Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 281

ตอนที่ 281

หลังจากอัพเดทกระดานค่าสถานะเสร็จแล้ว วาห์นก็อธิบายการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ให้ฮารุฮิเมะฟัง

เธอดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อรู้ว่าตัวเองได้รับสกิล [จิตวิญญาณฟื้นฟู] ซึ่งเป็นสกิลที่สำคัญมากสำหรับเหล่าจอมเวทและหน่วยสนับสนุนเฉพาะทาง

เพราะค่าพลังเวทที่สูงลิ่วของฮารุฮิเมะ เธอน่าจะได้รับมันหลังจากที่ขึ้นเป็นเลเวล 2 หรือมากกว่านั้น

นอกจากจะได้สกิลนี้มาแบบฟรีๆ แล้ว มันยังเป็นหลักฐานยืนยัน ‘ความผูกพัน’ ระหว่างเธอกับวาห์นอีกด้วย

แต่ก่อนที่ฮารุฮิเมะจะได้โผเข้ามากอด วาห์นก็ยกมือมาจับไหล่ไว้เสียก่อน

“ฮารุฮิเมะ กิโมโน…” เพราะตอนนี้มันก็ยังห้อยอยู่ที่เอวของเธออยู่เลย…

ฮารุฮิเมะก้มมองหน้าอกเปลือยเปล่าของตัวเองก่อนจะเอามือไปกุมที่ตำแหน่งหัวใจ

“ฉันรู้สึกได้ค่ะ… เหมือนกับว่ามีบางอย่างกำลังลุกไหม้อยู่ตรงนี้

มันทำให้ฉันรู้สึกมีพลังเพิ่มขึ้น…”

วาห์นยิ้มแห้งๆ หลังจากที่คำพูดโดนเมิน สุดท้ายเขาก็เลยต้องจับมันขึ้นมาสวมให้เธอเอง ฮารุฮิเมะหลับตาพริ้มจนกระทั้งวาห์นยกมือขึ้นมาลูบใบหูของเธอ

“ฉันจะช่วยอีกแรงนะ ขอให้พยายามต่อไปเรื่อยๆ

รับรองว่าต้องทำได้แน่”

เรนาร์ดสาวยิ้มอ่อนและเริ่มจัดเครื่องแต่ตัวที่เหลือก่อนจะกลับไปใช้ท่าทางสง่างามตามปกติ

เธอลงมานั่งชิดไหล่ของวาห์นพร้อมกับหยิบหนังสือที่เขาวางไว้ขึ้นมาเปิด

วาห์นใช้มือพาดไปกับหลังโซฟาขณะปล่อยให้ฮารุฮิเมะเข้ามาหนุนตรงแผงอกและอ่านหนังสือให้ฟัง

นี่เป็นการ ‘อ่านหนังสือ’ แบบใหม่ที่วาห์นไม่เคยลองมาก่อน และตอนนี้เขาก็กำลังนอนหลับตาขณะใช้มือซ้ายลูบไล้หางของเธอไปด้วย

ทุกอย่างดูผ่อนคลายเมื่อทั้งคู่อยู่ด้วยกันแบบนั้น ไม่มีเรื่องให้กังวล ไม่ต้องทำให้อะไรให้มากความ

วาห์นเริ่มคิดหาวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฮารุฮิเมะอย่างจริงจัง เพราะจะให้เขามาคอยปกป้องทุกคนตลอดเวลามันก็คงเป็นไปไม่ได้หรอก

หากทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ ความเครียดของเขาก็จะสะสมมากขึ้น แถมพวกที่ก้าวหน้าไปมากก็อาจจะรู้สึกไม่พอใจด้วย…

บรรยากาศในช่วงเวลาที่เหลือของวันนั้นออกจะอึมครึมหน่อยๆ

สาเหตุหลักก็เป็นเพราะเฮสเทียพยายามเข้ามาสวีทกับวาห์นทุกครั้งที่มีโอกาสนี่แหละ

ในช่วงบ่าย วาห์นใช้สมาธิไปกับการออกแบบอุปกรณ์โดยพยายามเน้นหนักไปที่ ‘การใช้งาน’ แทน

เขาไม่อยากเปลี่ยนรูปแบบภายนอกโดยที่ยังไม่ได้รับข้อเสนอแนะจากตัวผู้สวมใส่ นอกจากนั้นแล้ว ทีโอน่ากับไอส์ก็ยังอยู่ในช่วงวัยกำลังโตด้วย

ไอส์นั้นดูเด็กมากเมื่อเทียบกับตัวเธอในอีก 2 ปีข้างหน้า นั่นหมายความว่าวาห์นคงจะได้แก้แบบของเธออีกหลายรอบด้วยกัน

พอถึงช่วงมื้อเย็น วาห์นก็รู้สึกเศร้าหน่อยๆ ที่สองสาวไม่ได้แวะมาหา

แต่หลังจากได้คุยกับเฮสเทียที่เพิ่งติดต่อไปหาโลกิ เธอก็เล่าว่าทั้งสองน่าจะมาเยี่ยมในวันพรุ่งนี้แทน

วาห์นอมยิ้มนิดๆ หลังจากรู้ข่าว แต่นั่นกลับทำให้เฮสเทีย ‘เครื่องติด’ จนเธอต้องลากเขาไปอาบน้ำด้วยกัน

วาห์นคิดว่าสภาพจิตใจของเฮสเทียในตอนนี้ดูไม่มั่นคงเอาซะเลย แต่ลองนึกกลับกัน ถ้าตัวเองเป็นผู้หญิงที่เพิ่งจะเสียความบริสุทธิ์ซึ่งเก็บรักษามานานหลายล้านปีไป… เขาจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้เชียวเหรอ?

แต่อย่างน้อยๆ วาห์นก็ควรจะดีใจที่เธอมอบมันให้กับเขา

ดังนั้นสิ่งที่ชายหนุ่มพึงกระทำก็คือ คอยดูแลปรนนิบัติเธอต่อไปโดยไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

ถึงตอนนี้เฮสเทียจะดูงี่เง่าแบบเลยเถิดไปหน่อย แต่วาห์นเชื่อว่าเวลาและสายสัมพันธ์ของสาวๆ ในเครือข่ายจะช่วยเยียวยาเธอเอง

ขณะที่ยังอาบน้ำกันไม่เสร็จ เฮสเทียก็เริ่มเกิดความคิด ‘แจ่มๆ’ ขึ้นมาอีกแล้ว

ตอนนี้ทั้งคู่ก็อยู่กันตามลำพัง ความคิดนั่นจึงหนีไม่พ้น ‘เรื่องฉาวโฉ่ในห้องน้ำ’

วาห์นกอดเทพตัวเล็กอย่างทะนุถนอมเพื่อทำให้เธอเย็นลง ขณะเดียวกันก็พูดกล่อมว่าเรื่องบางเรื่องนั้นควรเก็บไปทำในสถานที่และเวลาที่เหมาะสม

อีกอย่าง ถ้าเป็นกับเฮสเทียในห้องน้ำล่ะก็ วาห์นคิดว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ถ้า ‘สารหล่อลื่นตามธรรมชาติ’ ถูกน้ำชะล้างออกไปหมด อย่าว่าแต่ของวาห์นเลย แค่นิ้วเพียงนิ้วเดียวก็ยังแทบใส่เข้าไปไม่ได้

นี่ไม่ใช่การคิดคำนวณในใจ เพราะวาห์นนั้นอธิบายให้เธอฟังแบบเป็นฉากๆ แถมลองสาธิตตามสิ่งที่พูดไว้ด้วย

พอเห็นว่าอีกฝ่ายพูดถูกต้องทุกอย่าง เฮสเทียก็เลยหมดอารมณ์ที่จะแช่น้ำต่อและบอกปัดไปว่าเดี๋ยวค่อยมาอาบในตอนเช้าก็ได้

วาห์นยอมใจอ่อน แต่นั่นก็ต้องหลังจากที่ทั้งสองล้างตัวกันอีกสักรอบสองรอบเสียก่อน

เพื่อเป็นการเอาใจแบบสุดๆ วาห์นจึงอุ้มเฮสเทียในท่าเจ้าหญิงขณะเดินทางกลับไปที่ห้อง

เป็นไปไม่ได้เลยที่ทั้งสองจะถูกพบกลางทางเพราะตอนนี้สาวๆ คนอื่นนั้นกำลังใช้ห้องน้ำอีกฝั่งอยู่

พอกลับมาถึงห้อง เฮสเทียก็เริ่มสลายชุดของตัวเองออกด้วยสายตาหิวกระหาย

เพราะเธอมีค่าพละกำลังที่น้อยยิ่งกว่าคนทั่วไป ออกแรงเพียงครู่เดียวก็หายซ่าแล้ว

แค่ 10 นาทีให้หลัง เฮสเทียก็มาฟุบอยู่บนเอวของวาห์นในท่านั่งยองขณะใช้วิธีหายใจแบบแปลกๆ เพื่อดันให้เขาเข้าไปได้ไกลกว่าเดิม

รอบนี้เธอมาได้ไกลถึง 60% ก่อนจะหมดแรงฮึดและฟุบลงไปทั้งแบบนั้นเลย

วาห์นเข้าสวมกอดอย่างเบามือและปล่อยให้เธอพักไปก่อน

พออาการดีขึ้น เฮสเทียจึงขอให้วาห์นลองนวดแบบไม่ใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] ดูบ้าง

