ตอนที่ 381 ลอบสังหาร(ตอนต้น)
เท้าที่อยู่ในมือของหลิวไห่มันขาดออกจากขาเหลือเพียงข้อเท้าเท่านั่น เผยให้เห็นกระดูกและเนื้อหนังภายใน
รอยแผลนั้นขาดแหว่งไปบางส่วนมิเหมือนบาดแผลจากคมเหล็กจากดาบหรือขวาน มันเหมือนกับถูกกระชากแยกออกจากกันโดยคมเคี้ยวสัตว์ป่าเสียมากกว่า
พวกเขาแทบมิต้องคิดเลย เมื่อดูจากสถานที่ย่อมเป็นฝีมือของค้างคาวปีกเหล็กเป็นแน่
หลิวไห่ก็ผวากับสิ่งที่อยู่ในมือของตนเช่นกัน เขาเองก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งพระอิฐพระปูนย่อมต้องตกใจกับข้อเท้าที่ขาดวิ่น มันอดมิได้ที่จะก้มลงมองเท้าของตนพร้อมขนแขนที่ลุกตั้ง
“…” หลินหยางยืนมองข้อเท้าในมือของหลิวไห่ ตอนนี้เขาพบต้นตอของเลือดที่นองอยู่บนพื้นถ้ำแล้วแม้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งก็เถิด
“เดินต่อไป เพิ่มความระมัดระวัง” หลินหยางกล่าว
ตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายลงยิ่งกว่าคราแรกที่บุกเข้ามาหลายเท่า มิเพียงอุปสรรคจากเส้นทางการเดิน ทั้งยังมีกลิ่นที่เหม็นคาวเลือดคละคลุ้ง ทำให้จิตใจพวกเขาถดถอยลงไม่มากก็น้อย
หากเป็นปกติพวกเขาคงมิจำเป็นต้องทนกับมันเพียงแค่ใช้ตัวล่อสัตว์ประหลาดภายในออกไปสู้กันด้านนอกถ้ำ
แต่ทว่าสำหรับสัตว์ปีกอย่างค้างคาวปีกเหล็กนี้หากต่อสู้ในที่โล่งกว้างนั้นพวกเขาย่อมเสียเปรียบลงเมื่อสู้ภายในถ้ำพวกเขาจะสามารถดึงความได้เปรียบออกมาใช้ผนังถ้ำที่คับแคบเพื่อเป็นอุปสรรค์แก่การเคลื่อนที่ของมัน
พวกเขาเดินเท้าก้าวไปข้างหน้าอย่างมิหยุดยั้งตอนนี้คงใช้เวลาราวสามสิบนาทีนับตั้งแต่เข้ามาภายในถ้ำ ขบวนทัพที่เชื่องช้าเป็นทุนเดิม บัดนี้เคลื่อนที่ช้าลงกว่าเก่า..
เดินต่ออีกไม่นานบัดนี้เริ่มพบเจอกับค้างคาวปีกเหล็กที่ห้อยหัวนอนหลับเป็นตายเกาะอยู่บนเพดานถ้ำบ้างแล้ว
พวกมันไม่รอดพ้นเงื้อมมือของผู้บุกรุกปลิดชีวิตพวกมันอย่างมิทันได้รู้สึกตัว นี่ไม่ต่างจากโชคหล่นทับพวกเขาสามารถจัดการศัตรูเพิ่มระดับของตนได้โดยมิมีภัยอันตรายถึงตัวเลยแม้เพียงนิด
แต่นั้นก็เพราะตรงจุดนี้ยังมิมีค้างคาวปีกเหล็กชุกชุมมากนักพวกมันส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่หลับลึกมิตื่นขึ้นมาง่ายๆหากมิมีเสียงร้องสัญญาณเตือนจากพวกพ้อง บวกกับระยะที่ห่างมิใกล้เคียงกันทำให้พวกมันพลาดการรับรู้จากเพื่อนที่ตกตายไป
หรืออาจเป็นเพราะจำนวนที่ลดลงของพวกมันที่ตกตายไปจากการสู้รบกับกองกำลังอื่นภายในสองถึงสามวันมานี้มานี้นั่นเอง
ขบวนทัพค่อยๆย่องเท้าอย่างบางเบาพยายามมิให้เกิดเสียงหวังจะเก็บเกี่ยวลาภก้อนใหญ่อย่างเรียบง่ายสบายตัวพวกเขายังคงมุ่งหน้าเดินต่อ
ไม่ว่าจะผ่านจุดใดค้างคาวที่ห้อยหัวนอนหลับล้วนตกตายลงไปจนสิ้น
ความโชคดีมีมาไม่นานนัก
ในที่สุดพวกเขาก็ถึงเวลาที่ต้องใช้พละกำลังของตนกำหราบฝูงค้างคาวเสียทีเพราะบัดนี้บนเพดานถ้ำนั้นล้วนแต่มีค้างคาวปีกเหล็กหลับไหลเกาะกลุ่มอยู่หนาแน่น
ตอนนี้คงมิสามารถใช้การลอบสังหารปลิดชีวิตมันทีละตัวสองตัวได้อีกต่อไป
หากพวกเขาจัดการมันไปตัวใดตัวหนึ่งแม้จะพยายามเงียบเสียงมากเพียงใด ก็ย่อมต้องเกิดเสียงจากการสังหารปลิดชีวิตอยู่บ้างและนั่นก็คือการปลุกพวกมันให้ตื่นขึ้นจากภวังค์เป็นลูกโซ่
ตอนที่ 382 ลอบสังหาร(ตอนปลาย)
หลินหยางยกมือให้สัญญาณหยุดขบวนทัพ
มิรอช้าหลังได้รับคำสั่งตั้งแต่แถวสี่จนถึงกลางขบวนล้วนจับถือหน้าไม้ไว้ในมือพร้อมกับลูกศรตั้งท่าเตรียมโจมตีอย่างพร้อมเพรียง
นี้คือโอกาศสุดท้ายที่พวกเขาจะได้โจมตีค้างคาวปีกเหล็กอย่างปลอดภัย เมื่อสิ้นสุดการโจมตีระยะไกลครั้งนี้ พวกเขาต้องเปลี่ยนอาวุธจับโล่จับหอกต้านทานการโจมตีจากค้างคาวปีกเหล็กที่ถาโถมเข้ามา
มองสำรวจตั้งแต่แถวแรกจรดท้าย เมื่อเห็นว่าทุกคนเตรียมพร้อมทำการโจมตีเป็นที่เรียบร้อย
“โจมตี!” หลินหยางตะโกนสั่งการทันที เขามิจำเป็นต้องเก็บงำเสียงเอาไว้อีกต่อไปในเมื่ออีกไม่ช้า สัตว์ประหลาดเหล่านี้ก็จะรู้ตัวในที่สุด
ฟุ่บ~
ฟิ้วว~
ลูกธนูหลายสิบดอกพุ่งข้ามผ่านศรีษะผู้คนด้านหน้าของตนไปราวกับห่าฝนปักเข้าใส่ร่างกายของค้างคาวปีกเหล็กที่ยังคงหลับไหลมิรับรู้เรื่องราว
ค๊ากก~
เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดของสัตว์ประหลาดดังระงมไปทั่ว การโจมตีจากหน้าไม้นี้มิค่อยมีประสิทธิภาพมากเท่าที่ควร เนื่องจากความมืดมิดภายในถ้ำสร้างอุปสรรคให้แก่การมองเห็น
ยิ่งไกลห่างจากเป้าหมายพวกเขาแทบจะมิเห็นตัวของค้างคาวปีกเหล็กเลยด้วยซ้ำ
มีเพียงไม่กี่แถวด้านหน้าเท่านั้นที่พอจะมองสภาพแวดล้อมออก ด้วยเหตุนี้ลูกศรที่ถูกยิงออกไปนั้นจึงถูกยิงออกไปจากแนวป้องกันแบบสุ่มๆโดยเป้าหมายนั้นคือเพดานของถ้ำนั่นเอง
เมื่อมิได้เล็งเป้าหมายอย่างชัดเจน เคาะห์ร้ายก็ตกไปอยู่ที่ค้างคาวปีกเหล็กเพราะศรบางดอกนั้นปักร่างกายของมันมิถูกจุดตาย บางตัวจึงร่วงลงพื้นดิ้นรนอย่างทรมานจากบาดแผลขนาดใหญ่แต่ทว่าดวงชะตาของมันยังมิถึงฆาต
แทนที่จะถูกโจมตีปลิดชีวิตในคราเดียวกับต้องทนทุกข์ทรมานจากบาดแผลนอนรอคอยความตายอย่างเจ็บปวด และแล้วไม่นานพวกมันก็สิ้นใจเองไปในที่สุด
“พลหอก!” หลินหยางออกคำสั่งอย่างต่อเนื่อง
หลังได้รับคำสั่งแถวที่สี่เป็นต้นไปหยิบจับหอกคู่ใจของตนยื่นแทรกขึ้นมาบนช่องว่างด้านบนของแนวโล่เพื่อสะกัดกั้นมิให้ค้างคาวปีกเหล็กบุกฝ่าเข้ามาได้ ทั้งยังสามารถปลิดชีวิตพวกมันหากคิดจะบินส่งชีวิตของตนเข้ามาสู่ความตาย
แคว๊กกก~
ค้างคาวปีกเหล็กหลายสิบตัวตกตายลงโดยผลลัพธุ์จากการโจมตีด้วยหน้าไม้ของผู้บุกรุก แต่นั่นคือจำนวนเพียงเสี้ยวเดียวของพวกมันเท่านั้น
ค้างคาวนับร้อยตัวกรีดร้องเสียงประสานดังระงมก้องไปทั่ว เสียงของมันร้องปลุกพักพวกของตนตื่นจากการหลับไหลเพื่อเข้าร่วมต่อสู้กับศัตรูที่อาจหาญบุกรุกเข้ามายังรังของตน
“บุก!!” หลินหยางตะโกนลั่นสั่งขบวนทัพบุกเดินหน้าทันที
เมื่อหน้าไม้ถูกยิงออกไปแล้วการจะขึ้นลูกศรดอกใหม่นั้นเสียเวลาเกินไปจึงมิสามารถโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง เขาสะพายมันไว้ด้านหลังพร้อมกับถือหอกในมือ
เมื่อไม่สามารถใช้การลอบโจมตีได้อีกเหลือเพียงหนทางเดียวนั่นคือประจัญหน้า ขบวนทัพเดินหน้าทันที
พลโล่นำโดยหลิวไห่กำชับโล่เหล็กในมือพร้อมกับสาวเท้าก้าวไปข้างหน้า
ตามมาด้วยแถวหลังที่ติดตามกระชั้นชิดมิเว้นช่องว่าง พวกเขามิปล่อยให้เสียรูปขบวนแม้เพียงนิด เดินฝ่าเข้าไปในความมืดอย่างแข็งขัน แม้จะเห็นตัวตนศัตรูไม่แน่ชัดก็มิได้ทำให้หวั่นเกรง