ตอนที่ 439 ขู่ฉันต้องการให้เธอช่วยฉัน
เจียงฉี่ชะงักครู่หนึ่งจึงพยักหน้า “ได้ค่ะพี่ชาย เดี๋ยวฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
เธอยิ้มให้กู้ซูหลิงอย่างกระอักกระอ่วน จากนั้นก็ผายมือเชิญเธอ
“ขอบใจจ้ะเสี่ยวฉี่”
กู้ซูหลิงไม่แคร์สักนิดที่เจี่ยงฉี่ตอบกลับอย่างเย็นชา ใบหน้ากลับยังยิ้มแย้มเบิกบานเหมือนดอกไม้ผลิในเดือนมีนาคม
เจียงฉี่ก้มหน้าก้มตาตลอดทางไม่ค่อยกล้ามองกู้ซูหลิง เพียงแต่พาเธอไปที่ห้องริมสุดเงียบๆ อยู่ให้ห่างจากห้องนอนของทุกคน
เหมือนกับที่ฟังจือหันสั่งเอาไว้ว่า “เงียบสงบ”
กู้ซูหลิงกวาดสายตามองรอบห้องสุดท้ายจึงหันกลับมามองเจียงฉี่ “เสี่ยวฉี่ พี่ชายของเธอพักอยู่ห้องไหน”
เจียงฉี่ลังเลสักพักจึงตอบกลับไปเบาๆ “พี่อยู่อีกด้านนึง ด้านนั้นห้องเต็มหมดแล้ว ข้างขวาเป็นห้องพี่อวี๋ส่วนข้างซ้ายเป็นห้องฉันเอง”
กู้ซูหลิงสูงกว่าเจียงฉี่เล็กน้อย เธอยกมือโอบไหล่เจียงฉี่แล้วถามอีกครั้ง “เธอจำได้ไหมว่าเมื่อก่อนรับปากฉัน”
เจี่ยงฉี่สะบัดมือเธอออก แววตาวูบไหว “รับปากอะไร ฉันจำไม่ได้แล้ว ฉันนัดพี่สะใภ้ว่าจะไปแช่น้ำพุร้อนด้วยกัน ฉันไปก่อนล่ะไม่งั้นจะสายเอา”
“เสี่ยวฉี่” กู้ซูหลิงเรียกเจียงฉี่ที่กำลังจะไป “ฉันเห็นว่าเธอเป็นเพื่อนถึงรีบจัดการมาเรื่องเที่ยวน้ำพุร้อน ที่นี่ ฉันคิดว่าที่เธอโพสต์โมเมนต์ในวีแชทจะเป็นการแจ้งเตือนให้ฉันซะอีก”
เธอโบกมือพัลวัน พูดติดอ่าง “ไม่ไม่…ไม่ใช่ ฉันก็แค่โพสต์เฉยๆ”
กู้ซูหลิงหัวเราะ “ทำไมเธอตกใจขนาดนี้ ฉันไม่บอกพี่ชายเธอหรอก แต่ว่าเสี่ยวฉี่ ฉันช่วยเธอเธอก็ต้องช่วยฉัน แฟร์ไม่แฟร์”
เจียงฉี่ตอบเสียงอ่อน “แต่ว่าพี่ชายฉัน เขา..เขามีแฟนแล้ว”
กู้ซูหลิงอ้อนวอน “แต่เมื่อก่อนเราพูดกันไว้แล้วนี่ถ้าฉันได้คบกับพี่ชายเธอ ฉันจะทำให้พี่ชายดีกับเธอขึ้นมา ทำให้ในใจของเขามีน้องสาวเป็นเป็นเธอไง”
ผู้หญิงตรงหน้ายิ้มให้อย่างอ่อนหวาน แต่เจียงฉี่กลับต่อต้านเป็นอย่างมากจึงพูดอย่างอ่อนโยนว่า “พี่อวี๋…เธอดีมากๆ ฉันสมานฉันท์กับพี่ชายแล้ว ตอนนี้พี่ชายดีกับฉันมาก”
กู้ซูหลิงหัวเราะแต่กลับไม่ได้อยู่ในสายตา “เสี่ยวฉี่ เธอคิดจะตัดสะพานฉันเหรอ”
เจียงฉี่รีบสวนกลับ “ไม่ใช่ แค่เพราะว่าพี่ชายมีแฟนแล้วต่างหาก ฉันช่วยเธอแยกพวกเขาจากกันไม่ได้หรอก”
สีหน้าของกู้ซูหลิงแปรเปลี่ยนทั้งเย็นชาและดุดันขึ้นทันที
แต่ก็แค่แวบเดียวเท่านั้นก็กลับไปเป็นสีหน้าปกติ
เธอมองเจียงฉี่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “เฉี่ยวเธอลืมไปแล้วเหรอ ตอนนั้นหากฉันไม่ช่วยเธอไว้ก็กลัวว่าชาตินี้พี่ชายจะไม่ให้อภัยเธอ”
“เธอ…เธอขู่ฉันเหรอ” เจียงฉี่จ้องตากลับอย่างเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง
“เสี่ยวฉี่ พวกเราเป็นเพื่อนสนิทกันฉันจะไปขู่เธอได้ยังไงล่ะ ฉันชอบพี่ชายเธอจึงชอบเธอไปด้วย อยากเป็นเพื่อนกับเธอตลอดไป” กู้ซูหลิงพูดเจือรอยยิ้ม
เจียงฉี่เริ่มโกรธจนหน้าแดง “กู้ซูหลิง จะมากกเกินไปแล้ว”
กู้ซูหลิงจับมือเธอแล้วถอนหายใจ “พวกเราอย่าเป็นอย่างนี้เลย ฉันไม่ได้คิดร้ายกับเธอ แต่เพราะฉันชอบพี่ชายเธอมากจนเกินไปแล้ว หากชาตินี้ไม่ได้อยู่กับเขาฉันคงเสียใจมาก แล้วไม่ใช่แค่ความเสียใจระหว่างฉันกับเขา แต่เป็นความเสียใจระหว่างเราด้วย เธอจะไม่คิดช่วยฉันจริงๆ เหรอ”
ตอนที่ 440 ผู้หญิงช่างเดาใจยาก
เจียงฉี่มีสีหน้าหวาดหวั่นไม่สบายใจจึงปล่อยมือกู้ซูหลิงอย่างไม่ทันตั้งตัวจากนั้นจึงหันหลังวิ่งออกไป
ที่กู้ซูหลิงพูดไม่มีคำไหนไม่มีเหตุผล แต่ทุกคำกลับเต็มไปด้วยความข่มขู่
คนเราทำเรื่องเลวไม่ได้จริงๆ สักครั้ง
เรื่องก็ผ่านไปตั้งหลายปีแล้วถ้าเธอยอมรับผิดกับพี่ชาย พี่ชายจะให้อภัยเธอไหม
ถ้าพี่ชายไม่ให้เธอล่ะ ต่อไปก็คงไม่สนใจเธออีกแล้วใช่ไหม
เจียงฉี่เดินใจลอยอย่างรวดเร็วเพื่ออยากจะหนีให้ห่างไกลจากคำขู่ของกู้ซูหลิง รีบเดินจนในที่สุดก็วิ่งเร็วขึ้น บันไดตรงหน้าสูงเล็กน้อย เธอจึงสะดุดไปข้างหน้า ใบหน้าขาวซีดร้องขึ้นอย่างตกใจ “อ๊ะ!”
จู่ๆ แขนแกร่งก็ยื่นออกมากอดเธอไว้หมุนตัวไปด้วยกันแล้วจึงหยุดนิ่ง จากนั้นปล่อยมือก้าวไปข้างหลังแล้วพูดว่า “เดินให้ระวังหน่อย”
เจียงฉี่ยังคงตกตะลึงมองไปที่ชายผู้สง่างามตรงหน้าสูดหายใจลึกๆ แล้วเรียกขึ้น “อาจารย์เหม่ยเหริน”
ในน้ำเสียงของเธอปนเสียงสะอื้นฟังดูอู้อี้
เขาจับเธอยืนดีๆ แล้วคิดจะรีบเดินไป แต่เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นบวกกับจ้องตาแดงๆ ของเธอ เขาจึงถามอย่างไม่ตั้งใจ “เธอเป็นอะไร”
ทันใดนั้นน้ำเสียงเจือความห่วงใยทำให้ความทุกข์ร้อนของเจียงฉี่สงบเย็นทันที เธอไม่กล้าบอกใครและไม่กล้าระบายกับคนสนิท แต่เมื่อมองไปที่ผู้ชายที่พึ่งจะรู้จักกันวันนี้ น้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนของเขาสัมผัสที่ไหนสักแห่งในหัวใจของเธอ
เธอร้องไห้แสบจมูก แล้วจู่ๆ ก็ยกแขนขึ้นโอบกอดเหอสือกุยแน่นแล้วปล่อยโฮออกมา “อาจารย์เหม่ย
เหริน”
เมื่อหญิงสาวสวมกอดตัวเองแน่น เหอสือกุยจึงชะงักค้างไปทั้งร่าง
เขาตกใจช็อกไปหมด “…”
อวี๋กานกานและฟังจือหานที่กำลังเดินมาจากอีกด้านหนึ่งของทางเดิน พวกเขาจึงได้เห็นฉากนี้เข้าพอดี
เบิกตาค้างงไปชั่วขณะ
เธอมองเหอสือกุยอย่างตกใจ “อาจารย์เหม่ยเหริน เสี่ยวฉี่ นี่พวกคุณ…”
เมื่อเหอสือกุยได้ยินเสียงอวี่กานกาน จึงรีบแสดงความบริสุทธิ์ใจของตัวเองทันที “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม”
เขาผละเจียงฉี่ออกจากกายถอยหลังหลายก้าวรักษาระยะห่างระหว่างคนแปลกหน้า
เจียงฉี่เช็ดน้ำตาสูดน้ำมูกแล้วก้มหน้าก้มตาพูด “ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ ฉันแค่จู่ๆ ก็อยากร้องไห้”
จากนั้นจึงวิ่งออกไปทันที
อวี๋กานกานเหลียวไปมองฟังจือหัน “เธอร้องไห้ทำไม คุณเดาได้ไหม”
“เดาไม่ถูก”
“เพราะอะไร”
“จิตใจพวกผู้หญิงอย่างกับงมเข็มในมหาสมุทร ขนาดคุณผมยังเดาใจไม่ถูก ไม่ต้องไปพูดถึงคนอื่นหรอก”
อวี๋กานกานมองไปที่เหอสือกุย “อาจารย์ลองเดาสักหน่อยไหมคะ”
“เดาไม่ได้เหมือนกัน”
“ทำไมคะ”
“จิตใจพวกผู้หญิงอย่างกับงมเข็มในมหาสมุทร ขนาดเธอฉันยังเดาใจไม่ถูก ไม่ต้องไปพูดถึงคนอื่นหรอก”
อวี๋กานกานมองฟังจือหันสลับกับมองเหอสือกุย จ้องหน้าทั้งสองคนอย่างลึกซึ้ง จากนั้นแยกย้ายกันกลับห้องซ้ายคนขวาคน”
ทำไมถึงเข้าขากันได้ขนาดนี้
อวี๋กานกานมองซ้ายมองขวาไม่ตามใครไปทั้งนั้นแล้วไปตามหาเจียงฉี่
เจียงฉี่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในห้องของตัวเอง อวี๋กานกานยืนฟังอยู่ข้างนอกครู่หนึ่งจึงเคาะประตู เจียงฉี่ตาแดงออกมาเปิดประตูให้ “พี่สะใภ้คะ”
อวี๋กานกานยิ้มให้เธอ “เธอหยุดร้องไห้ได้แล้ว ถ้าหากอาจารย์ของฉันรังแกเธอล่ะก็บอกฉันได้ ฉันจะไปคุยกับเขาเอง”
เจียงฉี่ส่ายหน้าพัลวัน “ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่ อาจารย์เหม่ยเหรินไม่ได้รังแกฉันหรอกค่ะ”
อวี๋กานกานถามขึ้นอีกครั้ง “งั้นตอนที่เธอไปส่งกู้ซูหลิงที่ห้อง กู้ซูหลิงด่าเธอเหรอ”