จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 115-3

ตอนที่ 115-3

จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 115-3 ผู้อาวุโส ท่านยังอ่อนหัดนัก

“คุณหนูใหญ่ จะทำอย่างไรกันดีขอรับ!”

พ่อบ้านเซี่ยงร้อนใจยิ่งนัก

อวี้เฟยเยียนเงยหน้ามองฟ้า ในใจก็ยังครุ่นคิดถึงคำพูดที่ซย่าโหวฉิงเทียนกล่าวออกมาเมื่อครู่

บิดาบังเกิดเกล้าของนางคืออวี้เชียนหาน มารดาของนางก็คือตี้อู่เยียนเอ๋อร์

‘นางเป็นลูกของท่านลุงรองท่านป้ารอง’

“คุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่!”

เห็นอวี้เฟยเยียนเหม่อเลย พ่อบ้านเซี่ยงก็เดินไปด้านหน้า ยกมือขึ้นโบกไปมาที่เบื้องหน้าของนาง

“พ่อบ้านเซี่ยงท่านไม่ต้องกังวลใจ ข้าจะไปดูพวกเขาเอง!”

ในใจของอวี้เฟยเยียนเกิดคำถามขึ้นมากมาย ที่ต้องการจะถามอวี้จิงเหลยต่อหน้า

“ท่านอยู่รอข้าที่จวน ข้าจะไปตามท่านปู่!”

ที่ที่ซย่าโหวฉิงเทียนเลือกกว้างใหญ่ไพศาล ไร้ซึ่งผู้คน

รอจนกระทั่งอวี้จิงเหลยเท้าแตะถึงพื้น ซย่าโหวฉิงเทียนจึงทำมือคือคารวะในความหมายว่า ‘เชิญ’

“ท่านอาวุโสกว่าข้า ข้าจะรับท่านสามกระบวนท่า!”

ยิ่งซย่าโหวฉิงเทียนอวดดีมากเท่าไหร่ อวี้จิงเหลยก็ยิ่งโกรธเกรี้ยวมากขึ้นเท่านั้น

เจ้าหนุ่มนี่ ไม่เข้าใจการส่งสัญญาณผ่านสายตาหรืออย่างไรกัน

เหตุใดถึงได้พูดความจริงออกมาเช่นนั้น!

อวี้จิงเหลยหารู้ไม่ว่า ในฐานะที่เป็นสุนัขที่จงรักภักดีต่ออวี้เฟยเยียนอย่างที่สุด ซย่าโหวฉิงเทียนจึงไม่เคยมีเรื่องอันใดปิดบังต่ออวี้เฟยเยียนเลย ยิ่งมิต้องเอ่ยถึงว่าเขาจะหลอกลวงอวี้เฟยเยียนได้

แท้จริงแล้วเรื่องนี้เขาสงสัยมานาน เพียงแต่ไม่เคยได้รับการยอมรับจากปากอวี้จิงเหลย ซย่าโหวฉิงเทียนจึงเก็บเอาไว้ไม่ได้บอกกล่าวข้อสงสัยของตนให้อวี้เฟยเยียนได้รู้

มาตอนนี้อวี้จิงเหลยต้องการที่จะให้เขาเป็นผู้ร่วมขบวนการ ‘โกหก’ อวี้เฟยเยียนด้วย ซย่าโหวฉิงเทียนจึงไม่ยอมรับปาก!

“ได้! สามกระบวนท่าก็สามกระบวนท่า!”

อวี้จิงเหลยใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีออกหมัดไปที่หน้าอกของซย่าโหวฉิงเทียน ซึ่งซย่าโหวฉิงเทียนก็ไม่ได้หลบหลีก กลับยืนตัวตรงรับหมัดนั้นของเขาเต็มๆ

ปึ่ง…

อวี้จิงเหลยมั่นอกมั่นใจในพลังหมัดของตนเองหนักหนา

พลังหมัดขวาของเขาหนักหน่วงราวห้าร้อยกรัม ต่อยวัวป่าตายได้หนึ่งตัวทีเดียว ถึงแม้ว่าซย่าโหวฉิงเทียนจะเป็นถึงจอมเทวา แต่ก็เป็นเพียงเนื้อหุ้มเกราะเท่านั้น

ครั้งแรกซย่าโหวฉิงเทียนจะต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างแน่นอน

เมื่อเห็นว่าซย่าโหวฉิงเทียนนิ่งเงียบลงไปนาน อวี้จิงเหลยก็รู้สึกหัวใจกวัดแกว่งขึ้นมา

คงจะไม่ใช่ถูกต่อยจนสมองเสื่อมแล้วกระมัง!

หากเขาเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจริง หลานสาวของเขาจะต้องไม่ยินยอมเป็นแน่!

ในขณะที่อวี้จิงเหลยกำลังเป็นกังวลอยู่นั่นเอง ซย่าโหวฉิงเทียนก็ปัดฝุ่นที่เกาะอยู่บริเวณหน้าอกของตนออกไปราวกับไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น เขายักไหล่เบาๆ แล้วจึงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงราบเรียบสองคำว่า

“อ่อนหัด!”

“แคก…”

อวี้จิงเหลยได้ยินเช่นนั้นก็แทบกระอักเลือดออกมา

ดีนี่!

นึกว่าตนเองเป็นจอมเทวา ถึงได้ปากกล้าอวดดีถึงเพียงนี้สินะ!

“เจ้าหนุ่ม ปากแข็งไม่ถือว่าเป็นความสามารถหรอกนะ!”

กล่าวจบอวี้จิงเหลยก็ออกหมัดทั้งสองข้างไปที่ซย่าโหวฉิงเทียนอีกครั้ง

หมัดที่เต็มไปด้วยพละกำลังของเขาทว่าเมื่อไปสัมผัสกับถูกซย่าโหวฉิงเทียนก็นุ่มนิ่มราวกับปุยนุ่นก็ไม่ปาน สูญสิ้นพลังไปจนหมด

เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้

ในตอนนั้นเองอวี้จิงเหลยถึงได้ประเมินเจ้าหนุ่มตรงหน้าอย่างจริงจัง

เขามีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ด้วยใบหน้านั้นสามารถทำให้ผู้คนที่พบเห็นลืมเลือนลำดับของวรยุทธ์และฐานะของเขาไป

อวี้จิงเหลยดูแล้ว หากว่าซย่าโหวฉิงเทียนเป็นผู้หญิงละก็ เขาจะต้องเป็นนางมารที่นำความหายนะมาสู่ราชอาณาจักรเลยทีเดียว

“ผู้อาวุโส ท่านเหลืออีกเพียงกระบวนท่าเดียวแล้ว”

ซย่าโหวฉิงเทียนยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน เมื่อลมพัดมา เสื้อผ้าสีม่วงของเขาก็จะปลิวไสว ลวดลายดอกหยวนเหว่ยสะบัดแกว่งรับลม มองดูแล้วสวยงามราวกับภาพวาดที่งดงามเป็นที่สุด

เพียงแต่ว่า บุคคลในภาพวาดนี้เป็นชาย จึงน่ารำคาญยิ่งนัก!

อวี้จิงเหลยสีหน้าเข้มและเงียบขรึม

ในเมื่อเขาเอ่ยวาจาสามหาวว่าจะปกป้องอวี้เฟยเยียน ข้าก็จะดูสิว่าตกลงแล้วเจ้ามีความสามารถเพียงไหนกันแน่!

เมื่อสามกระบวนท่าผ่านไป ซย่าโหวฉิงเทียนหยักยิ้มบางๆ ที่มุมปาก

“ตอนนี้ ถึงคราวข้าบ้างละ!”

เมื่อเขากล่าวจบ กระแสลมมหาศาลโหมกระหน่ำพัดมา พัดพาทุกสิ่งทุกอย่างบนพื้นปลิวว่อน ผืนทรายบนพื้นลอยละลิ่วหมุนวนกลางอากาศ ท้องฟ้าที่เดมทีสว่างสดใสกลับหายลับไปกับตา กลุ่มเมฆสีดำกำลังล่องลอยเข้ามาแทนที่ พร้อมกับสายฟ้าที่สาดลงมา

“ดีมากเจ้าหนุ่ม ไม่เลว!”

ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำให้อวี้จิงเหลยตื่นตะลึงยิ่งนัก

เขาแน่ใจแล้วว่า ซย่าโหวฉิงเทียนไม่เพียงแต่สำเร็จขั้นจอมเทวา เกรงว่าจะถึงขั้น…

อวี้จิงเหลยยังไม่ทันจะได้ใคร่ครวญพิจารณาเรื่องราวภายหลัง เพราะซย่าโหวฉิงเทียนลงมือกดอวี้จิงเหลยไว้อย่างแน่นหนา

นี่คือ….

อวี้จิงเหลยไม่เคยได้พบพลังที่มหาศาลรุนแรงเท่านี้มาก่อน

ปรมาจารย์

ไม่สิ! ความรู้สึกราวกับจะขาดใจเช่นนี้ ซย่าโหวฉิงเทียนจะต้องอยู่เหนือกว่าปรมาจารย์ขึ้นไป!

ในตอนนั้นเอง แววตาที่จ้องมองซย่าโหวฉิงเทียนของอวี้จิงเหลยจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เจ้าหนุ่มนี่ ปิดบังเอาไว้ลึกล้ำเหลือเกิน!

เกรงว่าแม้แต่ฮ่องเต้ก็ไม่รู้ระดับขั้นวรยุทธ์ที่แท้จริงของเขาด้วยซ้ำ

เหอะ…

มิน่า ซย่าโหวฉิงเทียนถึงได้มั่นอกมั่นใจหนักหนาจนกล้าเอ่ยวาจาเช่นนั้นออกมา

เพียงแต่ปลาเกล็ดทองหาใช่สัตว์ที่สมควรอยู่แต่ในน้ำไม่!

ที่นี่ถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่ารั้งเขาเอาไว้ไม่ได้

ซย่าโหวฉิงเทียนกล่าวได้ถูกต้อง การหลบหลีกแก้ไขปัญหาไม่ได้ เพราะกระดาษอย่างไรกระดาษก็ห่อไฟเอาไว้ไม่มิด! ยิ่งอวี้เฟยเยียนสำเร็จขั้นได้รวดเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งไปยืนอยู่จุดที่สูงขึ้นเท่านั้น และสักวันหนึ่งนางก็ต้องไปที่เมืองอู๋โยว ได้พบกับชาวเผ่าตัน

หากว่านี่เป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต ตอนนี้อวี้จิงเหลยก็ขอน้อมรับในโชคชะตา

“ซย่าโหวฉิงเทียน ท่านกำลังจะทำอะไร!”

เมื่ออวี้เฟยเยียนรีบเดินทางตามมา ก็เห็นอวี้จิงเหลยนอนคว่ำอยู่บนพื้นทั้งเนื้อทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยฝุ่นดิน ส่วนซย่าโหวฉิงเทียนกลับเนื้อตัวสะอาดเอี่ยมตรงกันข้ามกับอวี้จิงเหลยอย่างสิ้นเชิง

การมาของอวี้เฟยเยียนทำให้การแข่งขันในครั้งนี้ยุติลง

เมื่อเห็นสภาพของผู้เป็นปู่สะบักสะบอมเช่นนั้น อวี้เฟยเยียนก็ตวัดสายตาคมกริบจ้องมองไปที่ซย่าโหวฉิงเทียน

“ท่านปู่ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”

อวี้เฟยเยียนช่วยปัดเศษฝุ่นเศษดินที่ปกคลุมตามร่างกายของอวี้จิงเหลยออก

“ท่านปู่ไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม”

“พี่รู้หนักเบาดี”

“ท่านหุบปากเดี๋ยวนี้นะ!” อวี้เฟยเยียนโกรธเคืองจนหน้าแดง

ท่านเป็นถึงจอมเทพอาวุโส

ท่านปู่ของข้าเป็นเพียงนักรบขั้นราชาเท่านั้นเอง!

“มีใครรังแกผู้อื่นเช่นนี้เหมือนท่านบ้าง”

ถูกอวี้เฟยเยียนตำหนิเข้าให้ ซย่าโหวฉิงเทียนถึงกับจนใจ

“แมวน้อย หากว่าพี่รักแกท่านปู่ของเจ้าจริง พี่ใช้เพียงนิ้วเดียวก็บี้เขาจนตายไปแล้ว!”

“ยังจะมามีเหตุผลอีก!”

อวี้เฟยเยียนถึงกับหมดคำพูด

นี่เขามาสู่ขอหรือมาสร้างความบาดหมางกันแน่นะ!

อย่าได้โง่เขลาเบาปัญญาถึงเพียงนี้ได้ไหมเล่า!

จำนนรักชายาตัวร้าย

จำนนรักชายาตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะการทดลองถอดดวงจิตของดอกเตอร์คิว ทำให้วิญญาณ อวี้เฟยเยียน นักศึกษาอัจฉริยะมากพรสวรรค์ข้ามเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูโลลิต้า (?) แห่งจวนจงอี้โหว ซึ่งไม่เพียงร่างกายอ่อนแอจนฝึกวรยุทธ์ไม่ได้ แม้แต่สติปัญญายังถูกคนวางยาพิษทำลายจนอาจจะตายได้ภายในสามเดือน นับเป็นตัวไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง แต่แล้วเมื่อเธอบังเอิญได้พบกับท่านอ๋องผู้ไม่เคยหวั่นไหวกับสตรีใดอย่างซย่าโหวฉิงเทียน และช่วยชีวิตเขาไว้จากการลอบสังหาร ความเด็ดเดี่ยวของนางทำให้เขาสนใจอยากได้นางมาเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’ ของตน! แต่แล้วเมื่อรู้ว่านางคือว่าที่พระชายาองค์ชายสี่ เท่ากับมีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ของตน เช่นนั้นแล้วเขาจะทำเช่นไรกับ ‘แมวป่าน้อย’ ที่เขาสู้อุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมมาตัวนี้ดีเล่า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท