เทพอสูรสยบโลกา ตอนที่ 658 ปิดม่านถปีศาจ
” ที่เทียน น-นี่มัน” หลิวเจียล้มลุกคลุกคลานวิ่งเข้าไปหาเทียนหนิงเจี้ยนด้วยใบหน้าแตกตื่นเนี่องจากการถล่มลงของถ้ําค้างคาวนอกเหนือไปจากแผนการไม่ได้อยู่ในความคาดหมายมันพึ่งตะกายตัวออกจากซากปรักหักพังของหอคอยไม้ที่สร้างมากับมือ
“ถ้ํากําลังจะถล่ม” เทียนหนิงเจี้ยกล่าวตอบตอนนี้จังหวะการหายใจของมันกลับสู่สภาวะปกติแล้วมันกําลังยืนมองไปยังปากถ้ํามองเหล่าผู้รอดชีวิต ในสายตาของมันตอนนี้นับจํานวนผู้รอดชีวิตคร่าวๆได้ราวร้อยถึงร้อยยี่สิบคนซึ่งมันผิดกับจํานวนแรกเริ่มที่มีถึงร้อยห้าสิบคนไปเสียสนิทและคนที่ผลุบออกมาจากปากถ้ําเองก็เริ่มลดจํานวนน้อยถอยลงเรื่อยๆจนกระทั่งหลี่จิ้งและเพื่อหลงออกมาจนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปกว่าสิบวินาทีแล้วยังไม่มีผู้รอดชีวิตรายอื่นตามออกมาเลย
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็พออนุมานได้ว่าจํานวนที่ขาดหายไปราวสามสิบถึงห้าสิบคนนั้นคงไม่วายตกตายเสียชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าจะด้วยอุบัติเหตุจากเศษหินดินทรายชิ้นส่วนหินของถ้ําที่ล่วงหล่นลงมาทาบทับผู้เคาะห์ร้ายหรือแม้แต่การวิ่งหนีตายของฝูงชนอันชุลมุนวุ่นวายทั้งผลักใสทุบตีและเหยียบย้ําผู้เสียหลักเพื่อเอาตัวรอดก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการหายไปของผู้รอดชีวิตกลุ่มนี้เช่นกัน
ดูได้จากบาดแผลบนตัวของเต๋อหลงและหลี่จิ้งนั้นมิใช่เบาๆเลยโชคดีที่พวกมันทั้งสองยังสามารถกลับออกมาได้อย่างมีชีวิตหากศรีษะของเตือหลงได้รับการกระทบกระเทือนแรงกว่านี้อีกเสียหน่อยมันคงหมดสติ ส่วนหลี่จิ้งหากส่วนกระดูกที่หักมิใช่แขนแต่เป็นขามันก็คงหมดความหวังที่จะออกมาจากถ้ําปีศาจค้างคาวเช่นกัน
ครืนน
โครมม
ปากถ้ําหินขนาดใหญ่สั่นไหวรุนแรงก่อนที่มันจะถล่มล้มลงมาในที่สุด แรงสั่นสะเทือนค่อยๆ ลดลงตามลําดับและหยุดลงกลับสู่สภาวะปกติ
“ม-มันเกิดอะไรขึ้น”
“แผ่นดินไหวงั้นหรอ?”
“เกิดมาข้าไม่เคยเจอแผ่นดินไหวที่แรงขนาดนี้มาก่อน” เหล่าผู้รอดชีวิตส่งเสียงจอแจ พวกมันจึงเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้ครั้งแรกจึงเกิดความสงสัยอย่างยิ่ง
“เฮ้อ” เทียนหนิงเงี่ยนถอนหายใจ
” ก็นึกว่าจะตายซะแล้ว” มันกล่าวต่อ มันมองไปยังเพื่อหลงและหรี่จิ้งผู้รอดชีวิตสองคนสุดท้ายที่ออกมาจากปากถ้ําซึ่งตอนนี้กําลังมีใบหน้าซีดเซียวเลยทีเดียว เนื่องจากพวกมันทั้งคู่จึงรอดพ้นจากความตายมาหวุดหวิดหากออกมาช้ากว่านี้อีกสักหน่อยปานนี้คงได้เป็นผีเฝ้าซากถ้ําไปเสียแล้ว
แต่แล้วดวงตาของเทียนหนิงเจี้ยนก็ตรวจพบบางอย่างเคลื่อนไหวขยุกขยิกในกองเศษหินที่ก่อนหน้านี้เคยหลอมรวมกันเป็นปากถ้ําอันแข็งแรงทนทาน อันแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของสิ่งชีวิต
“มีผู้รอดชีวิตอีก!” เทียนหนิงเจี้ยนตะโกนเสียงดังพลางชี้ไม้ชี้มือไปยังตําแหน่งเป้าหมาย
เหล่าชายฉกรรจ์จากทีมระยะใกล้ที่อยู่ไม่ห่างจากจุดนั้นมากนักเดินปรี่เข้าไปยังจุดดังกล่าวพร้อมกับร่วมกันยกก้อนหินที่หนักอึ้งหลายสิบกิโลคนละไม้คนละมือก่อนที่จะพบร่างกายส่วนบนของผู้รอดชีวิตเป็นชายรายหนึ่งมีรูปร่างอ้วนท้วมเล็กน้อย ตัวมันกําลังนอนฟุบกับพื้นโดยที่ถูกหินก้อนใหญ่หลายก้อนทับตัวมัน ใบหน้าของมันฟุบลงบนเลือดกองใหญ่ที่ไหลออกมาจากปากของมันเองร่างกายหลายส่วนได้รับความเสียหายหนัก
หลังจากกําจัดหินที่เป็นอุปสรรคไปหลายก้อนตอนนี้ร่างของผู้บาดเจ็บก็ไร้สิ่งพันธการ เหล่าชายฉกรรจ์จากทีมระยะใกล้จึงฉุดดึงแขนทั้งสองข้างลากมันออกมาจากซากสิ่งปรักหักพังนําร่างมันมานอนกองบนพื้นหญ้า
ตามทางที่ร่างของมันถูกลากผ่านล้วนทิ้งรอยเลือดไว้ด้านหลัง เป็นเลือดที่ไหลออกมาจากร่างกายของชายรายนี้ที่อาบชโลมผืนหญ้าที่เขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์กลายเป็นสีเลือด สภาพร่างกายของมันร่อแร่ดูไม่จืดเรียกได้ว่าบาดเจ็บสาหัสเจียนตายเลยทีเดียว
พรีบ
ขณะนั้นเอง สตรีนางเปิดม่านเดินออกมาจากที่พักพิงชั่วคราวด้วยใบหน้าซีดเซียวคล้ายกับเหน็ดเหนื่อยสิ้นเรี่ยวแรง มิผิดนักเพราะเธอก็พึ่งใช้พลังงานที่สั่งสมมาของวันนี้ไปจนเกือบหมดแล้วในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย เธอคือหรงเถียนเหยานั่นเอง
ในตอนที่เกิดเหตุการณ์ถ้ําถล่มนั้นเธอรับหน้าที่รักษาอาการบาดเจ็บให้แก่เจียวชิ้นมนุษย์หมาปาหนุ่มที่ได้รับบาดแผลหนักหนาสาหัสจนตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้วแต่กว่ามันจะถึงจุดปลอดภัยเช่นนี้ก็เล่นสูบพลังงานของเธอไปไม่น้อย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาอวัยวะภายในที่มิสามารถรักษาได้ด้วยวิชาทางการแพทย์ในปัจจุบันที่ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย เธอจึงจําเป็นต้องใช้ทักษะแพทย์ที่เปรียบดั่งหัตถ์พระเจ้าที่แลกมาด้วยเรี่ยวแรงของผู้ใช้เพื่อรักษามัน
ขณะที่เธอกําลังอยู่ในช่วงพักเพื่อฟื้นฟูแรงกายอยู่นั้นเองก็ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้นมาจากภายนอกก่อนจะตามมาด้วยแรงสั่นสะเทือนฟ้าดิน เมื่อมันสิ้นสุดลงเธอจึงออกมาเพื่อหาเบาะแสของเหตุการณ์แปลกประหลาดดังกล่าว
“น-นี่มันเกิดอะไรขึ้น” ก่อนที่ความสงสัยของเหตุการณ์ปริศนาจะถูกคลี่คลาย ดวงตาของเธอก็กวาดผ่านผู้รอดชีวิตนับร้อยดึงความสนใจของเธอทั้งหมดไป ผู้รอดชีวิตร่วมร้อยคนไม่มีร่างกายของผู้ใดที่อยู่ในสภาพปกติสุขเลย เรียกได้ว่าพวกมันส่วนใหญ่ร่างกายล้วนอาบชโลมไปด้วยเลือดสดๆไม่ของตัวมันเองก็คนข้างกาย
“เห้ย! ตายยังวะ” ตอนนั้นเองก็มีชายคนนึงส่งเสียง มันกําลังนั่งคุกเข่าลงกับพื้นต่อหน้าของมันมีชายร่างอ้วนท้วมที่พึ่งถูกช่วยออกมาจากกองหินที่ทับถมร่างของมัน ซึ่งตอนนี้มันกําลังนอนคว่ําจมกองเลือดอยู่
“ตะกี้ข้ายังเห็นมันดิ้นอยู่นะ” ชายอีกคนกล่าวมันจับผู้ได้รับบาดเจ็บพลิกนอนหงายพร้อมกับเขย่าตัวเพื่อดูปฏิกิริยาตอบสนอง
”มา ข้าเอง” ชายรายแรกกล่าวขึ้นพร้อมกับยกมือข้างถนัดขึ้นสูงกางนิ้วทั้งห้าเหยียดตรง
เพี้ยะ
มันตบฝ่ามือลงบนใบหน้าของผู้บาดเจ็บสร้างเสียงดังส่งผลให้ผู้ได้ยินอดมิได้ที่จะจินตนาการถึงความเจ็บปวดต้องยกมือขึ้นลูบพวงแก้มของตนเอง
หมึก
ชายร่างอ้วนท้วมตัวกระตุกตอบสนอง
กร็ด
” พวกคุณทําอะไรกันคะเนี้ย” ทันใดนั้นเองหรงเถียนเหยาที่เห็นเหตุการณ์กรีดร้องเสียงแหลมเมื่อเห็นภาพของผู้บาดเจ็บถูกดูแล? อย่างไม่เหมาะสม
เธอเดินปรี่เข้าไปต่อว่าชายฉกรรจ์รายนี้ยกใหญ่ก่อนจะเบนความสนใจมายังร่างของผู้บาดเจ็บตรวจดูบาดแผลบนร่างกาย
” ช-ช่วยด้วย” ทันใดนั้นเองก็มีเสียงชายคนนึงเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบาต้นตอของเสียงมันมาจากกองภูเขาหินขนาดย่อมๆ
“มีผู้รอดชีวิตอีก” ชายฉกรรจ์จากทีมระยะใกล้สองถึงสามคนเงี่ยงหูฟังเสาะหาตําแหน่งก่อนที่จะพบเป้าหมายที่แน่ชัดและช่วยกันขนย้ายหินยักษ์จนกระทั่งพบร่างของมันในที่สุดเป็นชายวัยกลางคนคนนึ่งรูปลักษณ์สมส่วนมีกล้ามเนื้อชัดเจนกําลังนอนหงายอยู่ภายใต้ก้อนหินที่กดทับร่างส่วนใหญ่ของมันเอาไว้
“น-นี่!” เหล่าชายฉกรรจ์ทีมระยะใกล้ที่เร่งเข้าไปช่วยชีวิตมันถึงกับผงะเมื่อเห็นสิ่งแปลกปลอมที่ฝังอยู่บนหน้าท้องของชายผู้ได้รับบาดเจ็บ มันคือด้ามดาบเล่มหนึ่งที่ปักลึกจนมิดเหลือไว้เพียงแค่ตัวด้ามที่แสดงโฉมให้เห็น
มันถูกลากมานอนอยู่เคียงข้างผู้บาดเจ็บรายก่อนหน้า สภาพร่างของผู้รอดชีวิตรายใหม่นี้แทบไม่แตกต่างไปจากชายร่างท้วมก่อนหน้าเลย หนําซ้ําดูภายนอกแล้วอาการมันยังหนักหนากว่าเสียด้วยซ้ํา
แต่มันน่าแปลกยิ่งนักที่บาดแผลส่วนใหญ่ของพวกมันทั้งสองมิได้เกิดจากปัจจัยภายนอกอย่างถ้ําหินแต่ดูเหมือนจะถูกทําร้ายด้วยใครบางคนเสียมากกว่า คล้ายกับมันพึ่งผ่านการต่อสู้อันดุเดือดแสนโหดร้ายและสามารถรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด
หรงเถียนเหยายิ่งมายิ่งคร่ําเครียดไม่ว่าเธอจะพลิกร่างตรวจจุดใดบนร่างของมันก็ล้วนพบบาดแผลตรงอวัยวะสําคัญอย่างน้อยหนึ่งถึงสองจุด การที่พวกมันทั้งสองยังสามารถรักษาชีวิตรอดมา ได้ถึงตอนนี้นับว่าปาฏิหาริย์ยิ่ง สําหรับชายร่างสมส่วนผู้รอดชีวิตรายล่าสุดยิ่งแล้วใหญ่จํานวนบาด แผลของมันมีมากกว่าชายร่างท้วมเกือบสองเท่า ทุกบาดแผลล้วนเกิดจากของมีคมทั้งสิ้นแถมทุก จุดนั้นมีความลึกอยู่ไม่น้อย บาดแผลที่เกิดจากเศษหินดินทรายของถ้ํานั้นกลายเป็นจุดด่างเล็กๆไป เลยเมื่อเทียบกับร่องรอยบนร่างกายของมัน
“ใครกันที่ทําเรื่องโหดร้ายเช่นนี้” หรงเถียนเหยาคิดในใจ