ตอนที่ 251 วิกฤต(ตอนสอง)
วูบบ~
ราวกับถูกดูดด้วยแรงลมมหาศาลร่างกายของเขาแทบจะปลิวออกมา นั่นคือหลินหยางนั่นเองตอนนี้พึ่งจะออกมาจากสมรภูมิภายในถ้ำ
สิ่งแรกที่เขามองเห็นในสายตากลับมิใช่ทุ่งหญ้าสวยสดงดงามไกลสุดสายต่ออีกต่อไป
กลับกลายเป็นว่าบัดนี้ข้างหน้าของเขามีคนกลุ่มหนึ่งถืออาวุธครบมือกำลังล้อมรอบพวกเขาทุกทิศทางมิเหลือช่องว่างเลยแม้แต่น้อย!
ชายคนหนึ่งเขาได้รับหน้าที่ให้เฝ้าปากถ้ำเอาไว้เพื่อรอคอยเวลาดำเนินการตามแผนที่ได้รับมอบหมายจากหลินหยาง
เมื่อครู่นี้เขาแบกหามร่างกายของผู้บาดเจ็บเข้าไปพักในที่พักชั่วคราวโทรมๆที่สร้างขึ้นมาอย่างลวกๆ
ขณะที่กำลังแบกร่างพักพวกของตนเองอยู่นั้นเขาสังเกตุเห็นสิ่งปกติจากระยะไกลสุดสายตามีเงาดำทมึนกำลังคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ
เดิมทีคิดว่าเป็นเพียงพื้นหญ้าที่พริ้วไหวตามแรงลมเท่านั้นจึงมิได้สนใจมากนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานเงาดำนั้นยิ่งมายิ่งชัดเจน
สิ่งที่เขาคิดว่าเป็นต้นไม้ใบหญ้านั้นกลับกลายเป็นกองอื่นที่กำลังมุ่งตรงเข้ามายังที่ที่เขาอยู่มิหักเลี้ยวเปลี่ยนเส้นทางแต่อย่างใด เขาจึงส่งคนเพื่อไปเรียกตัวหลินหยางกลับมานั่นเอง
‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น’ หลินหยางกระซิบถามชายคนนั้น
‘จู่ๆพวกมันก็มุ่งตรงเข้ามาและล้อมกรอบพวกเราเอาไว้อย่างที่เห็นครับ’ ชายคนนั้นกล่าว เมื่อหลินหยางกลับมาทำให้ความกดดันของมันลดลงบ้าง
วูบบ~
“แฮ่กๆ” ชายที่ไปส่งข่าวคราวพึ่งกลับออกจากถ้ำมา มันวิ่งตามหลินหยางอยู่นานเลยทีเดียว
หลินหยางมองไปยังฝูงคนรอบๆตัวพวกนี้มีไม่ต่ำกว่าร้อยคนเลยทีเดียว
ดูท่าจะเป็นการรวมตัวของพันธมิตรสามเมืองเป็นแน่
โดยสมาชิกในกลุ่มคนพวกนี้สามารถยืนยันความคิดของหลินหยางได้เป็นอย่างดี
เพราะพวกมันปะปนกันด้วยสามเผ่าพันธุ์ นั่นคือมนุษย์ มนุษย์หมาป่า และอีกเผ่าพันธุ์ที่เขายังมิเคยพบเจอ แต่เมื่อได้ตรวจสอบจากทักษะดวงตาเหยี่ยวก็ทราบที่มาของพวกมันทันที นั่นคือเผ่ามนุษย์กิ้งก่า!
ร่างกายของพวกมันคล้ายคลึงกับมนุษย์ทั่วไปแทบจะมิแตกต่างอันใดเลย หากไม่มีเกร็ดที่ขึ้นปกคลุมผิวหนังและหางขนาดใหญ่ที่ยาวเหยียดลากไปบนพื้นและมีใบหน้าที่ยื่นนูนออกมา
หากมีเหล่าสตรีหญิงสาวพบเจอเผ่าพันธุ์นี้เข้า พวกเธอคงต้องกรีดดังลั่นทุ่งเป็นแน่…
“พวกคุณมีอะไร” หลินหยางตะโกนถาม
“เจ้าคือ?” มนุษย์กิ้งก่าตนหนึ่งกล่าวถาม ดูท่ามันจะเป็นหัวโจกของกองกำลังตรงหน้าที่ปิดล้อมเขาอยู่
“ผมชื่อหลินหยาง เป็นผู้นำของคนกลุ่มนี้” หลินหยางกล่าว
รอบๆตัวเขาคือเหล่ามนุษย์แปดคนที่ได้รับมอบหมายงานที่แตกต่างจากผู้อื่น
พวกเขาเตรียมรอรับแผนการโจมตีเหล่าค้างคาวอยู่ภายนอกถ้ำ
แต่ทว่ายังมิทันได้เริ่มแผนอันใดกลับเจอะเจอเข้ากับกองกำลังปริศนาที่ล้อมกรอบปิดเส้นทางเช่นนี้ ส่วนที่พักชั่วคราวด้านข้างยังมีผู้บาดเจ็บกว่าสิบคนที่นอนหมดสภาพอยู่
“โอ้ เจ้าคือผู้นำ?” มนุษย์กิ้งก่าตนนั้นอุทาน พลางมองหลินหยางหัวจรดเท้าอย่างมิเชื่อสายตา
มันมองเห็นเพียงเด็กหนุ่มร่างกายสมส่วนออกจะผอมกว่ามนุษย์ทั่วไปเสียด้วยซ้ำ
ผิดกับชายมนุษย์ที่ยืนเคียงข้างมันเขามีร่างกายกำยำแข็งแรงบ่งบอกถึงพละกำลังที่ตนเองถือครองอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
ตอนที่ 252 วิกฤต(ตอนสาม)
“พวกคุณล้อมพวกเราทำไม?” หลินหยางมิสนใจกล่าวถามออกไป เขาเคยชินกับปฏิกิริยาเช่นนี้แล้ว
“พวกเราต้องการเข้าไปในถ้ำแห่งนี้” มนุษย์กิ้งก่ากล่าวตอบ
“ด้านในนี้มีคนของผมอยู่พวกคุณกลับไปเถอะ” หลินหยางกล่าว
ด้วยการที่เมืองของเขาเป็นผู้ค้นพบถ้ำแห่งนี้ มีหรือที่เขาจะปล่อยให้เจ้ากิ้งก่าพวกนี้มาฉกฉวยโอกาศการเพิ่มระดับให้แก่คนของเขาได้?
“ข้างในมีอะไร? อาหารหรือเปล่า” มนุษย์กิ้งก่าตนนั้นดูท่าจะสนใจในถ้ำปริศนาไม่น้อย
เมื่อได้ฟังเช่นนั้นหลินหยางจึงใช้ทักษะดวงตาเหยี่ยวตรวจสอบพวกมันอย่างถี่ถ้วน พบว่าพวกมันล้วนเป็นผู้มีระดับหนึ่งและสองกันทั้งสิ้น อีกนัยหนึ่งก็คือพวกมันเป็นเมืองใหม่นั่นเอง
ดูท่าพวกมันจะมิเคยพบเจอยังถ้ำปริศนาที่ภายในมีรังของมอนสเตอร์อาศัยอยู่มาก่อน หากเป็นเขาเองก็คงสงสัยไม่ต่างจากพวกมันเช่นกัน
“ข้างในมีสัตว์ประหลาดแบบนี้” หลินหยางกล่าวพลางหยิบร่างไร้วิญญาณของค้างคาวปีกเหล็กขึ้นโชว์พวกมันหวังว่าพวกมันจะหวาดกลัวและถอยกลับไปเสีย
การต่อสู้ภายในถ้ำยังไม่สิ้นสุด หากต้องมาพบเจอกับกองทัพสามเผ่าพันธุ์ที่ล้อมรอบข้างนอกอีกพวกเขาต้องแย่เป็นแน่
แม้พวกเขาจะจัดการกับค้างคาวปีกเหล็กได้จนหมดแต่ถึงตอนนั้นแน่นอนร่างกายของพวกเขาย่อมเหน็ดเหนื่อย หรือหากพวกเขาจัดการกับกองกำลังตรงหน้าได้แน่นอนย่อมต้องเสียแรงไปมากโข
แต่อีกเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่านั้นนั่นคือหากพวกเขาทั้งสองกองทัพต่อสู้กันเองและถูกแทรกแซงด้วยมหาชนชาวค้างคาวปีกเหล็ก
เกรงว่าพวกเขาทั้งหมดอาจจะตกลงไปอยู่ในกระเพาะของค้างคาวปีกเหล็กเสียเอง หากสามารถทำให้พวกมันถอยกลับไปเองย่อมดีกว่าการที่ทั้งสองฝ่ายต้องการต่อสู้กัน
“นั่นดูน่าอร่อยจัง” มนุษย์กิ้งก่าตนหนึ่งกล่าวออกมา มันยืนเคียงคู่กับมนุษย์กิ้งก่าผู้นำ
“หนูหิวเหรอจ๊ะ เดี๋ยวพี่จะเอามาให้นะ” ผู้นำมนุษย์กิ้งก่ากล่าวขึ้นพลางหันหน้ามาจ้องเขม็งที่ซากร่างไร้วิญญาณของค้างคาวปีกเหล็กในมือหลินหยาง
“…” หลินหยางยืนตะลึง
‘นี่มันบ้าอะไรกัน’ หลินหยางสบถ
เดิมทีคิดว่าจะใช้มอนสเตอร์พวกนี้ขู่พวกมันให้หวาดเกรงถอยกลับไปเสีย กลับกลายเป็นว่าเขาเองไปร้องเชิญชวนให้พวกมันเสียนี่
“เจ้ายกค้างคาวตัวนั้นให้เราได้ไหม? นางคือน้องสาวของข้า นางต้องการมัน” ผู้นำมนุษย์กิ้งกล่าวออกมาพลางแนะนำมนุษย์กิ้งก่าตัวน้อย ดูท่าทางของเขามิได้มีความก้าวร้าวอันใดเลย
เมื่อได้เห็นเช่นนั้นหลินหยางค่อยโล่งใจ ดูเหมือนมนุษย์กิ้งก่าตนนี้จะเป็นคนมีเหตุผลอยู่
‘เป็นมิตรย่อมดีกว่าศัตรู’ หลินหยางยิ้ม
ตุบบ~
เขาโยนร่างค้างคาวตัวอวบอ้วนไปทางผู้นำมนุษย์กิ้งก่าหลินหยางมิปฏิเสธเมื่อเห็นช่องทางสร้างมิตรไมตรี
เมื่อร่างของค้างคาวปีกเหล็กระดับสี่ตกลงเบื้องหน้า มนุษย์กิ้งก่าตัวน้อยรีบวิ่งเข้ามาเก็บทันที พลางเดินกลับเข้ารวมกลุ่ม
หลินหยางยังมิทันได้เบนสายตาไปจ้องมองสิ่งอื่น เขาเห็นมนุษย์กิ้งก่าตัวน้อยตนนั้นอ้าปากกว้างโชว์ฟันแหลมคมกัดเข้าใส่ร่างของค้างคาวปีกเหล็กกว่าครึ่งตัว!
กรุ๊บ~
น้องสาวมนุษย์กิ้งก่าเคี้ยวกัดกินกระชากจนร่างกายของค้างคาวปีกเหล็กขาดครึ่งออกจากกัน แม้กระทั้งปีกเหล็กที่เป็นส่วนสำคัญจุดแข็งที่ใช้ในการต่อสู้ของพวกมันก็ยังถูกกัดเป็นลอยฟันแหลม!