ไม่นานร่างกายของเธอก็ทนไม่ไหวแล้วก็เสร็จไปอีกหนึ่งรอบ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เฮสเทียนั้นกลับไม่เคยหยุด ‘พยายาม’ เลย

วาห์นลองวิธีใหม่ดูบ้าง โดยเริ่มจากการใช้ลิ้นเล้าโลมทรวงอกจนอีกฝ่ายครางเสียงดังและยกแขนขึ้นมากอดคอของเขาไว้อย่างแน่นหนา

กว่าเขาจะเสร็จบ้าง เฮสเทียก็เสร็จไปอีกถึง 3 รอบ ตามมาด้วยการขอนอนทั้งแบบนั้นซึ่งดูคล้ายกับเมื่อคืนก่อน

วาห์นเริ่มชินกับการบีบอัดแบบทุกทิศทุกทางของเฮสเทียแล้ว และหลังจากลูบเส้นผมสีดำอยู่พักหนึ่ง ไม่นานมาเธอก็หลับไปอย่างง่ายดาย

ถึงจะรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าร่างกายของเฮสเทียกำลังปรับตัวอย่างต่อเนื่อง

ส่วนนั้นยังคงส่อแวว ‘อันตราย’ เมื่อถึงจุดสุดยอดเหมือนเดิม แต่ถ้าวาห์นรู้ตัวและเตรียมใจไว้ก่อน มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร

เช้าวันต่อมา เฮสเทียยังคงทำตัวเอาแต่ใจและดึงดันจะให้วาห์นอุ้มไปส่งที่ห้องน้ำซึ่งคล้ายกับตอนขามา

เรื่องนี้วาห์นยังพอรับได้ จนกระทั้งเธอบอกว่าให้ไปทั้งแบบนี้เลย… อันนี้วาห์นรับไม่ได้เด็ดขาด

วาห์นนั้นไม่เคยได้ยินหรือรู้เรื่อง ‘การแสดงโชว์’ กับ ‘การละเล่นในที่ที่อาจถูกพบเห็น’ มาก่อน แต่ที่แน่ๆ ก็คือเขารู้สึกไม่ถูกจริตกับทั้งสองอย่างนี้เลย

ต่อให้ตรวจจับตำแหน่งของคนอื่นได้ สมองของวาห์นก็ร้องเตือนอยู่ดีว่ามันเป็นพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง

สุดท้ายเฮสเทียก็ต้องยอมแพ้และปล่อยให้อีกฝ่ายอุ้มแบบธรรมดาแทน

เมื่อเขาเดินออกไปที่ลานฝึก เฮสเทียก็มองตามด้วยสายตาโหยหาขณะวางมือลงบนท้องน้อยของตัวเองอีกครั้ง

คำแนะนำของโลกิทำให้เธอ ‘ก้าวหน้า’ ไปมาก แต่มันก็ยังไม่ถึงจุดที่รับวาห์นเข้าไปได้หมดสักที

เธออยากให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับวาห์นเร็วๆ และรู้สึกเหงาทุกครั้งที่เขาไม่มาอยู่ด้วย

ตลอดช่วงที่ได้อยู่ด้วยกัน เฮสเทียจะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกับวาห์นจริงๆ

ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ หน้าที่ ความฝัน และอนาคตของตัวเอง แต่บางครั้งเธอก็อยากให้เขาตามใจมากกว่านี้

เพราะเพิ่งลงมาอยู่บนโลกมนุษย์ได้ไม่นาน ‘เวลา’ จึงเป็นอีกเรื่องที่เฮสเทียรู้สึกไม่คุ้นเคยเอาซะเลย

ในฐานะเทพธิดาที่อยู่มาแล้วหลายล้านปี การต้องเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับเวลาในแต่ละวันนี่มัน…

ในระหว่างการฝึกซ้อม วาห์นสังเกตเห็นว่าฮารุฮิเมะนั้นตั้งใจหนักกว่าเดิมมาก และตอนนี้เธอก็กำลังฝึก [ร่ายเวทต่อเนื่อง] กับริวอย่างแข็งขัน

เพราะอยากเป็นจอมเวทที่ใช้ความคล่องตัวให้เป็นประโยชน์ ฮารุฮิเมะเลยต้องฝึกการร่ายเวทพร้อมกับเคลื่อนที่ไปด้วย

ตอนนี้เธอยังไม่มีเวทมนตร์บทใหม่ แต่อีกไม่นานวาห์นคงต้องเตรียมซื้อคัมภีร์มาเก็บไว้แล้ว

เขายังมีพวกหนังสือทฤษฎีเวทมนตร์ติดตัวอยู่บ้าง แต่มันก็สอนแค่เรื่องพื้นฐานเท่านั้นเอง

วาห์นตั้งใจว่าจะแนะนำให้เธอได้รู้จักกับเลฟิย่าและริเวเรีย เพราะสองคนนี้น่าจะสอนเรื่องพื้นฐานและจังหวะในการใช้เวทมนตร์ได้ดีกว่าใคร

หลังฝึกกันเสร็จแล้ว ริวก็เข้ามากอดวาห์นแบบสั้นๆ ก่อนจะหายเข้าไปในหมอกยามเช้าเพื่อมุ่งหน้ากลับร้าน ส่วนสาวๆ ที่เหลือนั้นไปอาบน้ำด้วยกันซึ่งก็รวมถึงพรีเซียด้วย

เพราะไม่ได้ลงดันเจี้ยนติดต่อกันหลายวัน ป่านนี้เฟนเรียร์น่าจะแสดงความหงุดหงิดออกมาแล้ว

ยังดีที่ช่วงนี้มีพรีเซียมาให้คอยปกป้องดูแล เธอจึงควบคุมตัวเองได้ดีเกินคาด

แม้ทางเครือข่ายจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาใหม่ แต่ตำแหน่งดาวเด่นประจำกลุ่มก็ยังตกเป็นของเฟนเรียร์อยู่วันยังค่ำ

ความน่ารักอย่างเป็นธรรมชาติของเธอนั้น ได้เห็นกี่ทีๆ ก็ไม่รู้สึกเบื่อ

เพื่อบรรเทาความเครียดของเฟนเรียร์ วาห์นจะมอบอาหาร ‘แข็งๆ’ ให้เธอทานทุกวัน

ตามปกติแล้วพรีเซียจะเป็นคนป้อนอะไรหลายๆ อย่างให้ แต่ถ้าเป็นของจำพวกแท่งโลหะ อันนี้เฟนเรียร์จะเป็นคนจัดการเอง

ทุกคนได้รับข้อมูลและคำเตือนเกี่ยวกับเขี้ยวและกรงเล็บของเฟนเรียร์มาเป็นอย่างดีแล้ว

สองสิ่งนี้จะใหญ่ขึ้นและยาวออกมาเมื่อเธอต่อสู้ รู้สึกเครียด หรือไม่ก็กำลังทานอะไรที่แข็งมากๆ

ถึงจะฝึกเรื่องการควบคุมจนก้าวหน้าขึ้นอีกหลายขั้น แต่บางครั้งเฟนเรียร์ก็ยังเผลอทิ้งรอยเล็กๆ ไว้บนโต๊ะอยู่ดี

ขณะกำลังทำงานในช่วงบ่าย วาห์นก็จับสัมผัสของใครหลายคนได้จนต้องยิ้มออกมา

แต่แทนที่จะเดินออกไปทางห้องโถง เขากลับกระโดดออกจากหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้แทน

พอออกมาแล้ว วาห์นก็ใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] ติดต่อกันหลายครั้งจนมาอยู่ตรงหน้ากลุ่มของทีโอน่า ไอส์ ทีโอเน่ เลฟิย่า และสาวมนุษย์แมวผมดำที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ดวงตาของเธอเป็นสีดำขลับคล้ายกับสีของเส้นผมเงางามที่ยาวเลยบ่าลงมา ร่างกายก็ดูเพรียวบางคล้ายกับเผ่ามนุษย์แมวหลายคนที่เขารู้จัก

ถึงจะยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ แต่วาห์นก็อดคิดไม่ได้ว่ามันดูแปลกชอบกล

ก่อนที่ทุกคนจะได้แลกเปลี่ยนคำพูดกัน วาห์นก็สรุปเอาเองแล้วว่าโลกิกำลังพยายาม ‘ช่วย’ เขาด้วยการส่งสาวมนุษย์แมวหน้าตาน่ารักมาที่นี่… คิดถึงตรงนี้ก็ปวดหัวจะแย่แล้ว

ทีโอน่าไม่รออะไรใครทั้งสิ้น เธอพุ่งเข้าใส่วาห์นอย่างรุนแรงและใช้แขนโอบรอบคอของเขาเอาไว้ทันที

ขณะที่ร่างกายกำลังหมุนเพราะโดนพุ่งใส่ วาห์นก็เข้าโอบเอวของอีกฝ่ายและจบลงด้วยการจูบฉลองเนื่องในโอกาสที่ได้เจอหน้ากันอีกครั้ง

หลังผละออกจากกัน ทีโอน่าก็ยิ้มให้และเอ่ยอย่างมีความสุข

“ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะวาห์น~

แล้วก็ อาวุธที่นายให้มานี่มันสุดยอดไปเลย~!”

เพื่อเป็นการ ‘ขอบคุณ’ ทีโอน่าโดดเข้ากอดวาห์นอีกครั้งด้วยแรงมหาศาลจนไอส์ต้องร้องห้าม

“ทีโอน่า วาห์นเจ็บนะ… เจ็บมากด้วย”

หญิงสาวหัวเราะเบาๆ ก่อนจะปล่อยมือและเริ่มจัดเสื้อผ้าที่ยับจนเกือบขาดพร้อมกล่าวขอโทษเบาๆ

พอจบตาของทีโอน่าแล้วก็ถึงคราวของไอส์ที่เดินเข้าไปโดยมี [แกรม] เหน็บไว้ตรงเอว

มันดูค่อนข้างสะดุดตาเพราะนอกจากไอส์แล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่ได้พกอาวุธติดตัวมาด้วยเลย

เธอใช้นิ้วโป้งแตะปลายด้ามขณะเงยหน้ามองวาห์น

“ขอบคุณนะ… ฉันชอบมันมาก”

วาห์นยิ้มตอบก่อนจะสวมกอดไอส์และมอบจูบที่กินเวลายาวนานหลายวินาที

เมื่อทั้งคู่ถอนปากออกจากกัน ไอส์ก็หันมามองอีกครั้งด้วยดวงตาที่ดูหยาดเยิ้มขึ้น

“แต่ก็ชอบวาห์นมากกว่าอยู่ดี…”

เป็นคำพูดสั้นๆ ที่ทำให้วาห์นอยากโน้มหน้าเข้าไปจูบอีกรอบ แต่แล้วเสียงกระแอมจากด้านข้างก็ดังขึ้นจนเขาต้องหันไปมองทีโอเน่ที่กำลังทำหน้าเฉยเมย

“ตรงนี้มันหนาวๆ น่ะ”

พอหันไปตรวจสอบทีโอเน่ดูบ้าง วาห์นก็พบว่าพี่น้องคู่นี้กำลังใส่ชุดประจำตัวที่ไม่มีแม้กระทั่งรองเท้า… ที่แน่ๆ ก็คือ พวกเธอดูไม่สะดุ้งสะเทือนกับสภาพอากาศที่หนาวจนเกือบจะติดลบเลยแม้แต่น้อย

คนที่ได้รับผลกระทบสุดๆ นั้นเห็นจะมีแต่เลฟิย่าที่สวมเสื้อนอกหนาเตอะ ส่วนตรงใบหูนั้นก็แดงไม่แพ้ตอนที่เธอรู้สึกเขินเลย

วาห์นโบกมือเชิญให้ทุกคนเข้าไปข้างใน จากนั้นเขาก็เดินพาพวกเธอมาส่งที่ห้องรับแขก

เฮสเทียรู้อยู่แล้วว่าพวกทีโอน่าจะมาเยี่ยมในวันนี้ แต่เธอก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับและเอาแต่นอนเล่นเรื่อยเปื่อยตามแบบฉบับของตัวเอง

‘เจอหน้ากันตอนนี้ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่จะแย่ลงซะมากกว่า’ คือสิ่งที่เทพตัวเล็กสรุปออกมา

หลังจากนั่งจนได้ที่แล้ว มาเอมิกับเอมิรุก็นำชาและขนมออกมาเสิร์ฟให้ แต่แล้วน้ำเสียงประชดประชันของทีโอเน่ก็ดังขึ้น

“ดูสิทีโอน่า… วาห์นมีคู่แฝดเป็นของตัวเองด้วยล่ะ ไม่รู้ไปอดอยากมาจากไหน…”

ทีโอน่าไม่ได้พูดเสริมพี่สาวแต่กลับพูดจาติดตลกแทน

“เห พวกเธอก็ดูน่ารักดีนี่~?

เห็นแล้วนึกถึงตอนที่เราเหมือนกันเป๊ะเลยนะ แต่จู่ๆ ฉันก็โตช้ากว่า… แหะๆ… อาจจะไม่ใช่แบบนั้นแล้วมั้ง?”

ทีโอน่าพูดประโยคหลังด้วยสีหน้าเศร้าๆ ขณะลูบตรงหน้าอกไปมา แต่แล้วเธอก็หัวเราะและเอาแก้มไปถูกับวาห์นแทน

ตอนนี้วาห์นกำลังนั่งโดยมีไอส์และทีโอน่าขนาบข้างในขณะที่อีกสามคนนั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้าม

หลังจากจัดชาเสร็จแล้ว คู่แฝดเสือดาวหิมะก็โค้งอย่างสุภาพก่อนจะพากันออกไปจากห้อง

เพราะเหล่าผู้มาเยือนไม่ได้พูดอะไรเพิ่ม วาห์นที่เป็นเจ้าบ้านจึงเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

“ยินดีที่ได้พบกับทุกคนอีกครั้งนะ เราไม่ได้เจอกันนานเลย โดยเฉพาะ… ไอส์กับทีโอน่า… ฉันคิดถีงพวกเธอมาก”

วาห์นจับมือของทั้งสองไว้ ก่อนจะหันไปหาคนอื่นๆ

“ทีโอเน่ เลฟิย่า พวกเธอก็ด้วยนะ อาวุธที่ฉันให้ไว้พอจะทำประโยชน์ได้บ้างหรือเปล่า?”

วาห์นอยากรู้เหมือนกันกว่าสาวแปลกหน้าคนนั้นเป็นใคร แต่เขาก็ไม่อยากทำตัวละลาบละล้วงและข้ามเรื่องที่ทั้งทีโอน่าและไอส์พูดออกมาก่อนหน้านี้

โชคร้ายหน่อยที่หัวข้อนี่… เปรียบเสมือนกับระเบิดดีๆ นี่เอง

“อ๋อ นี่ให้มาใช้ทำประโยชน์หรอกเหรอ ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย!?

แต่ก็นะ พอไปเทียบกับของคนอื่นแล้วก็เลยนึกว่านายให้ฉันแบบส่งๆ ไปงั้นเอง!

ขอถามตรงๆ เลยนะวาห์น ว่านายรู้สึกไม่พอใจหรือรู้สึกเคืองฉันเป็นการส่วนตัวอยู่หรือเปล่า!?”

สีหน้าหงุดหงิดแบบสุดๆ ของทีโอเน่เล่นเอาวาห์นรู้สึกงงแบบสุดๆ เหมือนกัน

เขาจำได้ว่าทีโอเน่มักจะเป็นคนที่ชอบแหย่คนอื่น ไม่นึกเลยว่าเธอจะเปิดฉากพ่นไฟใส่เขาตั้งแต่แรก

ไอส์เริ่มคิ้วขมวด ส่วนทีโอน่าเองก็ทำหน้าจริงจังขณะจ้องมองพี่สาวฝาแฝดที่กำลังกล่าวหาวาห์นแบบผิดๆ

“…ทีโอเน่ เธอก็รู้นี่ว่าวาห์นไม่ใช่คนแบบนั้น

หยุดใส่อารมณ์แล้วใช้สมองหน่อยสิ ดาบคู่ที่เขาให้เธอแบบฟรีๆ มันไม่ใช่ของคุณภาพแย่เลยนะ อย่างน้อยก็เล่มละล้านวาลิสเป็นอย่างต่ำล่ะ

ถึงจะหงุดหงิดเรื่องฟินน์ แต่เธอจะเอามาลงกับวาห์นได้ยังไงกัน แบบนี้มันยุติธรรมแล้วเหรอ?”

ราวกับคำพูดของน้องสาวยิ่งทำให้ไฟในใจโหมหนักกว่าเดิม

ทีโอเน่เริ่มเอียงหัวแบบไม่สบอารมณ์

“ยุติธรรม!? เธอก็พูดได้สิ ได้ของดีไปแล้วนี่… แต่ฉันกลับได้แค่ของเหลือๆ

สงสัยฉันคง ‘ทำ’ เพื่อเขาไม่พอมั้ง ก็เลยได้มาแค่นี้แหละ

นี่นายอาบน้ำกับฉันก็แล้ว นอนกับน้องฉันก็แล้ว นี่ฉันต้อง… หึ”

ปกติวาห์นจะรู้สึกเฉยๆ กับเรื่องแบบนี้ แต่นี่คนพูดเป็นถึงพี่สาวของคนรัก เขาก็เลยรู้สึกร้อนขึ้นมาหน่อยๆ

“เรื่องอาบน้ำด้วยกัน ตอนนั้นทุกคนก็ไม่ได้ว่าอะไร-… เกือบทุกคนไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งเธอก็รวมอยู่ในกลุ่มที่ว่าด้วย

มันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของขวัญเลย แล้วก็ขอล่ะ อย่าเอาเรื่องของฉันกับทีโอน่ามาปนด้วยจะได้หรือเปล่า?

ฉันให้เพราะอยากให้ ไม่ได้ให้เพราะหวังอะไรตอบแทน”

น่าแปลกเพราะคนแรกที่พูดต่อจากวาห์นนั้นกลับกลายเป็นเลฟิย่าที่กำลังกำคทา [ฟื้นฟู] เอาไว้ในมืออย่างแน่นหนา

พูดกันตามหลักแล้ว วาห์นไม่ได้เป็นคนสร้างคทานั่นกับมือด้วยซ้ำ

ถ้าเลฟิย่ารู้เรื่องนี้เข้า ตอนนี้เธออาจจะถือหางข้างทีโอเน่แทนก็เป็นได้

แต่เพราะอธิบายให้ฟังไม่ได้นี่แหละ เอลฟ์สาวก็เลยหันไปพูดแย้งทีโอเน่แทน

“วาห์นเป็นคนที่ใจดีมากแล้วก็ทำดีกับทุกคนมาตลอด แต่ถ้าเธอคิดจะให้เขามาใส่ใจแบบเดียวกันกับคนรัก ฉันว่ามันไม่ถูกต้องเลยนะ…”

เลฟิย่าพูดออกไปแบบรวดเดียวจบโดยไม่สนใจเลยว่าใบหน้าของตัวเองจะแดงก่ำแค่ไหน

ทีโอเน่ยังดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก แต่เพราะ ‘พันธมิตร’ เพียงคนเดียวดันไปออกหน้าให้อีกฝ่าย สีหน้าแข็งกร้าวของเธอก็เลยอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

พอมองไปรอบๆ ทีโอเน่ก็เจอเข้ากับสายตาแปลกๆ ของทุกคนที่ทิ่มแทงเข้ามาไม่หยุด ความรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดเริ่มหลั่งไหลเข้ามาทันที

ทุกอย่างเป็นแบบที่น้องสาวของเธอพูดไว้จริงๆ นั่นแหละ

ทีโอเน่รู้สึกแย่กับความล้มเหลวของตัวเอง อีกใจหนึ่งเธอก็รู้สึกอิจฉาทีโอน่ากับไอส์มาก

ขนาดเลฟิย่าที่มักจะรู้สึกเครียดเวลาลงดันเจี้ยนนานๆ ก็ยังดูอารมณ์ดีจนผิดปกติเลย… แต่จุดที่หนักข้อสุดๆ นั้นเห็นจะเป็นตอนที่ได้กลับมาเจอโลกิอีกครั้ง

เหล่าเด็กๆ มองออกทันทีเลยว่าผิวพรรณของเธอนั้นดูเปล่งปลั่งเป็นพิเศษ แถมตอนพูดเรื่องวอร์เกมกับอิชทาร์แฟมิเลียก็ดูตั้งใจจนออกนอกหน้า

แค่นี้ก็ไม่ต้องไปสืบให้เสียเวลาเลย ทุกอย่างชี้ชัดแล้วว่าระหว่างเธอกับวาห์นต้องมีอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

พอในห้องเหลือกันแต่พวกสาวๆ โลกิก็เริ่มอธิบายทุกอย่างแบบละเอียดพร้อมมอบคัมภีร์กับสมุดบันทึกการสนทนาที่แล้วๆ มาให้ไปอ่านกันด้วย

สุดท้ายพวกเธอก็จัดปาร์ตี้ชุดนอนเล็กๆ ขณะพูดคุยเรื่องของอนาคตด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น… ถึงขั้นนี้แล้วจะไม่ให้ทีโอเน่ไม่รู้สึกอิจฉาได้ยังไง

ฟางเส้นสุดท้ายนั้นเห็นจะเป็นตอนที่โลกิขอให้ ‘อันนาคิตตี้’ มาเข้าร่วมเฮสเทียแฟมิเลียเป็นการชั่วคราว ซึ่งจุดประสงค์หลักก็คือให้เธอมาช่วยคุ้มกันและฝึกสมาชิกคนอื่นๆ ที่มีเลเวลน้อย

โลกิยังยัดคำเตือนให้เธออีกหลายอย่าง ทั้งเรื่องที่วาห์นอาจเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน รวมไปถึง ‘คำแนะนำ’ กับ ‘ข้อควรระวัง’ เกี่ยวกับสมาชิกแต่ละคน

อันนาคิตตี้นั้นเคยชอบพออยู่กับ ‘ราอูล’ ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 2 ของโลกิแฟมิเลียมาก่อน

แต่เพราะความทึ่มกับความขี้อายของฝ่ายชายเป็นเหตุ สุดท้ายเธอก็ทนต่อไปไม่ไหว

คนที่เธออยากเจอมากที่สุดในตอนนี้ก็คือเด็กหนุ่มที่เปลี่ยนชีวิตของหญิงสาวหลายคน ซึ่งมีเทพธิดาของเธอเองและ ‘สองดอกไม้งาม’ ที่หนุ่มๆ หลายคนต่างหมายปองรวมอยู่ในนั้นด้วย

ขณะเฝ้ามองอันนาคิตตี้ที่กำลังนั่งลุ้นว่าเมื่อไหร่จะได้โอกาสแนะนำตัว ทีโอเน่ก็นึกอะไรดีๆ ออก

รอยยิ้ม ‘น่ากลัว’ ผุดขึ้นบนใบหน้าพร้อมกับที่เธอโน้มตัวออกมา แต่แล้วเสียงของทีโอน่าก็ดังขึ้นเสียก่อน

“ทีโอเน่ เธออยากมาเป็นคนรักของวาห์นอีกคนเหรอ~? ฉันไม่ถือหรอกนะ เธอล่ะ ไอส์?”

แผนของทีโอเน่ล้มครืนทันทีที่ไอส์ตอบกลับมา

“อืม ฉันว่าทีโอเน่ดูแปลกๆ

ถ้าชอบก็บอกเขาไปสิ…”

วาห์นขมวดคิ้วขณะจ้องมองทั้งสองสลับกันไปมา ก่อนจะหันไปสบตากับจำเลยที่อยู่อีกฝั่ง

ออร่าที่ดูวุ่นวายในตอนแรกนั้นหายไปไหนไม่รู้ สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือเปลวไฟกองเล็กๆ ที่มีทั้งสีชมพู สีม่วง และสีเขียวปนกันไปมา

วาห์นเห็นว่าค่าความชื่นชอบของเธอนั้นอยู่ที่ 85(สับสน) ซึ่งดูไม่ค่อยตรงกับสิ่งที่อีกสองคนพูดไว้นัก

เขาพยายามสรุปเอาเองว่าน่าจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเธอกับฟินน์ จากนั้นอาวุธที่ให้เป็นของขวัญก็ทำให้เธอรู้สึกแย่หนักกว่าเก่า

วาห์นส่ายหัวขณะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ไม่ต้องห่วงนะทีโอเน่ ฉันวางแผนว่าจะทำอุปกรณ์ให้กับทุกคนอยู่แล้ว

เรื่องนี้คงปล่อยให้เฮเฟสตัสทำคนเดียวไม่ไหวหรอก ที่จริงฉันกะจะรับมาจัดการเองเลยด้วยซ้ำ

ทางเรายังไม่ได้ประกาศเรื่องนี้ออกไปนะ แต่ฉันได้เลื่อนขั้นเป็น [ปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก] แล้วล่ะ เชื่อมือได้เลย”

ทีโอเน่รู้สึกเพลี่ยงพล้ำกว่าเดิมในขณะที่ทีโอน่า ไอส์ และเลฟิย่าต่างเข้ามาแสดงความยินดีวาห์นกันอย่างพร้อมเพรียง

เฮเฟสตัสอาจจะเป็นช่างฝีมือที่เก่งที่สุดในเมือง แต่เรื่องความใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยนั้นคงตกยกให้วาห์นอยู่ดี

แมวสาวผมดำตัดสินใจใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์และพูดแสดงความยินดีเช่นกัน

“ยินดีด้วยนะคะที่ได้เลื่อนเป็น [ปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก]

อ้อ ฉันอันนาคิตตี้ ออทั่ม ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ~!”

วาห์นยิ้มตอบก่อนจะโค้งให้เธอเล็กน้อย

“คุณออทั่ม ขอโทษนะครับที่แนะนำตัวช้าไปหน่อย

ผมวาห์น เมสัน กัปตันของเฮสเทียแฟมิเลีย ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

ทุกครั้งที่ได้เจอสาวหน้าใหม่ วาห์นจะเรียกโดยใช้นามสกุลของเธอก่อนเสมอ ถึงแม้อีกฝ่ายจะขอให้เขาแก้วิธีเรียกในประโยคถัดมาก็เถอะ

อันนาคิตตี้โบกไม้โบกมือก่อนจะพูดในแบบที่ไม่ทำให้เขาต้องผิดหวัง

“ไม่ต้องพิธีรีตรองอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ เราคงจะได้ร่วมงานกันจนถึงปีหน้า สุภาพขนาดนั้นมันจะไม่ไหวเอานะ”

ถึงจะพยายามทำหน้าขรึม แต่สุดท้ายสีหน้าของวาห์นก็ดูผ่อนคลายลงพร้อมกับที่เจ้าตัวถอนหายใจเบาๆ

หูของอันนาคิตตี้กระตุกนิดๆ และเอียงไปมาด้วยความสับสน

เธอพยายามไล่เรียงบทสนทนาเมื่อกี้อีกครั้งแต่ก็ยังไม่เข้าใจท่าทางของเขาอยู่ดี

ในขณะนั้นเอง ทีโอเน่ก็เริ่มฟื้นตัวจากการได้รู้ ‘เรื่องพิศวงอีกหนึ่งเรื่องของวาห์น’ แล้ว

เธอยืนขึ้นจากโซฟาด้วยสีหน้าว่างเปล่าก่อนจะพูดขึ้น

“ที่นี่มีลานฝึกหรือเปล่า….?”

สิ่งแรกที่วาห์นนึกออกคือเธอคงอยากทำลายข้าวของเพื่อระบายความเครียด

“มีสิ อยู่ข้าง-”

“วาห์น ฉันอยากสู้กับนาย”

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท