ตอนที่ 57 จมธรณี
“มีใครเคยเห็นพวกนั้นไหม” หลินหยางถามความเห็นและพวกมันล้วนสายศรีษะเป็นคำตอบ
ตอนนี้มีกองกำลังอื่นที่มีจำนวนกว่าร้อยคนเป็นมนุษย์ทั้งหมดซุ่มอยู่อีกฟากตรงข้ามกับเขาพวกมันก็จ้องจับจองต้นไม้สีดำต้นนี้เช่นกันดูจากจำนวนคนพวกมันคงเป็นเมืองสองเมืองที่จับมือผูกไมตรีกันเป็นแน่
หลินหยางให้กองกำลังของเขาถอยออกไปอยู่นอกระยะสายตาของกลุ่มคนตรงหน้า เขานำคนเพียงสามคนมาซุ่มมองอยู่ไกลห่าง หากต้องต่อสู้กับออร์คและต้องพะวงหลังกับกองกำลังกว่าร้อยคนที่จ้องจะยึดครองสิ่งเดียวกัน สู้เขารอให้พวกนั้นฆ่ากันเองดีกว่าเพราะเขาก็มิอยากสู้กับกองกำลังของอีกฝ่ายหากเป็นเช่นนั้นต้องมีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นแน่เพราะพวกมันเป็นมนุษย์ที่มีสติปัญญาสูง มิใช่สัตว์เดรัจฉานดังที่เขาเคยพิชิตมา ย่อมต้องเกิดการสูญเสียมิมากก็น้อย เช่นนั้นหากให้พวกเขาสู้กันเองแล้วรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ นับว่ามีแต่ได้กับได้
ยังไงคนของเขาย่อมสำคัญกว่า ส่วนคนพวกนี้หากพวกเขาถอยกลับไปก็ดีเขาจะได้เป็นฝ่ายกำราบออร์คตนนี้เสีย หากพวกมันสู้กับออร์คก็ดีหากพวกมันชนะก็ย่อมต้องเสียกำลังไปบ้าง แต่หากพวกมันพ่ายแพ้..ออร์คตนนั้นก็ย่อมเหนื่อยล้าอ่อนแรง
ตอนนี้กองกำลังกว่าร้อยคนของฝั่งนั้นค่อยๆเคลื่อนไหวเข้ามาช้าๆ พวกมันใช้อาวุธหลากหลายทั้งดาบ หอก ค้อน ขวานและธนู จากการมองของหลินหยางเขาคิดว่าคนพวกนี้คงมิสามารถกำราบออร์คตัวใหญ่ตัวนี้ได้เพราะเขาได้ใช้ทักษะตาเหยี่ยวตรวจสอบคนเหล่านี้ส่วนมากมีเพียงระดับหนึ่งและมีระดับสองเพียงไม่ถึงสิบคนเท่านั้นพวกมันคงจะเป็นเมืองใหม่ที่พึ่งมาถึงอาหารของพวกมันคงใกล้จะหมดเต็มทีพวกมันจึงต้องการครอบครองต้นไม้สีดำต้นนี้ที่มีกระรอกออกมิไม่หยุดหย่อน
เมื่อพวกมันเข้าใกล้ออร์คที่นั่งพิงต้นไม้อยู่ก็รู้สึกตัวว่ามีผู้บุกรุกแหล่งอาหารของมัน มันลุกขึ้นพลางจ้องมองเหล่ามนุษย์กว่าร้อยคนที่อยู่รอบๆตัว
ฮ้า~~
ออร์คตนนั้นมันคำรามเสียงดัง คล้ายกับว่ามันข่มขู่เพื่อต้องการให้เหล่ามนุษย์ผู้บุกรุกถอยกลับไป เสียงคำรามของมันดังไปทั่วบริเวณแม้หลินหยางจะอยู่ห่างไกลก็ยังแสบแก้วหู
เมื่อคนกว่าร้อยคนที่อยู่ใกล้มันเห็นออร์คตนนั้นคำรามเสียงดังพวกเขาก็เอามือปิดหู บางคนตัวสั่น บางคนทิ้งอาวุธวิ่งหนี
เห็นดังนั้นหลินหยางก็ส่ายหัว สงสัยเขาจะให้ความสำคัญกับคนพวกนี้มากเกินไปพวกมันไม่มีจิตใจจะต่อสู้เลย ตอนนี้เหลือคนที่ยืนประจัญหน้ากับออร์คอยู่ราวเจ็ดสิบแปดสิบคนมีคน มีคนนึงที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำของคนกลุ่มนั้นเขาตะโกนคล้ายกับปลุกใจกองกำลังของเขา หลินหยางก็ยังได้ยินเสียงของมันแว่วๆ
ออร์คตนนั้นเมื่อเห็นว่าเสียงคำรามของมันมิได้ผลดีเท่าที่หวัง มันจึงควงดาบหินใหญ่ยักษ์ไปมา พลางเดินเข้าไปหากลุ่มผู้บุกรุกอย่างช้าๆราวกับว่ามันมิได้เกรงกลัวพวกเขาเลย
คนที่เป็นหัวหน้าของกลุ่มออกคำสั่ง สิ้นเสียงของมันมีลูกธนูยิงใส่ออร์คตนนั้นอย่างต่อเนื่อง แต่ความเร็วของออร์คที่เดินเข้าไปหาพวกเขาก็มิได้ช้าลงหรือเร็วขึ้น ลูกธนูปักเข้าบริเวณผิวหนังมันมิได้เจาะลึกถึงเนื้อในมิสามารถทำให้เลือดมันออกได้แม้แต่หยดเดียว ออร์คตนนั้นใช้มือปัดลูกธนูที่ปักอยู่บนผิวหนังของมันก็หลุดออกจนหมด
เมื่อหัวหน้าของกลุ่มเห็นดังนั้นพวกมันจึงรีบถอยล่นกลับอย่างรวดเร็ว แต่มันสายไปเสียแล้ว ออร์คตนนั้นเมื่อเห็นผู้ที่มาบุกรุกแหล่งอาหารของมันกำลังถอยหนีมันเร่งฝีเท้าอย่างรวดเร็ว หากเทียบกับตัวของมันนับว่าเชื่องช้าแต่ด้วยขายาวของมันก้าวเพียงก้าวเดียวก็เทียบกับมนุษย์เดินถึงสองถึงสามก้าวเลยทีเดียวไม่นานมันก็ถึงตัวของหัวหน้ากลุ่มที่วิ่งอยู่หลังสุด มันเงื้อดาบหินอันมโหฬารที่ไม่ค่อยจะคมนักทุบลงไปที่ตัวของชายคนนั้น
ตู้ม!!
ร่างของหัวหน้ากลุ่มผู้เคาะห์ร้ายแหลกเหลวติดผืนดิน แม้ญาติของมันมาเห็นก็คงจำมันไม่ได้เป็นแน่
ตอนที่ 58 แผนการ
ตู้ม!!
เกิดการสั่นสะเทือนเบาๆมาถึงที่หลินหยางอยู่เลยทีเดียว จากการที่มันทุบร่างของหัวหน้ากลุ่มคนนั้นจนผืนดินสั่นไหว มันคงจบชีวิตในบัดดลมิทันได้รู้ถึงความเจ็บปวด
ออร์คตนนั้นมิได้ไล่ตามคนที่เหลือมันยกดาบของมันขึ้น
แพละ~~
เศษเนื้อของมนุษย์ที่ติดอยู่กับดาบของมันตกลงพื้น มันหยิบ’ซาก’ของมนุษย์ขึ้นมาโยนใส่เข้าปากและกลืนลงไปดูท่ามันจะพอใจมิใช่น้อย
เมื่อมันกินเสร็จสิ้น มันก็วิ่งไล่ฝูงมนุษย์ที่เหลือ พวกเขาวิ่งกระจัดกระจายบางคนยังมิคืนสติจากภาพที่เห็น ขาสั่นทรุดอยู่กับพื้น เจ้าออร์คมิต้องออกแรงฟาดฟันก็หยิบเขาเข้าใส่ในปากและกลืนลงไปทั้งเป็น!!
ช่างเป็นภาพที่น่าสยดสยองเสียจริง หลินหยางยังคงซุ่มอยู่หากให้คนของเขาออกไปสู้กับมันตอนนี้ก็คงไม่ต่างจากกองกำลังตรงหน้าเท่าไหร่ เช่นนั้นเขาจึงต้องมีแผนเพื่อจัดการเจ้าออร์คตะกละเสียก่อน
หลินหยางกลับมาสมทบกับกองกำลังของเขาเพื่อเตรียมแผน เขามิได้สนใจออร์คกับมนุษย์กลุ่มนั้นอีกพวกเขาคงต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น ตอนแรกเขาหวังว่าคนกลุ่มนั้นจะทำให้ออร์คอ่อนเพลียเสียแรงไปบ้าง แต่ผลออกมากลับเป็นพวกเขาชวนกับออร์คเล่นวิ่งไล่จับแถมจะเป็นการเติมพลังโดยสละร่างกายของพวกมันเป็นอาหารเติมพลังงานของออร์คเสียแทน
เขาวางแผนและฟังความเห็นจากผู้คนรอบด้านเพื่อเพิ่มความสำเร็จในการโจมตี
ผ่านมาราวชั่วโมงนึงแล้วตั้งแต่ออร์คไล่ทุบกลุ่มคนพวกนั้น หลินหยางเมื่อจัดแจงรายละเอียดเสร็จสิ้นเขาและทีมก็เริ่มทำตามแผนการที่วางไว้ทันที
ทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมกระจายตัว ทีมก่อสร้างแยกกลุ่มออกไปอีกฝั่ง เหล่าเอลฟ์ก็แยกไปอีกทางเช่นกัน ทั้งสามทีมแยกกันอยู่สามทิศมิได้รวมตัวกันหากทีมไหนตกเป็นเป้าหมายทีมที่เหลือก็จะจู่โจมมันจากด้านข้างและด้านหลัง ส่วนทีมที่เป็นเป้าหมายก็ถอยหนีไปเมื่อมันมิไล่แล้วก็กลับมาระดมโจมตีมันต่อ นี้คือแผนที่พวกเขาวางไว้
หลินหยางเมื่อมองไปยังอดีตสมรภูมิของกลุ่มมนุษย์ก่อนหน้าบัดนี้มีซากร่างผู้เสียชีวิตกระจัดกระจายอยู่ทั่วไม่ต่ำกว่าสามสิบศพช่างเป็นภาพที่น่าหดหู่ใจเสียจริงๆ พวกเขาพลาดท่าให้แก่ออร์คเพราะขาดรอบคอบและความสามัคคี คนที่มาโจมตีออร์คคงหนีหายไปหมดแล้ว
หลินหยางถอนหายใจ ตอนนี้เจ้าออร์คตนนั้นกำลังง่วนอยู่กับการกินร่างมนุษย์ที่ถูกทุบจนแบนอยู่บนพื้น มันจึงมิได้สนใจกระรอกที่กรูกันออกมาจากโพรงไม้เมื่อพวกมันออกมาได้มันก็วิ่งกันไปคนละทิศละทางและหายเข้ากลีบเมฆไป
หลินหยางให้สัญญาณแก่ทีมก่อสร้างพวกเขาอยู่ห่างจากมันราวสี่ร้อยเมตรเพื่อเตรียมโจมตี
พวกเขามีรถยิงธนูอยู่สามคันซึ่งลูกศรที่ใช้ครานี้เป็นหอกเหล็กเนื่องจากเขาไม่มั่นใจว่าหอกไม้จะคร่าชีวิตเจ้าออร์คตัวอ้วนนี้ได้
“โจมตี” หลินหยางตะโกนเสียงดัง
ฟุ่บ!!
ฉึกก!!
หอกเหล็กพุ่งผ่านผืนนภาอันไกลโพ้นเสียบลงบนร่างของเจ้าออร์คบริเวณสะโพกและกลางหลังอย่างรุนแรงทะลวงเข้าไปในผิวหนังเจาะลึกเข้าไปกว่าครึ่งเล่ม จากการโจมตีหนึ่งชุดยิงออกไปสามดอกผลลัพธุ์เข้าเป้าสองและพลาดพลั้งหนึ่งซึ่งก็นับว่าไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับระยะไกลเกือบครึ่งกิโลเมตร
ฮว๊ากก~~
เจ้าออร์คร้องอย่างเจ็บปวดตกใจสุดขีดจากความเสียหายที่ได้รับอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เพียงครู่เดียวจากความเจ็บปวดตื่นตระหนกกลายเป็นความเดือดดาลโกรธแค้นมันหันซ้ายหันขวามองผ่านทีมระยะใกล้และเหล่าเอลฟ์ไปอย่างไม่ใยดี สายตาจับจ้องไปยังทีมก่อสร้างดวงตาแดงก่ำย่ำเท้าออกตัววิ่งตรงปรี่เข้าไปหาอย่างไร้ความเกรงกลัว
“โจมตี!!”
ฟิ้ว~~
ฉึก~~
แต่น่าเสียดายออร์คตัวยักษ์มิอาจทำตามความปราถนาของตนได้ หลินหยางประกาศกร้าวลั่นวาจาออกคำสั่ง สิ้นเสียงของมันห่าฝนธนูผุดขึ้นมาเต็มผืนฟ้าพุ่งเข้าหามันอย่างแม่นยำราวกับจับวางโจมตีต่อเนื่องไร้สิ้นสุด ด้วยพรสวรรค์และค่าสถานะพลังของพวกมันส่งผลให้การโจมตีทรงอานุภาพทะลุทะลวงผิวหนังแข็งกร้านของมันเจาะลึกลงบนร่าง ทว่า….ด้วยขนาดที่ใหญ่โตมโหฬารของมันขนาดของลูกศรเรียกได้ว่าเล็กกระจิ๊ดริ๊ดราวกับไม้จิ้มฟันก็มิปานทำให้มันมิได้รับบาดเจ็บสาหัสสักเท่าไหร่นัก แต่กระนั้นก็ยังเพียงพอสร้างความเจ็บปวดให้แก่มันได้บ้างทำให้มันมิอาจรุกคืบไปต่อหยุดชะงักกลายเป็นเป้านิ่ง
“โจมตี!!” เล็งเห็นเช่นนั้นชายหนุ่มไม่ปล่อยให้โอกาศหลุดมือ ครานี้ถึงคิวของทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมแล้ว!!