เขาสั่งให้ข้าเป็นราชินี [ส่วนที่ 1] – เขาสั่งให้ข้าเป็นราชินี [ส่วนที่ 1] – ตอนที่ 57 – 2 บุรุษเป็นบ่อเกิดของหายนะ

เขาสั่งให้ข้าเป็นราชินี [ส่วนที่ 1] - ตอนที่ 57 - 2 บุรุษเป็นบ่อเกิดของหายนะ

กลางหน้าผากกงอิ้นแลคล้ายกำเนิดหิมะน้ำแข็งเช่นกัน มองดูศัตรูทางการเมืองที่ตนเองต่อสู้มานานหลายปีอย่างเฉยเมยปราดเดียว เงาขาวกะพริบวูบสูญสลายหายไป 

 

 

การแพ้ชนะอาจจะตัดสินชี้ขาดในชั่วครู่หนึ่งนี้ 

 

 

 

 

 

“พลั่ก” จิ่งเหิงปัวร่วงลงบนพื้น ข้อเท้าเจ็บปวด เรือนร่างเอนเอียงไปทางด้านหลังนั่งลงไปเต็มก้น 

 

 

ตอนที่นั่งลงไปนางได้ยินเสียงร้องอย่างตกตะลึงเสียงหนึ่งรำไร ซ้ำยังคล้ายได้ยินเสียงซู่ซู่ ใต้ก้นลุกไหม้เจ็บปวดระลอกหนึ่ง นางร้อง “ว้าย” เสียงหนึ่งกุมก้นไว้เด้งกายขึ้นมา 

 

 

“เจ็บจัง! เจ็บจังๆ!” 

 

 

ข้างกายมีคนผู้หนึ่งซึ่งร้องได้เศร้าสลดเสียยิ่งกว่านาง 

 

 

“อ๊าก! สตรีนี่มาจากที่ใด! ทับสายชนวนดับแล้ว!” 

 

 

จิ่งเหิงปัวกะโดดออกมาสามจั้ง หันหน้ากลับมาอย่างงงงัน ข้างหลังกายห่างไปไม่ไกล มีชายชาตรีชุดดำคนหนึ่ง ในมือคว้าคบเพลิงอันหนึ่งไว้ สีหน้าฉายแววสิ้นชีพ มองดูสายชนวนท่อนหนึ่งบนพื้นอย่างงงงัน 

 

 

สายชนวนลุกไหม้ไปแล้วครึ่งใหญ่ ยามนี้มอดไหม้แล้ว เผยรอยไหม้ดำเกรียมท่อนหนึ่งออกมา 

 

 

ในสมองของจิ่งเหิงปัวว่างเปล่าขาวโพลนไปชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเข้าใจขึ้นมา 

 

 

นางหายตัว นึกไม่ถึงว่าจะหายตัวไปยังที่จุดชนวนดินระเบิด ก้นของนางนั่งทับสายชนวนจนดับสนิทแล้ว! 

 

 

นี่เรียกว่าอะไร เจตจำนงของสวรรค์เหรอ 

 

 

ทหารกล้าตายที่รับผิดชอบจุดไฟดินระเบิดผู้นั้นตะลึงงันไปชั่วครู่ ทว่ากัดฟันกรอด นำคบเพลิงเข้าใกล้สายชนวนอีกครั้ง 

 

 

“เฮ้ๆๆ!” จิ่งเหิงปัวนึกไม่ถึงว่าคนที่หนีเอาชีวิตรอดมาได้ยังจะหาเรื่องตายอีก รีบเร่งเหินพุ่งเข้าไปดึงแขนเจ้าคนนั้นไว้ในครั้งเดียว กล่าวว่า “เจ้าเป็นบ้าอะไรไป อยากตายหรือไร ยังจะจุดมันทำอะไรอีก!” 

 

 

“ปล่อยนะ!” ทหารกล้าคนนั้นต่อสู้ตายดิ้นรน ยืนหยัดนำคบเพลิงประชิดใกล้สายชนวนอย่างไม่ลดละ 

 

 

“มีชีวิตย่อมดีกว่าตาย!” จิ่งเหิงปัวเกิดโมโหขึ้นมา สะบัดเขาดังพลั่กๆ เพียะๆ กล่าวว่า “เจ้าหนีเอาชีวิตรอดมาได้ยังไม่รีบหนีอีก ยังจุดอะไรอีกเล่า เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่คือการก่อกรรมทำเข็ญ เจ้าจะตาย ซ้ำยังมีคนบริสุทธิ์อีกมากมายต้องตาย!” 

 

 

“ทว่า!” เจ้าคนนั้นสะบัดจิ่งเหิงปัวออกไปในครั้งเดียว ตวาดฉับพลันว่า “วันนี้หากข้าไม่ตายอยู่ที่นี่ ทั้งบ้านข้าจะตายกันหมด!” 

 

 

จิ่งเหิงปัวชะงัก มองดูทหารกล้าตายน้ำตานองหน้าผู้นั้น ดวงใจบีบเกร็งทันที 

 

 

ทางตันไม่อาจเลือกนี้ 

 

 

ในสังคมมหาอำนาจเช่นนี้ ผู้ที่มีตำแหน่งที่ต่ำกว่าไม่มีแม้แต่อิสระในการการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดเลยเหรอ 

 

 

ทหารกล้าตายออกแรงทันใด ผลักจิ่งเหิงปัวออกไปอย่างรุนแรง จิ่งเหิงปัวล้มออกไปไกลลิบ ร้องโอ๊ยเสียงหนึ่งเท้าที่แพลงอยู่แล้วยิ่งบาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีก คราวนี้แม้แต่ความเป็นไปได้ในการคลานขึ้นมาของนางยังไม่มีเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการขัดขวางแล้ว 

 

 

ทหารกล้าตายน้ำตานองหน้า มองนางอย่างลึกล้ำปราดหนึ่ง นำคบเพลิงประชิดใกล้สายชนวนอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ 

 

 

จิ่งเหิงปัวยิ้มขมขื่นหลับตาลง ดิ้นรนคลานขึ้นมากะพริบวูบหายไป 

 

 

ช่างเถอะ! ช่างเถอะ! 

 

 

คนเดินไปเกือบหมดแล้ว ใต้หลุมเวทีคงจะไม่มีคนแล้วล่ะ ถ้ามีคนตายอีกนับว่าเขาดวงซวยเกินไป! 

 

 

 

 

 

ครู่หนึ่งนั้นที่สายชนวนถูกนั่งทับจนมอดไหม้ 

 

 

ในหลุมเวที เหยียลี่ว์ฉีที่หลับตารอความตายนับนิ้วคำนวณเวลา ทว่ามิได้ได้ยินเสียงอำลาโลกเสียงหนึ่งนั้นในเวลานั้น 

 

 

เขาลืมตาฉับพลัน เร่งโคจรปราณให้เร็วขึ้น ผลึกน้ำแข็งรอบกายค่อยๆ ละลาย… 

 

 

สายชนวนจุดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง 

 

 

น้ำแข็งหนาเยือกแข็งรอบกายเหยียลี่ว์ฉีปรากฏร่องรอยสูญสลาย 

 

 

สายชนวนลุกไหม้ฟู่ๆ ค่อยๆ หดสั้น 

 

 

ไอสีขาวบนศีรษะเหยียลี่ว์ฉียิ่งหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ในหลุมเวทีคล้ายเกิดหมอก ผลึกน้ำแข็งเปล่งเสียงแครกๆ แตกร้าวอย่างต่อเนื่อง 

 

 

กงอิ้นที่ออกห่างจากเวทีสูงไปไกลแล้วแลไล่ต้อนฝูงชนอย่างฉับพลัน หันหลังกลับมาอย่างงงงัน 

 

 

สายชนวนลุกไหม้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว! 

 

 

“ตู้ม!” เสียงหนึ่งระเบิดกึกก้อง ก้อนน้ำแข็งแตกร้าว เหยียลี่ว์ฉีพุ่งออกมาจากน้ำแข็งแล้วทลายพื้นกระดานเวทีท่ามกลางเสียงดังครืนกึกก้อง แผ่นไม้และผลึกน้ำแข็งร่วมกระเซ็น เค้าร่างที่เหินขึ้นมาของเขาดุจมังกรเจียวหลง[1]สีดำตัวหนึ่ง 

 

 

แทบจะในขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงดังน่ากลัวยิ่งกว่าเสียงหนึ่งระเบิดออกมาจากใต้ฝ่าเท้าเขาดุจดั่งมังกรแผ่นดินเคลื่อนกาย เวทีสูงสูญสลายในพริบตาเดียว เสาธงหักโค่น สิ่งปลูกสร้างทั่วทั้งลานกว้างต่างกำลังสั่นไหวคล้ายจะร่วงหล่น ผู้คนนับไม่ถ้วนที่อุทานอย่างตื่นตะลึงอยู่ห่างไกลถูกการสั่นสะเทือนของพื้นดินกับคลื่นกระแทกสะเทือนเกลือกกลิ้งออกไปไกลโพ้น ทั่วลานกว้างเงียบสงบอยู่ครู่ใหญ่ จากนั้น เสียงกรีดร้องกึกก้องถึงท้องนภา 

 

 

จากพื้นดินถึงกลางอากาศ เมฆหมอกสีดำสายหนึ่งลอยขึ้นสูง พลิ้วไหวดุจมังกรพิโรธเช่นกัน 

 

 

“ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ” ทว่ามีผู้เปล่งเสียงหัวเราะบ้าคลั่งใจกลางเมฆนิล ในเสียงเปี่ยมด้วยปีติยินดี ร้องว่า “สวรรค์ไม่ทอดทิ้งข้า!” 

 

 

เส้นผมยาวของเขาพลิ้วสยาย ชุดสีดำสะบัดพัดพลิ้ว ราษฎรตกตะลึงหันหน้าไปมอง เงาดำกระโจนขึ้นมาอย่างดีอกดีใจกลางเมฆนิลคละคลุ้ง ดุจปีศาจร้ายกระโจนออกมาจากเบื้องลึกในหุบเหว 

 

 

กงอิ้นที่อยู่ห่างไกลหันหลังกลับมามองดูเหยียลี่ว์ฉีที่หนีเอาชีวิตรอดไปได้ แลมิได้ผุดเผยสีหน้าผิดหวัง มุมปากกลับเชิดขึ้นมาเจือจาง 

 

 

“ไม่ตายก็ดี” เขาเอ่ยอย่างเฉื่อยเนือยว่า “มิฉะนั้นข้าคงต้องอ้างว้างเกินไปแน่” 

 

 

 

 

 

จิ่งเหิงปัวนั่งอยู่ซอกมุมหนึ่งของจัตุรัสมองดูควันดำคละคลุ้งที่อยู่ห่างไกล ฝูงชนร้องโหยหวนวิ่งห้อ จัตุรัสที่เมื่อครู่ยังรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ตอนนี้รกร้างโรยรา ทุกแห่งหนบนพื้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้ารองเท้าที่ถูกทิ้งไว้ ชั่วพริบตาหนึ่งเจริญรุ่งเรืองชั่วพริบตาหนึ่งกลียุคเสียจริง รู้สึกเพียงว่าในดวงใจว่างเปล่าโหรงเหรง 

 

 

พิธีเฉลิมฉลองรับขบวนเสด็จในวันนี้ วันแรกที่นางเข้าสู่นครตี้เกอแปรเปลี่ยนพลิกผันหลายหลายสีสันจริงๆ สุดท้ายยังมีเพลิงไหม้เวทีสูงระลอกหนึ่ง ควันดำกลุ่มหนึ่งบดบังใจกลางตี้เกอ เสียงดังครืนเสียงหนึ่ง ราษฎรหลบหนีอย่างตื่นตระหนก 

 

 

ไม่รู้ว่าจะใช่ลางบอกเหตุว่าอนาคตของนางในภายหลังจะมืดมนหรือเปล่า 

 

 

จิ่งเหิงปัวถอนหายใจบีบคลึงข้อเท้า นั่งรอกงอิ้นมารับ 

 

 

ราษฎรกลุ่มหนึ่งไหลผ่านข้างกายนางปานคลื่นธาร นางเกิดความรู้สึกอยากหลีกลี้กลียุคขึ้นมา อยากถอดมงกุฎราชินีทิ้ง หิ้วกระเป๋าเดินปะปนเข้าไปในฝูงชน ท่องทั่วโลกหล้า เป็นคนธรรมดานับแต่นี้ 

 

 

เดิมทีราชินีไม่ใช่แผนการของนาง 

 

 

นางเท้าแก้มครุ่นคิดชั่วครู่ รู้สึกว่าช่วงเวลาเหล่านี้ที่ยังมาต่างโลก ช่วงระยะเวลาที่เป็นนางโลมนั้นยังคงเป็นช่วงที่มีความสุขที่สุด 

 

 

เรื่องเป็นราชินีไม่สำเร็จก็เป็นนางโลมนี้ สำหรับจิ่งเหิงปัวแล้วจะเป็นแบบไหนก็ได้ ในมุมมองของนางทั้งสองแบบมีจุดร่วมกัน…ต่างได้ชื่นชมบุรุษทุกชนิดปริมาณมาก มองจากมุมมองอิสระแล้ว นางยังรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงตกอับสบายใจกว่านิดหน่อย 

 

 

ในตอนแรกนางเคยคิดว่าเรื่องหอนางโลมนี้ จะให้ดีที่สุดต้องบุกเบิกเป็นธุรกิจระยะยาว รอให้นางคุ้นเคยกับกระบวนการการทำงานของหอนางโลม นางจะหาวิธีแลกอัญมณีเป็นเงิน เปิดสโมสรระดับสูงที่มีสไตล์ มีรสนิยม มีรายการแสดงที่แตกต่างไม่เหมือนใครสักแห่ง ตนเองเป็นเถ้าแก่เนี้ย ทั้งหาเงินดำรงชีวิตได้ทั้งจะได้ไม่มองหนุ่มหล่อนับไม่ถ้วนเสียเปล่า รอให้สโมสรโด่งดังแล้วจะประกาศต่อโลกหล้าว่ารับสมัครแม่ครัวที่พิเศษที่สุด บอดี้การ์ดหญิงที่เย็นชาที่สุด หมอหญิงที่เชี่ยวชาญการค้นพบโรคภัยไข้เจ็บที่สุด แบบนี้เหวินเจินที่เชี่ยวชาญด้านการทําอาหาร ยัยผู้ชายไท่สื่อหลัน รวมทั้งตาทิพย์น้อยจวินเคอจะไม่ถูกตนเองหาเจออย่างสบายอกสบายใจแล้วเหรอ 

 

 

คิกๆๆ สมบูรณ์แบบจริงแท้อะไรขนาดนี้ 

 

 

จากนั้นนางก็ถอนหายใจเฮือก 

 

 

มีคำเรียกว่าอะไรนะ ขี่หลังเสือยากจะลง ลมหายใจเฮือกเดียวช่วงชิงมาถึงตอนนี้ ราชินีคงไม่เป็นไม่ได้แล้ว 

 

 

นางชื่นชอบราษฎรต้าฮวงที่มีน้ำใจไมตรี นางอยากจะเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของที่นี่ นางไม่อยากให้มหาอำนาจอยู่เหนือกว่าชีวิตตลอดไป ไม่อยากให้โศกนาฏกรรมของทหารกล้าตายเมื่อครู่นั้นซ้ำรอยเดิม 

 

 

นางครุ่นคิดปัญหาชีวิตหนักหน่วงข้อนี้อยู่ชั่วครู่ ในใจสะท้านขึ้นมากะทันหัน รู้สึกว่ามีเรื่องอะไรผิดปกติ 

 

 

เบื้องล่างไม้กระดานเวทีก่อนหน้านี้ ตอนที่กงอิ้นทำลายตุ๊กตา เหมือนจะทำลายตุ๊กตาทิ้งไปแค่ตัวเดียว ยังมีอีกตัวหนึ่งนะ… 

 

 

คนผู้หนึ่งนั่งลงข้างกายนางกะทันหัน ขัดจังหวะความรู้สึกนึกคิดของนาง นึกไม่ถึงว่าจะเป็นสุภาพบุรุษน้ำยาทาเล็บ เขากอดกระเป๋าของนางไว้ไม่ปล่อยมือประหนึ่งของล้ำค่า 

 

 

“เอากระเป๋าคืนมา” ตอนนี้มองเห็นกระเป๋านางก็เจ็บปวดใจ สาบานว่าภายหลังจะล็อกกุญแจรหัสตลอดไป ไม่มอบให้คนอื่นอย่างเด็ดขาด 

 

 

“ไม่ให้” อีชีคัดค้าน ชนไหล่นางอย่างลึกลับซับซ้อนโดยพลัน เอ่ยว่า “เฮ้ ของสิ่งนั้นก่อนหน้านี้ นั่นคือสิ่งใด คือสิ่งใดหรือ” 

 

 

จิ่งเหิงปัวมองสีหน้าอัปลักษณ์ท่วมท้นนั้นของเขาแล้วอยากจะอกแตกตาย 

 

 

โอ้สวรรค์คนที่มองเห็นแล้วมีกี่คนกันแน่นะ 

 

 

“สิ่งใด สิ่งใดหรือ” ใบหน้านางเปี่ยมด้วยความไร้เดียงสา กล่าวว่า “ในกระเป๋าข้าล้วนเป็นสิ่งของที่พวกที่สตรีใช้ พวกเจ้าเหล่าบุรุษมองมั่วซั่วโดยไม่ละอายใจเลยหรือ” 

 

 

“ข้ามิได้มองมั่วซั่ว!” อีชีสาบานต่อฟ้า เอ่ยว่า “ทว่าข้ามองเห็นมันกลิ้งมาทางข้า ตุ๊กตาอนาจารที่กอดกันและกันคู่หนึ่ง! อีกทั้งตุ๊กตาผู้หญิงหน้าตาคล้ายเจ้านัก รูปร่างนั้น…” เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ยิ่งอึกหนึ่งดังเอื๊อกเสียงหนึ่ง ดวงตาจ้องมองจิ่งเหิงปัวทั่วเรือนร่างคล้ายว่ากำลังเปรียบเทียบสัดส่วน 

 

 

“วาจาใดที่เจ้าเอ่ยมาข้าฟังไม่เข้าใจเลยสักเพียงน้อย” จิ่งเหิงปัวยักไหล่ กล่าวว่า “นั่นคืออาวุธลับที่มือสังหารขว้างออกมาเพื่อดึงดูดความสนใจของข้าชัดๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับข้าแม้แต่น้อย” 

 

 

“ขอเพียงเจ้าบอกข้าว่าตุ๊กตานี้ประดิษฐ์อย่างไร ยามที่ประดิษฐ์ใช้คนจริงเป็นต้นแบบใช่หรือไม่ ยามนั้นเจ้าแต่งกายเช่นนั้นให้คนประดิษฐ์ตามจริงหรือ เจ้าทำให้ข้าบ้างสักตัวได้หรือไม่…” อีชีเต็มหน้าตื่นเต้นดีใจ เอ่ยวาจาจุกจิกเจื้อยแจ้ว 

 

 

จิ่งเหิงปัวมีเพลิงโทสะเต็มหน้าท้อง กล่าวอย่างเปี่ยมด้วยเจตนาร้ายว่า “ในเมื่อปิดบังเจ้าไว้ไม่ได้ข้าก็ยอมรับแล้วกันว่าเป็นเรื่องจริง ไม่เพียงใช้คนจริงเป็นต้นแบบ นี่คือไสยศาสตร์ชนิดหนึ่ง บุรุษผู้นั้นก็เป็นคนจริง เขาได้ล่วงเกินข้า เรียกข้าว่าภรรยามั่วซั่ว ทั้งแย่งชิงกระเป๋าของข้า ฉะนั้นข้าจึงเชิญแม่มดมาสังหารเขา ใช้เส้นผมของเขาทำเส้นผมของตุ๊กตา ใช้ผิวกายของเขาทำผิวกายของตุ๊กตา กักขังวิญญาณของเขาไว้ในตุ๊กตา ฉะนั้นตุ๊กตานี้ถึงได้แลดูเสมือนจริงยิ่งนัก” กล่าวเสร็จดวงตาเอนเอียงเพ่งเล็งทั่วเรือนร่างเขาคล้ายกำลังพิจารณาว่าควรลงมีดตรงไหน 

 

 

“เป็นเรื่องจริงหรือ…” ดวงตาของอีชีเปล่งประกายคล้ายว่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม เอ่ยว่า “ข้าคิดว่าเหลือตุ๊กตาเช่นนี้ไว้สักตัวหนึ่งน่าสนุกยิ่งนัก ภายหลังยามที่เจ้าคิดถึงข้าก็จะได้กอดข้าลูบข้า…กระเป๋านั่นเหตุใดจึงต้องคืนให้เจ้า ให้ข้าเล่นสักหน่อยก่อนสิ้นชีพ…” เขาหลับตาควานไปควานมาในกระเป๋า ครู่ต่อมาล้วงออกมาชิ้นหนึ่ง มองปราดเดียว ร้องเสียงดังว่า “โอ้โหนี่คือสิ่งใด ตู้โตวหรือ” 

 

 

จิ่งเหิงปัวมองแวบหนึ่ง โยะชิ บรา 

 

 

ครู่ต่อมาอีชีลากของสิ่งหนึ่งออกมาอีก เอ่ยว่า “อ๊ะ นี่คือสิ่งใด กล่องสมบัติหรือ” 

 

 

จิ่งเหิงปัวมองแวบหนึ่ง โพลารอยด์แบบการ์ด ก่อนหน้านี้นางเก็บกลับไปแล้ว 

 

 

“อย่ารื้อของของข้ามั่วซั่ว!” นางแย่งบรากลับมายัดเข้าไปในกระเป๋า คว้าโพลารอยด์มา 

 

 

“อย่านะ” อีชีไม่ให้ 

 

 

ท่ามกลางการทะเลาะโต้เถียงก็ไม่รู้ว่านิ้วมือของใครโดนปุ่มกดเข้า ภาพถ่ายใบหนึ่งถูกปล่อยออกมากะทันหัน 

เขาสั่งให้ข้าเป็นราชินี [ส่วนที่ 1]

เขาสั่งให้ข้าเป็นราชินี [ส่วนที่ 1]

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 30 อ่านนิยาย


ยามนั้น อสนีเปรี้ยงเวหา พสุธายุบหลุมลี้ เพชรพลอยเกลื่อนธรณี เกิดจานเหินที่กลางอากาศ มีนารีนางหนึ่งจักกำเนิดตนจากฟ้าถล่มดินทลาย…กลายเป็นราชินีแห่งต้าฮวง!

คำทำนายจากสรวงสวรรค์ ก่อกำเนิดเป็นความอัศจรรย์จากฟากฟ้า นำพาให้ จิ่งเหิงปัว หญิงสาวจากศตวรรษที่ 21 ผู้เลอเลิศในปฐพี (?) ต้องตกอยู่ในสถานะราชินีแห่งลุ่มแม่น้ำต้าฮวงด้วยความจำยอม… แต่ใครเล่าจะรู้ว่าตำแหน่งราชินีสูงส่งที่อยู่เหนือผู้คนนับหมื่นพัน จะกลายเป็นเพียง ‘ตำแหน่ง’ กันชนเพื่อการช่วงชิงอำนาจระหว่างราชครูฝ่ายขวาและฝ่ายซ้าย…

หากนางรู้ว่า ตำแหน่งราชินีที่นาง ‘จำยอม’ รับมาด้วยความสุข จะเป็นเพียงแค่หมากเกมหนึ่งในกระดานของชายหนุ่มทั้งสอง…ครานั้นนางจะทำอย่างไรดีเล่า

“หนีสิโว้ยยย!”

“กระหม่อมอนุญาตให้พระองค์หนีสามครา ฝ่าบาท”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน