อวี้ซิงฉงเขียนอธิบายถึงเหตุผลที่ต้องจากไปเอาไว้ในจดหมาย
ที่แท้แล้วเสิ่นถูปั๋วอี่ก็เกรงว่าอวี้ซิงฉงจะล้าหลัง เพราะหากพวกเขาว่างเว้นไปหนึ่งวัน นั่นเท่ากับว่าอวิ๋นเฮ่อเทียนและศิษย์ของเขาก็ต้องก้าวหน้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวัน ดังนั้นเช้าวันนี้เสิ่นถูปั๋วอี่จึงพาอวี้ซิงฉงและหมีเยว่เดินออกเดินทางเพื่อไปหากงอวี่จาวจาวทันที
ที่ตอนท้ายของจดหมาย อวี้ซิงฉงยังนัดเจอกับอวี้เฟยเยียน ณ งานชุมนุมที่หุบเขาจื่อจิงอีกด้วย
เห็นทีว่านางจะต้องแยกจากกับพี่ใหญ่และซ้อใหญ่สักระยะหนึ่งเสียแล้ว!
ซึ่งอวี้เฟยเยียนก็ได้แต่จนใจ เดิมทีนางยังคิดที่จะจัดงานแต่งงานให้อวี้ซิงฉงและหมีเยว่ได้แต่งงานกันเสร็จเรียบร้อยก่อนค่อยว่ากัน
ตอนนี้เห็นทีคงต้องล้มเหลวเสียแล้ว
ซย่าโหวฉิงเทียนสำเร็จปราชญ์ราชันย์ สั่นสะเทือนเลือกลั่นไปทั่วทั้งอู๋โยว
และเรื่องราวที่ซย่าโหวฉิงเทียนสยบสุ่ยฮั่วอีได้ในกระบวนท่าเดียวทั้งรวมทั้งกองกำลังสกุลหลิวอีกกลุ่มใหญ่ลงได้ ก็เล่าลือกันไปใหญ่โตอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ภายในระยะเวลาสั้นๆ ตระกูลใหญ่ทั้งแปดถูกประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นกำจัดทิ้งไปถึงสองตระกูล ทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนในหัวใจของประชาชนเป็นดั่งเทพก็ว่าได้
โดยเฉพาะอย่างเมื่อตอนที่เขาบำเพ็ญทุกกรกริยา แหงนหน้ารับสายฟ้าแห่งเคราะห์ ณ เมืองลู่ จนสามารถสำเร็จเป็นปราชญ์ราชันย์อย่างราบรื่นได้ด้วยวิธีการแปลกประหลาดและโหดร้าย ยิ่งทำให้เขากลายเป็นที่โจษจันและยกย่องนับถือไปทั่วกันอย่างอื้ออึง
สำหรับเรื่องของรูปโฉมเหลาราวเทพบุตรของซย่าโหวฉิงเทียน ก็ถูกนำไปวาดขายภายในชั่วข้ามคืน และผลก็คือภาพวาดทั้งร้อยแผ่นถูกผู้คนแย่งกันซื้ออย่างบ้าคลั่งจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็ว
ฉับพลัน ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นก็กลายเป็นคนดังคนสำคัญของเมืองอู๋โยวในทันที
บรรดาจอมยุทธ์นักรบมากมายต่างก็ต้องการได้พบเห็นความสง่างามของเขาด้วยกันทั้งสิ้น หญิงสาวทั้งหลายนับไม่ถ้วนได้เห็นประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นเป็นต้นแบบของชายหนุ่มในดวงใจ ยังมีผู้คนจำนวนมากที่อยากที่จะประจบประแจงเอาอกเอาใจปราชญ์ราชันย์คนที่สามแห่งเมืองอู๋โยว
ดังนั้นเมือเฮ่อที่แต่เดิมก็ครึกครื้นอยู่แล้ว กลับยิ่งแน่ขนัดไปทันตาเพราะการมาของประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น ผู้ซึ่งได้รับการสรรเสริญนับถือไปทั่วแผ่นดินอู๋ดยวในขณะนี้
แฟนคลับตัวจริงจำนวนนับไม่ถ้วนรอคอยอยู่ด้านนอกของโรงเตี๊ยมเซียนเค่อ เพื่อหวังว่าจะได้เห็นต้นแบบของตนด้วยตาของตนเอง
แต่ทว่า หลังจากที่ได้ยินว่าประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นแต่งงานแล้ว บรรดาสาวๆทั้งหลายที่ดั้นด้นเดินทางมาจากถิ่นที่ไกลโพ้นก็ต้องหัวใจสลายร้องจนน้ำตาแทบเป็นสายเลือดก็ว่าได้
หนุ่มที่หมายปองแต่งงานแล้ว น่าเศร้าใจยิ่งนัก!
ซึ่งซย่าโหวฉิงเทียนรู้สึกรำคาญเป็นอย่างมากเมื่อเห็นความวุ่นวายที่ด้านนอกโรงเตี๊ยมเซียนเค่อ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกผู้หญิงที่เสแสร้งเดินผ่านหน้าโรงเตี๊ยม วันละสามรอบ ทิ้งผ้าเช็ดหน้า เสื้อเอี๊ยมเอาไว้ที่หน้าหน้าประตูโรงเตี๊ยมเซียนเค่อ หรือหากคนไหนใจกล้าด้านหน่อยก็ถึงกับโยนกางเกงชั้นในเข้ามาภายในโรงเตี๊ยมเลยทีเดียว จนตอนนี้ของเหล่านั้นกองพะเนินเทินทึก
นิสัยและวิถีทางของซย่าโหวฉิงเทียนทำให้ชื่อเสียงของเขาบนแผ่นดินหลัวอวี่ไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก แต่ทว่าเมื่อมาถึงยังเมืองอู๋โยวแห่งนี้ มันกับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม
ซึ่งก็ไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกเสียจากว่า อู๋โยวยกย่องชื่นชมผู้ที่มีวรยุทธ์แกร่งกล้าจนเข้าขั้นบ้าคลั่งไปเสียแล้ว
ความโหดเ**้ยมและดุดันของซย่าโหวฉิงเทียนในสายตาของหญิงสาวทั่วไปแล้ว มันช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติแห่งความเป็นผู้ชาย!
ซึ่งสิ่งนี้ทำให้อวี้เฟยเยียนโกรธเคืองเป็นอย่างมาก
‘พวกบ้า!’
ไอ้พวกใจกล้าหน้าด้านริอาจจะมาแย่งผู้ชายของข้า เบื่อชีวิตกันแล้วใช่หรือไม่? เพราะความหึงหวงทำให้อวี้เฟยเยียนหน้าบึ้งหน้าบูดตลอดทั้งวัน
เมื่อเห็นแมวน้อยของตนไม่สบอารมณ์ ซย่าโหวฉิงเทียนจึงหมุนกายเตรียมที่จะออกไปจัดการกับพวกที่ทำให้แมวน้อยของเขาอารมณ์เสียทีละคนให้นสิ้นซาก
“กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!” อวี้เฟยเยียนเรียกซย่าโหวฉิงเทียนเอาไว้
“เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง!” หากปล่อยให้ซย่าโหวฉิงเทียนออกไปละก็ ด้านนอกจะต้องเกิดการนองเลือดเป็นแน่ ซึ่งอวี้เฟยเยียนก็ไม่ต้องการที่ให้ซย่าโหวฉิงเทียนได้ชื่อเสียงว่าเลวทรามชั่วช้าติดตัว!
เรื่องของผู้หญิง แน่นอนว่าควรจะให้ผู้หญิงด้วยกันจัดการ
หานจื่อ พวกเราไป!
อวี้เฟยเยียนกวักมือเรียกหานจื่อแล้วขึ้นไปขี่หลังมัน จากนั้นก็เดินออกไปจากโรงเตี๊ยมเซียนเค่อด้วยความสง่าผ่าเผย
“ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น ข้ารักท่าน!”
“ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น ท่านหล่อเหลาเหลือเกิน”
“ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น ท่านคือแบบอย่างของข้า!”
เมื่อประตูใหญ่ของโรงเตี๊ยมเซียนเค่อเปิดออก เสียงอื้ออึงดั่งสนั่นหวั่นไหวจากด้านนอกดังสนั่นต้อนรับ หญิงชายมากมายยืนออกันบนถนนเต็มไปหมด แต่เสียงกรี๊ดกร๊าดตะโกนอื้ออึงขึ้นมาล้วนแต่เป็นเสียงของผู้หญิงทั้งสิ้น
จนกระทั่งพวกนางเห็นชัดเจนว่าผู้ที่มาเป็นหญิงผู้หนึ่ง เสียงทั้งหมดก็เงียบลงทันที ทุกคนกำลังค่อยๆจับจ้องมองสำรวจไปที่อวี้เฟยเยียน
ทว่า เมื่อเห็นซย่าโหวฉิงเทียนในชุดสีม่วงที่ตามมาติดๆที่ด้านหลังเข้า หญิงสาวเหล่านั้นต่างก็พากันร้องกรีดแล้วพุ่งตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่ละคนพยายามดันกันอย่างสุดฤทธิ์เพื่อต้องการที่จะได้อยู่ในสายตาของประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นให้จงได้
แม่เจ้า!
“จะมาแย่งนายท่านกับแม่นางน้อย?” เมื่อหานจื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า มันก็อ้าปากกว้าง ร้องคำรามเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น
“อ๋าว——บรู๊ว——”
“โอ๊ย——”
เสียงแก้วหูได้รับความเสียหาย ทำให้หญิงสาวที่แย่งกันวิ่งถลามาด้านหน้าล้มลง ตามมาด้วยคนข้างหลังที่เริ่มเหยียบคนข้างหน้า สะดุดคนข้างหน้า จนกระทั่งหญิงสาวนับร้อยล้มระเนระนาดนอนกองรวมกันกลายเป็นกองใหญ่ เสียงร้องแรกแหกกระเชิงดังรระงมทั่วทุกทิศทาง
“ฮ่าๆ”! อวี้เฟยเยียนเมื่อเห็นไม้ประดับเหล่านั้นล้มกองกันอยู่ที่เบื้องหน้าของตน ก็หัวเราะจนตัวงอ
“หานจื่อ ทำได้ยอดเยี่ยม!”
อวี้เฟยเยียนลูบหัวหานจื่อ ด้วยสีหน้าพึงพอใจ
ผู้ชายของนางมีคนมาชอบ นั่นก็แสดงว่าเขาดี และตัวนางเองก็สายตาแหลมคมยิ่งนัก
ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าเพียงแค่แอบชอบเท่านั้น แต่ว่าหากใครขวางหูขวางตาข้าละก็ ไปตายเสียเถอะ!
“แมวน้อยเด็กโง่!”
ซย่าโหวฉิงเทียนเมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของอวี้เฟยเยียน ก็อารมณ์แจ่มใส เขาจึงเอื้อมมือออกไปรับนางลงจากหลังของหานจื่ออย่างอารมณ์ดี
เสียงหัวเราะอันสดใสของอวี้เฟยเยียนนับเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายยิ่งนักเมื่อต้องมาอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่วุ่นวายเช่นนี้
เหล่าหญิงสาวที่เอาแต่ตบตีแย่งกันจนล้มระเนระนาดกองรวมกันคราวนี้ถึงได้พบว่า ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นปฏิบัติกับสาวน้อยในชุดสีชมพูที่มีความสุขบนความทุกขืของคนอื่นเช่นนี้
‘หรือว่า…นางก็คือฮูหยินของประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น?’
ตามคำที่เขาเล่าลือกันนางมีรูปโฉมอัปลักษณ์ ดังนั้นจึงเป็นหญิงลึกลับต้องสวมใส่ผ้าแพรปกปิดใบหน้าตลอดทั้งวัน?
ศัตรูหัวใจตัวจริงปรากฎตัวแล้ว!