จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 126-1 คนเลว เอามันมาลองมือเสียเลย!

ตอนที่ 126-1 คนเลว เอามันมาลองมือเสียเลย!

ตอนที่ 126-1 คนเลว เอามันมาลองมือเสียเลย!

หลังจากได้รับข่าวมาเช่นนี้ ซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนก็รอต่อไปไม่ไหว รีบตรงดิ่งไปที่ตลาดที่บริเวณทางเข้าเมืองทันที และเมื่อมาถึงก็เห็นประกาศของจวนหนานกงติดอยู่ตามที่พวกเขาว่าไว้จริงๆ

“ก่อนกลับไป หลิงเอ๋อร์ก็ยังสุขภาพแข็งแรงดีทุกอย่าง แล้วจู่ๆ จะมาล้มป่วยได้อย่างไรกัน?”

อวี้เฟยเยียนมวดคิ้วครุ่นคิด ซึ่งจุดนี้ซย่าโหวฉิงเทียนก็รู้สึกสงสัยเช่นเดียวกัน

เสวี่ยเยี่ยนคอยดูแลคุ้มครองหนานกงจื่อหลิงจนกระทั่งถึงจวนสกุลหนานกง ทั้งยังคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่อีกตั้งหลายวัน จนแน่ใจว่าหนานกงจื่อหลิงปลอดภัย จึงได้กลับมา

ซึ่งการที่หนานกงจื่อหลิงมาล้มป่วยเอาในช่วงเวลานี้ จะบังเอิญเกินไปหน่อยกระมัง…

“ไม่มีเวลามาคิดมากอีกแล้ว! ต่อให้เป็นกับดัก พวกเราก็ต้องไป!”

อวี้เฟยเยียนจับแขนของซย่าโหวฉิงเทียนเพื่อให้เขาคลายความกังวลลงไป

รู้ว่าเป็นถ้ำเสือ แต่ก็ยังจะบุกเข้าไป!

“หากว่าหลิงเอ๋อร์ล้มป่วยจริงๆ ข้าจะต้องหาทุกวิถีทางรักษานางให้จงได้ แต่หากว่าเรื่องนี้มีความนัย พวกเราก็คิดบัญชีเก่ากับบัญชีใหม่ไปพร้อมกันเลย!”

แววตาของอวี้เฟยเยียนเยือกเย็นเด็ดขาด

เพราะหากว่าหนานกงจื่อหลิงไม่ได้ล้มป่วยจริง แต่สกุลหนานกงกลับปล่อยข่าวเช่นนี้ออกมา เรื่องนี้จะต้องมีความลับที่ไม่อาจบอกใครได้อย่างแน่นอน…

ไม่แน่ว่าหนานกงจื่อหลิงอาจจะถูกควบคุมเอาไว้ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้พวกเขากระทำเช่นนี้ก็คงหนีไม่พ้นการใใช้หนานกงจื่อหลิงเป็นเหยื่อล่อจับตัวซย่าโหวฉิงเทียนเพื่อเอาหัวใจของเขาเปลี่ยนให้กับหนานกงเช่อ

เหอะ!

บังอาจคิดจะทำร้ายผู้ชายของข้าและน้องสาวของเขา พวกเจ้าคิดง่ายเกินไปแล้ว!

ประโยคนี้ของอวี้เฟยเยียนตรงกับในสิ่งที่ซย่าโหวฉิงเทียนกำลังครุ่นคิด!

เขาและตระกูลหนานกงจะต้องเข้าห้ำหั่นกันในสักวัน กำหนดการณ์หรือจะสู้ฟ้าลิขิต เขาใช้โอกาสนี้จัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นไปเสียเลย

เมื่อคิดได้ดังนั้น ซย่าโหวฉิงเทียนก็ยิ่งเป็นห่วงหนานกงจื่อหลิงมากขึ้น

หากว่าน้องสาวยังคงยืนกรานอยู่ข้างเขาเพราะความไร้เดียงสาละก็ เท่ากับว่านางจะต้องต่อกรกับหนานกงอ๋าวและซย่าจื่ออวี้

ในเมื่อสกุลหนานกงส่งสาสน์ท้ารบมาเช่นนี้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรกับหนานกงจื่อหลิงไปแล้วบ้าง!

เห็นทีว่า จะต้องรีบเร่งเดินทางไปที่เมืองเฮ่อเสียแล้ว!

“แมวน้อย ตอนนี้เจ้ายังอ่อนหัดอยู่มากนัก——”

ซย่าโหวฉิงเทียนกุมมือเล็กๆ ของอวี้เฟยเยียน เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา

แม้ว่าสกุลหนานกงจะจัดอยู่ในอันดับท้ายๆ ของตระกูลทั้งแปด แต่ยอดฝีมือที่สำเร็จถึงขั้นจอมอาวุโสก็ยังมีอยู่มาก ตอนนี้อวี้เฟยเยียนเป็นเพียงจอมปราชญ์อาวุโสเท่านั้น หากว่าเขาและนางบุกเข้าไปที่สกุลหนานกงตรงๆ ละก็ เขาเกรงว่าตนเองจะต้องมีห่วงพะวงเพราะต้องคอยดูแลอวี้เฟยเยียนไปด้วย

ไม่สู้พาอวี้เฟยเยียนไปหลบในที่ปลอดภัย แล้วเขาบุกเข้าไปตัวคนเดียวจะดีกว่า

“ข้ารู้…”

ซย่าโหวฉิงเทียนเห็นว่านางระดับขั้นวรยุทธ์ยังอ่อนนัก ทำให้อวี้เฟยเยียนรู้สึกขุ่นเคืองใจไม่น้อย

บนแผ่นดินหลัวอวี่นางสามารถเดินกร่างไปได้ทุกที่ แต่เมื่อมาถึงที่เมืองอู๋โยวนี่กลับเป็นเพียงแค่ยอดฝีมือระดับกลาง

คิดถึงตรงนี้สภาพจิตใจของอวี้เฟยเยียนก็ดิ่งลงอย่างชัดเจน มันย่ำแย่อยู่ไม่น้อย!

นี่นางกำลังเป็นตัวถ่วงของซย่าโหวฉิงเทียน!

“ข้าจะพยายามสำเร็จขั้นให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะไปถึงสกุลหนานกง ข้าจะต้องสำเร็จขั้นจักรพรรดิอาวุโสให้จงได้!”

อวี้เฟยเยียนยกกำปั้นน้อยๆ ขึ้นมา แววตาแน่วแน่

“ฮ่าๆ น่าขำจริงๆ ! จากจอมปราชญ์อาวุโสไปถึงขั้นจักรพรรดิอาวุโส ไม่ใช้เวลาอย่างน้อยสิบปีไม่มีทางเป็นไปได้ นึกไม่ถึงว่าที่ๆ ห่างไกลแร้งแค้นเช่นนี้ ยังมีคนปัญญาอ่อนเช่นเจ้าอยู่อีก! วาจาอวดดี น่าไม่อาย!”

เมื่ออวี้เฟยเยียนกล่าวจบ เสียงชั่วร้ายฟังดูไม่น่าไว้ใจก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ถูกด่าโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ทำให้อวี้เฟยเยียนรู้สึกโกรธเคืองยิ่งนัก

ฉับพลันนางจึงหันไปด้านหลัง ใช้สายตาคมกริบจ้องมองชายที่พูดจาค่อนแคะตนเองทันที

“สำหรับเจ้าคนหน้าโง่เช่นเจ้าแล้ว อาจต้องใช้เวลาถึงสิบปี แต่ว่า ข้าไม่ใช่ เพราะข้ามักจะยืนอยู่ตรงกันข้ามกับพวกโง่เสมอ! อย่าคิดว่าข้าเป็นพวกเดียวกันกับเจ้าสิ เพราะการกระทำเช่นนั้น ข้าถือว่าเป็นการดูหมิ่นข้าอย่างหนึ่ง!”

“เจ้า——”

หลิวติงเตรียมที่จะด่ากลับไป ทว่าเมื่อมองเห็นดวงหน้าเล็กๆ ที่งามพร้อมของอวี้เฟยเยียนเข้าก็ถึงกับตะลึงงัน

คนงามนี่นา!

ในพื้นที่ห่างไกลเหตุใดถึงได้มีคนงามถึงเพียงนี้ได้?

งามหยาดฟ้ามาดิน งามราวกับนางฟ้านางสวรรค์!

“คนสวย เจ้าชื่อเรียงเสียงไร บ้านช่องอยู่ที่ไหน แต่งงานแล้วหรือยัง?”

หลิวติงรีบเปลี่ยนท่าทีในฉับพลัน เขาจ้องมองอวี้เฟยเยียนด้วยสายตาหื่นกระหายพร้อมๆ กับกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

เขาเที่ยวเล่นกับผู้หญิงมาก็มาก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบหญิงสาวที่งดงามหนึ่งในใต้หล้าเช่นนี้ เป็นดอกไม้ที่งดเด่นในใต้หล้าจริงๆ !

และดอกไม้ดอกนี้ เขาต้องเด็ดให้จงได้!

“แต่ ต่อให้เจ้ามีคู่หมั้นคู่หมายแล้วก็ไม่เป็นไร เพราะข้าไม่ถือสาเรื่องนี้แม้แต่น้อย ขอเพียงเจ้ายินดีกลับไปกับข้า ข้าจะให้เจ้าได้เสพสุขไม่สิ้นทีเดียว——”

หลิวติงจ้องมองอวี้เฟยเยียนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า รู้สึกพึงพอใจนางไปเสียทุกสัดส่วน

ก่อนหน้านี้เขายังเคยบ่นว่า เหตุใดถึงต้องมาฝึกปรือวิชาในสถานที่แร้งแค้นแห่งนี้ด้วย นึกไม่ถึงว่ากลับได้มาพบคนงามหยาดฟ้ามาดินเยี่ยงนี้

โชคดียิ่งนัก!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวพรรณที่เนียนละเอียดของนาง ที่ขาวราวกับหิมะ ยิ่งหากว่าปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ทั้งหมดออก แล้วคงจะงดงามมากขึ้นไปอีกเป็นแน่

จะใช้เชือกมัดมือของนาง ด้วยผิวพรรณที่เนียนละเอียดเช่นนี้ เชื่อแน่ว่าเพียงในเวลาเพียงชั่วครู่ก็จะต้องเป็นรอยห้อเลือดขึ้นมาอย่างแน่นอน

ผิวพรรณที่ขาวใสถึงเพียงนี้ หากเป็นรอยห้อเลือดขึ้นมา เพียงแค่คิดก็ทำให้หลิวติงทานทนแทบไม่ไหว ตื่นตัวจนเนื้อเต้น! อยากที่จะโยนนางลงบนเตียง ชื่นชมให้สาแก่ใจสักรอบ!

“คุณชาย คุณชายสามตระกูลหลิวเริ่มคิดมิดีมิร้ายกับหญิงสาวบริสุทธิ์อีกแล้ว! พวกเราจะออกหน้าหรือไม่?”

อีกด้านหนึ่งของทางเข้าตลาดในเมืองเล็กๆ นั่น อาหูที่ยื่นอยู่เบื้องหลังของเสินถูเลี่ยเอ่ยถามขึ้น

“ไม่รีบร้อน——”

เสิ่นถูเลี่ยยิ้มบางๆ แม่นางน้อยผู้นั้นก็ใช่ย่อยปากคอเราะร้ายไม่เบา ดูแล้วไม่น่าจะรับมือได้ง่ายๆ

ไม่แน่นะว่า ครั้งนี้หลิวติงอาจจะเจอคนเก่งเข้าให้แล้ว!

นี่ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ดูละครฉากเด็ด!

เสิ่นถูเลี่ยยืนกอดอกพิงเสา คาบหญ้าจิ้งจอกสีเขียวสดเอาไว้ในปาก ท่าทางสบายๆ ไม่มีทีท่ากังวลใจแม้แต่น้อย

ซึ่งก็จริงอย่างที่เขาว่าเอาไว้ เมื่อเขากล่าวจบ อวี้เฟยเยียนก็ใช้เท้าถีบเข้าที่กล่องดวงใจของหลิวติงอย่างแรง

“อ๊าก——” เสียงร้องของหลิวติงทำให้นกที่แอบอยู่บริเวณต้นไม้บริเวณใกล้ๆ ตื่นตกใจ

“ฟุบ! “

เสียงหัวเข่าทั้งสองข้างของเขาทรุดลงบนพื้น สองมือกุมส่วนล่างที่แสดงถึงความเป็นชายของตนเอาไว้

อาหูมองเห็นเลือดสดๆ ไหลซึมออกมาตามช่องนิ้วมือของหลิวติงกุมกล่องดวงใจของตนเองอยู่ ก็ทนดูต่อไปไม่ไหวจนต้องปิดตา

คุณชายพูดเอาไว้ไม่ผิดเลย!

แม่นางน้อยผู้นั้นโหดเอาเรื่องทีเดียว ว่าไหม!

“คิดสกปรกกับข้า? เจ้ามันมีตาแต่ไร้แวว? หัดส่องกระจกดูเงาหัวของตัวเองเสียบ้างเถอะ! แต่คิดว่าชาตินี้ เจ้าคงจะไม่มีโอกาสได้ยืนถ่ายเบาอีกต่อไปแล้ว!”

อวี้เฟยเยียนหัวเราะ

เมื่อนางกล่าวจบ อาหูก็รู้สึกเย็นวาบที่ส่วนล่างของตนเองทันที ซึ่งมันน่าสะพรึงจนเขาต้องหุบขาทั้งสองข้างเข้าหากันให้แน่นทีเดียว

จำนนรักชายาตัวร้าย

จำนนรักชายาตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะการทดลองถอดดวงจิตของดอกเตอร์คิว ทำให้วิญญาณ อวี้เฟยเยียน นักศึกษาอัจฉริยะมากพรสวรรค์ข้ามเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูโลลิต้า (?) แห่งจวนจงอี้โหว ซึ่งไม่เพียงร่างกายอ่อนแอจนฝึกวรยุทธ์ไม่ได้ แม้แต่สติปัญญายังถูกคนวางยาพิษทำลายจนอาจจะตายได้ภายในสามเดือน นับเป็นตัวไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง แต่แล้วเมื่อเธอบังเอิญได้พบกับท่านอ๋องผู้ไม่เคยหวั่นไหวกับสตรีใดอย่างซย่าโหวฉิงเทียน และช่วยชีวิตเขาไว้จากการลอบสังหาร ความเด็ดเดี่ยวของนางทำให้เขาสนใจอยากได้นางมาเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’ ของตน! แต่แล้วเมื่อรู้ว่านางคือว่าที่พระชายาองค์ชายสี่ เท่ากับมีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ของตน เช่นนั้นแล้วเขาจะทำเช่นไรกับ ‘แมวป่าน้อย’ ที่เขาสู้อุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมมาตัวนี้ดีเล่า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท