ตอนที่ 497 ความตาย
พวกมันได้เห็นเจ้าปีศาจตนนั้นเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นก่อนที่ร่างกายจะขยับหนีเองอัตโนมัติ วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนไปคนละทิศทางด้วยความหวาดกลัวตัวสั่น
ในยามนั้นเจ้าปีศาจนั่น’เดิน’เข้ามาหากลุ่มของมันพร้อมกับจับตัวพลเมืองของตนไปหนึ่งนาย
ก่อนที่พวกมันจะวิ่งหนีกระเจิงออกจากจุดดังกล่าวด้วยความหวาดกลัว แต่เสียงของชายผู้เคาะห์ร้ายยังคงหลอกหลอนจิตใจของพวกมันมาจวบจนถึงบัดนี้
มันเป็นเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดทรมานและความสิ้นหวัง พร้อมกับเสียงกระชากชิ้นส่วนร่างกายขาดกระจุยกระจายออกจากกันอย่างชัดเจน
ส่งผลให้ผู้รับฟังนึกภาพจินตราการสภาพที่ชายผู้เคาะห์ร้ายเผชิญอยู่
หลังจากผ่านไปไม่นานเมื่อเสียงโอดครวญเงียบไป
พวกมันที่เกาะกลุ่มสั่นกลัวคิดว่าอยู่ต่อไปคงไร้หนทางรอดจึงเดินเท้าสำรวจสภาพแวดล้อมต่างๆภายในถ้ำเพื่อหาทางหนี
มันใช้วิธีเดียวกันกับหลินหยางที่เดินแนบกำแพงตั้งแต่ซ้ายจนสุดขวา ในที่สุดก็พบเข้ากับเส้นทางที่สามารถหลุดรอดออกไปได้นั่นคือทางออกแห่งเดียวกันที่ยืนอยู่ตรงจุดนี้นี่เอง
พวกมันดีอกดีใจยิ้มหน้าบานมิรีรอปล่อยให้เวลาล่วงเลย วิ่งกรูกันออกไปอย่างรวดเร็วหวังจะออกจากที่แห่งนี้ได้อย่างรอดปลอดภัย
แต่ก่อนที่พวกมันจะได้ก้าวข้ามอณาเขตนี้ไป ชายผู้หนึ่งที่วิ่งนำอยู่ด้านหน้ากลับชลอความเร็วอย่างกระทันหัน ส่งผลให้พวกมันสงสัยแปลกใจจึงหยุดฝีเท้าตาม
ยังมิทันได้เอ่ยถาม ลำคอของชายผู้นั้นกลับเคลื่อนออกอย่างผิดปกติศรีษะของมันราวกับหลุดออกจากลำตัวที่ยึดติดกันอยู่ คล้อยห้อยลงไปด้านหลังและตกลงสู่พื้นดิน
มองไปที่ใบหน้าของมันยังมีสีหน้าฉีกยิ้มเบิกบานใจดวงตายังคงเบิกกว้าง ในขณะที่ร่างกายของมันยังก้าวเท้าเคลื่อนที่ไปด้านหน้าอย่างช้าๆทั้งที่ไร้ศรีษะ!
พวกมันมองดูร่างของชายผู้นั้นก้าวเดินอย่างเชื่องช้าระดับความสูงค่อยๆต่ำลงจนกระทั่งมันคุกเข่าทิ้งตัวลงแน่นิ่งไปกับพื้น
คนที่เหลือตกอยู่ในความสับสนมึนงงมิสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
ก่อนที่พวกมันจะได้ตั้งสติกระทำสิ่งใด ลำคอของชายอีกคนที่อยู่ติดกับผู้เคาะห์ร้ายรายแรกก็มีสายโลหิตพุ่งกระฉูดราวกับท่อแตก
มันใช้มือทั้งสองข้างจับบีบคอของตนด้วยดวงตาเบิกโพลงตกใจอ้าปากกว้างคล้ายกับต้องการร้องระบายความเจ็บปวด แต่น่าเสียดายที่มิมีเสียงใดหลุดออกมาจากชายผู้นั้นเลยแม้แต่คำเดียว
และแล้วการสังหารหมู่ก็กลับมาอีกครา บางคนตกตะลึงแข็งค้างตัวสั่น บ้างก็ส่งเสียงหวีดร้องด้วยความหวาดกลัว
ชายผู้มีระดับสี่และชายร่างท้วมพวกมันทั้งคู่ตั้งสติหนีเตลิดออกมาจุดดังกล่าวอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมิได้ยินเสียงอันน่าหดหู่นั้นอีกต่อไปพวกมันไม่ทราบว่าวิ่งออกมาจากจุดดังกล่าวไกลแค่ไหน
พวกมันทั้งสองมิเคยหวาดกลัวความตายมากถึงเพียงนี้ มิเคยเฉียดใกล้ขุมนรกมากเท่าครั้งนี้มาก่อน
มันพึ่งตระหนักว่าสิ่งที่พวกมันทำมาตลอดหลายเดือนอย่างการเสาะหาเงินทองความมั่งคั่ง การจับจ่ายซื้อเหล่าทาสข้าบริวารนับร้อยชีวิต ไร้ความหมายและไร้ประโยชน์
ตอนที่ 498 อริ
ทั้งคู่ทิ้งตัวลงกับพื้นใบหน้าซีดขาวหายใจฟืดฟาดรุนแรงเหงื่อเม็ดโตผุดโผล่ขึ้นตามผิวหนัง เป็นเพราะความวิตกแตกตื่นหวาดกลัวหาใช่ความเหน็ดเหนื่อยไม่
ตั้งแต่ตอนนั้นก็ผ่านมาราวครึ่งวันเข้าไปแล้ว พักพวกที่เหลือรอดตายด้วยกันมาบัดนี้ยังมิทราบเช่นกันว่าพวกมันอยู่แห่งหนใดหรือมีชีวิตอยู่หรือไม่ เหลือเพียงพวกมันทั้งสองคนที่หนีตายแอบข้างกำแพงไม่ขยับถอยหนีไปไหน
‘สิ่งที่ปลิดชีพเด็ดศรีษะของผู้เคาะห์ร้ายก็คือเจ้าค้างคาวตัวจิ๋วตัวนั้นแหละพี่หยาง’ ชายผู้มีระดับสี่กล่าวด้วยสีหน้าจริงจังหวาดกลัว สัตว์ประหลาดที่สามารถทลายกองทัพของมันได้ในพริบตากำลังอยู่ต่อหน้ามันมีหรือมันจะมิหวาดกลัว
‘กว่าจะรู้ตัวของผู้โจมตีก็ปาเข้าไปสองศพแล้ว มันสามารถแฝงตัวเข้ากับความมืดได้เป็นอย่างดี ทั้งความเร็วของมันยังเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตที่พวกผมเคยพบเจอมาหลายเท่า หากตอนนั้นพวกผมทั้งสองหนีออกมาไม่ทันก็มิรู้ว่าตอนนี้ชะตากรรมจะเป็นอย่างไรต่อไป’ ชายร่างท้วมกล่าวเสริมจบการบอกเล่าของพวกมัน
อย่างที่เห็นพวกมันทั้งคู่สามารถรอดชีวิตมาเล่าเรื่องราวที่เห็นให้แก่หลินหยางได้รับฟังอย่างละเอียด
จากที่ได้ฟังพวกมันทั้งสองเล่ามานั้น ค้างคาวตัวจิ๋วที่พวกมันทั้งคู่ให้สมญานามสัตว์ประหลาดนี้คงจะเป็นตัวเดียวกันกับที่เขาพบเจอเป็นแน่ หากเป็นจริงนับว่านี่เป็นงานหยาบที่เขาไม่สามารถมองข้ามไปได้เลย
เจ้าค้างคาวตัวจิ๋วนี้มิเพียงมีความเร็วที่เป็นเลิศเพียงเท่านั้น มันยังครอบครองพละกำลังอันมหาศาลไว้กับตัวอีกด้วย เพียงแค่การโจมตีเดียวสามารถส่งศัตรูของมันไปยมโลกอย่างง่ายดาย
ตัวเขาตอนนี้เหลือเพียงแค่ดาบสั้นเพียงเล่มเดียวเท่านั้น แม้แต่โล่เหล็กคู่ใจเกาะกำบังที่ใช้ในยามคับขันเองก็มีติดไม้ติดมือ
กระทั่งเจียวซิ่นที่ถูกโจมตีทั้งที่ยังมีโล่เหล็กป้องกันเอาไว้หนึ่งชั้นยังได้รับบาดเจ็บสาหัสเจียนตาย แล้วตัวเขาที่มีแต่กายเนื้อกับเสื้อผ้าผืนบางเบา มีหรือจะสามารถต้านการโจมตีของมันได้
‘แบบนี้นี่เอง’ หลินหยางเข้าใจแจ่มแจ้ง
เขาเกือบเดินสุ่มสี่สุ่มห้าด้วยความประมาทเข้าไปทั้งที่มิรู้ข้อมูลใดๆเกี่ยวกับศัตรูเลยแม้แต่น้อย หากพวกมันทั้งสองมิห้ามปรามเขาเอาไว้เสียก่อน ป่านนี้ค้างคาวตัวจิ๋วคงรู้ตัวก่อนและเปิดฉากโจมตีมาแล้วเป็นแน่
เขามองไปที่มันสองคนด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้มุมมองความไว้เนื้อเชื่อใจของเขาที่มีต่อพวกมันนั้นดีขึ้นมาบ้าง
หากพวกมันทั้งสองตั้งใจจะแก้แค้นเขาด้วยความอาฆาตละก็ พวกมันคงมิห้ามปรามหยุดการเคลื่อนไหวของเขาและปล่อยให้ตนนั้นเดินโง่งมเข้าสู่ระยะโจมตีของศัตรูตรงและถูกมันเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีใส่สร้างความเสียเปรียบให้แก่ตัวเขาเป็นแน่
ดูแล้วพวกมันนั้นตั้งใจจะร่วมมือฝากความหวังเอาไว้กับเขานำพาออกสู่อิสระ มิได้มีจิตมุ่งร้ายใดๆต่อตนเลยแม้แต่น้อย บางทีตัวเขาอาจจะคิดมากไปเองฝ่ายเดียว พวกมันอาจปลงหลงลืมความเคียดแค้นเก่าก่อนแล้วก็เป็นได้