ตอนที่ 275 ปะทะ(ตอนหก)
ฝ่ายพันธมิตรสามเผ่าพันธุ์นี้พวกมันมิใช่โง่งม
พวกมันเองก็เตรียมตัวปะทะต่อสู้เอาไว้แล้วเช่นกัน
ยิ่งเมื่อเห็นศัตรูตรงหน้าเปลี่ยนแปรขบวนรบยิ่งเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งนัก เสียงที่หลิวไห่ตะโกนออกคำสั่งโจมตีเมื่อครู่มิได้ดังและก็มิได้เบาเลย
พวกมันที่อยู่ใกล้เคียงเช่นนี้ย่อมได้ยินด้วยเช่นกันเพียงแต่มิรู้ว่าการโจมตีนั้นเป็นแบบไหนแค่นั้นเอง จึงเพิ่มความจดจ่อมากยิ่งขึ้น จนกระทั้งขบวนรูปเล่มตรงหน้าปลดปล่อยเขวี้ยงปาหอกเข้าใส่พวกมันนั่นเอง
แม้หลิวไห่และพวกจะปาได้แม่นยำผ่านการฝึกมาอย่างโชกโชนปาเข้าใส่ลำตัวที่เป็นเป้าใหญ่ที่สุดได้อย่างแม่นยำมิผิดเพี้ยน
แน่นอนเห็นเป้าหมายเงื้อง้างแขนปาหอกเข้าใส่โต้งๆเช่นนี้มีหรือมันจะโง่งมยืนรอให้หอกมาปักใส่ร่างของตน
พวกมันจึงสามารถหลบหลีกได้ไม่มากก็น้อย แต่กระนั้นก็ยังมีผู้โชคร้ายถูกหอกปลายแหลมทิ่มแทงทะลุร่างกายตกตายไปกว่าเจ็ดศพ!
“อ้าก ไอ้พวกโง่” มีเสียงตะโกนแหกปากโวยวายดังขึ้นมา ต้นเสียงมาจากผู้นำเผ่ามนุษย์นั่นเอง
ผู้ที่ตกตายไปทั้งเจ็ดร่างที่นอนแน่นิ่งหมดลมหายใจเหล่านั้นล้วนเป็นมนุษย์ทั้งสิ้น!
ส่งผลให้ผู้นำเผ่ามนุษย์นั้นร้องแหกปากเสียงดังคล้ายกับคนบ้าสติแตกก็มิปาน เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าตอนนี้พวกมันสูญเสียพักพวกไปร่วมสิบสองคนแล้ว!
ตอนนี้มันจึงเป็นเมืองที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พันธมิตรทั้งสาม!
จากเดิมตอนแรกนั้นมันคือเมืองที่มีประชากรที่สามารถสู้รบได้มากที่สุด โดยที่มีทั้งหมดกว่าสี่สิบคน
แต่ตอนนี้มันเสียกำลังพลไปมากกว่าสิบสองนายแล้วจึงทำให้เมืองของมันตกต่ำลงอย่างมิต้องสงสัย
เพราะเมืองทุกเมืองนั้นล้วนมีกำลังดั้งเดิมที่เท่าเทียมกันนั่นคือห้าสิบชีวิตแม้จะรวมเข้ากับกำลังพลจากเมืองอื่นแต่ทว่าประชากรดั้งเดิมก็ไม่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แต่ทว่ามีคนที่มิสามารถต่อสู้ได้กว่าสิบคนในเมืองของมัน!
เหล่ามนุษย์หมาป่าทั้งหลายนั้นสามารถหลบหลีกการโจมตีที่เปิดเผยนี้ได้อย่างง่ายดาย อาศัยความเร็วที่ติดตัวมาแต่กำเนิด รวมถึงการโจมตีที่สามารถคาดเดาได้ทำให้มิเป็นปัญหามากนักในการหลบหลีก
ส่วนมนุษย์ทั้งหลายนั้นสถานะทั้งหมดล้วนอยู่ในเกณฑ์ตามปกติ มิได้มีสิ่งใดพิเศษเพิ่มเติมมา ไม่มีความสามารถติดตัว จึงทำให้พวกเขาเสียเปรียบตกตายไปอย่างอนาถ
การปาหอกเมื่อครู่ทั้งยี่สิบเล่ม มีเป้าหมายเป็นมนุษย์หมาป่าทั้งหมดแปดราย และมนุษย์สิบสองราย ซึ่งมีมนุษย์ห้ารายที่สามารถรอดพ้นจากคมหอกของมัจจุราชที่หมายปลิดชีวิตพวกมันได้อย่างเฉียดฉิว
“เห้ย” มนุษย์ผู้หนึ่งมันสามารถหลบการโจมตีจากหอกเหล็กได้อย่างหวุดหวิด หอกแท่งนั้นพุ่งผ่านลำตัวของมันไปเฉียดฉิวห่างผิวหนังของมันมิถึงคืบ
เมื่อสามารถทรงตัวได้มันหันไปมองเพื่อนพ้องของตนอย่างตื่นตกใจ เพราะเพื่อนของมันบัดนี้ตาแข็งค้างไร้สัญญาณตอบกลับใดๆสิ้นลมหายใจพร้อมกับหอกเหล็กที่ปักหายเข้าร่างของมันค้ำยันอยู่บนพื้น
ทำให้ร่างกายของชายผู้เคาะห์ร้ายรายนั้นถูกค้ำยันไว้กลางอากาศตกตายลงไปแม้แต่แผ่นหลังยังไม่แตะพื้นด้วยซ้ำ!
ตอนที่ 276 ปะทะ(ตอนเจ็ด)
หอกแท่งนั้นปาทะลุร่างกายของมันจนเกือบจะสุดปลายด้าม หอกที่ยาวเกือบสองเมตรนั้น กลับโผล่พ้นหน้าอกของมันมาเพียงด้ามหอกที่ยาวมิถึงหนึ่งศอก!
นี่คือความรุนแรงจากหอกที่ถูกปาโดยหนึ่งในพลโล่ขบวนรูปลิ่มแห่งนี้!
“ฆ่ามัน ฆ่ามันให้หมด” ผู้นำชาวมนุษย์ตะโกนสั่งอย่างเดือดดาล บัดนี้มันคงสติแตกไปแล้วเป็นแน่
ว้ากกก~
ทันใดนั้นเองกลับมีเสียงร้องดังขึ้นมา มันร้องดังจนเสียงหลงแหบแห้ง ต้นตอของเสียงมาจากชายมนุษย์คนหนึ่งที่สามารถรอดพ้นจากคมหอกมาได้อย่างหวุดหวิด
มันร้องเสียงหลงหันตัวกลับพุ่งไปยังทางผู้นำทั้งสามอย่างรวดเร็ว มันมิฟังคำสั่งของผู้นำของตนอีกต่อไปหนีเอาตัวรอดไปแอบอยู่ด้านหลังพักพวกมิดชิด
มันพึ่งหลุดรอดจากคมเขี้ยวมัจจุราชที่หมายปลิดชีวิตของมันได้หยกๆรอบกายของมันยังคงมีร่างของพวกพ้องถูกปลายหอกปักเสียบเป็นลูกชิ้นปิ้งพร้อมกับเลือดอุ่นๆที่ไหลลดลงย้อมผืนเขียวขจีกลายเป็นเฉดสีแดงฉาน
แต่ผู้นำบ้าเลือดหน้าโง่ของมันกลับออกคำสั่งให้มันเข้าไปต่อสู้เสี่ยงชีวิตอีกครา มีหรือมันจะยอมเอาชีวิตไปทิ้งตามคำบัญชาของคนที่พึ่งรู้จักเพียงไม่กี่วัน เดือน แน่นอนมันย่อมรักชีวิตของตนมากกว่า
“เจ้าโง่จะกลัวมันทำไมว่ะ คนของเรามากกว่ามันตั้งสี่ห้าเท่า” ผู้นำมนุษย์โกรธเป็นฟืนไฟตะคอกใส่ชายคนนั้นอย่างรุนแรง
ลำพังการสูญเสียพลทหารไปกว่าสิบนายนี้นับว่าสาหัสมากพอแล้ว บริวารของมันยังทำให้มันเสียหน้าต่อผู้นำพันธมิตรอีกสองตนอีกด้วย โดยการหนีออกจากสนามรบมิยอมทำตามคำสั่งของมัน
“พวกเราปล่อยพวกมันไปเถอะ ยังไงพวกมันก็จะหนีอยู่แล้วให้มันถอยทัพไปซะ พวกเราก็เข้ายึดถ้ำนี้ได้แล้วไง” ชายมนุษย์ผู้นั้นกล่าวตอบด้วยเหตุผล
ใบหน้ามันขาวซีด อดีตกาลมันเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้นมิได้มีสิ่งใดพิเศษ
เมื่อเห็นคนตกตายลงอย่างสยดสยองต่อหน้าจิตใจของมันยิ่งถดถอย เมื่อก้าวข้ามผ่านความตายมาได้อย่างหวุดหวิดมันก็มิอยากก้าวก่ายเฉียดใกล้คมดาบ คมหอกอีกเป็นครั้งที่สอง
‘หึ่ม’ ผู้นำชาวมนุษย์คำรามในลำคอ มันมองชายคนนั้นด้วยความอาฆาตแต่ทว่ามิได้ทำสิ่งใดสืบต่อ
“ยืนบื้ออยู่ทำไม โจมตีเข้าไปสิว่ะ” มันหันกลับไปมองยังขบวนรบของศัตรูและออกคำสั่งโจมตีอีกครา
“…” แม้จะได้ยินคำสั่งจากผู้นำของตนแต่ทว่าชาวมนุษย์ทั้งหลายกลับมิมีผู้ใดขยับเข้าใกล้แนวป้องกันตรงหน้าอีก พวกเขาล้วนยืนนิ่ง บ้างก็ถอยถอนกำลังกลับ หลบอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยนอกเขตแดนการต่อสู้ เมื่อเห็นว่าพักพวกของตนถอยกลับไปแล้ว คนที่เหลือก็ตามกันไปติดๆ
บัดนี้มีสองฝ่ายกำลังยืนประจัญหน้ากันอยู่ ฝ่ายหนึ่งตั้งขบวนรบคล้ายพีระมิดคอยป้องกันการโจมตีพร้อมกับโล่โลหะในมือที่ยึดกุมแนบแน่น
อีกฝ่ายคือมนุษย์หมาป่ากว่าสามสิบชีวิตที่ยืนคุมเชิงอยู่มิได้ถอยหนี แต่ก็มิได้บุกเข้าไปเช่นกัน ตอนนี้จำนวนของทั้งสองฝ่ายใกล้เคียงกันมากขึ้น
พวกเขาทั้งสองฝ่ายคล้ายกับรอคอยจังหวะเพลี่ยงพล้ำของอีกฝ่าย หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปิดช่องโหว่ขึ้นมา แน่นอนศัตรูของพวกเขาต้องใช้โอกาศนั้นเข้าโจมตีเป็นแน่!