ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 539 หน้าแดงโดยไม่มีสาเหตุ / ตอนที่ 540 แม่จ๋า นี่มันน่าอับอาย!

ตอนที่ 539 หน้าแดงโดยไม่มีสาเหตุ / ตอนที่ 540 แม่จ๋า นี่มันน่าอับอาย!

ตอนที่ 539 หน้าแดงโดยไม่มีสาเหตุ

อากาศกับแสงแดดที่เมืองหลวงไม่เหมือนที่เมืองไป๋หยางเลยสักนิด มืดครึ้มไม่จบ ฝนเทลงมาไม่ขาดสาย

ผู้โดยสารภายในสนามบินคลาคล่ำไม่ขาด อวี๋กานกานตามฟังจือหันกับเหอสือกุยออกมาพร้อมกับกลุ่มคน

หลินเซินจะมารับที่สนามบิน แต่ว่าเขากลับไม่ได้มาแค่คนเดียว เจียงฉี่ก็ตามมาด้วย

เสริมด้วยรถตู้ครอบครัวคันใหญ่ หรูหราที่สุด คล้ายกับห้องเดี่ยวเล็กๆ ห้องหนึ่ง

ไม่เพียงหรูหราไฮโซ ยังสบายกว้างขวาง เก้าอี้มีฟังก์ชันนวดอัตโนมัติ มีทีวี ตู้เย็น ตู้เซฟและอื่นๆ ถึงขนาดมีเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ กับตู้แอลกอฮอล์

เจียงฉี่กับเหอสือกุยนั่งแถวหน้า

อวี๋กานกานกับฟังจือหันนั่งอีกแถวด้านหลัง

เจียงฉี่หันมาเกาะเก้าอี้ถามอวี๋กานกานซึ่งนั่งอยู่ข้างหลัง  เรื่องสวีอวี้หลันนั้น…สุดท้ายสืบได้ว่าใครเป็นฆาตกรฆ่าเธอไหมคะ 

อวี๋กานกานยิ้มจางๆ พร้อมกับส่ายหน้า  ยังไม่รู้ เมื่อวานตอนที่ฉันไปสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่โจวกับเจ้าหน้าที่หมีก็ไม่ได้บอกว่ามั่นใจเต็มร้อยว่าผู้ร้ายฆ่าคนก็คือหลิวเหม่ยเฟิงลูกสะใภ้ของสวีอวี้หลัน แต่ว่ามีหลักฐานบ่งชี้ว่าหลิวเหม่ยเฟิงเป็นคนฆ่า แต่ว่ามีที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่นิดหน่อย 

 ไม่สมเหตุสมผลยังไงคะ 

 ทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนั้นที่สวีอวี้หลันเป็นลมใส่ฉันพอดีล่ะ  นี่เป็นความสงสัยในใจของอวี๋กานกาน ส่วนการดูตัวหนังสือที่เพิ่มในใบสั่งยาก็ชัดเจนว่ามีการจัดเตรียมสถานการณ์ล่วงหน้า และสวีอวี้หลันเองก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด 

 ความหมายที่คุณพูดก็คือบางทีตัวสวีอวี้หลันเองก็อยากตายอยู่แล้วเหรอ  เจียงฉี่ถามอย่างตกใจ

 ไม่รู้สิ แต่ว่าฉันเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสืบหาได้แน่ 

 อืมๆ 

พูดคุยกับอวี๋กานกานได้ครู่หนึ่ง เจียงฉี่ก็กลับไปนั่งเรียบร้อยที่เก้าอี้

เธอหันข้างเล็กน้อย มองเหอสือกุยซึ่งอยู่ด้านข้างแวบหนึ่งและถามอย่างเขินอาย  อาจารย์เหม่ยเหริน ดะ ได้ยินว่าคุณได้รับบาดเจ็บเหรอคะ 

เหอสือกุยมองเธอและตอบ  หายดีแล้ว 

รอยยิ้มบางๆ ราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านใบหน้า ดุจความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ในฤดูหนาว

ดวงหน้าของเจียงฉี่แดงขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ และยังแดงไปจนถึงใบหูกับลำคอ เธอก็ไม่รู้ว่าตนเองทำไมจู่ๆ ถึงได้เขินอายขึ้นมา

เธอเม้มปากครู่หนึ่งและเอ่ยถามอีกครั้ง  บาดเจ็บแล้วยังนั่งเครื่องบินจะต้องเหนื่อยมากแน่เลยใช่ไหมคะ 

 ไม่เท่าไหร่ 

 จากนี้อาจารย์เหม่ยเหรินก็จะอยู่ที่เมืองหลวงด้วยใช่ไหมคะ 

 น่าจะใช่ 

ใบหน้าของเจียงฉี่ฉายแววดีใจ  งั้นฉันก็ไปเที่ยวหาคุณได้ใช่ไหมคะอาจารย์เหม่ยเหริน 

เธออยากจะเห็นผู้ชายที่สุภาพเรียบร้อยถือมีดผ่าตัด ทำงานด้วยท่าทางจริงจัง

จะต้องหล่ออีกทั้งมีเสน่ห์มากแน่

ระหว่างนั้นเหอสือกุยไม่รู้ว่าจะตอบเธอไปอย่างไร

เป็นที่ชัดเจนมากว่าในใจของเขาไม่อยากจะติดต่อกับเจียงฉี่ให้มากเกิน แต่ว่าก็ปฏิเสธสาวน้อยแบบตรงไปตรงมาไม่ได้ง่ายเลย

เจียงฉี่ยกยิ้ม พูดด้วยรอยยิ้มไม่ขาด  คุณไม่พูดงั้นฉันก็จะถือว่าคุณตกลงแล้ว 

เหอสือกุย  …  ความเงียบบางครั้งก็คือปฏิเสธ

และเขามีสีหน้าลำบากใจ

เขาไม่เชื่อว่าสาวน้อยคนนี้จะดูไม่ออก

เจียงฉี่เอื้อมมือไปหยิบจานผลไม้ที่โต๊ะเล็กข้างหน้า จากนั้นก็ยื่นไปตรงหน้าเหอสือกุย  อาจารย์เหม่ยเหรินคะ นี่เป็นสตรอว์เบอร์รีที่ฉันซื้อ หวานอร่อยมาก คุณลองชิมดู 

เหอสือกุยปฏิเสธไป  ไม่เป็นไร 

 ชิมลูกหนึ่งสิคะ อร่อยมากจริงๆ 

 ไม่เป็นไรจริงๆ 

 แค่ชิมลูกเดียว สดใหม่ อร่อยมากเลย 

เจียงฉี่ดื้อรั้นมาก หยิบขึ้นมาลูกหนึ่งเตรียมใส่ปากให้เหอสือกุยอย่างรวดเร็ว

เหอสือกุยเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย ยกมือขึ้นหยิบสตรอว์เบอร์รีไปจากมือเธอ  ผมกินเอง 

เจียงฉี่พยายามโฆษณาต่อ  อร่อยมากจริงๆ คุณกินสิจะได้รู้ว่าฉันไม่ได้โกหก 

ตอนที่ 540 แม่จ๋า นี่มันน่าอับอาย!

เหอสือกุยยิ้มเจือนออกไป จากนั้นก็เอาสตรอว์เบอร์รีเข้าปาก

เจียงฉี่มองจ้องเขาอยู่ตลอด เห็นเขาเคี้ยวแล้วก็ส่งยิ้มพร้อมกับเอ่ยถามออกมาทันที  หวานไหมคะ 

เหอสือกุยพยักหน้า

เจียงฉี่ขยับจานไปตรงหน้าเหอสือกุย  งั้นเอาอีกลูกไหมคะ 

เหอสือกุยโบกมือปฏิเสธ นิ้วเรียวยาวดันจานออกไป  ไม่ต้องแล้ว เธอกินเถอะ 

พื้นที่ในรถกว้างมาก ที่นั่งหน้าหลังมีระยะห่างอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็อยู่ในรถและเป็นธรรมดาที่อวี๋กานกานจะเห็นการกระทำของพวกเขาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง

เธอรู้ว่าเจียงฉี่นิสัยดี กระตือรือร้น ร่าเริง

แต่ว่าเธอมักจะรู้สึกว่าเจียงฉี่ใจดีกับอาจารย์เหม่ยเหรินเกินไปนิดหน่อย

ขณะที่อวี๋กานกานกำลังสงสัยอยู่ จู่ๆ เจียงฉี่ก็หันหน้ามาพูดกับอวี๋กานกานที่อยู่ด้านหลัง  พี่อวี๋ พี่ก็สักลูกสิ 

อวี๋กานกานไม่เอา แต่ว่าเจียงฉี่ขยับมาตรงหน้าเธอจนได้ ยังไงก็จะให้เธอชิมลูกหนึ่ง

มีแค่ฟังจือหันตรงนั้น ถ้าฟังจือหันปฏิเสธแล้วเธอก็ไม่ตามต่ออีก มีเพียงสีหน้าผิดหวังและส่งเสียง  อ๋อ  ออกมา

หลังจากปฏิกิริยาเรียบง่ายนั้น ทุกคนพลันเงียบกริบ อวี๋กานกานเดาว่าตนเองน่าจะคิดมากไปแล้ว

เหอสือกุยถือว่าตลอดวัยหนุ่มเป็นแพทย์ทางสมองชื่อดัง มาเมืองหลวงเพราะได้รับคำเชิญจากโรงพยาบาลเมืองหลวง ทางโรงพยาบาลจึงจัดเตรียมที่พักให้เป็นธรรมดา ซึ่งเป็นคอนโดขนาดย่อมสองห้องนอนหนึ่งห้องนั่งเล่น

อวี๋กานกานกำลังคิดว่าถึงอย่างไรเธอก็แค่คบกับฟังจือหันยังไม่ได้แต่งงาน เพราะอย่างนั้นก็ต้องอยู่กับครอบครัว

ตอนมาเธอก็บอกเรื่องนี้แล้ว เหอสือกุยไม่ได้ตอบตกลง

เพราะว่าสองห้องนอนหนึ่งห้องนั่งเล่นมีห้องหนึ่งเป็นห้องอ่านหนังสือ ถ้าอวี๋กานกานจะมาพักก็ต้องรอให้เขาซื้อเตียงมาก่อนถึงจะได้

ทั้งกลุ่มไปกินข้าวก่อนจากนั้นค่อยไปส่งเหอสือกุยกลับคอนโดของเขา

เหอสือกุยลงจากรถ เจียงฉี่ก็ตามลงไปด้วย เธอพูดกับอวี๋กานกานและฟังจือหัน  ฉันยังมีธุระกับอาจารย์เหม่ยเหรินอยู่ ไม่ไปกับพวกพี่แล้ว 

ปิดประตูรถและโบกมือให้กับอวี๋กานกาน

รถเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่รีบเร่ง เห็นสายตาตกตะลึงและไม่เข้าใจของอวี๋กานกานอยู่เลือนราง เจียงฉี่กะพริบตา เธอมีธุระกับอาจารย์เหม่ยเหรินจริงๆ

เจียงฉี่หันหลัง เห็นท่าทางสงสัยแบบเดียวกันจากเหอสือกุย ก้าวเข้าไปหา มองเขาพร้อมกับเอ่ยถามด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย  อาจารย์เหม่ยเหรินคะ ฉันอยากถามคุณเรื่องหนึ่ง 

เหอสือกุยมองเธอ  เชิญพูด 

 ฉันไม่ใช่พวกธุรกิจ เพราะอย่างนั้นฉันวางแผนไว้ว่าจะย้ายคณะไปเรียนแพทย์ 

เหอสือกุย  … 

เกือบจะนึกว่าตนเองฟังผิดแล้ว

 ฉันอยากเรียนแพทย์แผนจีน แต่ว่าฉันได้ยินว่าแพทย์แผนจีนต้องฝึกตั้งแต่เด็ก และต้องมีประสบการณ์หลายปีมากๆ ฉันคิดอีกอย่างคือหรือว่าเรียนแผนกศัลยกรรมดีหรือไม่ ถึงอย่างไรศัลยกรรมก็แค่พันแผลอะไรเท่านองนั้น แต่ว่าพี่อวี๋บอกว่าคุณเป็นหมอเฉพาะทางสมอง ฉันจึงคิดอยู่ว่าหรือฉันย้ายไปผ่าตัดสมอง เป็นลูกศิษย์ที่แท้จริงของคุณ คุณคิดว่ายังไง 

เหอสือกุยตอบเธอด้วยสี่คำ  ก็ไม่ยังไง 

 หา 

 เธอตั้งใจเรียนวิชาที่เธอเรียนตอนนี้ดีกว่า 

 ทำไมล่ะ 

 เพราะว่าเธอแค่ลองถามดูเท่านั้น 

 ไม่ ฉันอยากจะย้ายคณะจริงๆ 

 ถ้าเธอสนใจจริง ไม่มีทางที่จะไม่หาข้อมูลดู ขอแค่ลองหาข้อมูลดูเธอก็จะรู้ว่าศัลยกรรมไม่ใช่อย่างที่เธอคิดแค่ว่าพันแผลสักหน่อย ศัลยกรรมโดยทั่วไปใช้การผ่าตัดรักษาอาการป่วย ซึ่งแบ่งเป็นห้าประเภทใหญ่ บาดแผล การติดเชื้อ เนื้องอก พิกลพิการและความผิดปกติ ศึกษาการใช้วิธีผ่าตัดไปรักษาโรคเป็นหลัก… 

หยุดไปครู่หนึ่งเขาจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง  อีกอย่าง ฉันก็เป็นศัลยแพทย์ ผ่าตัดสมอง 

พูดจบก็ส่งยิ้มบอกลา

ทิ้งเจียงฉี่ยืนอยู่กลางลมเย็นด้วยสีหน้าอับอาย

 

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

Status: Ongoing

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท