Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 284

ตอนที่ 284

หลังจากที่วาห์นเอนตัวอย่างไร้เรี่ยวแรงลงสู่อ้อมแขนของทีโอน่ากับไอส์ ทั้งสองต่างมีสีหน้ากังวลอยู่บ้างจนกระทั่งเลฟิย่าต้องเอ่ยเตือน

“วาห์นบอกแล้วนี่ว่าเขาจะขยับไม่ได้หลังหมดผลของไอเท็ม…”
ตอนนี้วาห์นก็ ‘หลับ’ ไปแล้ว เลฟิยาจึงสงบลงเช่นกันและเดินไปตรวจสอบว่าเขาหรือทีโอเน่ต้องการเวทมนตร์รักษาเพิ่มเติมหรือเปล่า

ฮารุฮิเมะเองก็อยากเข้าไปช่วย แต่เธอบอกได้เลยว่าหญิงสาวสองคนนั้นดูใกล้ชิดกับวาห์นมาก มากจนเธอก้าวขาไม่ออก

ตอนนี้ทุกคนสงบลงไปบ้างแล้ว ส่วนวาห์นก็กำลังนอนหนุนตักไอส์ที่จ้องมองเขาแบบตาไม่กระพริบ

แม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นอุบัติเหตุ แต่เธอ เช่นเดียวกับทีโอน่าและฮารุฮิเมะ คงจะยกโทษให้ทีโอเน่ง่ายๆ ไม่ได้

ตอนนี้ตัวต้นเรื่องกำลังนั่งตรงด้านข้างด้วยสีหน้าพ่ายแพ้โดยมีเลฟิย่าคอยตรวจร่างกายให้อีกรอบ

ฮารุฮิเมะเข้ามานั่งใกล้วาห์นโดยไม่เกรงกลัวความเย็นจากพื้นหรืออากาศโดยรอบเลยแม้แต่น้อย

มิโคโตะกำลังยืนเฝ้ามองทุกคนอยู่ข้างๆ อันนาคิตตี้ที่มีสภาพไม่ต่างกันนัก

ผ่านไปอีก 2-3 นาที ทีโอน่าก็หันมาหาพี่สาวฝาแฝด

“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับวาห์นล่ะก็…” เธอกำหมัดเล็กน้อยด้วยสีหน้าขัดแย้งโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ

เสียงของเธอดังสะท้อนไปทั่วบริเวณ และส่งผลให้จิตใจของทุกคนรู้สึกหนักอึ้ง ทีโอเน่เองก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้อย่างมาก

เธอหันไปมองวาห์นที่ยังคงขยับตัวไม่ได้

“ฉันอยากให้เขาเลือกเองว่าจะเอายังไงต่อ… ถึงจะบอกว่าเสมอ แต่แบบนั้นฉันยอมรับไม่ได้หรอก

เมื่อกี้วาห์นไม่ได้ใช้อุปกรณ์อะไรเลย รวมถึงโซ่นั่นด้วย… ออมให้ขนาดนั้นก็ยังไล่ต้อนจนฉันจนมุมและทำให้ [แบ็คดาฟท์] แสดงผลออกมา… ดูยังไงฉันก็แพ้อยู่ดี…”

เกือบทุกคนที่นั่นเป็นสมาชิกของเครือข่าย แน่นอนว่าพวกเธอต้องรู้เรื่อง [เอ็นคิดู] และดาบ [เลวาไทน์] ของวาห์นอยู่ก่อนแล้ว

สมาชิกของโลกิแฟมิเลียยังรู้ด้วยว่าเขายังมีร่างแปลงที่สามซ่อนไว้อีก

ถ้าวาห์นใช้ร่างที่จัดการกับโกไลแอธได้ง่ายๆ ทีโอเน่ก็คงจะแพ้ไปนานแล้ว

เขาออมมือเพื่อทำให้แน่ใจว่าจะไม่เผลอฆ่าทีโอเน่ แถมยังตบท้ายด้วยการมอบไอเท็มช่วยชีวิตให้กับเธออีก

ไม่ว่าจะมองยังไง รอบนี้คนอื่นๆ หรือแม้แต่ทีโอเน่เองก็คงเอนเอียงให้วาห์นเป็นฝ่ายได้เปรียบกว่า

ทีโอน่ามองลงไปหาวาห์นและพูดต่อ

“วาห์นบอกว่าเขาจะยังมีสติอยู่… งั้นก็ต้องได้ยินที่เราพูดกันด้วย ถูกไหม?”

เลฟิย่าพยักหน้ารับ ซึ่งทำให้ทีโอน่าหันไปพูดกับพี่สาวต่อ

“ฉันรู้ใจวาห์น… เขาคงให้อภัยเธอ อาจยอมรับเธอด้วย… แต่ฉันไม่อยากให้เธอเข้าหาเขาด้วยวิธีนี้

มันไม่ยุติธรรมเลยที่เธอเห็นเขาเป็นแค่ตัวแทนของฟินน์ แล้วก็ยังเกือบฆ่าเขาเพราะความผิดหวังของตัวเอง

ถ้าวาห์นไม่ได้เตรียมแผนรับมือมากมายขนาดนี้…”

แม้จะลูบหัววาห์นด้วยความเอ็นดู แต่สีหน้าของไอส์นั้นจริงจังสุดๆ

“ทีโอเน่… ต้องลงโทษ” เธอพูดเสริมอย่างอดไม่ได้เช่นกัน

คำพูดของทั้งสองทำให้ทีโอเน่ถอนหายใจยาว

“ยังไงรอบนี้คงโดนท่านโลกิเชือดอยู่แล้วนี่นะ… จะทำโทษอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ เรื่องนี้ฉันไม่ปัดความรับผิดชอบหรอก”

ทีโอเน่เอี้ยวตัวหลบเลฟิย่าที่เข้ามาตรวจร่างกายก่อนจะพูดต่อ

“ฉันไม่เป็นไรหรอก ไปดูวาห์นเถอะ…”

เลฟิย่าพยักหน้าและเดินไปยังจุดที่วาห์นนอนอยู่พร้อมกับคุกเข่าลงข้างๆ

แสงพลังเวทโผล่ออกมาจากฝ่ามือเล็กๆ ขณะที่สายตาของเธอสอดส่องไปทั่วร่างของชายหนุ่ม

หลังจากตรวจสอบแบบละเอียดยิบ เลฟิน่าก็ถอนหายใจออกมา

“เลฟิย่า เป็นไงบ้าง” ไอส์ถามด้วยความสงสัย เลฟิย่าพยักหน้าและเริ่มอธิบาย

“วาห์นบอกไว้ว่าไอเท็มนั่นน่าจะรักษาอาการบาดเจ็บทั้งหมด… ก็จริงอย่างที่เขาว่านะ

ตอนนี้ร่างกายของวาห์นปกติดีทุกอย่าง ติดแค่เรื่องพลังเวทที่กระจายออกมา ทั้งๆ ที่ปกติแล้วมันควรจะเข้าไปสะสมในร่างกาย เหมือนกับกำลังติดสถานะ ‘พลังงานหมด’… แต่ฉันคิดว่ามันคงเป็นเพียงผลข้างเคียงจากไอเท็มนั่นแหละ

ถ้าไม่นับพวก… เลือดกับของที่เลอะตามตัว… เขาก็ปกติดีทุกอย่าง”

เมื่อเลฟิย่าจบการวินิจฉัย คำพูดของเธอก็ทำให้ทุกคนมองมาที่ร่างของวาห์นและตระหนักว่าแม้จะเอาเสื้อผ้าออกมาเปลี่ยน แต่ตัวของเขาก็ยังเลอะเทอะอยู่ดี

เกือบทุกคนตรงนี้เป็นนักผจญภัยมานานพอสมควร เรื่องแบบนี้จึงถือว่าปกติมาก แต่ถ้าเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากตัวเลอะแบบนี้หรอก

“ห้องอาบไปทางไหน? เดี๋ยวฉันจะอาบน้ำกับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาเอง” ทีโอน่าพูดขึ้น

“ไม่เป็นไรค่ะ วาห์นเป็นกัปตันของฉัน ฉันจะดูแลเขาเอง…” ฮารุฮิเมะเป็นฝ่ายหันมาตอบ

แต่ก่อนที่เรื่องจะบานปลาย มิโคโตะก็เข้ามาแตะไหล่ของฮารุฮิเมะพลางส่ายหน้าห้าม จากนั้นเธอก็หันไปถามทีโอน่าด้วยตัวเอง

“พอจะบอกได้ไหมว่าเธอกับกัปตันเป็นอะไรกัน?”

มิโคโตะพอจะดูออกอยู่บ้าง แต่เธอไม่ได้เป็นสมาชิกของเครือข่ายและไม่รู้ว่าใครเป็นใครแบบละเอียด

เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกและค้นหาฮารุฮิเมะในอดีตโดยไม่สนใจเรื่องอื่นมากนัก

“ฉันเป็นคนรักคนแรกของวาห์น ~! ไอส์เองก็ด้วย…” ทีโอน่าอธิบายด้วยรอยยิ้มมีความสุข

เมื่อเห็นทีโอน่าตอบกลับไปแบบนั้น เปลวไฟเล็กๆ ก็ถูกจุดขึ้นในดวงตาของไอส์ขณะที่เธอหันมาพยักหน้าและพูดเสริม

“ฉันรับเขาแบบเต็มๆ เป็นคนแรก…”

มิโคโตะไม่รู้เลยว่าไอส์พูดถึงอะไร จากนั้นเธอก็หันไปหาสาวๆ คนอื่นที่อยู่ด้านหลังและถามต่อ

“แล้วคนอื่นล่ะ?”

ทีโอเน่ถอนหายใจก่อนตอบ

“อืม ฉันอาจจะเป็นคนรักในอนาคตของเขาล่ะมั้ง… และเราก็เคยอาบน้ำด้วยกันมาก่อนแล้ว

ถึงฉันจะไม่ควรอยู่ใกล้วาห์นในตอนนี้ แต่ยังไงก็ต้องคอยไปคุมน้องสาวอยู่ดี…”

มิโคโตะพยักหน้าก่อนจะหันไปหาเลฟิย่าที่เริ่มหน้าแดงจัดและก้มหัวลงต่ำขณะกอดคทา [ฟื้นฟู] ไว้แน่น

“ฉะ-ฉัน ฉันเป็นแค่… พะ-เพื่อน…” เธอพูดด้วยท่าทางเขินอาย

ไอส์ส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วยและตอบให้แทน

“เลฟิย่ายังเด็กเกินไป…”

ทีโอน่าเริ่มพูดเสริมทันที

“แต่เธอก็เคยอาบน้ำกับวาห์นมาก่อนและเห็นเขาโป๊มา 2-3 ครั้งแล้วนะ~! ตราบใดที่ไอส์ยังคบกับวาห์นอยู่ ฉันว่าเดี๋ยวเธอก็คงโดดเข้าไปร่วมวงสักวันแหละ อิอิ~”

ใบหน้าของเลฟิย่ายังคงแดงต่อได้อีก จังหวะนี้ใครพูดอะไรเธอก็ฟังไม่รู้เรื่องแล้ว

มิโคโตะหันไป หันไปจ้องอันนาคิตตี้จนเจ้าตัวต้องตอบพร้อมโบกไม้โบกมือ

“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับวาห์น แต่ต่อไปคงจะได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ในฐานะสมาชิกของเฮสเทียแฟมิเลียเหมือนกับเธอ

ตอนนี้ริวรับหน้าที่เป็นเป็นรองกัปตัน ดังนั้นฉันเลยกะว่าจะมาเป็นหัวหน้าปาร์ตี้ย่อย”

มิโคโตะเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะโค้งคำนับอย่างสุภาพ

“งั้นต่อไปคงต้องฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ…”

ฮารุฮิเมะเองก็ทำเช่นเดียวกัน ทว่าสายตาของเธอยังคงจดจ่ออยู่กับสภาพของวาห์น

ตอนนี้มิโคโตะพอเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาบ้างแล้ว เธอหันไปมองรอบๆ ก่อนจะพูดต่อ

“ถ้างั้นขอฝากให้พวกเธอดูแลกัปตันด้วยละกัน เดี๋ยวฉันจะไปรายงานสถานการณ์ให้ท่านเฮสเทียทราบ… แล้วก็พา เอ่อ-”

มิโคโตะหันไปหาอันนาคิตตี้ที่รีบตอบกลับมา

“อ้อ ฉันอันนาคิตตี้ ออทั่ม ยินดีที่ได้รู้จักนะ”

มิโคโตะพยักหน้าอีกครั้งและพูดต่อ

“ฉันจะพาอันนาคิตตี้ไปด้วย เธอจะได้คุยเรื่องขอเข้าร่วมแฟมิเลียไปพร้อมกันเลย เอ่อ-”

ก่อนที่มิโคโตะจะได้ถามต่อ ไอส์ก็พูดแทรกขึ้น

“ไว้ให้วาห์นอธิบายต่อทีหลัง…”

มิโคโตะจ้องมองสีหน้าจริงจังของไอส์ด้วยคิ้วที่ขมวดเล็กน้อย แต่สุดท้ายเธอก็พยักหน้ารับ

ที่จริงเธออยากจะเก็บข้อมูลไปรายงานเพิ่ม เพราะถ้าเทพตัวเล็กของตนรู้เรื่องนี้เมื่อไหร่… รับรองเลยว่าคฤหาสน์ระเบิดแน่ ที่เหลือคงต้องให้วาห์นตื่นมาเคลียร์เองแล้ว

จากนั้นพวกเธอก็แยกกันเป็นสองกลุ่มตามที่ได้คุยกันไว้

ภายในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าผู้หญิง ทุกคนเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์แบบไม่ได้คิดอะไรมาก ที่รู้สึกขัดๆ หน่อยก็มีเพียงเลฟิย่านี่แหละ

ตอนแรกเธออยากจะไปกับพวกอันนาคิตตี้ แต่สุดท้ายคนอื่นๆ ก็เข้ามารั้งตัวไว้ก่อน

การที่จะให้ทีโอน่ามาดูแลวาห์นมันเป็นอะไรที่เสี่ยงมาก ต้องลำบากทีโอเน่กับไอส์ที่ต้องคอยคุมเธออีกต่อ คนที่มือว่างพอจะดูแลชายหนุ่มได้ก็มีแต่เลฟิย่าเท่านั้น

แม้เขาจะมองไม่เห็นหรือพูดไม่ได้ เลฟิย่าก็รู้ว่าวาห์นยังมีสติและสามารถรับรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวได้เหมือนปกติ

การได้มาอาบน้ำด้วยกันอีกครั้งจึงถือว่าเป็นเรื่องน่าอายสุดๆ แต่เธอก็ยังอยากดูให้แน่ใจว่าเขาไม่เป็นอะไร…

หลังจากถอดเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ไอส์ก็เดินเข้ามาตรงจุดที่วาห์นนอนอยู่และเริ่มถอดเสื้อผ้าให้เขาแบบเก้ๆ กังๆ

ขนาดเธอยังมีปัญหากับการถอดชุดของตัวเองในบางครั้งเลย (TL: ไอส์ในตอนนี้จะใส่ชุดเกราะที่เทอะทะกว่าไอส์ในอนาคต) เรื่องการถอดเสื้อผ้าให้คนอื่นนี่ไม่ต้องพูดถึง แถมยังเป็นคนที่เคลื่อนไหวเองไม่ได้ซะด้วยสิ…

หลังจากปลดกระดุมเสื้อเสร็จแล้ว ไอส์ก็พยายามถอดกางเกงให้ แต่สุดท้ายตัวของวาห์นก็ลากตามการดึงของเธอ… สรุปง่ายๆ ก็คือล้มเหลว

ทีโอน่าอยากเข้ามาช่วย แต่ตอนนี้ใบหน้าของเธอก็เริ่มขึ้นสีแล้ว แถมยังมีการแอบกลืนน้ำลายโดยไม่ให้คนอื่นได้ยินด้วย

รอบนี้แม้แต่ทีโอเน่เองก็เกิดอาการเช่นกัน ถึงจะไม่ชัดเท่าทีโอน่าก็เถอะ

สุดท้ายภาระก็ไปตกอยู่กับเลฟิย่าที่ต้องออกไปช่วยไอส์

ทุกอย่างดูราบรื่นหลังจากนั้น ยกเว้นก็แต่ความแดงของเลฟิย่าที่ลามลงมาเกือบครึ่งตัว

หากไอส์กับคนอื่นๆ ไม่ได้มาเปลือยกายเป็นเพื่อน ป่านนี้เอลฟ์สาวก็คงหมดสติและล้มลงไปนอนเป็นเพื่อนวาห์นด้วยอีกคน

สภาพเปลือยเปล่าของวาห์นทำให้สายตาของทุกคนเริ่มอยู่ไม่เป็นสุด เลฟิย่าเองก็เอากับเค้าด้วย แต่ไม่นานเธอก็หันหน้าหนีและรีบเดินโซเซไปทางห้องอาบน้ำแทน

ไม่นานทีโอเน่และทีโอน่าก็เดินตามเข้าไปเช่นกัน

“…”

ไอส์ทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะอุ้มวาห์นขึ้นในท่า ‘อุ้มเจ้าหญิง’ และเดินไปสมทบกับทุกคนที่สระใหญ่

จริงอยู่ที่วาห์นขยับตัวไม่ได้เลย แต่การถูกผู้หญิงตัวเล็กกว่าอุ้มไปไหนมาไหนมันก็ทำให้ใบหน้าของเขาขึ้นสีแดงหน่อยๆ

ไอส์วางชายหนุ่มลงไปในสระก่อนจะออกมาทำหน้าที่เป็น ‘วาห์นการ์ด’ เพื่อกันไม่ให้สองสาวชาวอเมซอนเข้าใกล้มากเกินไป

ตั้งแต่ตอนที่เสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายของวาห์นถูกถอดออก ทีโอน่าก็เงียบจนผิดสังเกต ส่วนทีโอเน่เองก็ส่งสายตาแปลกๆ ที่ดูไม่น่าไว้ใจ

ตอนนี้หัวใจและสัญชาตญาณเธอกำลังมองวาห์นต่างไปจากเดิม ถือว่าเขาได้ ‘เลื่อนตำแหน่ง’ ขึ้นมาอีกหลายขั้น

ไอส์เองก็พอจะดูออกอยู่บ้าง เธอถึงได้ออกมาคุมพื้นที่และปล่อยให้เลฟิย่าเป็นคนจัดการต่อ

หน้าที่ที่ผู้หญิงเป็นสิบๆ คนอยากจะทำ… เลฟิย่าไม่คิดเลยว่าจู่ๆ โอกาสก็มาตกอยู่ตรงหน้าโดยที่เธอไม่ได้ร้องขอ

หลังจากทำใจอยู่พักหนึ่ง เธอก็ลืมตาขึ้นและสังเกตเห็นร่างกายที่ดูมีเสน่ห์ไม่ต่างไปจากใบหน้าหล่อเหลา

มันแฝงไปด้วยมัดกล้ามได้รูป ไร้ซึ่งบาดแผล แผลเป็น หรือความผิดปกติบางอย่างที่คนทั่วไปพึงจะมี

‘…ดูๆ ไปแล้วก็เหมือนรูปปั้นแกะสลักดีๆ นี่เอง ทุกอย่างมันดูเป๊ะเกินไปแล้วนะ’

แต่แน่นอน สิ่งที่รบกวนจิตใจของเธอมากที่สุดก็คือ ‘มังกร’ ของวาห์นที่ดูน่าเกรงขามมาก… โดยเฉพาะกับคนตัวเล็กแบบเธอนั้นมันยิ่งดูน่ากลัวเข้าไปใหญ่

แม้จะพยายามเลี่ยงมัน แต่สุดท้ายสายตาของเลฟิย่าก็ทรยศเธอครั้งแล้วครั้งเล่า

‘มะ-ไม่ได้ๆ ต้องมีสมาธิ ต้องเช็ดตัวให้เขาก่อน’

การถูกเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่มีแต่ผู้หญิงทำให้เลฟิย่ารู้สึกระแวงเพศตรงข้ามมากกว่าคนปกติทั่วไป

หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากไอส์เมื่อนานมาแล้ว เอลฟ์ตัวน้อยก็อดไม่ได้ที่จะเผลอใจไปชอบอีกฝ่าย

ถึงจะไม่คิดว่าตัวเองเป็นพวกหญิงรักหญิงแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เธอก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อนเช่นกัน

เผ่าเอลฟ์มีธรรมเนียมบางอย่างที่คล้ายกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ เช่นการโตเป็น ‘ผู้ใหญ่’ เมื่อมีอายุครบ 14 ปี

แต่เนื่องจากอายุขัยที่ยาวเป็นพิเศษ ร่างกายของชาวเอลฟ์จะโตเต็มที่ก็ต่อเมื่อพวกเขามีอายุประมาณ 20 ปีขึ้นไปเท่านั้น

ตอนนี้เลฟิย่าเพิ่งจะอายุ 13 ปีเอง เรื่องความรักหรือการหาคู่นั้น สำหรับเธอแล้วมันเคยเป็นสิ่งที่อยู่ห่างไกลมาก แต่ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อได้มา ‘เจอ’ กับวาห์นหลายต่อหลายครั้ง

เขาเป็นคนที่ใจดีและอ่อนโยนกับเธอเสมอ และแม้ทั้งสองจะไม่ได้คบกัน แต่วาห์นก็มักจะให้ความสำคัญกับความรู้สึกของเธอ อีกทั้งยังคอยให้กำลังใจและถึงขั้นให้ของขวัญแก่เธอด้วย

เพราะเคยหมายมั่นว่าจะติดตามไอส์เพื่อไปปราบมังกรดำตาเดียวให้จงได้ เลฟิย่ารู้ดีว่าตัวเองคงจะได้อยู่กับชายหญิงทั้งสองไปอีกนาน…

เมื่อเช็ดคราบเลือดออกจากใบหน้าของวาห์นเสร็จแล้ว เลฟิยาก็ถอนหายใจและพึมพำเบาๆ โดยลืมไปเลยว่าหูของวาห์นยังใช้การได้อยู่

“นายนี่มันหล่อจริงๆ เลยนะ…”

พอนึกขึ้นมาได้ว่าวาห์น ‘ตื่น’ อยู่ ดวงตาสีน้ำเงินก็เบิกกว้างทันที

ในช่วงที่เหลือของการอาบน้ำ เลฟิย่าได้ชำระร่างกายของวาห์นแบบเงียบๆ ขณะพยายามหลีกเลี่ยงบริเวณ ‘จุดอ่อนไหว’ ให้มากที่สุดเทาที่จะมากได้

ถึงตอนแรกจะใช้ฟองน้ำขัดตัว แต่หลังจากจับวาห์นแช่น้ำจนเหลือแต่คอ เธอก็เริ่มหันมาใช้มือเปล่าแทน

เธอสังเกตเห็นใบหน้าขึ้นสีแดงเล็กน้อยของอีกฝ่ายและสงสัยมากว่าเขาจะคิดยังไงกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ยินเธอหลุดปากพูดออกไปแบบนั้น

ก่อนจะได้เวลาออกจากห้องอาบน้ำ เลฟิย่าก็โน้มตัวเข้าไปใกล้และกระซิบเบาๆ

“ต่อไปก็ช่วยทำดีกับฉันให้มากๆ หน่อยนะ…”

วาห์นที่กำลังติดสถานะผิดปกติอยู่นั้นได้ยินและสัมผัสได้ถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้น

ถึงตาจะใช้การไม่ได้ แต่เขาก็สามารถใช้การตรวจจับออร่าและสัมผัสพิเศษต่างๆ มาทดแทนตรงส่วนนี้ได้

เรื่องใหญ่สุดๆ ยังไงก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของทีโอเน่ เพราะสังเกตเห็นว่าออร่าของเธอนั้นเริ่มดูคล้ายกับของทีโอน่ามากขึ้นทุกที

แค่นี้วาห์นก็ไม่ต้องสืบต้องเดาอะไรแล้ว แต่เรื่องหนึ่งที่วาห์นไม่ได้คาดคิดก็คือ การที่เลฟิย่าเข้ามาดูแลและอาบน้ำให้นี่แหละ

ตั้งแต่ได้พบกันครั้งแรก วาห์นก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันว่าควรปฏิบัติต่อเลฟิย่ายังไงดี

ที่แล้วมานั้นเขาปฏิบัติกับเธอค่อนข้างดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอคือเพื่อนคนสำคัญของไอส์ แต่ต่อมาเธอก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ได้คิดจงเกลียดจงชังหรือทำเหมือนเขาเป็นคนนอก

ทว่ายังมีบางครั้งที่เธอพยายามรักษาระยะห่างจนวาห์นเองก็ไม่แน่ใจว่าควรจะทำยังไงต่อ

ยังมีเรื่องของธรรมเนียม และข้อห้ามต่างๆ ของเผ่าเอลฟ์ (และเผ่าอื่นๆ) ที่วาห์นได้ศึกษามาบ้าง

ถึงจะรู้ว่าเลฟิย่ายังเด็กเกินไปสำหรับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ แต่วาห์นก็ปฏิบัติด้วยอย่างเท่าเทียมเพราะไม่อยากให้เธอรู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้คนเดียว

เลฟิย่าน่าจะได้รับอิทธิพลจากทีโอน่าและไอส์มาไม่มากก็น้อย เรื่องที่เธอจะมาร่วมวงด้วยในอนาคตจึงเป็นสิ่งที่วาห์นเคยคิดเล่นๆ แต่การที่มีสาวน้อยแสนขี้อายมาเอ่ยชมกันตรงๆ แบบนี้… แม้แต่วาห์นเองก็ต้องยอมรับว่ามันทำให้หัวใจของเขาสะดุดไปเหมือนกัน

ตอนแรกวาห์นก็รู้สึกเพลิดเพลินแบบไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอมาถึงช่วงหลัง การดูแลของเลฟิย่าก็เริ่มใกล้ชิดมากเป็นพิเศษ

ออร่าของเอลฟ์สาวเริ่มสั่นไหวเบาๆ จากนั้นตรงส่วนขอบก็กลายเป็นสีชมพู อีกทั้งมันยังกัดกินส่วนที่เป็นสีเหลืองอย่างต่อเนื่อง

มือที่คอยลูบไล้ไปตามลำตัวนั่นทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวแถมคนลูบก็เหมือนจะรู้ตัวด้วย เพราะจังหวะนั้นมือของเธอดันมาหยุดอยู่ตรงตำแหน่งหัวใจของเขาพอดี

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น วาห์นก็ได้ยินเสียงพูดคุยและพอสรุปได้คร่าวๆ ว่าอีกเดี๋ยวก็คงอาบกันเสร็จแล้วนอกจากจะเป็นคนอาบน้ำให้ เลฟิย่ายังเอาผ้าผืนเล็กๆ มาเช็ดผมให้เขาอีกด้วย

เธอใส่ใจกับทุกรายละเอียดจนวาห์นรู้สึกตื่นเต้นไปด้วย

หลังจากที่ตัวแห้งดีแล้ว วาห์นก็รู้สึกว่ามีอะไรนุ่มนิ่มมาสัมผัสกับต้นแขน ตามมาด้วยเสียงกระซิบเบาๆ

“ต่อไปก็ช่วยทำดีกับฉันให้มากๆ หน่อยนะ…”

พอพูดแบบนั้นออกไป ค่าความชื่นชอบของเลฟิย่าก็พุ่งขึ้นมาที่ 97

นี่ถ้าขยับตัวได้ตามปกติล่ะก็ ป่านนี้วาห์นคงจะกลืนน้ำลายเข้าไปหลายอึกแล้ว

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท