จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 106-2 ยิ่งคาดหวังมาก ก็ยิ่งผิดหวังมาก
“ประมุขหนานกง ข้าขอถามสักนิด หยกสถิตวิญญาณของบุตรสาวของท่านยังอยู่หรือไม่”
ตี้อู่เฉินกล่าวถามขึ้น
ในตอนนั้นเอง หนานกงเอ๋าและซย่าจื่ออวี้ถึงคิดถึงหนานกงจื่อหลิงขึ้นมา
“หลิงเอ๋อร์คงไม่จะมิได้พบกับเหตุการณ์ร้ายใช่หรือไม่!”
ซย่าจื่ออวี้เป็นกังวลขึ้นมา นางจึงไปที่หอบรรพชนของตระกูลหนานกงด้วยตัวเอง
เมื่อเห็นว่าหยกสถิตวิญญาณของหนานกงจื่อหลิงยังอยู่ดีไร้ซึ่งความเสียหายใดๆ ในใจของนางก็คลายกังวลได้ในที่สุด
“ไม่ถูกนี่นา!”
ตี้อู่เฉินขมวดคิ้ว
“หงเยี่ยและหนานกงจื่อหลิงอยู่ด้วยกัน เหตุใดบุตรีท่านถึงสบายดี แต่หงเยี่ยกลับต้องมีอันเป็นไป”
“ผู้เฒ่าเฉิน ท่านกล่าวเช่นนี้ก็ไม่ถูกนะ!”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเคลือบแคลงสงสัยในตัวบุตรสาว ซย่าจื่ออวี้ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
“ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่า ในตอนที่หงเยี่ยเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั้น นางตามหาหลิงเอ๋อร์เจอแล้วน่ะ”
ตี้อู่หงเยี่ยคือบุตรีท่านแท้ๆ ของตี้อู่เฉิน นางเกิดเรื่อง แน่นอนว่าตี้อู่เฉินย่อมต้องเสียใจ
ก่อนที่นางจะไปนั้น เคยบอกกล่าวเกี่ยวกับข้อแลกเปลี่ยนระหว่างนางกับหนานกงเอ๋าให้กับคนในตระกูลได้รู้ ว่านางจะช่วยสองสามีภรรยาแห่งตระกูลหนานกงตามหาเจ้าปีศาจน้อย เพื่อแลกกับการที่หนานกงเอ๋าจะได้สนับสนุนชาวตานฝ่ายขวา
เดิมทีนับเป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ทว่าผลลัพธ์กลับกลายเป็นเช่นนี้ ทำให้ตี้อู่เฉินอยากรู้จริงๆ ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
“หนานกงฮูหยิน ท่านเข้าใจความหมายของข้าผิดไปแล้ว!”
“เพียงแต่บุตรีท่านมีกลิ่นของผงหอมหมื่นลี้ติดกาย หงเยี่ยต้องตามหานางเจออย่างแน่นอน”
“หากตามที่พวกท่านพูดมา บุตรีท่านและหงเยี่ยออกไปในเวลาที่ต่างกันเพียงหนึ่งวันเท่านั้น ด้วยวรยุทธ์หงเยี่ย เวลาหนึ่งวันเพียงพอที่จะให้นางตามหาหนานกงจื่อหลิงจนเจอ แม้พวกนางจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็แน่ใจได้เลยว่าหงเยี่ยจะต้องตามหาบุตรีท่านจนเจอแล้วและสะกดรอยตามนางไปด้านหลังเป็นแน่”
“หากว่าหงเยี่ยและอู่เม่ยต่างก็ประสบเหตุร้ายละก็ เช่นนั้นสถานการณ์บุตรีท่านในตอนนี้ ก็จะต้องตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน!”
ได้ยินตี้อู่เฉินกล่าวเช่นนี้ หัวใจซย่าจื่ออวี้ก็บีบรัดอย่างหนัก
“ท่านพี่ หลิงเอ๋อร์มิได้กำลังตกอยู่ในอันตรายใช่หรือไม่เจ้าคะ”
“หลิงเอ๋อร์ไม่เคยจากบ้านไปไกลมาก่อน แล้วตอนนี้ก็ไม่มีข่าวคราวของนางเลย นางคงจะไม่…”
ซย่าจื่ออวี้นึกถึงบุตรสาวที่น่ารักไร้เดียงสา หากนางต้องพบกับคนชั่วช้ามักมากในกาม นางแทบไม่กล้าจะคิดเลย!
“ไม่หรอก! หลิงเอ๋อร์เฉลียวฉลาด จะต้องเอาตัวรอดได้อย่างปลอดภัย!”
เห็นสีหน้าซย่าจื่ออวี้ราวกับเตรียมจะร่ำไห้ หนานกงเอ๋าก็รีบลูบหลังปลอบโยนเพื่อให้นางสงบลง
“ผู้เฒ่าเฉิน หงเยี่ยเกิดเรื่องขึ้น ข้าต้องขออภัยด้วย! อย่างไรเสียนางก็ต้องตายเพราะช่วยงานของข้า ไม่รู้ว่าท่านคิดจะทำอย่างไรต่อไป แต่หากต้องการให้ข้าช่วยเหลืออะไรล่ะก็ เชิญสั่งการมาได้เลย!”
หนานกงเอ๋ากล่าวได้น่าฟัง ตี้อู่เฉินรีบจับไม้จับมือเขาทันที
“ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว คงมิบังอาจสั่งการ แต่ในครั้งนี้ ข้ามีเรื่องจะขอร้องให้ท่านช่วยจริงๆ !”
“หัวหน้าเผ่าเรามีคำสั่งให้ข้าไปที่แผ่นดินหลัวอวี่ ตามหาฆาตกรที่ฆ่าหงเยี่ย แล้วฆ่ามันเพื่อแก้แค้นให้กับหงเยี่ย”
“ถึงแม้ว่าหงเยี่ยจะแต่งเข้าตระกูลหนานกงแล้ว แต่นางก็ยังเป็นเผ่าตาน ไม่มีใครที่ฆ่าสายเลือดของชนเผ่าตานแล้ว ยังสามารถหลบหนีไปได้อย่างลอยนวลโดยที่ไม่ถูกลงโทษ!”
“เพียงแต่ ท่านก็รู้ดีว่าพวกเรานั้นเชี่ยวชาญเรื่องการปรุงยา แต่เรื่องวรยุทธ์กลับอ่อนด้อยยิ่งนัก ข้าจึงอยากหยิบยืมยอดฝีมือจากท่านสักคน เพื่อไปเป็นเพื่อนข้าเดินทางไปยังแผ่นดินหลัวอวี่!”
เผ่าตานขึ้นชื่อเรื่องรักพวกพ้อง เรื่องนี้หนานกงเอ๋ารู้ดี
เขายังรู้อีกว่า พวกเขามีกรรมวิธีในการตามล่าฆาตกรเป็นของตัวเอง
ถึงแม้ว่าตี้อู่เฉินจะกล่าววกไปวนมาไปสักนิดแต่ก็แสดงถึงความเกรงอกเกรงใจออกมา ดังนั้นธุระนี้ หนานกงเอ๋าจึงต้องช่วย
ข้อแรก หงเยี่ยต้องประสบเหตุร้ายก็เพราะเป็นธุระให้กับหนานกงเอ๋า ว่าตามหลักคุณธรรมแล้ว จะทำเป็นไม่สนใจมิได้
ข้อสอง ตี้อู่หงเยี่ยคือสะใภ้ตระกูลหนานกง จึงถือเป็นคนตระกูลหนานกง เขาจึงยิ่งมิอาจนิ่งดูดายได้
ข้อสาม อู่เม่ยที่ตายไป คือลูกน้องหนานกงเอ๋า ซึ่งเขารู้ดีถึงวรยุทธ์อู่เม่ย ดังนั้นจึงสงสัยใครรู้ยิ่งนักว่าใครกันแน่ที่ฆ่าอู่เม่ย
ส่วนข้อสี่ แน่นอนว่าเพื่อตามหาหนานกงจื่อหลิงกลับมา หากว่าสามารถจับตัวเจ้าปีศาจน้อยนั่นมาได้ด้วย ก็นับเป็นเรื่องที่ดีมากที่สุดเลย
ดังนั้น หนานกงเอ๋าจึงได้ตอบตกลงตี้อู่เฉินไป
เพียงแต่ว่าจะส่งใครไปกับตี้อู่เฉินนั้นนี่ต่างหากคือปัญหา
แผ่นดินหลัวอวี่ในสายตาของชาวอู๋โยวนั้นนับเป็นสถานที่ที่ชนชั้นต่ำอาศัยอยู่มาโดยตลอด
ลำดับขั้นที่สูงสุดของที่นั่นก็มีเพียงจอมเทวาเท่านั้น
ถึงแม้ว่าอู่เม่ยจะไม่ใช่ลูกน้องที่เก่งกาจที่สุดของหนานกงเอ๋า แต่เขาคือวีรชนอาวุโส ดังนั้นวรยุทธ์เขาจึงมิอาจมองข้ามได้
สามารถทำให้หยกสถิตวิญญาณอู่เม่ยแหลกเป็นผงได้ คนผู้นั้นเก่งกล้าสามารถมาจากไหนกันแน่
นี่คือสิ่งที่หนานกงเอ๋าอยากรู้มากที่สุด
หากคนผู้นั้นคือชาวอู๋โยวเช่นกัน เขาอยู่บนแผ่นดินหลัวอวี่มิต้องถูกจำกัดด้วยกฎแห่งฟ้าดินหรอกหรือ
หรือหากเขาคือชาวหลัวอวี่ บนแผ่นดินคนชั้นต่ำเช่นนั้นบังเกิด ‘หงส์ทองในหมู่คน’ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แล้วคนผู้นั้นกระทำทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านี้สำเร็จได้อย่างไร
คำถามมากมายประเดประดังเข้ามาในหัวสมองของหนานกงเอ๋า
หากคนผู้นี้เก่งกาจถึงเพียงนั้นจริง หนานกงเอ๋าจึงคิดว่าเรื่องที่จะแก้แค้นให้กับหงเยี่ยก็ควรที่จะพักเอาไว้ก่อน
หากเป็นไปได้ หนานกงเอ๋าอยากที่จะชักชวนคนผู้นี้มาเป็นพวกยิ่งนัก!
บัดนี้ก็ใกล้ถึงวันล้างไพ่จัดอันดับตระกูลทั้งแปดเข้ามาทุกที ทายาทตระกูลหนานกงกลับไร้ผู้ที่โดดเด่น เรื่องนี้ทำให้หนานกงเอ๋าหวาดหวั่นในใจยิ่งนัก
หากว่าสามารถดึงยอดฝีมือที่วรยุทธ์สูงส่งเช่นนี้มาเป็นพวกได้ละก็ ไม่แน่ว่าเขาจะสามารถช่วยเหลือตระกูลหนานกงได้…
ครุ่นคิดไตร่ตรองอยู่นาน ในที่สุดหนานกงเอ๋าก็ตัดสินใจส่งเฉินฉู่ออกไป
เฉินฉู่คือหนึ่งในลูกน้องที่ฝีมือดีที่สุดของหนานกงเอ๋า เขาอยู่ในขั้นจักรพรรดิอาวุโส
หนานกงเอ๋าคิดการณ์เอาไว้อย่างดี
หากคนผู้นั้นสามารถเอาชนะเฉินฉู่ได้ เขาจะต้องหาวิธีดึงเขามาเป็นพวกให้จงได้ หากยอดฝีมือคนนั้นมิใช่คู่ต่อสู้ของเฉินฉู่ละก็ ข่มขู่สักหน่อยเพื่อให้อีกฝ่ายยอมทำงานถวายชีวิตเพื่อตระกูลหนานกง ก็ไม่เลวเช่นกัน
การตัดสินใจของหนานกงเอ๋า ทำให้ตี้อู่เฉินพึงพอใจยิ่งนัก
จักรพรรดิอาวุโส!
เห็นอย่างชัดเจนว่าหนานกงเอ๋าให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
หนานกงเอ๋าสั่งการเฉินฉู่โดยละเอียดอีกครั้ง ซึ่งในตอนนั้นเอง สาวใช้คนหนึ่งก็เข้ามารายงานว่าอนุภรรยาของหนานกงเอ๋า จิ่นซิ่วเป็นลมล้มพับไป
หนานกงเอ๋าจึงรีบให้ตี้อู่เฉินจับชีพจรตรวจอาการให้กับนางทันที
ผลตรวจนั้นเหนือความคาดหมายของทุกคนยิ่งนัก เพราะจิ่นซิ่วกำลังตั้งครรภ์
“ยินดีกับประมุขหนานกงด้วย!”
ตี้อู่เฉินจ่ายยาบำรุงครรภ์ให้ขนาดหนึ่ง ทั้งยังมอบยาอีกขวดให้เอาไว้
“เด็กในครรภ์เป็นชาย แข็งแรงดี ตอนนี้อายุครรภ์สามเดือนแล้ว!”
“สามเดือนแล้ว!”
ได้ยินเช่นนั้น ซย่าจื่ออวี้ก็หน้าซีดเผือด
นังชั้นต่ำ!
