ตอนที่ 265 ถอยทัพ(ตอนหก)
“ยังก่อน พวกเรามิทราบว่าศัตรูมีจำนวนเท่าใดและภูมิประเทศภายในของถ้ำนี้เองก็เช่นกัน” ผู้นำมนุษย์กิ้งก่ากล่าวขึ้น
“แต่ว่าหากเราบุกเข้าไปตอนนี้เราจะมีเปรียบเหนือศัตรูของเรานะ” มนุษย์หมาป่าตนหนึ่งกล่าวขึ้นหลังจากที่ยืนเงียบมานาน เขาคือผู้นำของมนุษย์หมาป่าที่เข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรกลุ่มนี้
ตั้งแต่พบเจอกับหลินหยางจนถึงบัดนี้มันยังมิได้ส่งเสียงพูดคุยอันใดออกมาเลยแม้แต่น้อย
นั่นมิใช่เพราะมันเป็นมนุษย์หมาป่าที่เงียบขรึม แต่เป็นเพราะน้ำลายที่ไหลย้อยลงมุมปากของมันต่างหากที่ทำให้มันมิสามารถเปิดปากพูดได้
มันเห็นค้างคาวปีกเหล็กกว่าหลายร้อยตัวนอนกองอยู่
ยิ่งกว่านั้นเมื่อมันเห็นมนุษย์กิ้งก่าตัวน้อยกัดกินร่างกายของค้างคาวเหล่านี้ยิ่งทำให้น้ำย่อยในกระเพาะของมันเรียกร้องหาอาหารอันโอชะข้างหน้า…
“ที่เจ้าพูดมาก็ถูก” มนุษย์กิ้งก่ากล่าว
เพราะภายในถ้ำตรงหน้ามิใช่ถ้ำรกร้างอันใด มันคือถิ่นที่อยู่อาศัยของค้างคาวปีกเหล็กนั่นเอง
จากคำกล่าวของหลินหยางนั้นภายในถ้ำแห่งนี้สมควรมีค้างคาวปีกเหล็กกว่าหลายพันตัว หากพวกเขาบุกเข้าไปตีตลบหลังตอนนี้ ศัตรูของเขาต้องพบศึกสองทางและพ่ายแพ้ลงในที่สุด
“แต่ว่าพวกเราได้ส่งมนุษย์เข้าไปกว่าห้าคนแล้ว พวกเขายังมิกลับออกมาส่งข่าวอันใดมิเห็นแม้แต่เส้นผม ข้าคาดว่าพวกเขาคงจะ…” มนุษย์กิ้งก่ากล่าวและหยุดไป
เมื่อมองไปยังใบหน้าของผู้นำมนุษย์ที่บัดนี้สีหน้าของมันหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด อันเนื่องมาจากคนที่ส่งเข้าไปเพื่อไล่ตามหลินหยางทั้งห้านั้นล้วนเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งสิ้น
และเป็นมันเองที่ให้คำสั่งแก่ชาวมนุษย์ทั้งห้าให้ไล่ติดตามหลินหยางไป แต่ทว่าเข้าไปกว่านานนมบัดนี้ยังมิเห็นแม้แต่เงา คงมิต้องสืบสาวหาความอันใดอีก มิถูกจับเป็นเชลยก็ตกตายไปแล้วเป็นแน่แท้
“ลูกธนูก็เหลืออีกนิดเดียว” ผู้นำมนุษย์หมาป่ากล่าว
หลังจากใช้ธนูโจมตีเข้าใส่ปากถ้ำถาโถมเข้าไปกว่าหลายร้อยดอก พวกเขายังมิทราบถึงผลลัพธ์เลยแม้แต่น้อย ว่าลูกศรเหล่านั้นโจมตีถูกศัตรูของเขาหรือไม่ แม้กระทั่งผ่านเข้าปากถ้ำที่ดูราวกับหลุมดำหลุมนี้หรือเปล่าก็มิทราบแน่
ส่วนหอกที่ได้ปาออกไปนั้นยิ่งแล้วใหญ่ เพราะหอกเหล่านั้นคืออาวุธคู่กายของเผ่าพันธุ์มนุษย์กิ้งก่า
เมื่อพวกเขาปาโจมตีออกไปนั่นเท่ากับว่าในมือของพวกเขาปราศจากอาวุธ มิมีหอกให้จับถืออีกแล้ว
โดยมนุษย์กิ้งก่ากว่าสามสิบตนเหลือผู้ที่จับหอกอยู่เพียงยี่สิบเท่านั้น พวกเขามิได้ตระเตรียมสิ่งของมาอย่างพร้อมเพรียง เพราะมิคิดว่าการมาสำรวจครั้งนี้จะพบเจอกับศัตรูกลุ่มใหม่ของตนเองนั่นเอง
พวกเขาระดมความคิดอย่างเคร่งเครียด หากจะรอคอยอยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้อะขึ้นมาเช่นกัน
ยิ่งกว่านั้นจะโจมตีเข้าไปสุ่มๆก็รังแต่จะเสียลูกธนูไปอย่างเปล่าประโยชน์ แต่เมื่อพูดถึงการส่งคนเข้าไปเหล่าผู้นำทั้งสามก็บ่ายเบี่ยงเกี่ยงกันตลอดเวลา
พวกเขามิต้องการให้คนของตนเองเข้าไปเสี่ยงอันตราย ยิ่งกว่านั้นกลุ่มมนุษย์นั้นก็สูญเสียพวกพ้องไปกว่าห้านายแล้ว
วูบบ~
ทันใดนั้นมีบางอย่างออกมาจากความมืดมิดก้าวข้ามผ่านปากถ้ำออกมา..
ตอนที่ 266 ถอยทัพ(ตอนเจ็ด)
เหล่ากองกำลังพันธมิตรทั้งสามเผ่าพันธุ์หันไปมองเป็นตาเดียวกันเมื่อได้ยินเสียงที่มิคุ้นเคยดังขึ้นมาขัดจังหวะการปรึกษาระดมความคิดกันของผู้นำทั้งสามเผ่า พวกมันสับสนยิ่งนัก
ตึงง!
จู่ๆก็เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นมา พร้อมกับพบเจอต้นตอของเสียง ตรงนั้นมีโล่โลหะมันวาวตั้งตะหง่านอยู่!
มิทราบเหตุใดโล่เหล็กอันนี้ผุดขึ้นมาจากผืนดินหรือเช่นไร มันออกมาจากไหนก็มิทราบ
โล่โลหะที่ดูแข็งแกร่งสามารถป้องกันการโจมตีได้ส่วนหนึ่ง มิขยับเขยื้อนอันใดมันนิ่งค้างปักลงบนผืนหญ้าหน้าปากถ้ำ ด้วยเสียงดังที่ส่งออกมาเมื่อครู่มันสมควรปักลึกลงบนพื้นเกือบหนึ่งคืบ!
มิทราบต้องใช้พละกำลังส่งแรงมหาศาลเพียงใด จึงจะสามารถปักโล่ลงไปได้เช่นนี้
“นั่นอะไรน่ะ” กองกำลังพันธมิตรทั้งสามเผ่าส่งเสียงด้วยความใคร่รู้ พวกมันเห็นเพียงโล่อันเดียวเท่านั้น
จู่ๆโล่โลหะอันนั้นค่อยๆยกสูงขึ้นจากพื้นดินราวหนึ่งคืบและขยับเบี่ยงไปทางซ้ายของปากถ้ำช้าๆ คล้ายกับปูที่เดินไต่เนิบนาบ เคลื่อนที่ขนาบข้างไปทางซ้ายของปากถ้ำมิหยุด
“มันขยับได้ด้วยเห้ย ฮ่าๆ” ชาวมนุษย์ส่งเสียงหัวเราะก๊าก เมื่อเห็นสิ่งแปลกปลอมขยับเขยื้อนด้วยท่าทางน่าขัน ยิ่งมองดูมันช่างเป็นภาพที่ชวนหัวร่อ
“โจมตี!” ผู้นำชาวมนุษย์สั่งการทันที มันมิใช่คนโง่งม สิ่งที่จู่ๆก็โผล่มาเช่นนี้แน่นอนมันคงมิผุดขึ้นมาจากดินเป็นแน่ มันต้องออกมาจากถ้ำค้างคาว!
ฟิ้วว~
เคล้งง~
เมื่อได้รับคำสั่งพลธนูของมันเงื้อง้างแขนปลดปล่อยลูกธนูออกจากคันศร ปักเข้าใส่โล่โลหะที่กำลังเคลื่อนที่ แต่กระนั้นก็มิสามารถเจาะทะลุผ่านไปได้ เพราะความรุนแรงการโจมตีของธนูนั้นต่ำนั่นเอง ลูกศรดอกนั้นตกลงบนพื้นมิห่างจากโล่ปริศนา
โล่โลหะดังกล่าวยังคงขยับออกไปด้วยความเชื่องช้าอย่างที่สุด ตั้งแต่มันโผล่ขึ้นมาจนถึงบัดนี้มันพึ่งขยับจากจุดเดิมได้เพียงหนึ่งช่วงก้าวเท่านั้น!
วูบบ~
ตอนนั้นเองปากถ้ำที่มืดมิดก็ส่งโล่อีกใบออกมาจากความมืด สะท้อนแสงอาทิตย์ที่สาดส่องกระทบส่งผลให้ตัวโล่ดูมันวาวสดใส
โล่เหล็กที่พึ่งผุดออกมาจากถ้ำค้างคาวใบนั้น มันค่อยๆขยับเบี่ยงไปทางซ้ายติดตามโล่ใบแรกไปอย่างช้าๆ…
“นี่มันอะไรว่ะ” กองกำลังพันธมิตรสามเผ่าพันธุ์ตกอยู่ในความสับสน โล่ใบแรกพวกมันมิได้เห็นว่ามันผุดขึ้นมาจากไหน แต่สำหรับโล่โลหะใบที่สองนี้พวกมันทั้งหมดเห็นชัดกับตาว่ามันถูกส่งพุ่งผ่านปากถ้ำออกมา!
“เอ็งเข้าไปดูซิ” ผู้นำของมนุษย์หมาป่ากล่าวขึ้นมา เพราะการใช้ธนูเข้าโจมตีนั้นผลลัพธ์ช่างน่าผิดหวังมันมิสามารถเจาะทะลุผ่านโล่เหล็กแผ่นหนาไปได้พวกมันจึงมิได้โจมตีสืบต่อ เขาจึงสั่งให้คนของตนเข้าไปตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมนี้ในระยะใกล้เคียง
มนุษย์หมาป่าผู้หนึ่งเมื่อได้รับมอบหมายมันพยักหน้ารับคำพร้อมกับทำงานทันทีมิรีรอ
วูบบ~
เมื่อโล่โลหะขยับไปทางซ้ายของปากถ้ำได้ราวหนึ่งช่วงก้าว ก็มีเสียงแปลกประหลาดขึ้นมาอีกครา พร้อมกับโล่เหล็กใบใหม่ผุดออกมาจากปากถ้ำและเคลื่อนที่ตามโล่ทั้งสองใบไปติดๆด้วยความเชื่องช้าเนิบนาบราวกับเต่าคลาน..