ตอนที่ 449 เลินเล่อ(ตอนกลาง)
ตอนนี้เสียงหวีดร้องของชายเคาะห์ร้ายสั่นคลอนประสาทของชายฉกรรจ์ทั้งหมด
แค่เพียงได้ยินพวกมันก็แทบจะนึกถึงความเจ็บปวดของมันผู้นี้มิได้เลยทีเดียว
ทั่วบริเวณตกอยู่ในความเงียบมีเพียงเสียงร้องโหยหวนของชายคนดังกล่าวและเสียงร้องของค้างคาวปีกเหล็ก
“เกิดอะไรขึ้น!” เทียนหนิงเจี้ยนใบหน้าแตกตื่นตะโกนไถ่ถามจากบนหอคอยไม้
“มีคนเจ็บ!” จิ่นเหอร้องตะโกน
“มีคนได้รับบาดเจ็บ” เสียงของจิ้นเหอถูกส่งบอกต่อไปจนได้ยินอยางทั่วถึง
เทียนหนิงเจี้ยนมองไปยังต้นเสียงร้องที่หลอกหลอนนี้
มันหน้าซีดลงทันใดแม้จะอยู่ในระยะไกลมันก็ยังเห็นกองเลือดที่อาบชโลมทั่วลำตัวของชายคนนั้นจนแดงฉาน
แม้จะไม่ทราบจุดที่มันโดนโจมตีแต่ทว่าในช่วงเวลาสั้นๆกลับมีเลือดเอ่อนองออกมามากถึงเพียงนี้ แน่นอนย่อมต้องเป็นบาดแผลใหญ่ฉกรรจ์เป็นแน่
“เร็ว! นำเขามารักษา” เทียนหนิงเจี้ยนตะโกนสั่งการทันที ใบหน้าของมันซีดเซียวลงเล็กน้อย
ถึงอย่างไรมันก็ยังคงหวาดกลัวกับเจ้าสัตว์ประหลาดค้างคาวนี่อยู่นี้ ยิ่งเห็นผู้บาดเจ็บเช่นนี้เสริมส่งให้ความกลัวของมันเพิ่มพูนขึ้นในระดับสูง
จิ่นเหอยังคงใช้มือกระชับแผงตาข่ายอยู่ พลางหันศรีษะไปรอบๆคอยมองบนท้องนภา ตอนนี้เขาไม่มีผู้คุ้มกันอีกแล้ว
“อ-เอ็งไปนำตัวมันมา ข้าจะคอยคุ้มกันให้” ชายคนหนึ่งมันอยู่ใกล้จิ่นเหอกล่าวขึ้น มันคืออีกหนึ่งกลุ่มที่เตรียมจะเริ่มดำเนินตามแผนการต่อจากทีมของจิ่นเหอนั่นเอง
มันบอกจุดประสงค์ให้แก่คู่หูของตนเตรียมเข้าไปช่วยเหลือชายผู้ได้รับบาดเจ็บ มองไปยังคู่หูของมันจากทีมก่อสร้าง บัดนี้ดาบสั้นที่มันถืออยู่ด้วยมือทั้งสองข้างสั่นเทาจนเห็นได้อย่างชัดเจน
หากมองไปรอบๆนั้นจะพบว่าเหล่าสมาชิกจากทีมก่อสร้างล้วนมีอาการเหมือนเดียวกันกับมันมิผิดเพี้ยน
ตอนนี้พวกมันตัวสั่นงันงกหวาดกลัวสุดขีดจากก้นบึ้งของหัวใจ หากเป็นไปได้มันคงอยากรีบวิ่งกลับเมืองเสียตอนนี้
ชายฉกรรจ์จากทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมเมื่อได้ยินเสียงหวีดร้องโหยหวนโอดครวญก็มิใช่ว่าจะมิหวั่นเกรง
แต่จิตใจของพวกเขาล้วนแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้าผ่านการฝึกฝนรอดชีวิตผ่านความเป็นและความตายมาหลายครั้งหลายครา
จากคนอ่อนปวกเปียกหล่อหลอมเป็นชายชาติทหารที่มิหวั่นสมรภูมิรบศึกสงคราม พวกมันจึงมีสติตั้งตัวได้ก่อนใครเพื่อน
กึกๆๆ~
มีเสียงส่งออกมาจากคู่หูของตน มันเป็นเสียงฟันกระทบกันถี่ระรัวจนได้ยินถึงรอบข้าง
ตอนนี้คู่หูจากทีมก่อสร้างของมันสั่นไปทั้งลำตัวเลยทีเดียว ตั้งแต่เกิดมาครั้งนี้อาจจะเป็นคราแรกที่มันหวาดกลัวหัวหดมากถึงเพียงนี้
‘…’ ชายคนนี้ขมวดคิ้วแนบแน่นเมื่อเห็นว่าคู่หูจากทีมก่อสร้างของตนมิยอมเคลื่อนที่เข้าไปนำตัวผู้บาดเจ็บออกมา
มิใช่เพราะมันมิทำตามคำสั่งแต่เป็นเพราะว่าขาของมันแข็งค้างสั่นกลัวขยับไม่ได้ต่างหาก…
“คุ้มกันเจ้านี่ด้วย” เห็นท่าจะมิได้เรื่องชายคนนี้จึงบอกกล่าวแก่มนุษย์หมาป่าในกลุ่มของตนให้คุ้มกันให้คู่หูของมันแทน
ส่วนตัวมันนั้นย่องต่ำก้าวเข้าไปนำตัวผู้บาดเจ็บมาด้วยตนเอง
ตอนที่ 450 เลินเล่อ(ตอนปลาย)
“ทำต่อไป!” จิ่นเหอกล่าวเสียงดังเมื่อรู้สึกว่าแผงตาข่ายผืนนี้เริ่มหย่อนยานลงจากอีกฝากหนึ่งซึ่งก็คือมนุษย์อีกนายที่ทำงานร่วมกับมันตอนนี้กำลังผ่อนแรงลง
ทั้งนี้เป็นเพราะมันกำลังถูกเสียงหวีดร้องดึงความสนใจของมันอยู่ กำลังของมันจึงผ่อนลงโดยที่เจ้าตัวมิรู้
พวกเขามิสามารถหยุดมือในขณะที่กำลังจับกุมค้างคาวอยู่ภายในมากกว่าสิบตัวได้ หากปล่อยให้มันหลุดออกมาอีก ฝ่ายศัตรูย่อมมีกำลังรบเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนดังกล่าว
แม้จิ่นเหอจะเหลือตัวคนเดียวไร้คู่หูคอยคุ้มกันให้ตนอีกต่อไปก็มิทำให้ความตั้งใจของมันสั่นคลอน ตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตนอย่างเต็มที่
ตอนนี้ด้านหลังของเขานั้นมีผู้เคาะห์ร้ายนั่งร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด หากเขาตกเป็นเป้าหมายของศัตรูในยามนี้คงมิพ้นต้องล้มเลิกแผนการที่ทำอยู่เพราะต้องรักษาชีวิตของตนเองเอาไว้
“!?” มนุษย์คนหนึ่งผู้เสนอตัวเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
เมื่อมันเห็นสภาพของชายคนนั้นอย่างชัดเจนทำให้มันเสียวสันหลังวาบหวาดผวาน่ากลัวยิ่งนัก เพราะแขนข้างขวาของมันที่ถูกโจมตีนั้นมิได้ขาดวิ่นออกจากกันโดยสิ้นเชิง
ตั้งแต่ข้อศอกของมันมีรอยคล้ายถูกของมีคมฟันเข้าใส่สร้างรอยแผลเรียบเนียน แต่ทว่าแขนข้างดังกล่าวยังมิได้หลุดออกไปมันยังเชื่อมติดกับต้นแขนของมันด้วยผิวหนังส่วนล่าง
เผยให้เห็นกระดูกขาวโพลนถูกตัดอย่างปราณีต แขนมันห้อยต่องแต่งส่งผลให้ผู้พบเห็นหวาดเสียวสยดสยองยิ่งนัก
เมื่อครู่มีคนตะโกนร้องเตือนระวังภัยให้แก่มันแล้ว
ทว่าด้วยเสียงที่ถูกกลบหรือเสียงมันเบาไปก็มิทราบพวกมันจึงมิได้ตั้งตัวก็ถูกโจมตีเสียแล้ว
ผู้ที่โจมตีมันนั้นก็คือค้างคาวระดับหกที่ทิ้งดิ่งเป็นแนวตรงมาจากกลางศรีษะของมันด้วยความรวดเร็ว
ค้างคาวตัวดังกล่าวมันหุบปีกปล่อยตัวลงตามแรงดึงดูดของธรรมชาติ ทำให้ความเร็วของมันเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆเทียบเท่ากับลูกธนูที่ถูกยิงมาจากเหล่าเอลฟ์อย่างไรอย่างนั้น
เมื่อมันอยู่ห่างจากศรีษะของผู้เคาะห์ร้ายมิถึงหนึ่งเมตรมันกางปีกออกต้านลมทันที
โง้มตัวไปด้านหน้าใช้ปีกเหล็กที่มันภาคภูมิใจฟันแขนของมนุษย์ผู้นี้
เมื่อโจมตีเสร็จเป็นที่เรียบร้อยมันกระพือปีกตีอากาศบินกลับขึ้นบนที่สูงดังเดิม มันโจมตีลอบกัดได้เป็นผลสำเร็จลุร่วงทั้งยังกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน
หากสังเกตุให้ดีแล้วตอนนี้ค้างคาวระดับหกนั้นแทบมิได้เข้าร่วมการโจมตีกับค้างคาวระดับสี่เลย
พวกมันเพียงกางปีกบินอย่างคงที่สร้างระยะห่างอยู่บนอากาศ ใช้สายตาจ้องมองกลุ่มผู้บุกรุกเบื้องล่างคอยหาจังหวะโจมตีทีเผลอ
ส่วนค้างคาวระดับสี่นั้นพวกมันมิได้สนใจสิ่งใดนอกจากโจมตีก่อกวนกองกำลังของผู้บุกรุกอย่างต่อเนื่อง
ชายผู้เคาะห์ร้ายที่แขนเกือบขาดออกจากกันนั้นหากดูจากบาดแผลและความเจ็บปวดของมันนี้เกินกว่าจะพรรณนา
แต่หารู้ไม่ว่ามันนั้นโชคดีแค่ไหนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของค้างคาวระดับหกตัวดังกล่าวมันคือศรีษะของมันต่างหาก
ยามนั้นหากมันมิกางปีกต้านลมเพื่อใช้ยามหลบหนีละก็ชายคนดังกล่าวคงถูกปีกเหล็กของมันสับกลางศรีษะไปแล้ว!