ตั้งครรภ์ตั้งสามเดือนกว่ากลับปิดบังมิยอมปริปากบอก ทุกคนพลอยคิดว่านางที่เป็นแม่ใหญ่ของบ้านที่ร้ายกาจเพียงไหนกันจึงทำให้เมียรองหวาดกลัวถึงเพียงนี้
นางมีลูก ทั้งยังเป็นผู้ชาย ข่าวนี้ทำให้หนานกงเอ๋าทั้งดีใจและเป็นกังวล
ลูกสาวคนลูกชายอย่างละคนของเขาในตอนนี้ล้วนเกิดกับซย่าจื่ออวี้ทั้งสิ้น และข้างกายเขาก็มีอนุภรรยาเพียงสองคน ในเวลาปกติหนานกงเอ๋าก็จะอยู่กับซย่าจื่ออวี้ มีเพียงแค่ในตอนที่นางไม่สะดวกเท่านั้น เขาถึงได้ไปที่เรือนอนุภรรยา
ปีก่อน อนุภรรยาอีกคนของเขาตั้งครรภ์ แต่นางผู้นั้นกลับไร้วาสนา ตั้งครรภ์ย่างเข้าเดือนที่เจ็ดจู่ๆ ก็คลอดก่อนกำหนด สุดท้ายก็ตายไป หนึ่งศพสองชีวิต
จิ่นซิ่วคืออนุภรรยาที่เพิ่งมาในปีนี้ เพิ่งจะเข้าจวนมาก็ตั้งครรภ์ แน่นอนว่าหนานกงเอ๋าย่อมดีใจเป็นอย่างมาก
ทว่า สิ่งที่ทำให้หนานกงเอ๋าดีใจยิ่งกว่าอยู่หลังจากนี้ต่างหาก
อนุภรรยาอีกคนที่มาเยี่ยมจิ่นซิ่วจู่ๆ ก็หน้าซีดขาว ทั้งยังอาเจียนไม่หยุด
ตี้อู่เฉินตรวจอาการแล้วก็แจ้งว่านางตั้งครรภ์สองเดือนกว่า และเป็นเด็กผู้ชายเช่นกัน
จู่ๆ ก็มีลูกเพิ่มขึ้นมาสองคนพร้อมๆ กัน ทั้งยังเป็นลูกชายทั้งคู่อีกด้วย นี่เองทำให้หนานกงเอ๋าดีใจจนแทบบ้า
ตรงกันข้ามกลับเป็นซย่าจื่ออวี้ที่ในใจกำลังขยะแขยงราวกับกับกินแมลงวันเข้าไปทั้งฝูงก็ไม่ปาน
เมื่อครั้งที่ซย่าจื่ออวี้ให้กำเนิดหนานกงจื่อหลิงนั้นร่างกายบอบช้ำ จึงมิอาจมีลูกได้อีกต่อไป
หนานกงจื่อหลิงเป็นหญิง หนานกงเช่อก็ป่วยกระเสาะกระแสะ ถึงแม้ว่าหนานกงเอ๋าจะไม่เคยพูดอะไรทั้งยังดีกับนางเช่นเดิมมาตลอด แต่ซย่าจื่ออวี้รู้ดีว่าในใจของสามีรู้สึกเสียดายยิ่งนัก
เพราะอย่างไรเสีย ผู้สืบทอดของตระกูลยังต้องพึ่งพาลูกลูกหลานที่เก่งกาจ
ถึงแม้ว่าความสามารถหนานกงเช่อจะไม่เลวนัก แต่ร่างกายเขาเช่นนี้ก็ทำให้ทุกคนอดเป็นห่วงไม่ได้
มีครั้งหนึ่งหนานกงเอ๋าเคยทอดถอนใจแล้วเอ่ยปากว่า หากหนานกงเช่อมีน้องชายก็คงดีจะได้คอยช่วยเหลือเขา เขาก็จะได้ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยถึงเพียงนี้
ในตอนนั้นซย่าจื่ออวี้มิได้เก็บเอามาใส่ใจ
ในตอนนี้ดูแล้ว แม้ที่จริงแล้วสามีคาดหวังมาตลอดว่าจะมีใครให้กำเนิดลูกชายให้เขาสักคน!
เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าสามีแล้ว ปากซย่าจื่ออวี้ก็กำชับในเมียรองทั้งสองคนบำรุงรักษาครรภ์ให้ดี ต้องการสิ่งใดก็ให้บอกนางโดยตรงได้เลย ทว่าในใจนางกำลังหลั่งเลือด
หากว่าหนานกงเช่อมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจะดีสักเพียงใดกัน!
ยิ่งคิดเช่นนี้ ในใจซย่าจื่ออวี้ก็ยิ่งต้องการตามหาเจ้าปีศาจน้อยให้พบ
มีเพียงแต่ควักหัวใจเจ้าปีศาจน้อยเปลี่ยนให้กับหนานกงเช่อ หนานกงเช่อจึงจะกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงอีกครั้ง และก็คงมิต้องการน้องชายส่วนเกินสองคนนี้อีกต่อไป!