ตอนที่ 175 เคารพ
เมื่อไม่มีผู้คัดค้านใดๆ หลินหยางจึงให้ฉางเปาและพวกแนะนำตัวเองต่อเหล่าทหารตรงหน้า
“ผมชื่อฉางเปา ระดับสิบเอ็ด” ฉางเปาเดินขึ้นมากล่าวอย่างตื่นเต้น เมื่อมันคุ้นชินกับกลิ่นคาวเลือดใบหน้ามันมีเลือดฟาดขึ้นมาบ้าง และเมื่อมองไปยังเหล่าทหารตรงหน้าที่กำลังจะตกอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของมันซึ่งมีมันเป็นผู้นำ จึงอดรู้สึกตื่นเต้นยินดีมิได้
เมื่อฉางเปาแนะนำตัวคนของมันที่เหลือจึงทะยอยแนะนำตนเอง
คนของฉือเทียนพวกเขามองผู้นำคนใหม่ของตนเพื่อจดจำใบหน้า ท่าทาง พวกมันเมื่อได้รับคำสั่งจากหลินหยางให้ติดตามคนพวกนี้แน่นอนย่อมไม่ปฏิเสธ เพราะหากเอ่ยปากคัดค้านปฏิเสธพวกมันคงมีสภาพไม่ต่างจากสหายร่วมรบที่ตอนนี้นอนทับถมกองกันตรงแท่นไม้…
สำหรับข้อเสนอของหลินหยางนั้นนับว่าเป็นประโยชน์แก่พวกเขามากนับ พวกเขาจะมีอาหารกินกันตลอดจนกว่าจะสามารถยึดแหล่งอาหารเองได้แสดงว่าพวกเขาไม่ต้องทนหิวอีกต่อไปการต่อสู้กับหลินหยางครานี้ก็เนื่องมาจากอาหารที่ขาดแคลนนั่นแล
หากพวกเขาจะสามารถยึดครองแหล่งอาหารเองได้พวกเขาต้องนำอาหารสามส่วนสิบไปให้แก่เมืองหลินหยาง ข้อเรียกร้องของหลินหยางมีเพียงแค่นี้เท่านั้น พวกมันเมืองได้ฟังจึงรู้สึกโล่งใจเพราะหากเป็นดังที่หลินหยางกล่าวมา แสดงว่าพวกมันเหมือนกับเมืองภายใต้อานัติของหลินหยางแม้จะต้องส่งสิ่งของที่ตนมีไปให้พวกมันก็มิได้เสียใจแม้แต่น้อย
เป็นที่รู้กันดีในบริเวณโดยรอบว่ามีเมืองต่างๆที่ยื่นข้อเสนอเป็นพันธมิตรกับเมืองหลินหยาง พวกมันกระทั่งแบ่งปันอาหารรวมถึงส่งของกำนัลให้หลินหยางเพื่อหวังเป็นสหายกับเมืองของหลินหยาง แต่เมืองเหล่านี้ล้วนถูกปฏิเสธจนสิ้นมิใยดี
แต่สำหรับคนของฉือเทียนตรงหน้าบัดนี้พวกมันใบหน้ายิ้มแย้มยินดีเพราะนับแต่วันนี้พวกมันไม่ต้องทนห่วงเรื่องอาหาร แถมในบริเวณโดยรอบก็มิต้องเกรงกลัวเมืองอื่นอีกต่อไปเพราะพวกมันมีเมืองหลินหยางผูกมิตรคอยหนุนหลัง!
เมื่อฉางเปาและพวกแนะนำตัวกันจนเสร็จสิ้น หลินหยางจึงนำอาวุธให้พวกเขารวมถึงอาหารให้พวกเขา ทหารเหล่านี้ต่อสู้กันมาอย่างเหน็ดเหนื่อยไม่น้อยแม้ผลลัพธ์จะพ่ายแพ้ก็ตาม
“พวกนายกลับไปเถอะ ตอนเย็นของทุกวันส่งคนไปรับเสบียงที่เมืองของผม” หลินหยางกล่าว
“ครับ!” เมื่อหลินหยางกล่าวจบ มีเสียงตอบรับจากคนกว่าแปดสิบคนดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ ต้นตอของเสียงมาจากคนของฉือเทียนนั่นเองพวกมันยืนตรงตอบรับอย่างแข็งขัน จนทำให้ผู้นำคนใหม่อย่างฉางเปาและพวกถึงกับยืนงงเลยทีเดียวเพราะเมื่อครู่มันพึ่งแนะนำตัวเองไปแทบไม่มีใครให้ความสนใจเรื่องของมันแม้แต่น้อย…
หลินหยางก็งงไม่ต่างกัน..
ไม่นานฉางเปาและเหล่าทหารเดินกลับเมืองไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมิแตกแถว แม้จะไม่ได้ฝึกซ้อมอันใดก็ตามทีดูท่าจะเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าตอนที่เผชิญหน้ากับหลินหยางคราแรกเสียอีก
เมื่อพวกเขาเดินทางกลับไปห่างจนลับสายตาหลินหยางจึงอยู่ที่โพรงกระรอกต่อพูดคุยกับเหล่าเวรยามอย่างสนุกปากอีกเพียงไม่นานจึงกลับเมืองของตน
ตอนที่ 176 บรรยากาศ
เดิมทีหากหลินหยางมีอาหารเพียงพอที่จะสามารถเลี้ยงชีวิตคนของเขา เขาก็คงจะรับคนของฉือเทียนที่ยอมจำนนพ่ายแพ้เหล่านี้มาอยู่ภายในเมืองของเขาเอง
แต่น่าเสียดายอาหารของพวกเขาเพียงพอที่จะเลี้ยงคนกว่าสามร้อยคนต่อวันเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ยังเหลืออาหารที่เก็บไว้ยามฉุกเฉินรวมถึงอาหารที่ยึดมาจากเมืองของฉือเทียนละพวกเหลืออยู่ หลินหยางจึงนำส่วนที่เหลือเหล่านี้ไปเลี้ยงคนของฉือเทียนและฉางเปา
เขาเพียงหวังว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีแหล่งอาหาร น้ำแห่งใหม่มา เพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดครบเวลาที่เมืองใหม่จะมาถึงแล้ว รวมถึงแหล่งอาหาร น้ำ รวมถึงถ้ำประหลาดลึกลับที่มีมอนสเตอร์อยู่ภายในที่หลินหยางยังมิมีข้อมูลของพวกมัน
ณ เมืองหลินหยาง
เมื่อหลินหยางกลับมาถึงเมืองเขารีบทานอาหารและเข้านอนทันที เพราะวันนี้เป็นศึกใหญ่ที่สุดสำหรับการต่อสู้กันระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง เขาใช้ทักษะระดับสูงไปจึงทำให้เหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก เมื่อห้องพักของตนจึงหลับไปอย่างรวดเร็ว
ตอนเช้า
หลินหยางตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นมองไปยังเหมยเหมยที่นอนซบอกของตนอย่างคุ้นเคย เพราะทุกคืนวันเหมยเหมยมักนอนกอดหลินหยางจนหลับปุ๋ยทุกคืน หลินหยางจึงลูบหัวเธอเบาๆ เมื่อมือที่หยาบกร้านจากการทำงานอย่างหนักของหลินหยางลูบศรีษะที่บอบบางจึงทำให้เหมยเหมยตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย
เห็นเช่นนั้นหลินหยางจึงอดยิ้มไม่ได้ ตอนเช้าของทุกวันเขาจะเห็นเหมยเหมยเด็กสาวตัวน้อยลุกขึ้นอย่างงัวเงียขยี้ตาอย่างน่ารัก นับว่าเป็นอาหารตาชั้นดีเลยทีเดียว
ทั้งสองแม้จะตื่นกันแล้วก็ยังมิได้ลุกขึ้นแต่อย่างใดนอนเล่นกันอยู่ไม่นานหลินหยางจึงลุกขึ้นล้างหน้าล้างตาและเตรียมรับประทานอาหารเช้า เมื่อเดินออกมาจากบ้านพักก็เจอเข้ากับเจ้าเขียวทั้งเจ็ดที่มักมานอนรวมกันอยู่หน้าที่พักของหลินหยาง เมื่อพวกมันได้ยินเสียงหลินหยางจึงตื่นขึ้นมาเมื่อเห็นตัวจึงรีบกรูกันเอาตัวเข้าไปแนบชิดติดกับหลินหยางอย่างน่าเอ็นดู
ผู้คนภายในเมืองเริ่มตื่นกันแล้วเป็นช่วงเช้าตามปกติ เหล่าเวรยามที่ทำงานอย่างหนักกันทั้งคืนเมื่อได้เวลาเปลี่ยนกะจึงเข้านอนอย่างเหน็ดเหนื่อยและสับเปลี่ยนเวรยามชุดใหม่
ส่วนผู้บาดเจ็บเล็กน้อยจากการต่อสู้เมื่อวานยังเหลือผู้ที่ยังไม่ได้รับการรักษาราวสิบคน อันเนื่องมาจากหรงเถียนเหยาเมื่อใช้ทักษะในการรักษาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เธอเหน็ดเหนื่อยยิ่งนักจึงเว้นช่วงเพื่อให้เธอได้พักผ่อนหย่อนกาย หากปล่อยให้ทีมแพทย์เพียงคนเดียวของเขาทำงานหักโหมจนล้มป่วยเสียเองนับว่าเป็นการเสียหายอย่างใหญ่หลวงเลยทีเดียว
บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น ผู้คนเดินกันพลุกพล่านพูดคุยกันสนุกปาก โดยเฉพาะเหล่าชายชาตรีที่พึ่งผ่านศึกสงครามมาเริ่มป่าวประกาศวีรกรรมของตนอย่างขันแข็งแข่งขันกันอยู่เสียงของพวกเขาทำให้ผู้คนที่พึ่งตื่นแสบแก้วหูกันเลยทีเดียว
เมื่อทานอาหารกันเป็นที่เรียบร้อย
“มาครบแล้วใช่ไหม” หลินหยางกล่าวยืนอยู่หน้าขบวนแถว
“ครับ” เสียงชายคนหนึ่งตอบกลับอย่างหนักแน่น เขายืนอยู่ต่อหน้าหลินหยางด้านหลังของเขามีคนกว่าเก้าสิบคนยืนเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในมือล้วนถือขวานและค้อน หลังขบวนแถวมีเกวียนขนาดใหญ่กว่าห้าลำที่แบกเสบียงอาหารอยู่ ผู้ที่ตอบกลับคือหลิวเจี่ยนั่นเอง
คนเหล่านี้คือทีมที่มีกำลังพลมากที่สุดในเมืองของเขา ทีมก่อสร้าง
วันนี้หลินหยางจะนำพวกเขาเพื่อไปตัดต้นไม้ที่ล้อมรอบเมืองพันธมิตรของฉือเทียน เขามิได้นำทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมติดตามไปด้วย
“ไปกันเถอะ” เมื่อทุกคนเตรียมพร้อมกันเรียบร้อยหลินหยางจึงให้สัญญาณทันที และออกเดินทางมุ่งตรงไปยังเมืองของฉือเทียน