ตอนที่ 103 เส้นทางสุดท้าย
ผู้คนที่มาจากเมืองของฉือเฉียวแม้ระดับพวกมันจะสูงกว่าคนของหลินหยาง แต่ฝีมือการต่อสู้นับว่าด้อยความสามารถเนื่องจากฉือเฉียวมันมิได้จัดการฝึกซ้อมใดๆ
เมื่อทำการต่อสู้กับเมืองอื่นหรือมอนสเตอร์มักมีผู้บาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนไม่น้อย แต่ประสบการณ์การต่อสู้ของพวกเขาไม่สามารถดูถูกได้เลย เพราะเมื่อพวกเขามีชีวิตรอดจากการต่อสู้มักจะสั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆระดับพวกเขาจึงเพิ่มสูงขึ้น คนพวกนี้นับว่าเป็นทหารหัวกระทิของฉือเฉียวก็ว่าได้
ซึ่งตอนนี้เหลืออยู่เพียงสามสิบชีวิตเท่านั้น พวกที่เหลือล้วนตายภายใต้คมดาบของหลินหยางไปกว่าห้าสิบชีวิต หากเขาล่วงรู้ว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้เขาคงไม่คร่าชีวิตพวกมันไปมากมายขนาดนั้น เนื่องจากพวกเขาเป็นกองกำลังที่มีประสิทธิภาพไม่น้อยเลยทีเดียว
“เอาล่ะพักกันก่อน” หลินหยางกล่าวเมื่อเห็นเทียนหนิงเจี้ยนหายใจอย่างหืดหอบ ดูท่ามันจะเดินต่อไม่ไหวแล้วจึงสั่งให้พวกเขาพักดื่มน้ำกินอาหารกันเสียก่อน
ตอนนี้พวกเขาอยู่ระหว่างทางสำรวจ เส้นทางนี้คือเส้นทางสุดท้ายแล้วเมื่อการสำรวจวันนี้เสร็จสิ้น แผนที่ที่เทียนหนิงเจี้ยนจดบันทึกก็นับว่าเสร็จสมบูรณ์ภายในระยะห้าสิบกิโลเมตรรอบเมืองของเขา
เมื่อมองไปยังเทียนหนิงเจี้ยนเขาก็อดรู้สึกผิดมิได้ เพราะตัวมันมิได้แข็งแรงดังคนในทีมสำรวจการเดินทางไกลจึงเป็นปัญหาสำหรับมันไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่ออยู่ในเมืองมันก็ทำงานหนักไม่น้อยเพราะต้องวิ่งเต้นดูแลความสงบ ภายในเมืองแทบทุกอย่าง รวบรวมข้อมูล กิจวัตรประจำวัน เพื่อรายงานแก่หลินหยาง
ดังนั้นเขาจึงหยุดพักทุกๆสิบกิโลเพื่อให้มันได้พักให้หายเหนื่อย แม้วันนี้จะเป็นการสำรวจเส้นทางสุดท้ายแต่อีกสองเดือนข้างหน้าพวกเขาต้องออกมาสำรวจอีก เพราะเป็นกำหนดการของ’เมืองใหม่’ที่จะมาถึงนั่นเอง รวมถึงแหล่งอาหารใหม่เช่นกัน
“เดินทางต่อ” เมื่อจิ่นเหอกลับมาจากการตรวจตรารอบบริเวณ หลินหยางจึงตะโกนเป็นสัญญาณเพื่อให้พวกเขาตื่นตัวและมุ่งหน้าเดินทางสำรอบต่อไป
การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น เส้นทางที่พวกเขาเดินผ่านล้วนเจอกับเมืองแปลกใหม่ทั้งที่ยังสภาพสมบูรณ์และทรุดโทรม
ในแถบนี้เมืองหลินหยางนับว่าเป็นเมืองที่มีอิทธิพลสูงสุดเนื่องจากกำลังพลมีมากกว่าเมืองอื่นถึงเจ็ดเท่า คงไม่มีเมืองใดที่อาจหาญท้ารบกับเมืองของเขา
ระหว่างการสำรวจ
เมื่อใกล้จุดหมายปลายทางผู้คนจึงเริ่มมีสีหน้าผ่อนคลายมากขึ้น เพราะตั้งแต่พวกนี้พวกเขาไม่ต้องออกมาสำรวจภายนอกเมืองอีกแล้ว เพราะมันทั้งอันตรายและไม่ทราบต้องเจอกับสิ่งใดบ้าง
แจ๊บบบ~
ทันใดนั้นเอง เมื่อใกล้ถึงจุดสิ้นสุดสำหรับการสำรวจ พวกเขามองเห็นบางอย่างเกาะกลุ่มกันมันกำลังลุมทึ้งบางอย่างอยู่ จากเสียงที่มันส่งออกมาคล้ายกำลังกัดกินบางสิ่งเป็นเสียงที่น่าสยดสยองเสียจริง
“มดไฟ?” หลินหยางกล่าวเบาๆ แม้พวกมันจะอยู่ห่างไกลก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของเขาไปได้
หลินหยางมองมันจากด้านหลัง พวกมันคล้ายกับมดไฟที่เคยบุกจู่โจมเมืองของเขามาแล้วหนึ่งครา ในกลุ่มนั้นมีประมาณเจ็ดแปดตัว พวกมันกำลังวุ่นอยู่กับบางอย่างตรงหน้า ก้มหัวลงแทะเล็มบางสิ่ง
หลินหยางให้สัญญาณมือเพื่อหยุดขบวน เขานำจิ่นเหอและหลิวไห่ติดตามเพื่อเข้าไปใกล้พวกมัน
เมื่อเข้าใกล้จนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนสิ่งที่เจ้าพวกนี้กำลังกัดกินอยู่ มันกำลังกินมนุษย์!!
ตอนที่ 104 ผู้เคาะห์ร้าย
เมื่อเห็นสิ่งที่มันกำลังกัดกินอย่างเอร็ดอร่อยนั้น
หลินหยางขนลุกไปทั้งตัว เพราะร่างที่ถูกมันกัดกินนั้นยังมิตายสนิท เขาลืมตาส่ายหัวไปมาแต่บริเวณหน้าท้องของเขานั้นกำลังถูกกลุ่มมดไฟแทะเล็มอยู่ บัดนี้อวัยวะภายในของเขาออกมากองรวมกันอยู่บนหน้าท้อง
‘…’ หลินหยางหน้าซีด ชายผู้เคาะห์ร้ายต้องมองดูร่างของตนถูกกัดกิน ดูจากบาดแผลสำหรับคนปกติคงตายไปมากกว่าสิบครั้งแล้ว เหตุใดชายคนนี้จึงมิสิ้นชีวีก็ไม่ทราบ
“ช่วยเขา” หลินหยางกล่าวแก่จิ่นเหอ
เมื่อได้รับมอบหมายเขาพุ่งเข้าไปฟาดฟันมดกลุ่มนี้ทันที เขาจัดการพวกมันได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
เนื่องจากพวกมันกำลังสนใจอาหารตรงหน้าอยู่จึงมิได้รู้ถึงตัวตนของจิ่นเหอ รวมกับความเร็วที่ต่ำตมของมันแม้จะรู้ตัวพวกมันก็ไม่สามารถหลบหนีพญามัจจุราชที่เงื้อดาบฟาดฟันลากชีวิตของมันไปได้
ทีมสำรวจบัดนี้ยืนล้อมรอบชายผู้เคาะห์ร้าย มองดูสภาพแล้วมันช่างน่าสยดสยองยิ่งนัก
“ฆ่าผมที” ชายคนนั้นกล่าว
หลิวไห่เมื่อเห็นชายตรงหน้าเขาน้ำตาคลอเบ้า มิทราบชายตรงหน้าต้องเจ็บปวดทรมานมานานเท่าใด
ฉึก!
หลินหยางมิปล่อยให้เขาคอยนาน แทงดาบลงบนหน้าอกของเขาส่งเขาไปสู่สุคติมิต้องได้ทรมานอีก
“ฝังเขา”
เมื่อได้รับคำสั่งพวกเขาขุดหลุมเพื่อฝังชายผู้เคาะห์ร้ายทันที อย่างน้อยก็อยากให้เขามีดินกลบหน้า
“เอายังไงต่อครับพี่หยาง” จิ่นเหอกล่าวถาม
“ส่งคนไปดูรอบๆ หาเมืองของชายคนนี้” หลินหยางกล่าว ชายที่ถูกมดกัดกินนี้คงอาศัยอยู่เมืองใดซักเมืองบริเวณรอบๆนี้
เพราะบนตัวเขาไม่ได้มีสิ่งใดๆติดมาแม้แต่อาวุธคู่กายก็ไม่มี เหตุที่หลินหยางมิต้องการถามจากปากเจ้าตัวเพราะเขาคงมิสนใจสิ่งใดแล้วเพียงต้องการความตายเท่านั้น
“ครับ” จิ่นเหอตอบรับและพาคนตระเวนไถ่ถามตามเมืองโดยรอบทันที
หลินหยางและคนที่เหลือเมื่อขุดฝังชายเคาะห์ร้ายแล้ว พวกเขานั่งรวมกัน เทียนหนิงเจี้ยนเมื่อครามันเห็นร่างชายเมื่อครู่มันอาเจียนออกมาอย่างหนัก หากฝืนพามันเดินทางต่อมันคงต้องตกตายตามชายคนนั้นไปแน่ สำหรับการแกะรอยนั้นจิ่นเหอเพียงคนเดียวนับว่าเพียงพอแล้ว เนื่่องจากก่อนมายังโลกแห่งนี้เขาเป็นนายพรานล่าสัตว์นั่นเอง ตามหาร่องรอยของมนุษย์จึงมิใช่เรื่องยากสำหรับเขา
ไม่นานเขาก็กลับมา
“พี่หยางผมเจอต้นตอของเรื่องแล้ว มีเมืองอยู่ทางนั้นราวสองกิโลครับ” จิ่นเหอรายงานผลพลางชี้ไปทางหนึ่ง
หลินหยางและพวกออกเดินทางเพื่อไปยังเป้าหมายทันที หากเป็นการสู้รบกันระหว่างเมือง หลินหยางคงมิได้สนใจ แต่เมื่อเป็นการจู่โจมของสัตว์ประหลาดหากเขาช่วยได้เขาย่อมต้องช่วยเหลือ เพราะการคร่าชีวิตพวกสัตว์ประหลาดเหล่านี้เขาล้วนได้ประโยชน์ไปด้วย ทั้งเงิน ทักษะ ระดับ รวมถึงคำขอบคุณ
เมื่อเดินตามจิ่นเหอมาได้ราวสองกิโลพวกเขาก็เจอกับเมืองมนุษย์เมืองหนึ่ง แต่ดูจากภายนอกแล้วพวกเขาคงจะมาสายเกินไป
เพราะตอนนี้มีฝูงมดไฟกว่าร้อยตัวเดินเพ่นพ่าน เข้าออกภายในเมืองเป็นว่าเล่น ราวกับนี่คือเมืองของมันก็มิปาน
บนผืนดินภายนอกเมืองมีซากมนุษย์นอนเกลื่อนกลาดอยู่หลายร่าง โดยมีมดไฟเกาะกลุ่มกันกัดกินพวกเขาอยู่ คล้ายกับนี่คือโต๊ะจีนของมัน
หลินหยางเมื่อทราบว่าตนมาสายไป เขาจึงมิได้เข้าโจมตีในทันที คอยดูลาดราวต่อไป เพราะพวกมดมันเริ่มเดินออกจากในเมือง ดูท่าพวกมันกำลังจะออกเดินทาง