จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 143-4 แผนซ้อนแผน คิดจะเล่นงานข้า รนหาที่ตาย

ตอนที่ 143-4 แผนซ้อนแผน คิดจะเล่นงานข้า รนหาที่ตาย

อวี้เฟยเยียนพูดจารุนแรงหนักหน่วงไม่น้อย ทำเอาซย่าโหวฉิงเทียนได้ยินถึงกับหน้าเข้ม

“พี่ยังอยู่ตรงนี้ เจ้าพูดเรื่องตายทำไมกัน!” ซย่าโหวฉิงเทียนไม่พูดเปล่าทั้งยังแบกอวี้เฟยเยียนใส่บ่าอีกด้วย

“เฮ่ ท่านจะทำอะไรนะ! ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้นะ!” อวี้เฟยเยียนแหววขึ้นมา

“เจ้ามิใช่รีบร้อนอยากจะเติบโตหรอกหรือ? ก่อนพี่จะไป พี่จะฝึกปรือให้กับเจ้า! ต่อไปหากเจ้าพ่ายเขาขึ้นมาจะได้ไม่ต้องมาร้องไห้คร่ำครวญเอากับพี่!” เมื่อได้ยินดังนั้น อวี้เฟยเยียนก็ดีใจอย่างบอกไม่ถูก

“พูดแบบนี้ ท่านตกลงให้ข้าอยู่ที่นี่แล้วใช่หรือไม่? เยี่ยมไปเลย! ซย่าโหวฉิงเทียน ข้ารักท่านที่สุด!”

ซย่าโหวฉิงเทียนพูดจริงทำจริง หลังจากวันนั้นเขาก็ฝึกปรือให้กับอวี้เฟยเยียนทุกวัน ในขณะเดียวกันก็ใช้เวลานี้คร่ำเคร่งฝึกฝนวิชาให้กับตนเองชนิดไม่กินไม่นอนทีเดียว

ในความคิดของซย่าโหวฉิงเทียน คำพูดของหลิวเซิ้งถูกต้อง และก็ผิดถนัด ในเวลาเดียวกัน

หากว่าเขาแข็งแกร่งเพียงพอที่สามารถทำให้ทุกคนยอมสยบอยู่แทบเท้าได้ อวี้เฟยเยียนก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุข นางจะไม่ต้องลำบาก

ดังนั้นพวกของซย่าโหวฉิงเทียนใช้เวลาในแต่ละวันหมดไปกับการฝึกฝนตัวเอง

หลิวอ้าวกว๋อเองก็เดินทางถึงเมืองเฮ่อในอีกห้าวันให้หลัง

เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางเคร่งขรึมดุดันของหลิวอ้าวกว๋อแล้ว หลิวเซิ้งก็แอบผิดหวังเล็กน้อย

ในความทรงจำวัยเยาว์ของเขา ชายชราผู้นี้ดีกับเขาเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้เมื่อผลประโยชน์ต่างกัน จึงทำได้เพียงแค่ยืนอยู่คนละข้างเท่านั้น

ความสามารถของซย่าโหวฉิงเทียนได้กำหนดเอาไว้แล้วว่าเขาจะต้องได้ครอบครองแผ่นดินนี้ และสกุลหลิวก็กลายเป็นขวากหนามที่ขวางกั้นอยู่บนเส้นทางความก้าวหน้าที่ซย่าโหวฉิงเทียนจะต้องเดินผ่านเพื่อไปสู่ความสำเร็จ

ในเมื่อเป็นขวางหนาม เช่นนั้นก็ต้องกำจัด

สกุลสุ่ย สกุลหลิว…

ทีละคนๆ อย่างหลบเลี่ยงไม่ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้น หลิวเซิ้งก็เริ่มมีรอยยิ้มแห่งความยินดีประดับบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง

“ท่านปู่สาม ลำบากท่านแล้ว!” ซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนเองก็ทำตัวเป็นปกติทุกอย่าง อวี้เฟยเยียนยังฉีกยิ้มพร้อมกับหัวเราะเสียงหวาน

“ต้องรบกวนท่านเดินทางไปมาอีกครั้งแล้ว! หวังว่าพวกเราจะทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข!”

“ดี! ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข! ในเมื่อท่านประมุขไม่มีเงื่อนไขอื่นใด เช่นนั้นข้าก็จะกลับไปรายงานประมุขของเราเช่นกัน!”

เรื่องราวทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างราบรื่น หลิวอ้าวกว๋อแอบกระหยิ้มยิ้มย่องในใจ หากจะโทษก็ต้องโทษที่ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นโดดเด่นเกินไป ถึงได้นำหายนะถึงชีวิตมาสู่ตนเอง

เขาไม่ควรที่จะมาอวดดีที่อู๋โยวแห่งนี้

“หลิวเซิ้ง เจ้าสนใจจะไปเที่ยวชมเมืองเหมยกับปู่บ้างหรือไม่? เมืองเหมยเปลี่ยนแปลงมาก ไม่ใช่เมืองเหมยเฉกเช่นเก่าก่อนอีกต่อไป”

ด้วยเกรงว่าหลิวเซิ้งจะปฏิเสธ หลิวอ้าวหลานจึงรีบอธิบายทันที

“ข้าไม่มีเจตนาอื่นใด เพียงแต่หวังว่าเจ้าจะกลับไปเยี่ยมท่านปู่ท่านย่า ไปจุดธูปไหว้ เผากระดาษเงินกระดาษทองให้กับท่านพ่อท่านแม่ของเจ้าบ้างเท่านั้น!”

หลิวอ้าวกว๋อยกความสัมพันธ์ฉันญาติมาอ้าง ซึ่งที่เขาทำเช่นนี้ก็เพราะหวังว่าหลิวเซิ้งจะไปจากที่นี่ ที่ๆไม่ใช่ที่ของเขาสักที

เพราะนับจากวันนี้ไป อีกไม่นาน เมืองเฮ่อก็ต้องพบกับหายนะที่ไม่เคยพบมาก่อน หลิวอ้าวกว๋อไม่อยากที่จะเห็นหลานชายเพียงคนเดียวของพี่รองของเขาเกิดเรื่อง

สิ่งที่หลิวอ้าวกว๋อคิด หลิวเซิ้งรับรู้เป็นอย่างดี และเขารู้สึกซาบซึ้งใจไม่น้อย

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างซย่าโหวฉิงเทียนและสกุลหลิว หลิวอ้าวกว๋อก็ยังคงคิดถึงเป็นห่วงเขาเสมอ

เพียงแต่ ฐานะของเขาถูกกำหนดเอาไว้ตั้งแต่แรก

“ท่านปู่สาม ท่านจะรีบร้อนทำไมกัน! รอให้ล้างบางสกุลสุ่ยเรียบร้อย พวกเราต้องฉลองความสำเร็จด้วยกันอยู่แล้ว ถึงตอนนั้นข้าและท่านประมุขจะต้องไปเยือนเมืองเหมยอย่างแน่นอน!” หลิวเซิ้งปฏิเสธความหวังดีของหลิวอ้าวกว๋อด้วยรอยยิ้ม

“หวังว่าวันนั้นจะไม่ไกลเกินไป!”

หลิวอ้าวกว๋อฟังไม่ออกถึงความหมายโดยนัยที่หลิวเซิ้งต้องการจะสื่อออกมา เขาโบกไม่โบกมือพร้อมกับทอดถอนใจ

“ช่างเถอะ ถึงเวลาค่อยว่ากันก็แล้วกัน!” หลิวอ้าวกว๋อรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย หลิวเซิ้งเด็กคนนี้ในบางเวลาก็เป็นพวกดื้อดึงเถรตรงเกินไปจริงๆ!

แต่ว่า เขาจะต้องคิดหาวิธีอื่น ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องปกป้องหลานชายของพี่รองเอาไว้!

หลังจากหลิวอ้าวกว๋อกลับออกไปแล้ว ซย่าโหวฉิงเทียนค่อยหันไปกล่าวกับหลิวเซิ้งว่า

“เขาดีกับเจ้าไม่น้อย! “

“แต่ข้าน้อยมิได้เป็นของสกุลหลิว ข้าน้อยเป็นของนายท่าน!” เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของหลิวเซิ้ง อวี้เฟยเยียนจึงรีบขัดจังหวะทันที

“อะไรกันที่เรียกว่าเจ้าเป็นของฉิงเทียน ฟังแล้วก็ขนลุกยิ่งนัก! หลิวเซิ้ง เจ้าจะมาแย่งผู้ชายของข้าไม่ได้นะ! เจ้าออกจะหล่อเหลา ควรจะชอบผู้หญิงต่างหากจึงจะถูกต้อง! อย่าได้สิ้นเปลืองทรัพยากรดีๆที่เจ้ามีเด็ดขาด!”

กล่าวจบอวี้เฟยเยียนก็แกล้งทำเป็นหึงหวง คล้องแขนซย่าโหวฉิงเทียนเอาไว้แน่น ท่าทางหวงแหนราวกับประกาศว่าเขาเป็นของนาง เจ้าอย่าได้มายุ่งย่ามเด็ดขาดอย่างไรอย่างนั้น

หลิวเซิ้งเมื่อเห็นอากัปกริยาของนางก็หัวเราะขึ้นมา เขาหรี่ดวงตาที่เจ้าเล่ห์ของตนจนเรียวเล็ก

“ข้าน้อยพูดผิดไป! พลั้งปาก! ข้าน้อยจะจงรักภักดีต่อท่านอ๋อง!”

สกุลหลิวได้วางกับดักเป็นที่เรียบร้อย และตามแผนการที่พวกเขาวางเอาไว้ ซย่าโหวฉิงเทียนจะต้องเดินทางไปสมทบกับหลิวอวี๋เซิงที่เมืองลู่

ก่อนจะเดินทาง ซย่าโหวฉิงเทียนได้รังแกอวี้เฟยเยี่ยนอย่างหนักหน่วงอยู่ทั้งคืนเต็มๆ

“พูดสิ พูดว่าเจ้ารักพี่!” ซย่าโหวฉิงเทียนใช้กำลัง ‘บีบบังคับ’ ให้กับอวี้เฟยเยียนตอบคำถามของตนเอง

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาและนางต้องแยกจากกันหลังจากแต่งงาน ซึ่งทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก

“ข้ารักท่าน! ข้ารักท่านที่สุด! ข้ารักท่านเพียงคนเดียว!” อวี้เฟยเยียนเองก็มองออกว่าอีกฝ่ายกำลังอาลัยอาวรณ์นาง ดังนั้นคืนนี้อวี้เฟยเยียนจึงว่านอนสอนง่ายโอนอ่อนผ่อนตามซย่าโหวฉิงเทียนเป็นพิเศษ

หลายครั้งหลายคราก่อนหน้านี้ดูราวกับว่าอวี้เฟยเยียนไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่นักที่จะมีความสัมพันธ์กันในท่วงท่าที่ยากเสียหน่อย วันนี้กลับยิมยอมให้ซย่าโหวฉิงเทียนทาบทับจัดวางอย่างว่าง่าย

สุดท้าย ซย่าโหวฉิงเทียนกกกอดอวี้เฟยเยียนที่เนื้อตัวชุ่มชื้นไปด้วยเหงื่อเอาไว้บนร่างของเขา

“พี่จะไปฆ่าสุ่ยฮั่วอีแล้วจะรีบกลับมา!”

“ดี!” อวี้เฟยเยียนไร้สิ้นเรี่ยวแรง ราวได้แต่เอ่ยตอบรับไปเบาๆทั้งที่ยังหลับตา

“หลิวอวี๋เซิงก็สมควรตาย! บังอาจมาตบลหลังพี่ พี่จะทำให้มันมาได้แต่กลับไม่ได้!”

“ดี!”

“รอให้จัดการเรื่องนี้เสร็จสิ้น พี่จะเดินทางไปเผ่าตันเป็นเพื่อนเจ้า”

“ดี!”

“พี่ยังอยากจะมีความสุขอีกครั้ง!”

“ดี!” ตอบรับเห็นด้วยเสียจนเคยชิน คำถามสุดท้ายอวี้เฟยเยียนยังไม่ได้ทันคิด ก็ตอบออกไปว่า ‘ดี’

จวบจนกระทั่งนางถูกซย่าโหวฉิงเทียนกลืนกินเข้าไปจนแม้กระดูกกระเดี้ยวแทบจะแหลกเหลวไม่มีเหลือ ขาทั้งสองข้างปวดร้าวอย่างหนักนั่นเอง อวี้เฟยเยียนถึงเพิ่งจะนึกเสียใจภายหลังขึ้นมาได้

‘แม่เจ้า! อย่ามาเล่นเกมส์ตอบอักษรอะไรแบบนี้ในขณะที่ข้ากำลังอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจนไม่หลงเหลือสติอยู่เลยเช่นนี้จะได้ไหมเล่า! จะรังแกกันเกินไปแล้วนะ!’

กระทั่งซย่าโหวฉิงเทียนเตรียมจะออกเดินทาง อวี้เฟยเยียนยังคงนอนหลับอุตุด้วยความอ่อนเพลียอยู่เลยด้วยซ้ำ อภัยที่นางมีใจอยากจะลุกขึ้นมาส่งเขา แต่ดวงตาของนางแทบลืมไม่ขึ้นด้วยเถอะ

“หานจื่อ”

ซย่าโหวฉิงเทียนหยุดยืนที่หน้าประตู พร้อมกับลูบหัวหานจื่อ

“ข้าฝากแมวนน้อยเอาไว้กับเจ้า! ครั้งนี้ เจ้าสามารถเปิดศึกฆ่าศัตรูได้เต็มที่!”

“ฆ่าได้เต็มที่?”

“นายท่าน ข้ามิได้ฟังผิดไปใช่หรือไม่?”

“ไม่ต้องเก็บกด ทั้งยังไม่ต้องรักษาภาพลักษณ์ของข้า อยากกินอย่างไรก็กินอย่างนั้นใช่หรือไม่?”

ดวงตากลมโตสีทองแดงของหานจื่อจ้องมองซย่าโหวฉิงเทียนตาละห้อย เพื่อเรียกร้องให้เขายืนยันคำพูดของตนเมื่อครู่อีกครั้ง

“ถูกต้อง ฆ่าได้เต็มที่! หน้าที่ของเจ้าก็คือทำให้ไอ้พวกที่มันมารุกราน มาได้แต่ไม่ได้กลับไป! ไม่ต้องเมตตาใจอ่อนเป็นเด็ดขาด!”

คำพูดของซย่าโหวฉิงเทียนทำให้หานจื่อดีใจจนกระโดดโลดเต้น

“อ๋าว——บรู๊ว——”

“ดีใจจังเลย! เป็นอย่างที่มันคาดการณ์เอาไว้จริงๆ ติดตามแม่นางน้อยจะได้กินดีอยู่ดี ไม่มีวันอับจน!”

“นายท่านโปรดวางใจ! ข้าจะปกป้องแม่นางน้อยเป็นอย่างดี!”

หลังจากที่ให้คำสัตย์แล้ว หานจื่อก็อ้าปากกว้างเผยให้เห็นเขี้ยวสีเงินอันใหญ่โตของมันที่แวววาวภายใต้ดวงตะวัน

“มาคนหนึ่ง ก็กินคนหนึ่ง!”

“มาสองคน ก็กินมันทั้งคู่!”

ในที่สุดก็ได้โอกาสที่มันจะได้เตรียมล้างท้องเพื่อกินให้อิ่มแปล้สักมื้อเสียที! พวกคนเลวเอ้ย รีบดาหน้าเข้ามาเร็วเข้า! พ่อของพวกเจ้ากำลังรอกินอาหารมื้อใหญ่อยู่ที่เมืองเฮ่อนี้แล้ว!

จำนนรักชายาตัวร้าย

จำนนรักชายาตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะการทดลองถอดดวงจิตของดอกเตอร์คิว ทำให้วิญญาณ อวี้เฟยเยียน นักศึกษาอัจฉริยะมากพรสวรรค์ข้ามเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูโลลิต้า (?) แห่งจวนจงอี้โหว ซึ่งไม่เพียงร่างกายอ่อนแอจนฝึกวรยุทธ์ไม่ได้ แม้แต่สติปัญญายังถูกคนวางยาพิษทำลายจนอาจจะตายได้ภายในสามเดือน นับเป็นตัวไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง แต่แล้วเมื่อเธอบังเอิญได้พบกับท่านอ๋องผู้ไม่เคยหวั่นไหวกับสตรีใดอย่างซย่าโหวฉิงเทียน และช่วยชีวิตเขาไว้จากการลอบสังหาร ความเด็ดเดี่ยวของนางทำให้เขาสนใจอยากได้นางมาเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’ ของตน! แต่แล้วเมื่อรู้ว่านางคือว่าที่พระชายาองค์ชายสี่ เท่ากับมีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ของตน เช่นนั้นแล้วเขาจะทำเช่นไรกับ ‘แมวป่าน้อย’ ที่เขาสู้อุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมมาตัวนี้ดีเล่า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท