ตอนที่ 567 สวยตะลึงไปทั้งงาน
แต่เจียงฉี่กลับไม่พอใจในชุดนี้เอามากๆ เอาแต่ส่ายหน้าตลอดเวลา ชุดดำดูดุไม่มีชีวิตชีวา แถมยังดูแก่อีกด้วยไม่เหมาะกับพี่สักนิด พี่ลองเปลี่ยนเป็นชุดสีขาวดูค่ะ
มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ อวี๋กานกานคิดว่ามินิเดรสเหมาะกับตัวเองมากกว่า
ชุดราตรีสีขาวตัวยาวทั้งโดดเด่นและระยิบระยับเกินไป ดูยังไงก็เหมือนชุดสำหรับเจ้าภาพงานมากกว่า เธอเป็นแค่แขกธรรมดาคนหนึ่งไม่จำเป็นต้องใส่ชุดนั้นจริงๆ
ไม่นานอวี๋กานกานที่ลองสวมชุดสีขาวแล้วเดินออกมา
ชุดเดรสยาวนี้ดูเหมือนจะตัดเย็บมาเพื่อเธอ ขนาดกำลังพอดีตัว ผิวของเธอจากเดิมที่ขาวนวลอยู่แล้วชุดเดรสสีขาวและเพชรพราวบนหน้าอกของเธอเรียงรายไปตามผิวของเธอราวกับหยกขาวยิ่งทำให้เธอผุดผ่องและดูไฮโซเหมือนเจ้าหญิง
เมื่อเธอเดินออกมาดวงตาของเจียงฉี่ก็เบิกโพลงด้วยความตกตะลึงและเปล่งเสียงประหลาดใจทันที ว้าว สวยมาก อาซ้อฉันจะบอกว่ามันเหมาะกับพี่มาก ไม่ผิดจริงๆ มันเหมาะสมมากๆ
อวี๋กานกานค่อยๆ หมุนตัวมองตัวเองในกระจก
สวยมากเลยเหรอ
ดูเหมือนก็ไม่เลวจริงๆ แต่เธอก็ยังตัดสินใจเลือกมินิเดรสชุดนั้น กลับไปเปลี่ยนเป็นชุดเมื่อกี้ดีกว่าไหม
เจียงฉี่ห้ามเธอ ไม่ๆๆๆ ชุดนี้สวยแล้ว ไม่เชื่อพี่ก็ถามพนักงานสิคะ
หญิงสาวที่ช่วยอวี๋กานกานเปลี่ยนชุดรีบพยักหน้ายิ้มทันที คุณอวี๋คะ มินิเดรสตัวนี้เป็นลิมิเตด
คอลเลกชันของแบรนด์ M ในปีนี้และไม่ตัดเพิ่มแล้ว ทั่วโลกมีเพียงชุดเดียว เป็นงานฝีมือทั้งชุด ทุกฝีเข็มการปักเย็บละเอียดประณีตมาก คุณสวมแล้วดูดีและเหมาะกับคุณมากค่ะ หากคุณไม่เลือกชุดนี้คงเสียดายแย่
เอาชุดนี้ค่ะ
เจียงฉี่ช่วยอวี๋กานกานตัดสินใจ ยิ่งดูเธอก็ยิ่งชอบ ไม่ยอมให้อวี๋กานกานเปลี่ยนอีกเด็ดขาดแล้วให้พนักงานขายไปจัดเตรียมช่างแต่งหน้าทำผม
หนึ่งชั่วโมงถัดไปช่างแต่งหน้าทำผมก็แต่งตัวให้อวี๋กานกานเรียบร้อย
อวี๋กานกานส่องดูผู้หญิงที่อยู่ในกระจกอย่างไม่กล้าเชื่อสายตา
นี่ตัวเองจริงๆ เหรอ
ดวงตาที่กลมโตสดใสเป็นประกายสวยงามนั้นทำคนใจกระตุก ใบหน้าเรียวรูปไข่ขาวผ่อง จมูกโด่งรั้นน่ารัก เมื่อมองโดยรวมแล้วช่างสวยงามและมีเสน่ห์
ผมลอนยาวถึงบั้นเอวดำขลับปล่อยสยายลงมาทั้งสองข้าง บนศีรษะประดับด้วยเพชรรูปดอกไม้สวยหรูตกแต่งตามผมยาวที่สยายลงมามันดูมีเสน่ห์และสง่างามราวกับความฝันราวกับเทพธิดา
อาซ้อ สวยจังเลยค่ะ คืนนี้พี่ต้องสวยตะลึงไปทั้งงานแน่ๆ เจียงฉี่มองจนตาค้างแล้วเอ่ยขึ้น
ไม่ค่อยดีมั้ง ฉันแค่ไปงานเลี้ยงครบรอบวันเกิดเอง อวี๋กานกานลังเลคิดว่าตัวเองไม่ควรโดดเด่นเกินหน้าเกินตาเจ้าของงาน
ดีสิคะ พี่ไม่ต้องรู้สึกว่าอลังการเกินไป พอไปงานพี่ก็จะเห็นเองว่าทุกคนก็แต่งตัวจัดเต็มกันทั้ง ไม่แต่งตัวจัดเต็มสิถึงจะแปลกพวก
จริงเหรอ
จริงแท้แน่นอน พี่เชื่อฉันสิ
เจียงฉี่ยิ้มสดใสด้วยท่าทางสบายๆ อวี๋กานกานจึ่งรู้สึกมั่นใจขึ้นมา เธอครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยกับเจียงฉี่ เอางี้…เจียงฉี่ เธอไปเป็นเพื่อนฉันป่ะ
เจียงฉี่ชะงักงัน
ประกายน่าอึดอัดฉายผ่านดวงตาที่ชัดเจนของเธอ
เธอส่ายหน้าอัตโนมัติ ส่ายหน้าเสียจนเหมือนคลื่นกำลังกระเพื่อม ไม่ๆๆ ฉันไปไม่เหมาะสมหรอกค่ะ
อวี๋กานกานจับแขนเธอแน่น เหมาะสมสิ เนื่องจากมีระบุไว้ในบัตรเชิญว่าคุณสามารถพาเพื่อนร่วมงานได้ ฉันไม่ได้พาแฟนมาด้วย จะพาผู้หญิงไปด้วยก็ไม่เป็นไร
ตอนที่ 568 ความลึกลับของตระกูลฟัง
ไม่ว่าอวี๋กานกานจะชวนยังไง เจียงฉี่ก็เอาแต่ปฏิเสธ หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ตกลงแน่ ถึงได้มีสีหน้าไม่เป็นกังวล
คนที่ไม่รู้มาเห็นเข้าคงคิดว่าอวี๋กานกานบังคับหญิงสาวแสนซนอยู่ อวี๋กานกานจึงทำได้แต่ถอดใจ
เมื่อเลือกชุดเรียบร้อยก็ใกล้เวลางานแล้ว อวี๋กานกานบอกลาเจียงฉี่แล้วให้คนขับรถไปส่งเธอที่งานเลี้ยง
เธอไม่ค่อยคุ้นทางในปักกิ่ง ดังนั้นดูที่อยู่ตามบัตรเชิญว่าเขียนหมายเลขถนนอะไร เธอไม่รู้จริงๆ ว่าอยู่ที่ไหน
ตอนนี้ลงจากรถแล้วถึงกับประหลาดใจ พื้นที่นอกเขตพระราชวังต้องห้าม[1]แห่งนี้ไม่ใช่ว่ามีเงินเพียงอย่างเดียวถึงจะอยู่ได้ อาณาเขตดังกล่าวถือเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ
อวี๋กานกานตะลึงค้าง
คุณตาท่านนั้นอาศัยอยู่ที่นี่ หรือว่าจะเป็นชนชั้นผู้นำ…ตอนที่เจอกันครั้งแรกคิดว่าเป็นทหารผ่านศึกที่เกษียณราชการแล้ว พอคิดดูเขาน่าจะเกิดมาในครอบครัวทหาร
มาขนาดนี้แล้ว หากอาศัยอยู่ที่นี่ก็ไม่แปลก
คนขับรถลงจากรถ เขาหยิบกล่องของขวัญที่เธอทิ้งไว้บนรถและส่งให้ด้วยท่าทางสุภาพ คุณอวี๋คุณลืมของขวัญของคุณครับ
ขอบคุณค่ะ
อวี๋กานกานยิ้มแล้วรีบรับเอาไว้
ในมือข้างหนึ่งถือภาพวาดโบราณไว้อีกข้างหนึ่งต้องการหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาฟังจือหัน และถามว่าเขาจะเข้าไปด้วยไหม
ขณะนั้นเองก็มีทหารชั้นผู้น้อยสวมชุดเครื่องแบบทหาร เดินหลังตรงสง่าผ่าเผยเข้ามา เรียนถาม ใช่คุณอวี๋กานกานหรือเปล่าครับ
อวี๋กานกานรีบพยักหน้าให้ ใช่ค่ะ
สวัสดีครับ เชิญด้านในเลยครับ นายทหารผายมือเชิญเข้าไป
ไหนๆ ก็มาแล้ว มาถึงหน้าประตูแล้วจะถอยยังไงก็ไม่ได้ อวี๋กานกานไม่ได้โทรหาฟังจือหันอีก เธอยิ้มน้อยๆแล้วเดินตามนายทหารที่เดินนำตบเท้าเข้าไปข้างใน
บ้านทรงสี่เหลี่ยมประดับไปสว่างไสว แตกต่างจากความเงียบและความเคร่งขรึมในอดีต วันนี้มีชีวิตชีวาเป็นพิเศษเพราะเป็นวันเกิดปีที่เจ็ดสิบของคุณท่านฟาง
เรื่องราวของคุณท่านฟางท่านนี้ราวกับเทพนิยาย เป็นทหารที่ทำคุณประโยชน์ให้กองทัพมานับไม่ถ้วนและเป็นมาตั้งแต่ทหารชั้นผู้น้อยไปจนถึงท่านแม่ทัพและรองผู้บัญชาการ เมื่อเขาขึ้นสู่จุดนั้นก็เปรียบเสมือนเข็มเทพใต้ทะเลซึ่งอิทธิพลย่อมไม่ธรรมดา
ทั้งชีวิตของเขาอุทิศให้กองทัพ ลูกสาวของเขาก็เป็นทหารเช่นกันเป็นวีรสตรีที่เสียสละชีวิตจึงเหลือแต่หลานชายเพียงคนเดียว
เขาคือชายชราผู้เป็นตำนานและก็เป็นชายชราผู้โดดเดี่ยว
เขาทั้งหดหู่และลึกลับ
แต่ไม่ว่าคนข้างบนจะเปลี่ยนไปอย่างไรตำแหน่งและอิทธิพลของเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ผู้ที่เข้าร่วมงานวันเกิดคุณท่านฟาง นอกจากญาติคนสนิทของคุณท่านฟางเองแล้วยังมีพวกที่มีเงินและอำนาจอีกด้วย
เมื่ออวี๋กานกานมาถึง คนก็มางานเลี้ยงกันเยอะแล้ว ต่างก็จับกลุ่มสนทนากันอย่างครึกครื้น
คนหนุ่มสาวยืน ส่วนผู้ใหญ่นั่งโซฟา ต่างคนต่างพกแสงส่องสว่างมาด้วยเวลายิ้มช่างเจิดจ้าเป็นประกาย
อวี๋กานกานกวาดตามองก็เห็นใบหน้าคุ้นๆ ของคนมากมายจนตกใจแทบสะดุดล้ม
เพราะว่าใบหน้าคนที่คุ้นตานั้นเธอไม่เคยเจอหรือว่ารู้จัก แต่เคยเห็นตามข่าวหรือในทีวี
บุคคลเหล่านี้ต่างมีชื่อเสียง หากทะเล่อทะล่าเหยียบเท้าใครเข้าคงทำให้คนรอบข้างต้องตกใจ
อวี๋กานกานตะลึงงัน
ครู่หนึ่งสงสัยว่าตัวเองกำลังเดินไปผิดที่และดูเหมือนว่าหัวใจของถูกผลักชนและเต้นแรง
ชายชราคนนั้นที่ชวนเธอมาดื่มเหล้ามงคล ตกลงเป็นใครกันแน่
แม้จะแอบตกตะลึงในใจ แต่ใบหน้าอวี๋กานกานยังคงไว้ซึ่งรอยยิ้ม
——