: G206

สกิล: [ตรึงใจ:สกิลแฝง(ถูกผนึก)], [แผดเสียงสั่งการ:D], [ย่างก้าวไร้สัมผัส:D]

เวทมนตร์: [ทำนองฉับพลัน:C]

สกิลที่กำลังพัฒนา: [นักล่า:B], [ต้านทานสภาวะผิดปกติ:C], [นักดาบ:B]

[นักดาบ]

ระดับ:B

การใช้งาน: เพิ่มความเข้าใจของสกิลและเทคนิคการใช้ดาบ ช่วยเพิ่มความสามารถในการจับการเคลื่อนไหวและระยะการรับรู้ของผู้ใช้ขึ้นในระดับหนึ่ง

[แผดเสียงสั่งการ]

ระดับ:D

การใช้งาน: เพิ่มระดับเสียงของผู้ใช้ขึ้นตามระดับความเครียด ทำให้เสียงสั่งการกระจายออกไปไกลกว่าเดิม

[ย่างก้าวไร้สัมผัส]

ระดับ:D

การใช้งาน: เพิ่มความเข้าใจด้านการเคลื่อนไหวและฟุตเวิร์ค เพิ่มความสามารถที่เกี่ยวกับการอำพรางตัวในระดับปานกลาง

[ทำนองฉับพลัน]

ระดับ:C

การใช้งาน: เพิ่มค่าความว่องไวของเป้าหมาย

บทร่าย: พายุร่อนเร่ จงแปรเปลี่ยนเป็นท่วงทำนอง~!

[นักล่า]

ระดับ:B

การใช้งาน: เสริมความสามารถต่างๆ เมื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่เคยสู้ชนะไปแล้ว

[ต้านทานสภาวะผิดปกติ]

ระดับ:C

การใช้งาน: สลายผลของสภาวะผิดปกติ เช่นการติดพิษ โดยประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับระดับสกิล

———————————————————————————-

อย่างที่คาดไว้ไม่ผิด เพราะวาห์นค่อนข้างมั่นใจว่าริวกับอาคินั้นต้องมีสกิลแฝงอยู่อย่างน้อยๆ หนึ่งสกิล

ดูเหมือนว่ายิ่งมีบทบาทในเนื้อเรื่องเดิมมากเท่าไหร่ ตัวละครตัวนั้นก็จะมีสกิลแฝงที่แข็งแกร่งตามไปด้วยดั่งเช่นในกรณีของฮารุฮิเมะกับริว

ช่วงนี้วาห์นเริ่มรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสกิลแฝงขึ้นมาบ้างแล้ว

ข้อมูลดังกล่าวนั้นยังรวมถึงอิทธิพลของพวกมันต่อการเติบต่อของเจ้าของสกิลและการใช้งานด้วย… ทว่าอย่างหลังนี่คงต้องรอให้สกิลของใครสักคนตื่นขึ้นมาเสียก่อน

เขารู้ว่าการพัฒนาสกิลแฝงนั้นเป็นอะไรที่ยากสุดๆ จนมันอาจไม่มีวันตื่นขึ้น

ต่อให้ใช้วิธีกระตุ้นด้วยการเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงชีวิตก็อาจไม่ได้ผล เพราะสกิลของแต่ละคนนั้นมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป…

—————
ผล.งาน.ถูกขโมยมาจาก: EP:IC Translation และ Thai Novel : https://bit.ly/34ApcTP

—————

เมื่อมาถึงช่วงสุดสัปดาห์ หลายๆ อย่างในคฤหาสน์ก็ได้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

พอมิลานกับทีน่ามาถึง พวกเธอก็ได้รับการต้อนรับอย่างพร้อมเพรียงจากเหล่าสมาชิกในคฤหาสน์ทุกคน

จากนั้นวาห์นก็ได้ใช้เวลาอยู่กับสองแม่ลูกอย่างเต็มที่

ทีน่านั้นดูสงบลงกว่าเดิมมากเมื่อเทียบกับตัวเธอในอดีต แต่อย่างน้อยเธอก็ยอมเปิดใจคุยกับทุกคน

เด็กสาวตัวน้อยดูสนิทกับเฟนเรียร์และพรีเซียมากที่สุด ที่รองลงมาหน่อยก็คือพวกคู่แฝด

ฮารุฮิเมะเองก็อยากไปตีสนิทกับทีน่าเช่นกัน แต่สุดท้ายเธอก็โดนมิโคโตะและมิลานลากไปเก็บเพราะกลัวว่าจะหลุดอะไรที่ไม่ดีออกไป… ตัวฮารุฮิเมะเองนั้นยังต้องปรับต้องสอนกันอีกเยอะ

แต่ยิ่งทุกอย่างสงบเท่าไหร่ วาห์นกลับยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น

เขาอยากออกไปทำอะไรสักอย่างข้างนอกมากกว่าอุดอู้และ ‘ผ่อนคลาย’ อยู่แต่ในคฤหาสน์

ช่วงนี้จะเอาเวลาไปทำเสื้อผ้าหรืออุปกรณ์เพิ่มก็ได้ แต่ไอ้ความรู้สึกที่ว่า ‘ทุกอย่างมันราบรื่นเกินไป’ มักทำให้เขาสมาธิหลุดตลอด

อีกสองสัปดาห์ก็จะถึงงานเดนาตัสครั้งหน้าแล้ว วาห์นคิดว่ามันคงจะเต็มไปด้วยอุปสรรคและการเปลี่ยนแปลงอันน่าเหลือเชื่อที่ไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึง

มีบางเรื่องที่เขาต้องไปจัดการก่อนที่วันนั้นจะมาถึง ทั้งการตั้งครรภ์ของโลกิ การออกไปพบกับสาวๆ ที่ไม่ได้มาคฤหาสน์ รวมไปถึงการจัดการกับอิชทาร์แฟมิเลีย

ถึงเขาจะได้อยู่กับเฮสเทียเกือบตลอด แต่บางครั้งหัวใจก็รู้สึก ‘คันๆ’ เมื่อหวนนึกถึงคนรักคนอื่นอย่างโลกิและเฮเฟสตัส

เพราะมี ‘เวลาว่าง’ เหลือเฟือ วาห์นเลยได้คิดเรื่องการออกเดตในสถานที่ใหม่ๆ วิธีพูดคุยกับพวกสาวๆ หรือแม้แต่บรรยากาศและสถานที่สำหรับการมีครั้งแรกกับพวกเธอ

เพราะไม่สามารถออกไปที่ ‘เจ้าของร้านผู้เพรียบพร้อม’ ได้ วาห์นก็เลยไม่ได้เจอกับโคลอี้ รวมถึงสาวๆ คนอื่นอย่างซีล อาเนีย และลูนัวร์ด้วย

วาห์นยังอยากไปเยี่ยมโมน่าและชิซูเนะเช่นกัน เพราะยังไงทั้งสองก็เป็นคนที่เขาช่วยออกมาจากกลุ่มพ่อค้าทาส

พอวาห์นคิดเรื่องนี้แล้ว เขาก็เลยกลับไปคิดเรื่องการพบปะและสังสรรกับผู้ชายคนอื่นๆ เพราะดูเหมือนตัวเองยังคาดความรู้ความเข้าใจในมุมมองของผู้ชายอยู่หลายอย่าง

วาห์นรู้ว่าการมีภรรยาหรือคนรักหลายคนมันไม่ใช่เรื่องแปลก… แต่เขาก็ไม่เคยเห็นใครที่มีคนรักมากมายเท่ากับตัวเองมาก่อน

เมื่อนึงถึงปฏิกิริยาของเวลฟ์ในอดีต วาห์นก็เริ่มตระหนักว่าสถานภาพของตัวเองนั้นค่อนข้างนักหน่วงมาก และสักวันมันอาจดำเนินมาถึงจุดที่เขาควบคุมไม่อยู่

วาห์นหวังว่าเอน่าจะช่วยจัดการเรื่องนี้เมื่อเธอย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังพิธีแต่งงาน

ถึงจะมีความสนใจในตัวผู้หญิงหลายคน แต่วาห์นก็รู้ว่าสุดท้ายแล้วเขาอาจจะรักพวกเธอได้ไม่เท่ากัน นี่คือเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก

ตั้งแต่ตอนที่อาคิพูดเตือนเรื่องการเปลี่ยนแฟมิเลียไปเเป็น ‘ฮาเร็ม’ ส่วนตัว วาห์นก็พยายามคิดหาทางแก้ไขมาตลอดเพราะไม่อยากให้คนนอกมองเฮสเทียแฟมิเลียในมุมแปลกๆ

อย่างแรกเลยก็คือต้องไปคุยกับเหล่าคนรักทั้งหลาย และพยายามเข้าหาผู้หญิงให้น้อยลง

การอยู่กับอาคิและเฮสเทียทำให้วาห์นได้รู้ว่าความสัมพันธ์นั้นมีหลายระดับ

แม้จะ ‘เล่นสนุก’ กับอาคิหลายครั้งและทำให้ค่าความชื่นชอบเพิ่มมาเป็น 85 แต่พอเธอสงบลง มันก็จะกลับไปเป็น 80 เหมือนเดิม

ทว่าเฮสเทียนั้นมักจะอยู่ในสภาพตื่นเต้นตลอดแบบไม่มีลง นั่นทำให้วาห์นต้องสยบเธอด้วยวิธีต่างๆ เพื่อกันไม่ให้ร่างกายของเทพตัวเล็กทำงานหนักจนเกินไป

เพราะวาห์นไม่สามารถแต่งงานกับผู้หญิงทุกคนได้ เขาเลยเข้าใจว่าบางความสัมพันธ์อาจเป็นแค่เรื่องชั่วคราวเท่านั้น

ถามว่าเศร้าไหม? ก็ต้องเศร้าอยู่แล้ว เพราะมีหลายคนที่เขารู้สึกหลงใหลตั้งแต่ร่างกายไปจนถึงจิตใจ

วาห์นไม่มั่นใจว่าการทำอะไรกับพวกเธอนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะถ้าหากวันนึงมีบางคนที่ตัดสินใจเดินจากไปล่ะ?

สิ่งเดียวที่วาห์นห่วงก็คือความสุขของพวกเธอเอง แต่การแยกจากคนที่ห่วงใยยังไงมันก็ทำให้รู้สึกเศร้าอยู่ดี

ถ้าดูแลได้ไม่ดีพอหรือทำให้สาวๆ พอใจไม่ได้ สักวันพวกเธอก็คงเริ่มเหินห่างเหมือนอย่างที่อาคิทำกับราอูล

ทว่าการได้เห็นว่าอาคิยังมีใจให้ราอูลอยู่เล็กน้อยนั้นยิ่งทำให้วาห์นงงหนักกว่าเดิมนี่สิ…

หนึ่งในเรื่องที่ทำให้วาห์นรู้สึกเซ็งนิดหน่อยก็คือการที่ทีโอน่าและทีโอเน่ไม่ได้มาที่นี่เนื่องจาก ‘เหตุส่วนตัว’

ตั้งแต่จบการต่อสู้ในวันนั้น สภาพจิตใจทีโอเน่ก็เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จนเจ้าตัวตกอยู่ในสภาพตื่นตัวตลอด

หลังจากที่เรื่องแพร่งพรายออกไป ทีโอเน่ก็โดนคาดโทษอย่างหนักและไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบวาห์นไปอีกนาน

เพราะช่วงนี้ทีโอเน่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ทีโอน่าก็เลยต้องอยู่คุมซึ่งทำให้เธอพลอยมาที่นี่ไม่ได้ด้วยเช่นกัน

ตอนนี้ทั้งคู่ก็เลยไปปลดปล่อยความบ้าคลั่งอยู่ในดันเจี้ยน ลำบากริเวเรียกับแกเร็ธที่ต้องคอยตามไปคุมอีกต่อ

เรื่องดังกล่าวทำให้เกิดอีเว้นท์ประหลาดๆ อย่างการที่ไอส์กับเลฟิย่าแวะมานั่งเล่นในห้องทำงานของวาห์นแค่สองคน

พอได้เห็น ‘หุ่นจำลอง’ ของตัวเอง สายตาของไอส์ก็ลุกวาวจนวาห์นต้องนำสายวัดออกมาวัดสัดส่วนล่าสุดของเธอ ตามมาด้วยการให้ลองเหล่าเสื้อผ้าที่เขาทำขึ้นมาบ้างแล้ว

เพราะเธอมักจะคล้อยตามทุกอย่างที่ไอส์ทำ เลฟิย่าก็เลย(เผลอ)ปล่อยให้วาห์นวัดตัวด้วยอีกคน… จากนั้นก็รีบให้เขาสัญญาว่าจะไม่ไปบอกเรื่องนี้กับคนอื่น

มันอาจไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไรนัก แต่วาห์นก็ดีใจที่เห็นพวกเธอสวมชุดที่เขาเป็นคนออกแบบเองกับมือ

ไอส์นั้นไม่พลาดเรื่องทำคะแนนอยู่แล้ว ไม่นานเธอก็ขอให้วาห์นเป็นคนสวมและถอดชุดให้ด้วยตัวเอง

นอกจากมันจะสนุกแล้ว วาห์นยังได้ตรวจสอบสัดส่วนของพวกเธออย่างละเอียดด้วย… จนความคิดแปลกๆ เริ่มแล่นเข้ามาในหัว

‘เปลี่ยนจากนักผจญภัยไปเป็นช่างตัดเสื้อดีไหมนะ?’

วันนี้วาห์นได้ตระหนักอีกอย่างแล้วว่าตัวเองนั้นชอบสร้างสิ่งของต่างๆ ให้คนที่ห่วงใยใช้

ที่จริงแล้ววาห์นออกจะชอบอะไรแนวนี้มากกว่าการตีเหล็กในโรงหลอมซะอีก ส่วนที่ทำไปทั้งหมดนั่นก็เพื่อเฮเฟสตัสล้วนๆ

หลังจากตีแหวน [คำสัญญา] ขึ้นมา วาห์นก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอีกเลย

อย่างมากเขาก็แค่ร่างแบบแปลนอุปกรณ์ต่างๆ ไว้สำหรับโครงการในอนาคต

เขาเดาว่าแรงบรรดาลใจคงจะกลับมาอีกครั้งเมื่อถึงยามจำเป็น ตัวอย่างเช่นมีคนขอ หรือไม่ก็อยากหารายได้พิเศษ…

“วาห์น… ทำชุดชั้นในได้หรือเปล่า?”

ไอส์มักจะสวมชุดแบบเปิดหลัง นั่นทำให้ตัวเลือกชุดชั้นในของเธอมีไม่มาก ส่วนใหญ่ก็แค่ใช้เทปแบบเดียวกับที่นักผจญภัยหญิงใช้กัน

พอได้ยินแบบนั้นแล้ว แม้แต่เลฟิย่าเองก็เปรยออกมาแบบเขินๆ ว่าอยากได้สักชิ้นเหมือนกัน

วาห์นเห็นภาพนี้เข้าไปก็ถึงกับเกิดอาการ ‘หัวใจละลาย’ ตามมาด้วยแรงบรรดาลใจที่แล่นกลับมาอย่างรวดเร็ว

(A/N: ในเรื่องอาจจะบรรยายไม่ชัดเจนว่านี่คือการข้ามเวลามาประมาณ 6 วันนะครับ อีก 14 วันก็จะถึงงานเดนาตัสแล้ว~!

สำหรับคนที่รู้สึกว่าการมาของอาคินั้นเป็นเรื่องที่แปลก… หน้าที่หลักๆ ของเธอก็คือช่วย ‘จัดการ’ แฟมิเลียเป็นหลักครับ

ส่วนหน้าที่อีกอย่างที่โลกิกำชับมาก็คือคอยจับตาดูวาห์นกับเฮสเทีย

วาห์นอาจจะเป็นนักผจญภัยที่เก่งพอตัว แต่ตอนนี้เขายังไม่ค่อยมีคุณสมบัติของผู้นำ รวมถึงความรู้ในการบริหารจัดการคนจำนวนมาก

ริวทั้งแข็งแกร่งและมาดนิ่ง แต่แม้แต่เธอเองก็ยังขาดความเป็นผู้นำ เธอออกจะเหมาะกับแนวผู้ตามมากกว่า

อาคิเป็นนายกองที่มากประสบการณ์และรู้หลักการทำงานของแฟมิเลียเป็นอย่างดี รวมไปถึงเรื่องการเตรียมการก่อนเข้าสู่ดันเจี้ยนด้วย

เธอเป็นหน่วยสนับสนุนตั้งแต่อายุ 12 ปี และกลายเป็นนักผจญภัยเต็มตัวเมื่ออายุครบ 14 ปี

นอกจากมีความรู้มายมากแล้วเธอยังเป็นผู้หญิงที่มั่นคง และไม่ต้องพึ่งพาวาห์นแบบพวกสาวๆ ที่เขาช่วยออกมาจากย่านโคมแดง

บางคนบอกว่าบทของเธอกำลังทับซ้อนกับเอน่า ขอบอกไว้เลยนะครับว่าพวกเธอทั้งสองมีบทบาทต่างกัน

อาคิจะมาดูแลให้แน่ใจว่าเฮสเทียแฟมิเลียทำงานได้ตามปกติ ส่วนเอน่านั้นหลักๆ แล้วเธอจะมาดูแลให้แน่ใจว่าวาห์นทำงานได้ตามปกติครับ o3o)

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท