เขาทำราวกับตนเองเป็นนักล่ากำลังล่าสัตว์ตัวน้อยอยู่ก็ไม่ปาน ไล่ล่าจนอวี้เฟยเยียนตกอยู่ในอ้อมอกของตนเองอย่างรวดเร็ว
“เจ้าจะพูดอะไรกันแน่?” ถือเป็นการลงโทษอวี้เฟยเยียน ซย่าโหวฉิงเทียนจึงใช้พลัง ‘ควบคุมนางเอาไว้’ พร้อมๆกับที่สองมือของเขาเกาะกุมสองเท้าของนาง แล้วจักกะจี้ฝ่าเท้าของนางไปด้วย
“ฮ่าๆ! ของร้องท่านละ! อย่าจักกะจี้ข้าอีกเลย!”
“ฉิงเทียน ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้วจริงๆ! ขอร้องละ…”
จวบจนกระทั่งอวี้เฟยเยียนหัวเราะจนหมดเรี่ยวแรงนั่นแหละ ซย่าโหวฉิงเทียนถึงได้ผ่อนพลังลง ปล่อยนางให้เป็นอิสระ
“ท่านรังแกข้า——”ดวงตาที่เย้ายวนทรงเสน่ห์ของอวี้เฟยเยียนบัดนี้เปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำตามองค้อนซย่าโหวฉิงเทียนปะหลับปะเหลือก พร้อมกับทำท่าทางเชิงต่อว่าต่อขาน
‘หมอนี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า!’
‘จะชั่วดีอย่างไรตัวเขาก็เป็นถึงเทพอาวุโสนะ! ใช้พลังบนเตียงกับนาง จะรังแกกันเกินไปหน่อยแล้วกระมัง!’
พลันอวี้เฟยเยียนก็รู้สึกว่าตัวนางในฐานะที่เป็นปราชญ์อาวุโสเมื่อถึงเวลาที่ต้องต่อกรเทพอาวุโสแล้ว พลังของนางแลดูอ่อนแอยิ่งนัก
เพื่อศึกแห่งการกลับมาอย่างงดงามของตนเอง นางจะต้องฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง!
ไม่เช่นนั้นไม่ว่าจะบนเตียงหรืออยู่ข้างนอก นางก็จะตกอยู่ในฐานะที่ถูกรังแกอยู่ร่ำไป!
“พี่รักเจ้า พี่ถึงได้รังแกเจ้า!”
ซย่าโหวฉิงเทียนกระแซะเข้าหาอวี้เฟยเยียน พร้อมทั้งจุมพิตใบหน้าที่ชุ่มเหงื่อของนาง
“แมวน้อยเด็กดี พูดเรื่องที่ค้างไว้เมื่อครู่ให้จบ อย่าทำให้ค้างๆคาๆมิเช่นนั้น…”
ซย่าโหวฉิงเทียนยิ้มเจ้าเล่ห์
“มิเช่นนั้นพี่จะลงทัณฑ์สถานหนักกับเจ้าแล้วนะ!”
“ข้าพูดๆ!”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้นทั้งยังรู้สึกถึงการตื่นตัวของอาวุธประจำกายของเขา อวี้เฟยเยียนก็รีบหยุดซย่าโหวฉิงเทียนเอาไว้ทันที
“ฉิงเทียน เจ้าเตรียมตัวพร้อมที่จะเป็นพ่อคนแล้วหรือยัง?”
“เป็นพ่อ——”
ซย่าโหวฉิงเทียนอึ้งเงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นค่อยกระเด้งตัวขึ้นนั่งด้วยความตื่นเต้น ก้มมองไปที่ท้องน้อยของอวี้เฟยเยียน
“แมวน้อย เจ้ามีเด็กเปรตแล้ว?”
“ยังไม่มี——” เมื่อเห็นเขาเข้าใจผิด อวี้เฟยเยียนก็รีบส่ายหน้าทันที
“ข้าเพียงแต่อยากจะถามท่านว่า ท่านเตรียมพร้อมที่จะเป็นพ่อคนแล้วหรือยัง? พวกมีอะไรกันบ่อยครั้งเช่นนี้ ทั้งยังมิได้ป้องกัน วันใดวันหนึ่งก็ต้องมีลูกขึ้นมา!”
“ฉิงเทียน เจ้ายินดีที่เป็นเป็นพ่อ ยินดีที่จะเลี้ยงดูอุ้มชุลูกของเราพร้อมกันกับข้าหรือไม่?”
น้ำเสียงนุ่มนวลของอวี้เฟยเยียนราวกับขนนกอันอ่อนนุ่มที่ แหวะหัวใจของซย่าโหวฉิงเทียนให้เผยอออกทีละชั้นๆ
ก่อนหน้าที่จะได้รู้จักกับอวี้เฟยเยียนนั้น ซย่าโหวฉิงเทียนไม่เคยมีความคิดที่จะมีลูกหรือมีครอบครัวมาก่อน ซึ่งก็เป็นผลกระทบจาการกระทำของซย่าจื่ออวี้นั่นเอง
แต่นับตั้งแต่ที่เขาได้พบกับอวี้เฟยเยียน แรกเริ่มเดิมทีที่เขาเก็บนางเอาไว้เพื่อหยอกล้อเล่นสนุก ภายหลังกลับกลายเป็นคาดหวังที่จะเหนี่ยวรั้งให้นางอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป จนสุดท้ายต้องการจะเป็นสามีภรรยากับนาง ไม่แยกจากกันชั่วนิจนิรันดร
ความรู้สึกนึกคิดและหัวใจของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
เจ้าเด็กเปรต…
มีเจ้าตัวน้อยที่น่าทะนุถนอมเหมือนอวี้เฟยเยียนสักคน น่ารักจนพาลให้หลงรักหัวปักหัวปำ ดูเหมือนว่าก็ไม่เลวนะ!
เมื่อจินตนาการว่ามีเด็กผู้หญิงตัวน้อยเรียกตนเองว่า ‘พ่อ’ ซย่าโหวฉิงเทียนก็เผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้า
“แล้วเจ้าละ?” ซย่าโหวฉิงเทียนเอื้อมมือออกไปประคองใบหน้าของอวี้เฟยเยียนเอาไว้
“แล้วเจ้าละ? หากว่าพวกเรามีเด็กตัวน้อยด้วยกัน เจ้าก็จะไม่อาจไปจากพี่ได้แล้ว! ต่อให้เจ้าต้องกลับไปยังแผ่นดินใหญ่ก็ตาม หากเจ้าจะไป เจ้าก็ต้องพาพี่กับเจ้าเด็กเปรตไปด้วย!”
“เจ้าจะไม่ทอดทิ้งพี่ ยิ่งไม่อาจทอดทิ้งเจ้าเด็กเปรตโดยไม่สนใจใยดีได้!”
ซย่าโหวฉิงเทียนแอบกังวลใจอยู่ลึกๆมาโดยตลอด เกรงว่าวันหนึ่งอวี้เฟยเยียนจะหายไป
บางที หากมีเจ้าเด็กเปรตขึ้นมา อวี้เฟยเยียนเมื่อได้เป็นแม่คน ย่อมต้องมีห่วงกังวลในลูกของตน ทำให้นางมิอาจตัดใจทอดทิ้งไปได้…นี่คือวิธีที่เขาจะสามารถรั้งนางเอาไว้ แม้ว่าจะน่าละอายไปบ้าง แต่ เขาก็จะลองดู
“พี่ยินดี!” อวี้เฟยเยียนโอบกอดซย่าโหวฉิงเทียน ร่างของนางและเขาแนบชิดกันจนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
“ข้าก็เต็มใจที่จะมีลูกให้กับเจ้า! เรามีลูกชายตัวน้อยที่เหมือนกันกับเจ้าสักคน แล้วค่อยมีลูกสาวตัวน้อยน่ารักอีกสักคน…”
คำพูดของอวี้เฟยเยียนเร่งเร้าความรู้สึกในใจของซย่าโหวฉิงเทียนให้พรั่งพรูออกมา
เขาบรรจงจุมพิตนาง ขบเม้มนาง จวบจนกระทั่งคนทั้งมีอารมณ์ร่วมกันจนมิอาจถอนตัวได้นั่นเอง ทุกอย่างจึงค่อยๆผ่อนลง
“ในเมื่อเจ้ายินดี เช่นนั้น แมวน้อย เจ้ามีเจ้าเด็กเปรตให้พี่สักคนเถอะ!”
ซย่าโหวฉิงเทียนขยับเข้ามาใกล้ แล้วนอนราบลง ให้อวี้เฟยเยียนนั่งคร่อมบนตัวของเขา
“เจ้าอยากที่จะอยู่ด้านบน ควบคุมทุกอย่างมาตลอดมิใช่หรือ! วันนี้พี่ก็จะให้เจ้าสมใจ!”
“เฮอะ! ข้าเป็นผู้นำก็เป็นสิ! ใครกลัวใครกันแน่!” อวี้เฟยเยียนฮึดฮัดออกมา
“วันนี้ข้าจะต้องทำให้ท่านเป็นฝ่ายอ้อนวอนขอร้องข้าให้ได้!”
“อย่างนั้นหรือ?” ซย่าโหวฉิงเทียนหยักยิ้มที่มุมปาก จากนั้นค่อยๆขยับริมฝีปากสีแดงราวกับกลีบดอกท้อของเขาเพื่อเอ่ยว่า
“พี่มพร้อมแล้ว เจ้าเริ่มได้เลย!”
แน่นอนว่า การโถมตัวเข้าหาเข้าในครั้งนี้ สุดท้ายลงท้ายด้วยการที่อวี้เฟยเยียนที่เป็นฝ่ายอ้อนวอนขอร้องตามเคย
ร่างอ่อนปวกเปียกของอวี้เฟยเยียนถูกซย่าโหวฉิงเทียนอุ้มเข้าไปในถังอาบน้ำ ตอนนี้แม้แต่แรงจะกระดิกนิ้วนางยังทำไม่ได้เลย อวี้เฟยเยียนในตอนนี้ราวกับแมวอ้วนที่กินจนอิ่มหมีพลีมัน หนังท้องตึงหนังตาหย่อนจนเริ่มขดตัวเข้าหากัน เปลือกตาปิดลง ขนตายาวเป็นแพรนั้นสั่นไหวแผ่วเบา
“วันนี้พี่พึงพอใจยิ่งนัก!” ซย่าโวฉิงเทียนบีบนวดให้กับอวี้เฟยเยียนไปพลางก็หวนคิดถึงการกระทำที่ผ่านมาสดๆร้อนๆเมื่อครู่ของอวี้เฟยเยียน
นางแมวป่าที่แสนพยศ ทั้งเจ้าเล่ห์ ออดอ้อน มีหลากหลายอารมณ์
นี่เป็นครั้งแรกที่อวี้เฟยเยียนปล่อยกายปล่อยใจอย่างเต็มที่ ทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนได้สัมผัสกับรสชาติที่แปลกใหม่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่นางแยกขาคร่อมร่างของเขาเอาไว้ พร้อมกับยืดอก แทนตัวเองว่า ‘ข้าๆ’ เช่นนั้น น่ารักชะมัด!
“แมวน้อย คราวหน้าเจ้าเป็นฝ่ายอยู่ข้างบนพี่เถอะ!” สีหน้าท่าทางยินยอมพร้อมใจให้เจ้ากระทำกับพี่ได้ทุกอย่างของซย่าโหวฉิงเทียน เล่นเอาอวี้เฟยเยียนโมโหจนต้องกัดเข้าที่ไล่ของเขาสักที
“ไม่! เหนื่อยเหลือเกิน!” เมื่ออวี้เฟยเยียนเป็นฝ่ายเปิดประเด็น มันจึงเป็นการเปิดทางให้กับ ซย่าโหวฉิงเทียนอีกครั้ง เขาจึงสบโอกาสพลิกสถานการณ์ให้ตนเองกลายเป็นผู้นำ กลองรบแห่งสนามรักบรรเลงไปอย่างเร่าร้อนยาวนานจนกระทั่งดำเนินไปถึงจุดสูงสุด ซึ่งนั่นต้องลำบากอวี้เฟยเยียนไม่น้อย
ซย่าโหวฉิงเทียนนี่เป็นพวกยั่วให้ยัวะไม่ได้เลยจริงๆ!
ไม่เพียงแต่ยั่วยวนไม่สำเร็จ ตรงกันข้ามกลับทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนกลายเป็นจอมวายร้าย ทั้งยังเป็นจอมวายร้ายที่แสนลามกอีกด้วย!
“ไม่เหนื่อย!” เมื่อนึกถึงริมฝีปากของอวี้เฟยเยียนที่สร้างรอยรักอันเร่าร้อนบนร่างกายของเขายาวเป็นแนวไปถ้วนทั่ว แววตาของซย่าโหวฉิงเทียนก็แปรเปลี่ยนเป็นลึกซึ้งอีกครั้ง
“พี่ไม่เหนื่อยเลยสักนิด! พี่ชอบมันมากด้วยซ้ำ!”
สามสี่วันมานี้ ต้องเดินทางร่วมกับผู้ร่วมทางอีกสามคน ทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนไม่มีโอกาสได้ปลดปล่อยตัวเอง กลับมาถึงบ้านทั้งที แน่นอนว่าเขาย่อมต้องตักตวงให้อิ่มก่อนค่อยว่ากันสิ
‘พี่ใหญ่ พี่ชายอะไรของอวี้เฟยเยียนพวกนั้นน่าเบื่อที่สุด!’
‘พวกเขากำลังเบียดเบียนความสุขในชีวิตคู่ของเขาโดยตรง!’
‘ต้องรีบจับคู่ให้พวกเขาแต่งงานไปเสีย ถึงตอนนั้นจะได้ไม่มีใครมารบกวนโลกที่มีเพียงเขาและนางได้อีก!’
‘ชอบ’ คำพูดพรรค์นี้ เอ่ยออกมาจากปากของซย่าโหวฉิงเทียน ช่างจริงใจและสมเหตุสมผลยิ่งนัก
ตรงกันข้ามกลับเป็นอวี้เฟยเยียนที่ขวยเขินอย่างหนัก
น่าเสียดายใบหน้าอันเย่อหยิ่งสูงศักดิ์ของซย่าโหวฉิงเทียนจริงๆเลย ทั้งที่แท้ที่จริงเขาคือสัตว์ร้ายตัวหนึ่ง!
“มองพี่อย่างนี้ เจ้าต้องการที่จะรักกับพี่อีกรอบใช่หรือไม่?” ปากซย่าโหวฉิงเทียนก็พูด ส่วนมือก็เริ่มปฏิบัติการอีกครั้ง
“อย่า…”
อวี้เฟยเยียนกล่าวยังมิทันจบคำพูดของนางก็ถูกจุมพิตของซย่าโหวฉิงเทียนดูดกลืนหายไปเสียแล้ว หลังจากนั้นนางก็กลับกลายเป็นเจ้าเรือน้อยที่แสนจะเบาหวิว ลอยขึ้นจมลงอยู่ในถังอาบน้ำจนกระทั่งดวงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้า