เทพอสูรสยบโลกา – ตอนที่ 387-388

ตอนที่ 387 พลีชีพ(ตอนปลาย)

การปะทะกันครานี้มาจากความเร็วการบินของค้างคาวและเสริมเข้าด้วยกับน้ำหนักของพวกมัน นี่เป็นการปะทะกันที่รุนแรงยิ่งกว่าคราแรกที่พวกเขาได้เผชิญหน้ากับมันเสียอีก

แต่นั่นก็เป็นดังดาบสองคม ยิ่งพวกมันมีที่ว่างให้เร่งความมากขึ้นเท่าใดแม้จะสามารถโจมตีจนทำให้พลโล่เสียกำลังไปมากยิ่งขึ้น แต่ด้วยความรวดเร็วรุนแรงเพียงนั้นกลับส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตของพวกมันเสียเอง

เมื่อร่างกายของค้างคาวตัวใดกระทบโจมตีเข้าใส่โล่เหล็กทั้งเก้าใบใดใบหนึ่ง ร่างกายของพวกมันจะแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดีไม่สามารถทนรับแรงกระแทกได้ ทำให้มันตกตายไปเองโดยที่ผู้บุกรุกมิต้องได้จู่โจมตอบโต้

เพียงแค่พวกเขาตั้งค่ายป้องกันเพียงอย่างเดียวก็นับว่าเป็นได้ทั้งปกป้องชีวิตของตนและฆ่าชีวิตศัตรูไปได้ในคราวเดียว

พลโล่ทั้งเก้านายมิมีใครบ่นอิดออดแสดงความอ่อนแอเลยแม้แต่คนเดียว เพราะการที่พวกค้างคาวโจมตีพลีชีพเข้ามาเช่นนี้เมื่อตกตายลงไปพวกเขาเองก็ได้รับระดับเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ตูมม~

ค้างคาวระดับสี่ยังคงทยอยโจมตีพลีชีพเข้าใส่แนวป้องกันอย่างไม่ลดละ แต่การทำเช่นนี้มิต่างจากพวกมันเอาชีวิตตนเองมาสังเวยเสียเปล่า

การที่จะโจมตีฝ่าแนวป้องกันเข้ามาได้นั้นสมควรต้องใช้พวกมันทั้งฝูงรวมกำลังกันโจมตีเข้ามาในคราเดียว เมื่อบุกมาทีละเล็กน้อยย่อมมิคณามือพลโล่ที่มีพละกำลังเหลือเฟือ

ตอนนี้หลินหยางแอบอยู่หลังโล่ป้องกันโดยที่มิได้ทำสิ่งใดเลยนอกจากออกแรงช่วยดันหลังของพลโล่ตรงหน้าตนเอง

ส่วนด้านหลังของเขานั้นก็ถูกดันด้วยมือของพักพวกตนเองตามลำดับจากแถวที่สี่จนถึงแถวสุดท้าย ล้วนแล้วแต่ช่วยออกแรงปะคองร่างของพลโล่มิให้เสียสมดุลล้มลง

แคล้ง~

เสียงกระทบกระทั่งกันระหว่างโล่และปีกเหล็กของค้างคาวยังคงดังขึ้นมาให้ได้ยินเรื่อยๆมิหยุดพัก

ตอนนี้เวลาผ่านไปไม่นานตั้งแต่ฝูงค้างคาวตอบโต้โจมตีมา

แรงจากการโจมตีของค้างคาวปีกเหล็กเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ มิใช่เพราะจำนวนของมันลดลง

แต่เป็นเพราะมีสมาชิกฝูงมากเกินไปต่างหาก บางตัวแม้จะโจมตีพลีชีพแต่ก็มิได้ตกตายไปเสียทุกตัว

พวกมันที่รอดมาได้ล้วนโบยบินไปมาประคองร่างที่สะบักสะบอมของตนเองเอาไว้พร้อมกับกางปีกโฉบเฉี่ยวฟันเข้าใส่โล่เหล็กไปมา

เมื่อเส้นทางที่คับแคบมีพวกพ้องของตนเกะกะหนทาง ทำให้การเร่งความเร็วโจมตีของพวกมันเริ่มไร้ประสิทธิภาพตามไปด้วย

แม้จะเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็มิได้ปรับเปลี่ยนขบวนรบลดการป้องกันลงแต่อย่างใด เนื่องจากนับตั้งแต่เกิดการต่อสู้กันขึ้นมานี้ยังไม่มีค้างคาวปีกเหล็กระดับหกตัวใดเข้าร่วมต่อสู้เลยแม้แต่ตัวเดียว

“เปลี่ยนตัว” หลินหยางกล่าว

ไม่นานก็มีคนแทรกขึ้นมาจากแถวหลังและสลับตัวกับพลโล่รายหนึ่ง พลโล่รายเดิมนั้นแทรกตัวผ่านแถวมุ่งหน้าเดินผ่านแถวสุดท้ายหายเข้าไปในความมืด มันกลับออกไปจากถ้ำเป็นที่เรียบร้อย

พวกเขาค่อยๆสับเปลี่ยนตัวทีละคนทีจนครบทั้งเก้านาย

บัดนี้พลโล่ทั้งหมดล้วนเป็นชุดใหม่เข้ามารับหน้าแทนที่คนเดิมจนครบพวกเขาล้วนเป็นมนุษย์ผู้สังกัดทีมระยะใกล้ที่มีพละกำลังรองลงมาจากชุดเดิม พลโล่คนเก่านั้นกลับออกไปจากถ้ำกันจนสิ้นรวมทั้งหลิวไห่เช่นกัน

ตอนที่ 388 ค้างคาวปีกเหล็ก(ตอนแรก)

ขบวนทัพแต่เดิมนั้นมีน้อยอยู่แล้วบัดนี้หดสั้นลงกว่าเดิม เหล่าชายฉกรรจ์ที่อยู่ภายในถ้ำบัดนี้เหลือเพียงยี่สิบกว่าคนเท่านั้น

เหตุที่ต้องเปลี่ยนตัวทั้งที่พวกเขายังพอมีแรงเหลืออยู่นั้น เนื่องจากหลินหยางมิต้องการให้พวกเขาใช้แรงออกมากเกินไป

หากไม่เปลี่ยนตัวพวกมันแม้จะไร้สิ้นเรี่ยวแรงจนแทบจะเป็นลมล้มพับ พวกมันก็คงไม่มีใครเอ่ยปากขอเปลี่ยนตัวเป็นแน่..

ส่วนหลินหยางเองตั้งแต่เริ่มต่อสู้เขาพึ่งปลิดชีวิตค้างคาวปีกเหล็กเพิ่มไปได้ไม่ถึงสิบตัวด้วยซ้ำ เนื่องจากผลงานส่วนใหญ่ล้วนมาพลโล่แทบทั้งสิ้น

ตัวเขาโดดเด่นในเรื่องความว่องไวและพลังวิญญาณ หากจะให้วัดกำลังกับชายฉกรรจ์ทีมระยะใกล้ เขาเองก็คงต้องยอมศิโรราบ

การโจมตีจากค้างคาวมิได้รุนแรงหนักหน่วงดังเดิม

ตอนนี้เวลาผ่านไปกว่าสิบนาทีแล้วตั้งแต่การโจมตีดับเครื่องชนจากค้างคาวปีกเหล็ก ภายนอกแนวป้องกันมีซากของค้างคาวนอนกองกันอยู่นับสองร้อยตัว รวมถึงยังมีค้างคาวที่บาดเจ็บสาหัสจนมิสามารถกางปีกพยุงตัวขึ้นได้อีกหลายสิบตัวที่พยายามตะเกียกตะกายไปมาบนพื้นดิน

ส่วนฝ่ายผู้บุกรุกยังมิได้มีใครได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของพวกมันเลยแม้แต่นายเดียว

นี่นับเป็นการสูญเสียโดยใช่เหตุของฝ่ายค้างคาวเพียงฝ่ายเดียว

ถึงมันจะมีมากกว่านี้อีกสิบเท่าก็มิใช่คู่มือของพวกเขา ด้วยระดับที่ห่างกันกว่าสองถึงสามเท่าเช่นนี้การจะปลิดชีวิตค้างคาวแต่ละตัวไม่ต่างจากการบี้มด

“ใช้ทักษะหลอมไฟ” หลินหยางออกคำสั่ง

ใช้แผนการเดิมที่เคยใช้ต่อสู้กับพวกมันมาแล้วซ้ำสองอีกครา มันคือแผนที่ดีที่สุดในตอนนี้สำหรับการตั้งรับและตอบโต้ไปได้ในตัวของมันเอง

พวกเขามิได้รับความเสี่ยงใดๆจากการโจมตีของศัตรูเลยแม้แต่น้อยนอกเสียจากว่ามันจะฝ่าเข้ามาได้

ไม่รอช้าพลโล่ทั้งห้านายจากเก้านายใช้ทักษะหลอมไฟ ส่งความร้อนสูงใส่ลงไปในโล่ที่ตนถืออยู่ทันที

เมื่อเหล็กถูกความร้อนโล่สีเงินค่อยๆเปล่งสีแดงร้อนระอุแผดเผาทุกสิ่งที่กระทบเข้าใส่มัน

เนื่องจากพวกเขามิใช่ผู้ที่ถือครองทักษะกันเสียทุกคน หลินหยางจึงจัดแบ่งให้เท่าเทียม กระจายผู้ใช้ทักษะหลอมไฟอยู่ในแต่ละตัวสำรอง

โล่เก้าใบที่เรียงกันอยู่นั้นมีห้าใบส่องแสงไฟแห่งความร้อนออกมา หากมองจากภายนอกมันไม่ต่างจากสัญลักษณ์กากบาทสีแดงสดใส

ตอนนี้ฝูงค้างคาวไม่สามารถโจมตีพลีชีพได้อีก เบื้องหน้าแนวป้องกันเต็มไปด้วยค้างคาวบินว่อนไปมาจนแออัดไม่เหลือช่องว่างให้สอดแทรกมาอีกต่อไป

เมื่อไม่มีการโจมตีที่รุนแรงจนสะท้อนถึงขั้นปลิดชีวิตพวกมันได้ หากปล่อยยื้อต่อไปมีแต่พวกเขาจะเสียแรงเปล่าเท่านั้น เขาจึงสั่งการใช้ทักษะหลอมไฟเพื่อใช้ในการต่อต้านพวกมันที่โจมตีโฉบเฉี่ยวไปมาเช่นนี้

ไม่ว่าส่วนไหนของร่างกายหากกระทบเข้าใส่โล่เหล็กล้วนแล้วแต่ถูกแผ่นเหล็กนาบเข้าใส่ด้วยความร้อน แม้แต่ปีกของมันที่เป็นเหล็กด้วยกันเองยังยุบละลายผิดรูป

หากค้างคาวปีกเหล็กมันเห็นสีหน้าพลโล่ตอนนี้พวกมันคงหนีเตลิดเพราะความหวาดกลัวเป็นแน่ เพราะพวกเขาล้วนแสยะยิ้มอย่างน่าสยดสยอง