ตอนที่ 477 ผู้รอดชีวิต
แน่นอนคนเกือบห้าสิบชีวิตหรือก็คือทั้งเมืองมิเห็นด้วยที่จะนำทัพเข้าโจมตีถ้ำปริศนานั้น เต๋อหลงเองก็ออกเสียงคัดค้านมิเห็นชอบด้วยเช่นกัน
เพราะจำนวนค้างคาวที่บินว่อนอยู่เต็มผืนฟ้านั้นยังติดตาเขามิหาย
หากกะดูคร่าวๆคงมิต่ำกว่าพันตัวและสองกองกำลังที่ปะทะกันอยู่นั้นยังแตกกระเจิงหลีกหนีค้างคาวฝูงนี้ไปคนละทิศทาง
ซึ่งดูแล้วทั้งสองกองกำลังดังกล่าวที่มีจำนวนคนรวมกันมากกว่าสี่เท่านั้นมีความแข็งแกร่งน่าเกรงขามมากกว่าเมืองของตนจนเทียบมิติด
แต่ขนาดพวกเขาเหล่านั้นยังมิสามารถต่อกรได้แล้วนับประสาอะไรกับเมืองใหม่แกะกล่องอย่างพวกมันที่อาวุธยังมิเคยจับ บางคนยังมิเคยแม้แต่จะบี้มดเสียด้วยซ้ำ
อันธพาลเยี่ยงมันเมื่อตัดสินใจลงไปแล้วจึงมิรับฟังความเห็นของผู้ใดอีก ท้ายสุดแล้วนอกจากคนที่ชราภาพหรือเด็กจนเกินไป ทุกล้วนต้องเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้กันหมด
ด้วยความที่เมืองของมันพึ่งมาใหม่จึงยังมิรู้กฎเกณฑ์ของการเอาตัวรอดหรือหลีกเลี่ยงศัตรู
มันจึงมิเจียมตัวบุกโจมตีถ้ำค้างคาวก่อนฟ้าสาง ทั่วบริเวณหน้าปากถ้ำที่เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งการต่อสู้ มีกระทั่งเศษชิ้นส่วนมนุษย์และกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง เพียงแค่พบเห็นก็ทำให้จิตใจหวั่นไหวหวาดกลัว
ผู้นำของพวกมันมิสนใจสิ่งรอบข้าง ใบหน้าของมันกลับแสยะยิ้มมีร่องรอยแห่งความพึงพอใจราวกับคนเสียสติ มันนำทีมมุ่งตรงเข้าปากถ้ำทันที
‘และแล้วผลลัพธ์ก็เป็นดังที่นายเห็น’ เต๋อหลงกล่าวพลางเคี้ยวทานอาหารต่อ
ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือตัวมันถูกค้างคาวตัวใดมิทราบกระแทกเข้าใส่หน้าอกของมันอย่างรุนแรง จนทำให้มันหมดสภาพสติเลือนลาง กว่าจะรู้ตัวอีกทีมันก็ถูกนำมาไว้ยังสถานที่แห่งนี้เสียแล้ว
บางทีมันอาจจะเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากคนทั้งหมดของเมืองมันก็เป็นได้ ด้วยความมืดมันจึงมิสามารถเสาะหาผู้รอดชีวิตคนอื่นจากเมืองของตนได้ในสถานที่แห่งนี้
พบเจอแต่คนแปลกหน้าหรือบางทีมันพบแม้กระทั่งร่างไร้วิญญาณที่นอนแน่นิ่ง มันวนเวียนอยู่ในนรกขุมนี้มานานร่วมสองวันแล้ว จนได้มาพบกับหลินหยางและหลี่จิ้งในตอนนี้นั่นเอง
‘อืม..’ หลินหยางรับฟังเรื่องราวจากมันพลางคิดไตร่ตรองไปด้วย
ในจำนวนเมืองนึงมีประชากรทั้งสิ้นห้าสิบชีวิต
ถ้าพวกมันเป็นฝ่ายถูกโจมตีจากฝูงค้างคาวคงหนีไม่พ้นการสังหารหมู่หรือบางทีอาจโชคดีมีคนหนีรอดไปได้สองถึงสามคน ส่วนที่เหลือนั้นหากมิหมดสติไร้ทางต่อสู้ย่อมถูกปลิดชีพโดยค้างคาวปีกเหล็กกันทั้งสิ้น
เมื่อไม่มีใครที่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไปแล้วจึงถึงคราวของค้างคาวที่แบกร่างนำพวกมันกลับไปยังถ้ำของตน บ้างก็มีชีวิต แต่ส่วนใหญ่นั่นเหลือเพียงกายเนื้อเท่านั้น และสถานการณ์นั้นเป็นแบบเดียวกันกับที่หลี่จิ้งมันเจอ
ดูเหมือนจะเหลือมันเป็นผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งยังมิได้รับการยืนยันที่แน่ชัดและถึงแม้จะมีคนอื่นรอดอยู่อีกคงมิได้มากกว่าขึ้นไปกว่าจำนวนเลขหลักเดียว
ตอนที่ 478 สำรวจ(ตอนต้น)
ในส่วนของเต๋อหลงมันเป็นฝ่ายบุกรุกไปเอง แต่มันโชคดีกว่าหน่อยที่คนที่ถูกปิดชีพหรือหมดทางสู้นั้นแม้จะไม่เหลือสักคนเดียว
แต่ประชากรในเมืองของพวกมันนั้นมิได้ติดตามมาเข้าร่วมเสียหมด พวกมันยังมีคนส่วนหนึ่งเหลือติดเมืองเอาไว้แม้จะเป็นเพียงเด็กและคนชราก็เถิด
จากสองเมืองต่างคนต่างวิธี แต่ผลลัพธ์ของทั้งคู่นั้นมิได้แตกต่างกันเลย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรุกหรือฝ่ายรับ ก็เหลือผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวที่ยังมีร่างครบสามสิบสอง ถูกจับมายังส่วนลึกของถ้ำค้างคาว
นับว่าพวกมันโชคดียิ่งที่มันถูกนำพาตัวมาแทนที่จะถูกค้างคาวเหล่านี้คร่าไปเสียก่อน
ส่วนตัวหลินหยางนั้นก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ยังรอดชีวิตมาครบสามสิบสองเช่นกัน
อาจเป็นเพราะตัวเขาหมดสติจึงไม่เป็นพิษภัยต่อสัตว์ประหลาดค้างคาวอีกต่อไป มิฉะนั้นตอนนี้เขาคงมิได้ตื่นขึ้นมาสูดอากาศหายใจอีกเป็นครั้งที่สอง
ตั้งแต่ฟื้นคืนสติมานี้หลินหยางได้เสียงซุบซิบสนทนารวมถึงการขยับเขยื่อนเคลื่อนที่ของร่างกาย จากที่แยกแยะออกตอนนี้คงมีผู้ที่ถูกจับมาเป็นเชลยจากเมืองที่แตกต่างกันนับหลายสิบเมืองเลยทีเดียว
แต่ผู้ที่โชคร้ายถูกจับมาเหล่านี้คงมิมีใครมีฝีมือพอฟัดพอเหวี่ยงกับค้างคาวระดับสี่ได้เลยด้วยซ้ำ เหตุเพราะที่ถูกจับมาส่วนใหญ่นั้นก็เป็นเพราะความอ่อนแอของพวกมันนั่นเอง
หากพอมีใครบางคนที่มีฝีมือมีวิชาการต่อสู้ติดตัวอยู่บ้าง เขาก็ยังมิทราบเช่นกันว่าพวกมันถูกจับมานานเท่าใดแล้ว หากเกินหนึ่งวันขึ้นไปแล้วนั้นความหิวโหยย่อมมาถามหากระเพาะของมัน ลดทอนสมรรถภาพทางกายลงมากโข
พรืด
ทันใดนั้นเองหลินหยางลุกขึ้นจากพื้น ขยับแขนขาตรวจดูความพร้อมของร่างกาย
‘ท-ทำอะไรน่ะ!’ หลี่จิ้งและเต๋อหลงกล่าวด้วยใบหน้าตกใจกระวนกระวาย
มันกลัวว่าหลินหยางจะกลายเป็นจุดสนใจและนำพาสัตว์ประหลาดมาหาพวกมัน
‘พวกคุณรออยู่นี่ก่อน เดี๋ยวผมกลับมา’ หลินหยางยิ้มกล่าว
เขาเดินหมอบต่ำเข้าไปหาผนังถ้ำด้านที่อยู่ด้านหลังของตนทันที
เมื่อถึงจุดหมายจึงเดินเรียบไปกับผนังถ้ำมิออกห่าง ตอนนี้เขากำลังสำรวจพื้นที่ปัจจุบันเพื่อนำมาประกอบเป็นภาพรวมสร้างทางหนีทีไล่
รวมถึงเสาะหาผู้ที่ยังมีเรี่ยวแรงหลงเหลือรวมกลุ่มเพื่อร่วมด้วยช่วยกันเอาชีวิตรอดออกไปจากที่นี่เสีย
เขายังมิได้ลืมเลือนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในส่วนลึกสุดของถ้ำนี้ แต่เขายังมิมั่นใจนักว่าตนเองอยู่มุมใด ด้านไหน ของโพรงถ้ำที่กว้างใหญ่
แก๊ก~
มีเสียงบางอย่างดังขึ้นมาห่างจากตัวเขาพอสมควร มันมาจากจุดศูนย์กลางถ้ำ
หลินหยางมิรีรอที่จะหยุดฝีเท้าก้มต่ำมิส่งเสียง ถึงจะมิรู้ว่าต้นตอของเสียงที่ได้ยินมาจากสิ่งใด เขาก็มิได้ปล่อยปะละลดความระวังตัวลง
ตอนนี้เขาแทบจะระมัดระวังทุกฝีก้าวเลยทีเดียว บทเรียนที่พึ่งได้รับในวันนี้หนักหนาสาหัสเกินกว่าที่เขาจะประมาทได้อีก
ด้วยการขาดความนึกคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนใช้ทักษะระดับสูงของตน
หากวันนี้ค้างคาวที่นำพาเขามายังส่วนลึกสุดใช้ปีกของมันฟันแทงเขาให้ตายไปเสีย มันคงเป็นการตายที่เขาจะมิลืมไปถึงโลกหน้าเลยทีเดียว