ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 157 กลับตาลปัตร สมบัติล้ำค่าของถนนหนานเจิ้น (2) / ตอนที่ 158 ไม่ได้ ยังโดนตัวผู้หญิงไม่ได้
ตอนที่ 157 กลับตาลปัตร สมบัติล้ำค่าของถนนหนานเจิ้น (2)
โลกอินเทอร์เน็ตเข้าสู่ความโกลาหล บรรดาชาวเน็ตก่อนหน้าที่ด่าทออวี๋กานกาน ครั้งนี้พวกเขาหันกระบอกปืนไปทางครอบครัวจูซื่อและยังมีคุณหนูเฉียวอะไรนั้นด้วย พลานุภาพของระเบิดรุนแรงกว่าครั้งก่อนมาก มีชาวเน็ตคนหนึ่งเปิดโปง “คุณหนูเฉียว” ว่าที่แท้ก็คือคุณหนูใหญ่ตระกูลเฉียวแห่งเมืองไป๋หยางเฉียวพั่นเอ๋อร์ ยังมีชาวเน็ตออกมาแฉต่ออีกว่า ‘ตระกูลเฉียวต้องการที่จะซื้ออวี้หมิงถาง เป็นเพราะเจ้าของอวี้หมิงถางไม่ยอมขาย ดังนั้นตระกูลเฉียวจึงวางแผนให้เกิดการประท้วงโดยมีเจตนาร้าย เพื่อทำให้ชื่อเสียงของอวี้หมิงถางเหม็นโฉ่ จากนั้นจะได้รับซื้อในราคาต่ำๆ’
ส่วนโรงพยาบาลในเครือตระกูลเฉียว เรื่องที่ใส่ร้ายคนไข้ก็ถูกเปิดโปงออกมาอย่างต่อเนื่อง มีคนออกมาแฉข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับกระบวนการการรักษาของโรงพยาบาลในเครือตระกูลเฉียวแทบจะทุกวัน เนื้อข่าวเขียนว่าโรงพยาบาลตระกูลเฉียวหน้าเงิน หลอกขายประกัน การตรวจรักษาเป็นงานรอง อีกทั้งยังมักจะวินิจฉัยโรคผิดพลาด ใช้โรคร้ายแรงขู่ผู้ป่วยให้กลัว ใช้ยาแรงมารักษาโดยปราศจากข้อบ่งชี้ ไม่สนใจว่าจะรักษาให้หายได้หรือไม่ ขอแค่อีกฝ่ายจ่ายเงินก็พอ
เพียงพริบตาเดียวเรื่องราวลุกลามไปทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต ปวงชนเดือดพล่านเฮโรกันออกมาตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์ ด่าทอ ประณามตระกูลเฉียวและโรงพยาบาลในเครืออย่างบ้าคลั่งจนควบคุมไม่อยู่เป็นไฟลามทุ่งทุกไปทั่วทุกหัวระแหง
ตระกูลเฉียวได้ออกมาตรการมารับมือวิกฤติการณ์นี้ แต่ทำอย่างไรก็ไม่เป็นผล ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ชื่อเสียงฉาวโฉ่ของโรงพยาบาลในเครือตระกูลเฉียวดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งประเทศ โครงการศูนย์บ้านพักคนชราได้นำชื่อตระกูลเฉียวออกจากใบรายชื่อเป็นที่เรียบร้อย แม้แต่แผนการขยายเครือค่ายไปยังเมืองจิงก็ถูกเหล่าบรรดาผู้ร่วมหุ้นยกเลิก
ประธานคณะกรรมการบริหารตระกูลเฉียว บิดาของเฉียวพั่นเอ๋อร์เฉียวก่วงเฉิง เขาโมโหโกรธเกรี้ยวดุจอสนีบาต กวาดของทุกสิ่งทุกอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานหล่นระเนระนาดไปบนพื้นในคราเดียว
เฉียวพั่นเอ๋อร์เองก็โกรธแค้นและอัดอั้นไม่แพ้บิดา เธอรอจนก่วงเฉิงอารมณ์เย็นลง จากนั้นพูดในสิ่งที่ตนเองวิเคราะห์ “เป็นหลินจยาอวี่ค่ะ อวี๋กานกานกำลังรักษาอาการป่วยให้หลินจยาอวี่อยู่ ต้องเป็นจยาอวี่ที่เป็นคนช่วยแน่ๆ ไม่งั้นหมอกระจอกๆ ตัวคนเดียวจะกล้าเป็นปรปักษ์กับพวกเราได้ยังไง”
สีหน้าของเฉียวก่วงเฉิงเขียวปี๋ เขาจุดบุหรี่หนึ่งมวลสูดเข้าไปเต็มสองปอด กล่าว “เรื่องซื้อคลินิกหยุดไว้ชั่วคราวก่อน”
เฉียวพั่นเอ๋อร์หน้าซีดเซียว “พ่อ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่สู้พวกเรา…”
ไม่ต้องรอให้เฉียวพั่นเอ๋อร์พูดจนจบ ผู้เป็นบิดาพูดตัดบทขึ้นมาทันที “ไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ง่ายดายเหมือนอย่างที่เห็น ยัยเด็กหลินจยาอวี่นั้นไม่มีอำนาจที่จะทำแบบนี้ได้ พ่อต้องรู้ให้ได้ว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังแผนการนี้!”
เฉียวพั่นเอ๋อร์พยักหน้าด้วยสีหน้าอัดอั้นตันใจ เธอเดินออกมาจากห้องทำงานเตะกระถางดอกไม้ที่วางอยู่ข้างทางเดิน ขบฟันดังกรอด “อวี๋กานกาน ระหว่างแกกับฉันมันยังไม่จบเท่านี้แน่!”
พวกเขาจะจบหรือไม่จบอวี๋กานกานไม่รู้ เธอรับรู้เพียงแค่เรื่องของจูซื่อไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคลินิกของเธอ ที่เหตุการณ์การประท้วงอันสุดแสนวุ่นวายครั้งนี้จบลงไปได้โดยง่าย เธอต้องขอบคุณฟังจือหัน ลู่เสวี่ยเฉินและหลินจยาอวี่
แม้ว่าหลินจยาอวี่จะไม่ได้โทรหาอวี๋กานกาน แต่เธอคอยช่วยอธิบายและชี้แจงแทนอวี๋กานกานอยู่ในเว่ยปั๋วตลอด เพียงแต่ว่าเธอเองก็ถูกชาวเน็ตรุมประณาม ทั้งยังมีคนจงใจยุยงปลุกปั่น คำอธิบายและคำชี้แจ้งของหลินจยาอวี่ไม่มีใครเชื่อสักคน
อวี๋กานกานใช้แขนหนึ่งข้างเท้าคาง ยิ้มอย่างสดใสให้ฟังจือหันพร้อมกับกล่าว “ฉันอยากเชิญลู่เสวี่ยเฉินมากินข้าว นายโทรศัพท์หาเขาให้หน่อยสิ”
ฟังจือหันเอนตัวพิงพนักโซฟาอย่างสบายอกสบายใจ หลับตาพริ้ม เมื่อได้ยินคำพูดของอวี๋กานกาน เขาลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ พูดนิ่งๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่ชวน”
อวี๋กานกานจะร้องไห้ก็ไม่ได้หัวเราะก็ไม่ออก มองฟังจือหันตาค้าง “…แต่ว่า ไม่เชิญลู่เสวี่ยเฉิน ฉันก็จะเชิญหลินจยาอวี่อยู่ดี ขอบคุณที่เธอช่วยเหลือฉัน”
ตอนที่ 158 ไม่ได้ ยังโดนตัวผู้หญิงไม่ได้
ตอนที่ลู่เสวี่ยเฉินได้รับสายของอวี๋กานกานเขาอยู่ในห้องพักห้องหนึ่งในโรงแรม บนเตียงในห้องของเขามีสาวพราวเสน่ห์เผ็ดร้อนนอนแผ่หลาอยู่ เธอสวมชุดนอนสายเดี่ยวที่หลุดจากหัวไหล่ข้างหนึ่งเผยให้เห็นเนินอกขาวเนียน นิ้วมือแตะอยู่ที่ริมฝีปากพร้อมกับขบเม้มเล็กน้อย จ้องมองลู่เสี่ยเฉินด้วยสายตาเย้ายวน
ลู่เสวี่ยเฉินเหลือบไปมองหญิงสาวด้วยสายตาเรียบนิ่ง แต่ความรู้สึกกลับสลับซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง สวยหยาดเยิ้ม เซ็กซี่ยั่วยวน สเปคที่เขาชอบแท้ๆ แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่อยากจะเข้าใกล้แม้แต่น้อย เมื่อครู่นี้ตอนที่มืออันแสนนุ่มนิ่มของหญิงสาวลูบไล้ไปมาบนหน้าอกของเขา เขากลับมีความรู้สึกว่าอยากจะแกะมือของเธอออกแล้วผลักออกไปให้ไกลๆ ก่อนหน้านี้ที่เขาเคยสัมผัสโดนตัวหลินจยาอวี่ เขากลับไม่มีความรู้สึกรังเกียจแบบนี้ หรือหลินจยาอวี่จะเป็นผู้ชาย…
ตอนนี้จะทำอย่างไรดี เขาเป็นถึงหนุ่มเจ้าสำราญลู่เสวี่ยเฉินเชียวนะ ถ้าหากใครมารู้เข้าว่า เขาลู่เสวี่ยเฉินพาสาวขึ้นห้องมาได้แล้ว แต่กลับไร้น้ำยา เขาคงถูกหัวเราะเยาะไปชั่วชีวิต เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ลู่เสวี่ยเฉินที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะจัดการกับหญิงสาวคนนี้อย่างไรดี ประหนึ่งได้รับการปลดแอก เขารีบปลีกตัวออกไปรับโทรศัพท์ เมื่อได้ยินว่าอวี๋กานกานจะเชิญเขาไปรับประทานอาหาร เขาก็รีบไล่หญิงสาวคนนั้นออกไปอย่างแนบเนียน
หญิงสาวยังคงออดอ้อนใส่ลู่เสวี่ยเฉิน “ไม่เอาน่า คุณชายลู่ขา…”
สะดีดสะดิ้งราวกับหนอนไชทวาร ลู่เสวี่ยเฉินรู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งตัว ที่แท้ผู้หญิงที่ออดอ้อนเกินไปนอกจากไม่ทำให้กระชุ่มกระชวยแล้ว ยังทำให้รู้สึกขยะแขยงด้วย
……
อวี๋กานกานเชิญพวกเขามาที่ภัตตาคารซื่อจี้หวงจู๋ เป็นที่นั่งที่เดิมกับครั้งก่อน หลังจากที่เครื่องดื่มและอาหารเสิร์ฟครบแล้ว อวี๋กานกานชูแก้วไวน์ขึ้นพร้อมกล่าว “ขอบคุณทุกคนที่ช่วยให้ฉันและอวี้หมิงถางผ่านเคราะห์กรรมครั้งนี้ไปได้อย่างหวุดหวิด วันหน้าหากทุกคนมีเรื่องใดให้ฉันช่วย ฉันจะไม่ปฏิเสธ ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟฉันก็จะช่วยอย่างเต็มความสามารถไม่หวาดหวั่น”
เมื่อพูดจบอวี๋กานกานกระดกไวน์ในแก้วดื่มรวดเดียวหมดทันที ถ้าไม่มีพวกเขาเหล่านี้ เธอหมอธรรมดาๆ ตัวคนเดียวที่ไม่มีพื้นหลังครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีเส้นสาย ต่อให้ได้คลิปวิดีโอมาจากป้าจาง เรื่องก็คงไม่จบอย่างรวดเร็วและสมบูรณ์แบบเช่นนี้
เธอไม่รู้ว่าทำไมฟังจือหันจู่ๆ ถึงมาปรากฏตัวอยู่ข้างกายเธอ เคยถามแต่ในเมื่อเจ้าตัวไม่ยอมตอบ เธอจึงไม่อยากเซ้าซี้อีก ฟังจือหันเขาอาจจะเจ้าเล่ห์ แต่ก็เป็นสุภาพบุรุษ คนที่มีสติปัญญาความรู้ล้วนมองออกกันทั้งนั้นว่าตัวเธอไม่ได้มีทรัพย์สมบัติอะไร หรืออาจจะเป็นเพียงเพราะว่าเป็นเธอ…เขาจึงคอยหนุนหลัง คอยขจัดขวากหนาม คอยแก้ไขเรื่องวุ่นวายให้ หรืออาจจะมีเป้าหมายอื่น แต่ในใจของเธอกลับมีความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง นั้นก็คือเธอเชื่อเหลือเกินว่าฟังจือหันจะไม่ทำร้ายเธอ
อย่างไรก็ตาม เธอรู้สึกซาบซึ้งใจในตัวเขา ลู่เสวี่ยเฉินและหลินจยาอวี่เป็นอย่างยิ่ง ใช้ใจแลกใจ จากนี้ต่อไปพวกเขาคือเพื่อนของเธอ
“ตรงไปตรงมาดี” ลู่เสวี่ยเฉินระเบิดเสียงหัวเราะ กระดกรวดเดียวหมดเช่นกัน ตามมาด้วยหลินจยาอวี่ มีเพียงฟังจือหันที่ยังนิ่งอยู่
ลู่เสวี่ยเฉินมองฟังจือหัน “ฟังจือหัน ทำไมไม่ดื่มล่ะ”
ฟังจือหันลูบไล้แก้วไวน์ ยกยิ้ม “ฉันเป็นคนในครอบครัว”
ลู่เสวี่ยเฉินแค่นเสียงดังเหอะ เขาหันหน้าไปมองอวี๋กานกาน เธอกำลังพูดคุยกับหลินจยาอวี่ น้ำเสียงนุ่มละมุมและแผ่วเบามาพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ นัยน์ตาฉายประกายลักษณะของผู้ที่มีกิริยามารยาทงดงามสูงส่ง สาวสวยใสซื่อแบบนี้กลับมาโดนคนอย่างฟังจือหันหมายตา เขารู้สึกเสียดายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปมองหลินจยาอวี่ เจ้าหญิงน้ำแข็งแสนเย็นชาพูดน้อยคนนี้ เมื่อครู่ตอนที่เขาเดินเข้ามา เขาจงใจเดินเฉียดหลินจยาอวี่ เหมือนว่าจะไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรตรงไหน หรือว่าจะเป็นเพราะผู้หญิงคนที่เรียกมาในวันนี้ เขายังไม่สนิทกับเจ้าหล่อนมากพอจึงรู้สึกกระอักกระอ่วน?