จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 84-1

ตอนที่ 84-1

จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 84-1 ท่านมีชีวิตที่ไม่เป็นสุข ข้าก็สบายใจแล้ว
“วางใจเถอะ ข้าไม่เป็นไรหรอก!ใช้วิธีนี้มาบีบบังคับข้า พวกเขาต่างหากที่จะเป็นฝ่ายต้องทุกข์ทรมาน!”

ในขณะที่เชียนเยี่ยเสวี่ยกล่าวออกมานั้น สายตานางคมกริบ

หลายปีที่ผ่านมานี้ นางสู้อุตส่าห์แสร้งทำตัวเป็นอ๋องเจ้าสำราญมานาน นึกไม่ถึงว่าหลิวกุ้ยเฟยยังไม่คิดที่จะปล่อยนาง

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ มาสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่งจะดีกว่า!

“เสวี่ย…”

เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความแค้นเคืองของเชียนเยี่ยเสวี่ย ในใจอวี้เฟยเยียนก็เริ่มทานทนไม่ไหว

ความสัมพันธ์ของพ่อลูกต้องกลายเป็นเช่นนี้ นั้นมันเป็นเรื่องที่ย่ำแย่เป็นอย่างมาก

ท่านพ่อและท่านแม่ของอวี้เฟยเยียนเป็นนักวิจัยและพัฒนา พวกเขามอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับประเทศชาติ ดังนั้นนางและพี่ชายจึงเติบโตมากับผู้เป็นปู่

แต่ว่า ในขณะที่ท่านพ่อท่านแม่ของนางยุ่งอยู่กับภารกิจหน้าที่ ไม่บ่อยนักที่กลับมาบ้านสักครั้ง แต่ท่านทั้งสองก็ดีกับอวี้เฟยเยียนและพี่ชายเป็นอย่างมาก พวกท่านทั้งรักทั้งเอาใจนางและพี่ชายทุกอย่าง เห็นนางและพี่ชายเป็นราวแก้วตาดวงใจก็มิปาน

เดิมทีอวี้เฟยเยียนคิดว่า ในโลกนี้ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ไม่รักลูกของตัวเอง แต่เมื่อมายังดินแดนแห่งนี้ ได้พบกับซย่าโหวฉิงเทียนและเชียนเยี่ยเสวี่ย สิ่งที่นางคิดมาโดยตลอดพลันสูญสลายไปหมดสิ้น

“เสวี่ย หากเจ้าต้องการข้า ขอให้เอ่ยออกมาอย่าได้เกรงใจเป็นอันขาด! หรือไม่ก่อนที่เจ้าจะไป เจ้าจะต้องเลื่อนขั้นให้ได้ก่อน!”

อวี้เฟยเยียนลากเชียนเยี่ยเสวี่ยมาอีกด้าน แล้วยัดกล่องกำมะหยี่ใบเล็กใส่มือนาง

“เจ้าบรรลุถึงจุดสูงสุดของขั้นราชันแล้ว นี่เป็นยาที่ข้าคิดขึ้นโดยอาศัยโครงสร้างร่างกายของเจ้า มันจะช่วยเจ้าให้สำเร็จขั้นได้ในเร็ววัน ในเมื่อเจ้ามิให้ข้าไปแคว้นฉินจื้อกับเจ้าด้วย เช่นนั้นข้อเรียกร้องเล็กน้อยนี้ เจ้าต้องรับปากข้า!”

เชียนเย่เสวี่ยจับกล่องกำมะหยี่เล็กนั้นไว้แน่น น้ำตารื้น

ตั้งแต่รู้จักกันมา อวี้เฟยเยียนช่วยเหลือนางหลายต่อหลายครั้ง

ช่วยขจัดพิษในร่างนาง เป็นเพื่อนฝึกวิชา สำเร็จขั้นพร้อมกับนาง มาวันนี้ยังคิดค้นยาเพื่อนางอีก จนเชียนเยี่ยเสวี่ยมิรู้จริงๆ ว่าจะขอบคุณอวี้เฟยเยียนอย่างไรดี

“บุญคุณใหญ่หลวงมิอาจตอบแทน! ขอเป็นพี่น้องกัน ชั่วชีวิต!”

เชียนเยี่ยเสวี่ยกำมือขวากุมทับด้วยมือซ้ายแนบอกเป็นเชิงทำความเคารพ และแสดงออกว่านางจะจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่อวี้เฟยเยียนทำให้กับนางเอาไว้ชั่วชีวิต

“พูดมากทำไมกันเล่า! รีบไปฝึกวิชาได้แล้ว! ไม่เช่นนั้นข้าจะตามไปกับเจ้าด้วยจริงๆ แล้วนะ!”

“รู้แล้วน่า พูดมากจัง! “

เชียนเยี่ยเสวี่ยเสหันไปอีกด้านปาดน้ำตาเบาๆ แล้วหันกลับมาด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

“เสด็จแม่ข้าให้กำเนิดข้ามาผิดเพศแล้ว! ควรจะให้ข้าเป็นชายสิ เช่นนั้นข้าจะติดตามเจ้าไปตลอดชีวิต ต่อให้ต้องใช้ยาเสน่ห์อะไรเพื่อให้เจ้ามาเป็นสตรีข้า ข้าจะขอติดตามเจ้าชั่วชีวิต!”

“ไสหัวไป”

เมื่อเห็นว่าเชียนเยี่ยเสวี่ยเริ่มพูดติดตลกขึ้นมา อวี้เฟยเยียนก็รู้ได้ทันทีว่านางกลับเป็นคนเดิมแล้ว ทำให้อวี้เฟยเยียนวางใจ

เชียนเยี่ยเสวี่ยหยิบกล่องกำมะหยี่ใบเล็กแล้วไปเตรียมตัวออกเดินทาง ที่หน้าประตูนางได้พบกับซย่าโหวฉิงเทียนเข้า

“หลินเจียงอ๋อง ข้าขอเวลาท่านสักครู่ได้หรือไม่ ข้าอยากที่จะทำการค้ากับท่านสักอย่างหนึ่ง!”

นับตั้งแต่ที่รู้ว่าเชียนเยี่ยเสวี่ยเป็นหญิงแล้ว อารมณ์หึงหวงที่มีของซย่าโหวฉิงเทียนมีต่อนางก็มลายหายไปสิ้น

สหายที่ดีของอวี้เฟยเยียน ก็คือสหายที่ดีของเขา หากว่าเชียนเยี่ยเสวี่ยต้องการความช่วยเหลือละก็ เห็นแก่หน้าของแมวน้อย เขาก็จะออกหน้าช่วยเหลือ

“ได้สิ!”

ซย่าโหวฉิงเทียนพยักหน้า แล้วเดินตามหลังเชียนเยี่ยเสวี่ยไป

พวกเขาคิดจะทำอะไรกันนะ

อวี้เฟยเยียนฉงนสงสัยยิ่งนัก แต่ สิ่งที่นางอยากรู้ยิ่งกว่าคือเชียนเยี่ยเสวี่ยและมู่เหนี่ยนซีตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างมากกว่า

ช่วงเช้าก็ผ่านพ้นไปแล้ว คนทั้งสองก็ยังไม่ปรากฏตัว

หรือว่าหลังจากที่ได้สัมผัสกันและกันแล้ว รู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร ดังนั้นจึงยิ่งกินไม่รู้อิ่ม

ท่านลุงสาม ท่านจะต้องเบามือสักหน่อยนะ

หญิงสาวจะต้องทะนุถนอมให้มาก…

แต่ก็อดพูดมิได้ว่า สิ่งที่อวี้เฟยเยียนเป็นห่วงมันถูกต้องแน่แท้

ภายในห้อง มู่เหนี่ยนซีที่ตื่นขึ้นมากำลังปวดหัวอย่างหนัก หัวสมองนางหนักอึ้ง ปวดร้าวไปทั้งร่างราวกับเพิ่งถูกรถม้าเบียดทับร่างกายก็ไม่ปาน ขยับตัวแทบไม่ได้

เมื่อนางเหมือนจะจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานขึ้นมาได้ ก็เอาหัวมุดลงใต้ผ้าห่มในทันที โดยไม่ยอมโผล่ศีรษะออกมา ยิ่งมิอยากจะเหลือบมองชายข้างกายแม้แต่หางตา

เป็นของกันและกันครั้งแรก ทำเอาอวี้เชียนเสวี่ยที่เพิ่งดื่มด่ำกับอาหารชั้นเลิศเมื่อคืนนี้จิตใจหวั่นวิตก

หากว่ามู่เหนี่ยนซีเสียใจภายหลังขึ้นมา เขาควรจะทำอย่างไรดี

“เหนี่ยนซี เหนี่ยนซี อย่าอุดอู้อยู่ในนั้นอีกเลย…”

“ข้าชอบเช่นนี้!”

เสียงมู่เหนี่ยนซีอู้อี้ต่ออีกว่า

“ท่านอย่าสนใจข้าเลย!”

คราวนี้ทำให้อวี้เชียนเสวี่ยยิ่งว้าวุ่นใจมากยิ่งขึ้น เดิมทีเขาก็จำศีลเก็บเนื้อเก็บตัวมาตั้งสามสิบกว่าปี เมื่อคืนจึงเป็นการเปิดงานครั้งแรก จึงทำให้สะเพร่าละเลยความถูกต้องทำลงไป

ถึงแม้ว่าในครั้งแรกนี้จะมิใช่การยินยอมพร้อมใจสักเท่าไหร่ แต่หลังจากที่สั่งสมประสบการณ์จากงานจริง รวมกับความสามารถเดิม ในตอนหลังมันจึงเป็นไปตามธรรมชาติ ราบรื่น เมื่อศึกรักลั่นกลองรบแล้ว เราทั้งสองก็ร่วมกันกรำศึกจวบจนฟ้าสาง

ใครจะคาดคิดว่า มู่เหนี่ยนซีตื่นมา จะกลับกลายเป็นท่าทีเช่นนี้

อวี้เชียนเสวี่ยดูไม่ออกจริงๆ ว่านางคิดอย่างไรกันแน่

“เหนี่ยนซี ข้าผิดเอง ข้ามิควรจะฉวยโอกาสตอนที่เจ้าเมามายแล้ว…”

นอกจากรักแรกที่เป็นคู่หมั้นคู่หมายกันแล้ว อวี้เชียนเสวี่ยก็มิเคยมีประสบการณ์ความรักกับหญิงใดมาก่อน เรื่องการปลอบประโลมมู่เหนี่ยนซี ทำเอาอวี้เชียนเสวี่ยคิดจนสมองแทบจะระเบิด

ฉับพลันเขารู้สึกได้ว่า มันยากเสียยิ่งกว่ากรำศึกในสนามรบสังหารศัตรูเสียอีก!

เมื่อได้ยินดังนั้น มู่เหนี่ยนซีก็เงยหน้าขึ้น จ้องมองไปที่อวี้เชียนเสวี่ย ตาทั้งสองนางแดงก่ำ

“ทำไม ท่านหมายความว่าอย่างไร! ท่านเสียใจหรือ กินเสร็จแล้วก็ไม่ยอมรับสินะ”

ถูกกล่าวหาโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่เข้า อวี้เชียนเสวี่ยจึงรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน

“ไม่ใช่นะ! ข้าเพียงแต่เห็นว่าเจ้าเงียบลงไปไม่พูดจา จึงคิดว่าเจ้าเสียใจภายหลังแล้ว”

อวี้เชียนเสวี่ยก้มศีรษะลงต่ำ ราวกับเด็กน้อยที่กำลังทำผิดอย่างไรอย่างนั้น

มู่เหนี่ยนซีเห็นเช่นนั้น ก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้

“คนเขาก็แค่เขินอายอย่างไรเล่า ท่านเข้าใจหรือยัง จริงๆ เลย! นี่ข้ายังถูกเข้าใจผิดอีกหรือเนี่ย!”

ขณะที่กล่าว แก้มของมู่เหนี่ยนซีแดงก่ำ ดวงตาฉายแววแห่งความสุขที่เปี่ยมล้น ยิ่งคล้ายกับลูกองุ่นแสนสวยก็ไม่ปาน อวี้เชียนเสวี่ยเห็นแล้วก็ใจอ่อนยวบ

“เหนี่ยนซี พวกเราแต่งงานกันนะ!”

ถูกอวี้เชียนเสวี่ยขอแต่งงานด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจังเช่นนี้ มู่เหนี่ยนซียิ่งรีบมุดหัวลงในผ้าห่มอีกครั้ง

“แต่งงานน่ะได้ แต่ว่า ตอนนี้ข้าจะออกไปอย่างไรกัน ทุกคนคงจะรู้เรื่องหมดแล้ว!ข้าไม่มีหน้าไปพบใครอีกแล้ว แม้แต่เสี่ยวอวี้ก็คงหัวเราะข้า!”

“เช่นนั้น พวกเราไม่ต้องไปพบหน้าใคร พวกเรามาทำกันต่อ”

“บ้า…”

ได้ฟังอวี้เชียนเสวี่ยกล่าวคำพูดที่น่าละอายออกมา มู่เหนี่ยนซีทั้งอายทั้งกังวลใจ

“ตอนนี้ร่างข้าปวดร้าวไปทั้งร่าง ท่านยังจะทำอะไรอีก ไม่รู้ว่าเจ้าผีบ้าที่หิวโหยตนไหนถูกปล่อยออกมากันแน่ ไม่เคยแตะต้องหญิงสาวหรืออย่างไรกัน”

มู่เหนี่ยนซีพูดเข้าถูกจุดพอดิบพอดี อวี้เชียนเสวี่ยได้ฟังก็รีบพยักหน้าหงึกหงักด้วยท่าทีจริงจัง

“นี่เป็นครั้งแรก! รุนแรงไปบ้าง ข้ารับรองว่าต่อไปจะไม่เป็นเช่นนี้อีกแล้ว!”

นี่เป็นครั้งแรก

มู่เหนี่ยนซีได้ฟังเช่นนั้น ก็แอบชื่นใจ

“ท่านอย่ามาปลอบข้าเลย! คนอย่างท่านไม่ขาดสตรีอยู่แล้ว!”

“ข้าไม่ได้โกหกเจ้านะ! ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ…”

อวี้เชียนเสวี่ยแก้มแดงน้อยๆ

“ข้ายังกลัวว่าเจ้าจะหัวเราะเยาะข้า ว่าอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง ดังนั้น นี่มิใช่ข้าต้องรับผิดชอบเจ้า เจ้าต่างหากที่ต้องรับผิดชอบข้า!”

กล่าวถึงตรงนี้ อวี้เชียนเสวี่ยอารมณ์จริงจังน้ำเสียงขึงขัง

“เมื่อวานนี้เจ้าจัดแจงมัดข้าก่อน!”

มู่เหนี่ยนซีหวนนึกถึงเมื่อคืนวานที่ตนเองอาจหาญเป็นฝ่ายผลักอวี้เชียนเสวี่ยล้มลง ก็กระหยิ่มยิ้มย่องไม่น้อย

“นี่เขาเรียกว่าลงมือก่อนเป็นต่อ ใครให้ท่านกลายเป็นหนุ่มรูปงามกันเล่า!”

“ไม่ว่าข้าจะเปลี่ยนเป็นอย่างไร ในใจข้าก็มีแต่เจ้า!”

อวี้เชียนเสวี่ยงับที่ใบหูของมู่เหนี่ยนซีแล้วกระซิบแผ่วเบา

ลื่นเป็นปลาไหลเลยนะท่านแม่ทัพ ท่านกลายเป็นพวกช่างเจรจาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!

“เจ้าเข้ามาเปลี่ยนแปลงพี่”

คนทั้งสอง ใจและกายหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวแล้ว ก็ยิ่งใกล้ชิดห่วงใยกัน ส่วนด้านความรู้สึกก็ใกล้ชิด มั่นคงมากยิ่งขึ้น

จำนนรักชายาตัวร้าย

จำนนรักชายาตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะการทดลองถอดดวงจิตของดอกเตอร์คิว ทำให้วิญญาณ อวี้เฟยเยียน นักศึกษาอัจฉริยะมากพรสวรรค์ข้ามเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูโลลิต้า (?) แห่งจวนจงอี้โหว ซึ่งไม่เพียงร่างกายอ่อนแอจนฝึกวรยุทธ์ไม่ได้ แม้แต่สติปัญญายังถูกคนวางยาพิษทำลายจนอาจจะตายได้ภายในสามเดือน นับเป็นตัวไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง แต่แล้วเมื่อเธอบังเอิญได้พบกับท่านอ๋องผู้ไม่เคยหวั่นไหวกับสตรีใดอย่างซย่าโหวฉิงเทียน และช่วยชีวิตเขาไว้จากการลอบสังหาร ความเด็ดเดี่ยวของนางทำให้เขาสนใจอยากได้นางมาเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’ ของตน! แต่แล้วเมื่อรู้ว่านางคือว่าที่พระชายาองค์ชายสี่ เท่ากับมีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ของตน เช่นนั้นแล้วเขาจะทำเช่นไรกับ ‘แมวป่าน้อย’ ที่เขาสู้อุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมมาตัวนี้ดีเล่า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท