จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 110-2

ตอนที่ 110-2

จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 110-2 เมืองหลวงเกิดเรื่อง
“เช่นนี้ อีกไม่นานเราสองคนก็สามารถฝึกร่วมได้แล้วนะสิ!”

ในขณะนั้นอวี้เฟยเยียนเชิดใบหน้าขึ้น รอคอยคำชมเชยจากเขา! ใครจะคาดคิดว่าที่ได้มาคือประโยคนี้!

ทันใดนั้นนางก็ผลักซย่าโหวฉิงเทียนออก ใบหน้าแดงซ่านรีบลงจากเตียงทันที

“ใครจะฝึกร่วมกับท่านกัน! คนลามก…”

อวี้เฟยเยียนบ่นกระปอดกระแปด แล้วเดินไปยังโต๊ะที่อยู่ทว่าเมื่อเห็นสิ่งที่เขากำลังอ่านอยู่เมื่อครู่

นี่มัน…‘ชุนกงถู’ !

ที่ซย่าโหวฉิงเทียนตั้งหน้าตั้งตาอ่านศึกษาอย่างตั้งใจ ที่แท้แล้วคือเจ้าสิ่งนี้นั่นหรอกหรือนี่

วินาทีนั้นอวี้เฟยเยียนถึงสมองมึนงงไปชั่วขณะ นี่จะรักและกระเ**้ยนกระหือรือที่จะเรียนรู้มากเกินไปหน่อยแล้วกระมัง มิน่าแค่เอ่ยปากมาก็ฝึกร่วมทันที!

“ท่านไปเอาเจ้านี่มาจากไหนกัน”

อวี้เฟยเยียนชี้มือไปที่ ‘ชุนกงถู’ เพิ่งเอ่ยคำนั้นออกไป นางก็แทบอยากที่จะกัดลิ้นตัวเองนัก

นางลืมไปได้อย่างไรว่า ซย่าโหวฉิงเทียนมีบิดาที่แสนตลกขบขันเช่นฝ่าบาทนี่นา เรื่องที่ไม่มีสาระอย่างนี้ จะต้องเป็นฝีมือของซย่าโหวจวินอวี่เป็นแน่

“เสด็จพี่มอบให้มา แล้วพี่ก็คิดว่าภาพนี้งดงามที่สุด เลยนำมันมามอบให้เจ้า…”

“ข้าไม่ต้องการ!”

อวี้เฟยเยียนไม่แม้แต่จะหยุดคิด นางก็เอ่ยปฏิเสธออกไปทันที

จะชั่วดีอย่างไรนางก็เป็นหญิงสาวจากโลกอนาคต ทั้งยังเป็นหมออีกด้วย ดังนั้นเรือนร่างสรีระของมนุษย์นางย่อมคุ้นเคยเป็นอย่างดีอยู่แล้ว อีกทั้งพวกสื่อการเรียนการสอนชั้นดีของญี่ปุ่นเหล่านั้น ก็เคยดูมาบ้าง จึงไม่จำเป็นต้องพึ่งพา ‘ชุนกงถู’ มาชี้แนะนำพาเลยสักนิด

“ของขวัญที่มอบให้ไปแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะรับกลับคืน”

ซย่าโหวฉิงเทียนไม่สนใจว่าอวี้เฟยเยียนจะรับหรือไม่ เขาจัดแจงหยิบภาพนั้นขึ้นมาแล้วยัดใส่มือของอวี้เฟยเยียนทันที

คนทั้งสองผักดันกันไปมา จนภาพวาดเหล่านั้นหล่นไปบนพื้น กลิ้งหลุนๆ จนคล้ายออกในที่สุด ภาพทั้งชุดกางแผ่หลาอยู่บนพื้น

โอว้!

เพียงแค่เหลือบสายตามองไป อวี้เฟยเยียนก็พบเข้ากับท่าทางที่มีความยากสูงเข้าทันที

พันเกี่ยวเลี้ยวรัดกันจนจะเป็นหมาฮวา[1]อยู่แล้ว เช่นนี้ก็ได้ด้วยหรือ!

มองดูอยู่นานจนอวี้เฟยเยียนอดมิได้ที่จะต้องนับถือว่า ภาพอย่างว่าอย่างชุนกงถูในสมัยโบราณช่างมีความหมายลึกซึ้งกว้างใหญ่ไพศาลชะมัด หนังผู้ใหญ่ของญี่ปุ่นถือว่าเด็กไปเลย เนื้อหาด้านในของชุนกงถูลึกล้ำชนิดที่ว่านางนึกไม่ถึงทีเดียว!

“แมวน้อย…”

เห็นอวี้เฟยเยียนจ้องมองชุนกงถูตาไม่กะพริบ ซย่าโหวฉิงเทียนก็โอบกอดนางเอาไว้ แล้วชี้ไปที่หนึ่งในท่วงท่าเหล่านั้น

“พี่อยากจะทดลองท่านี้กับเจ้า!”

“ท่านี้นะหรือ”

อวี้เฟยเยียนจ้องมองชุนกงถูอย่างตั้งใจมากเกินไป จึงมิทันได้ระวังน้ำเสียงของตนเอง

แล้วก็เป็นจริงเช่นนั้น ได้ยินน้ำเสียงของนางที่เปล่งออกมาราวกับไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนัก ซย่าโหวฉิงเทียนจึงยิ้มออกมาเอ่ยว่า

“จริงๆ แล้ว พี่อยากจะทดลองกับเจ้าทุกท่าเลย! แต่อยากจะลองท่านี้ที่สุด!”

มองตามนิ้วที่ชี้ไปของซย่าโหวฉิงเทียน อวี้เฟยเยียนก็พบว่าด้านข้างของภาพเขียนอักษรเอาไว้ว่า ‘กวนอิมนั่งดอกบัว’

วินาทีนั้นทำเอาหัวสมองของอวี้เฟยเยียนแทบจะระเบิดออกมา มันอื้ออึงมึนงงไปหมด

พี่ชายท่านนี้ ท่านอาศัยใบหน้าที่หล่อเหลาไรที่ติมาถกเรื่องท่วงท่าในการร่วมหอกับข้าด้วยท่าทางเป็นการเป็นงาน แบบนี้ก็ได้หรือ

อีกอย่างในฐานะชายบริสุทธิ์วัยกลางคน เมื่อได้เห็นภาพกระตุ้นอารมณ์ทุกสัดส่วนเช่นนี้ ท่านก็ควรที่จะเกิดอารมณ์ความต้องการอย่างท่วมท้นมิใช่หรือ

แล้วเหตุใดท่านถึงได้เอ่ยด้วยท่าทีสบายๆ เรียบเฉยเช่นนี้ ราวกับกำลังกล่าวถามข้าว่าวันนี้จะกินอะไรอย่างไรอย่างนั้น

ในเวลาแบบนี้ท่านมิควรจะกลายร่างเป็นจิ้งจอก โผล่เข้าหาข้าแล้วผลักให้ล้มลงหรอกหรือ

ฉิงเทียน ท่านกำลังเหย้าข้าอยู่นะ

อวี้เฟยเยียนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน

มองดูใบหน้าน้อยๆ ของอวี้เฟยเยียนที่ราวกับกำลังคั่งแค้นโกรธเคืองเช่นนั้น ซย่าโหวฉิงเทียนก็รีบขยับเข้าไปใกล้ แล้วงับที่จมูกของนางแผ่วเบา

“เจ้าสำเร็จถึงขั้นปรมาจารย์ช่วงปลาย ห่างจากขั้นวีรชนอาวุโสไม่มากแล้ว พี่จะอดทนเอาไว้!”

“อย่ากัดจมูกของข้า!”

อวี้เฟยเยียนเอื้อมมือออกไปผลักซย่าโหวฉิงเทียนให้พ้นทาง

ซย่าโหวฉิงเทียนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันที่ตนเองหลงรักการกัดจมูกน้อยๆ ของอวี้เฟยเยียนเข้าให้แล้ว ทุกครั้งที่กัดใช้แรงเพียงน้อยนิด ทว่ากลับทำให้รู้สึกคันยุบยิบ น่ารำคาญเป็นที่สุด

“เด็กดี! อย่าขยับนะ!”

ถูกอวี้เฟยเยียนผลักไสเช่นนี้ ทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนอารมณ์บูดเล็กน้อย น้ำเสียงเขาที่กล่าวออกมาทุ้มต่ำลง

ช่างสมกับเป็นชายบริสุทธิ์ที่ไม่เคยแตะต้องใกล้ชิดหญิงใดมาก่อนจริงๆ เลย

บัดนี้อวี้เฟยเยียนก็รู้สึกเฉกเช่นเดียวกันกับเขา ทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนเกิดความรู้สึกต้องการจะรุกเข้าหานางตั้งแต่แรก เพียงแต่ติดที่การสำเร็จขั้นเรื่องนี้เท่านั้น ดังนั้นจึงอดทนมาโดยตลอด

ในตอนที่อวี้เฟยเยียนยื้อยุดผลักไสเขาออกนั่นเอง มันเท่ากับเป็นการไปจุดไฟปรารถนาในใจเขาให้ลุกติดขึ้น ครานี้ทำให้เขาทรมานเหลือเกิน

มองเห็นจุดสีแดงสดที่หว่างคิ้วของอวี้เฟยเยียน ราวกับเมล็ดถั่วแดงที่กำลังเผาไหม้ก็ไม่ปาน ซึ่งอวี้เฟยเยียนเองก็เจตนาแกล้งเขา นางจงใจดิ้นขลุกขลักในอ้อมอกเขาสองสามครั้ง

จนกระทั่งรู้สึกว่าสัตว์ป่าในตัวเขากำลังที่จะปะทุออกมา อวี้เฟยเยียนก็หัวเราะแล้วเบี่ยงหลบหนีออกจาก กรงเล็บปีศาจ ของซย่าโหวฉิงเทียน

“เหอะ!”

ใครใช้ให้ท่านเชื่อคำของหลิวเซิ้งกันเล่า สมน้ำหน้า!

เขาเรียกว่ากรรมใดใครก่อผู้นั้นก็รับกรรมไป!

บัญชีนี้นางขอจดเอาไว้ก่อน ต่อไปค่อยไปคิดบัญชีกับหลิงเซิ่งทีหลัง

ซย่าโหวฉิงเทียนพยายามสะกดกลั้นอย่างหนัก จนใบหน้าเขาเป็นสีชมพูระเรื่อราวกับคนเมาสุราก็ไม่ปาน

เห็นเขาทรมานถึงเพียงนั้น อวี้เฟยเยียนก็เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“ให้ข้าช่วยท่านไหม”

คำพูดนี้เป็นดั่งน้ำมันที่ราดลงบนกองไฟอย่างไม่ต้องสงสัย

“ไม่ต้อง! พี่ไปอาบน้ำเสียหน่อย!”

ซย่าโหวฉิงเทียนลุกขึ้นยืนตรง อาวุธประจำกายในความเป็นชายเขาตั้งแข็งขึ้น

อวี้เฟยเยียนหากอาศัยการมองเห็นเพียงอย่างเดียว ก็รู้สึกว่าน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

เห็นทีว่า จะต้องการเข้าหอจะต้องล่าช้าสักหน่อยแล้ว!

นางคิดว่านางยังเด็กเกินไป ถึงแม้ว่าความสูงจะอยู่ในเกณฑ์หญิงปกติ แต่ส่วนสูงของอีกฝ่ายกลับเกินความคาดหมายของนางเป็นอย่างมาก

อวี้เฟยเยียนรู้สึกราวกับว่านางจะต้องตายอย่างไรอย่างนั้น เห็นทีว่าไม่ควรจะไปกระตุ้นซย่าโหวฉิงเทียนจะดีกว่า!

อีกอย่างซย่าโหวฉิงเทียนยิ่งเป็นพวกหัวทึบ ไม่รู้จักพลิกแพลงเสียด้วยสิ

ในตอนนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว น้ำในบ่อน้ำเย็นยะเยือกถึงกระดูก หนึ่งร้อนหนึ่งเย็น ตรงกันข้ามจะเป็นการไปกระตุ้นร่างกายจนเกินไป ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะส่งผลเสียต่อร่างกายเอาได้

แต่ว่า บางทีการที่นางกระทำเช่นนี้ อาจจะเปลี่ยนแปลงความคิดเขาได้ก็เป็นได้

อวี้เฟยเยียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ขยับเข้าไปใกล้ๆ ซย่าโหวฉิงเทียน กระซิบเบาๆ ที่ข้างหูเขาประโยคหนึ่ง

“แมวน้อย เจ้าว่าอะไรนะ”

ได้ฟังในสิ่งที่นางกล่าวออกมา สายตาที่ซย่าโหวฉิงเทียนมองอวี้เฟยเยียนก็แปรเปลี่ยนไปกลายเป็นเร่าร้อนและลึกซึ้ง

“โอ๊ย ท่านจะทำหรือไม่เล่า!”

อวี้เฟยเยียนออกอาการเขินอาย

เห็นอวี้เฟยเยียนก้มหน้าจนศีรษะแทบจะแตะถึงหน้าอกอยู่แล้ว ซย่าโหวฉิงเทียนก็รู้สึกต้องการขึ้นมา!

คำแนะนำของนางทำให้จิตใจเขาเตลิดเปิดเปิงไปไกล

มือเล็กคู่นั้นของนางที่อ่อนนุ่ม ในเวลาปกติที่กุมเอาไว้นั้นก็ให้ความรู้สึกสบายยิ่งนักอยู่แล้ว หากยิ่งเป็นในเวลาเช่นนี้จะยิ่งงดงามเพียงไหนกันนะ

——

[1] หมาฮวา(麻花) แป้งทำเป็นเกลียวๆ แล้วทอด คล้ายๆ ขนมกงของบ้านเรามีหลายรสชาติ

จำนนรักชายาตัวร้าย

จำนนรักชายาตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะการทดลองถอดดวงจิตของดอกเตอร์คิว ทำให้วิญญาณ อวี้เฟยเยียน นักศึกษาอัจฉริยะมากพรสวรรค์ข้ามเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูโลลิต้า (?) แห่งจวนจงอี้โหว ซึ่งไม่เพียงร่างกายอ่อนแอจนฝึกวรยุทธ์ไม่ได้ แม้แต่สติปัญญายังถูกคนวางยาพิษทำลายจนอาจจะตายได้ภายในสามเดือน นับเป็นตัวไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง แต่แล้วเมื่อเธอบังเอิญได้พบกับท่านอ๋องผู้ไม่เคยหวั่นไหวกับสตรีใดอย่างซย่าโหวฉิงเทียน และช่วยชีวิตเขาไว้จากการลอบสังหาร ความเด็ดเดี่ยวของนางทำให้เขาสนใจอยากได้นางมาเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’ ของตน! แต่แล้วเมื่อรู้ว่านางคือว่าที่พระชายาองค์ชายสี่ เท่ากับมีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ของตน เช่นนั้นแล้วเขาจะทำเช่นไรกับ ‘แมวป่าน้อย’ ที่เขาสู้อุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมมาตัวนี้ดีเล่า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท