ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 485 สถานที่และคนที่คุ้นเคย / ตอนที่ 486 เสี่ยวอวี๋คนนี้ไม่ใช่เสี่ยวอวี๋คนนั้น

ตอนที่ 485 สถานที่และคนที่คุ้นเคย / ตอนที่ 486 เสี่ยวอวี๋คนนี้ไม่ใช่เสี่ยวอวี๋คนนั้น

ตอนที่ 485 สถานที่และคนที่คุ้นเคย

รถเบนซ์คันดำมารับหมอหวงที่โรงพยาบาลโดยเฉพาะ

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงรถก็มาจอดตรงลานหน้าคฤหาสน์หรูหลังหนึ่ง

คฤหาสน์สไตล์ยุโรปหรูหรากำแพงสูงตระหง่าน กลางลานมีทางเดินลาดหิน สองข้างเป็นสนามหญ้าและดอกไม้ นอกจากนี้ยังมีพุ่มไม้บางชนิด ส่วนทางสุดด้านตะวันออกมีซุ้มเถาองุ่นสูงใหญ่ใต้ซุ้มยังห้อยชิงช้าอีกด้วย

อวี๋กานกานยืนอยู่ตรงกลางลานมองไปโดยรอบ ทันใดนั้นก็รู้สึกคุ้นๆ กับลานแห่งนี้

โดยเฉพาะซุ้มองุ่นสูงใหญ่ทางสุดด้านตะวันออกแล้วยังมีชิงช้านั้นด้วยรู้สึกคุ้นมากๆ

จู่ๆ ภาพแปลกๆ ก็แวบเข้ามาในหัวของเธอ เด็กสาวคนหนึ่งนั่งชิงช้าโดยมีเด็กหนุ่มยืนกำลังยืนไกวชิงช้าให้ทางด้านหลัง เด็กสาวกำลังเร่งเร้า “เร็วหน่อยค่ะ เร็วอีกค่ะ”

“ไม่ได้ เร็วกว่านี้ไม่ได้แล้วมันอันตราย” ชายหนุ่มปฏิเสธและไกวชิงช้าให้ไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป

“แต่มันช้าเกินไปแล้วไม่เห็นจะตื่นเต้นเลยค่ะพี่เจียง เร็วๆ หน่อยนะ นะคะ”

“ไม่ได้ครับ”

“ถ้าเกิดเรื่องแล้วจะทำยังไง”

“มีพี่อยู่ด้วย พี่ต้องรับหนูได้ พี่ไม่ยอมให้หนูเป็นอะไรแน่นอนค่ะ ให้เร็วกว่านี้อีกนะคะพี่เจียง…”

ในที่สุดชายหนุ่มจึงยอมแล้วใช้แรงผลักไปข้างหน้า เด็กสาวรีบตะโกนขึ้นทันที “สนุกจังเลย” จากนั้นก็หัวเราะฮ่าๆ เสียงดันลั่น

เสียงหัวเราะใสเหมือนราวกับเสียงกระดิ่งไพเราะเสนาะหู

พี่เจียงอย่างนั้นหรือ ภาพเหล่านี้เป็นเรื่องจริงหรือภาพลวง อวี๋กานกานขมวดคิ้วมุ่นรู้สึกแค่ว่าภาพพวกนี้เลือนราง จริงๆ หลอกๆ ราวกับความฝันราวกับภาพลวงตา

เสมือนจริง

และเหมือนกับจินตนาการของเธอ

อวี๋กานกานหลับตารู้สึกสับสนและวูบไหวมาอยู่ที่ลานแห่งนี้ได้เพียงครู่เดียวก็รู้สึกสับสนแยกไม่ออกระหว่างความฝันกับเรื่องจริง

“เสี่ยวอวี๋ เสี่ยวอวี๋ เธอเป็นอะไรไป”

หมอหวงเรียกอยู่หลายครั้งมองอวี๋กานกานด้วยสีหน้าเป็นห่วง “ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า เธอตรวจคนไข้มาทั้งวันแล้ว รู้อย่างนี้ให้เธอกลับไปพักผ่อนตั้งแต่แรกเสียก็ดี”

อวี๋กานกานเรียกสติกลับคืน เธอยิ้มและส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ พวกเราเข้าไปกันเถอะค่ะ”

มือข้างหนึ่งของเธอหิ้วกล่องยาส่วนอีกข้างประคองหมอหวงแล้วตามคนขับรถที่เดินนำเข้าไปยังคฤหาสน์

การตกแต่งภายในคฤหาสน์ก็เหมือนกับคฤหาสน์หรูทั่วไป แต่สิ่งเดียวที่แต่งต่างกันก็คือตรงกลางห้องรับแขกแขวนรูปครอบครัวที่มีสามีภรรยาหนึ่งคู่พร้อมทั้งลูกชายหนึ่งคนและลูกสาวอีกหนึ่งคน

อวี๋กานกานเห็นชายวัยกลางคนและหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังในรูปครอบครัวจึงหัวเราะออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ชายวัยกลางคนคือกู้เชิน

หญิงสาวคนนั้นคือกู้ซูหลิง

ที่นี่คือคฤหาสน์ตระกูลกู้อย่างนั้นหรือ

โลกช่างกลมเสียจริง บังเอิญอะไรขนาดนี้

อวี๋กานกานมีสีหน้ากล้ำกลืน จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งกำลังจ้องตนเองอยู่ตบอดเวลา เธอจึงหันหน้าไปด้วยแววตาลุกโชนจึงเห็นกู้เชินยืนอยู่ไม่ไกลนัก

เธอจึงยิ้มให้กู้เชินตามมารยาม “สวัสดีค่ะ”

รอยยิ้มเจือจางนี้ทำให้แววตาของกู้เชินแสดงความตกใจเล็กน้อย

ในขณะนั้นเองที่กู้เชินราวกับว่ามองย้อนกลับไปหลายปีก่อนที่เห็นเสี่ยวเหยียนครั้งแรก

รูปร่างบอบบาง รอยยิ้มสดใสและความสุภาพที่ห่างเหินของหญิงสาว รู้ทั้งรู้ว่าเป็นคนแปลกหน้าแต่กลับรู้สึกคุ้น ช่างเหมือนเสี่ยวเหยียนของเขามากจริงๆ

หมอหวงทักทายกู้เชิน “สวัสดีครับประธานกู้”

กู้เชินเก็บงำความตกใจและความสงสัยในใจแล้วก้าวไปข้างหน้าเพื่อจับมือทักทายหมอหวง “รบกวนคุณหมอหวงกับหนูด้วยนะ”

หมอหวงถามถึงว่าคนไข้อยู่ที่ไหนแล้วให้กู้เชินนำทางไป ในขณะที่ก้าวเดินไปข้างหน้าก็หันไปพูดกับอวี๋กานกาน “เสี่ยวอวี๋ตามมา”

กู้เชินที่เดินนำข้างหน้าหยุดชะงักแล้วหันไปถามหมอหวงด้วยสายตางุนงง “เมื่อกี้คุณหมอเรียกใครนะครับ”

ตอนที่ 486 เสี่ยวอวี๋คนนี้ไม่ใช่เสี่ยวอวี๋คนนั้น

หมอหวงตกใจกับท่าทีหุนหันของกู้เชินจนนิ่งอึ้ง เขาไม่แน่ใจนัก ก่อนจะอธิบาย “ผมเรียก

เสี่ยวอวี๋นี่ไงครับ”

จากนั้นเขาก็มองไปที่อวี๋กานกาน

เมื่อกู้เชินใช้สายตามองตนเองอย่างตกตะลึง เธอจึงนึกถึงกู้เหยียนอวี๋ลูกสาวของเขาอย่างไม่ตั้งใจ

หมอหวงเรียกเธอว่าเสี่ยวอวี๋ที่แปลว่าปลาน้อย คงไม่ทำให้เขานึกถึงลูกสาวของตัวเองที่ชื่อเสี่ยวอวี๋หรอกมั้ง

เสี่ยวอวี๋ชื่อของเธอ เสี่ยวอวี๋ที่แปลว่าปลาน้อยและเสี่ยวอวี๋ชื่อของลูกสาวกู้เชิน ชื่อพวกนี้พ้องเสียงมากไปแล้ว อวี๋กานกานจึงยิ้มแล้วพุดกับกู้เชิน “ฉันชื่ออวี๋กานกานค่ะ เป็นผู้ช่วยของคุณหมอหวง”

เหมือนหลิงหลิงเคยพูดถึงว่าแฟนสาวของฟางจือหันมีนามสกุลอวี๋

เสี่ยวอวี๋ ที่ไม่ใช่ปลาน้อยเสี่ยวอวี๋หรือเสี่ยวอวี๋ชื่อลูกสาวของเขา

รอยยิ้มในใจของกู้เซินพลันหายไป ปลาน้อยเสี่ยวอวี๋ของเขากลับมาแล้ว ทำไมเขาถึงต้องเกิดความสงสัยเพราะหญิงสาวคนนี้ด้วยล่ะ

กู้ซูหลิงนั่งบนโซฟาห้องรับแขกชั้นสอง เธอสวมชุดอยู่บ้านเสื้อแขนกุด ข้อมือข้างขวาบวมเป่งและมีรอยเขี้ยวสองซี่อย่างเห็นได้ชัด กล้ามเนื้อโดยรอบบวมเป็นแผลเปื่อย

นี่น่าจะโดนงูพิษกัดมา หากไม่ได้รับการควบคุมหรือรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้พาแพร่กระจายได้

แต่ว่าฤดูหนาวอย่างนี้จะมีงูได้ยังไง

กู้ซูหลิงคิดไม่ถึงว่าหมอที่มารักษาเธอจะบังเอิญเป็นอวี๋กานกาน

ใบหน้าที่เหยเกอยู่แล้วกลับดูแย่ลงไปอีก หน้าดำคร่ำเครียดเหมือนโดนน้ำหมึกสาดใส่หน้า

เธอไม่อยากให้อวี๋กานกานเห็นสภาพย่ำแย่ของเธอ

เธอมองไปที่กู้เชินอย่างน่าสงสาร สายตาเจือแววตำหนิเล็กน้อย คิดในใจว่าทำไมถึงต้องมาเจอโจทย์เก่าด้วย ไม่ควรให้ศัตรูหัวใจมาเห็นข้อมือของตนเองที่บวมเป่งถึงขนาดนี้ ต่อไปอีกฝ่ายต้องหัวเราะเยาะเธอแน่ๆ

กู้เชินอึ้งไปชั่วขณะ

เมื่อครู่นี้เขาไม่ได้นึกถึงจิตใจของลูกสาวจริงๆ ในฐานะที่เป็นหมอเขาเชื่อว่าอวี๋กานกานคงไม่หัวเราะเยาะลูกสาวของเขา มิฉะนั้นก็ถือว่าไร้จรรยาบรรณแพทย์มากๆ

อวี๋กานกานไม่ได้มีจิตใจคิดหัวเราะเยาะกู้ซูหลิงจริงๆ

แต่เธอแค่กำลังคิดว่าตัวเองจะรักษาให้กู้ซูหลิงดีไหม

เพราะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับฟางจือหันอยู่ ตอนที่เธอรักษาอาจถูกสงสัย ให้ยาแล้วไม่ได้ผลแน่ชัดก็อาจถูกสงสัยอีกเช่นกัน หรือแม้กระทั่งอาการแย่ลงในขณะกำลังรักษาก็เกรงว่าเธออาจจะถูกมองว่ามีเจตนาร้ายก็ได้

มันเป็นปัญหายากสำหรับเธอจริงๆ ที่ต้องช่วยรักษากู้ซูหลิง

อย่างไรเสียยังมีหมอหวงอยู่ด้วย

เธอควรพยายามอยู่เงียบๆ น่าจะดีกว่า

…!

กู้ซูหลิงไม่ได้ถูกงูพากัดแต่กลับถูกกิ้งก่ามีพิษตัวเล็กชนิดหนึ่งกัด

ซึ่งกิ้งก่ามีพิษชนิดนี้ถูกค้นพบเป็นสัตว์ชนิดใหม่ มีฝ่ามือใหญ่ทั้งตัวเป็นสีดำมันเงาลื่นๆ เย็นๆ และสวยงาม

กู้เชินชอบเลี้ยงสัตว์แปลกประหลาดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะเป็นแมงป่อง กบและอื่นๆ เขายังเลี้ยงกิ้งก่ามีพิษตัวนี้ไว้ที่สวนหลังบ้านด้วย

เดิมที่เขาเลี้ยงไว้ในห้องกระจกที่มีอุณหภูมิคงที่ วันนี้ไม่คิดว่ากู้ซูหลิงจะไม่ระวังเปิดมันออกมา กิ้งก่าพิษจึงไต่ออกมากัดมือเธอจนบาดเจ็บ

กิ้งก่าพิษจะปล่อยพิษออกมาที่คมเขี้ยวของมัน บริเวณที่ถูกกัดจะมีอาการแสบร้อนบวมแดงและเลือดออกอย่างเห็นได้ชัด

หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาการบวมน้ำอย่างรวดเร็วและอาจลุกลามไปยังแขนขาทั้งหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง

กิ้งก่าพิษนี้มีอาการคล้ายกับถูกงูพิษกัด

หลังจากถูกกัดกู้ซูหลิงจึงไปโรงพยาบาล

กิ้งก่าชนิดนี้มีชื่อเรียกว่า ‘งูสี่ขา’ หรือที่เรียกกันว่า ‘กิ้งก่างู’ เป็นสัตว์เลื้อยคลานเลือดเย็น การรักษาโดยทั่วไปคือการฉีดเซรุ่มแก้พิษงู

หลังจากที่กู้ซูหลิงไปฉีดเซรุ่มที่โรงพยาบาลแล้วคิดว่านอนพักคืนหนึ่งก็คงหาย

ไม่คิดว่าวันนี้ตื่นขึ้นมาแล้วแผลยังไม่ดีขึ้นอีกทั้งยังบวมและแผลเปื่อยอีกด้วย

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

Status: Ongoing

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท