คิดจะแย่งผู้ชายกับราชาอาวุโส?
นอกเสียจากว่าเจ้าคือเทพอาวุโส! อีกทั้งเจ้ายังต้องเป็นเทพอาวุโสสาวที่มีรูปร่างหน้าตางดงามอีกด้วย!
ซึ่งหญิงสาวอายุยังน้อยที่สามารถประสบความสำเร็จได้ถึงเพียงนี้ บนแผ่นดินอู่โยวแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้น บรรดาสาวน้อยที่ชื่นชมและปรารถนาในตัวประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น จึงทำได้เพียงแค่กัดฟันกอดภาพวาดเหมือนหลับฝันไปเท่านั้น ตรงกันข้ามกลับทำให้บรรดาศิลปินนักวาดภาพของเมืองอู๋โยวมีรายได้เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว
ซย่าโหวฉิงเทียนยุ่งวุ่นวายทำตัวเป็นความลับมาช่วงหนึ่ง ในที่สุดช่วงสิ้นเดือนห้า อวี้เฟยเยียน ตี้อู่เฮ่ออี้และซย่าโหวฉิงเทียนคนทั้งสามก็ออกเดินทางมุ่งหน้าเผ่าตันซ้ายได้เสียที
มีบทเรียนจากการหลงทางเมื่อคราวที่แล้ว ครั้งนี้ตี้อู่เฮ่ออี้จึงมิกล้าประมาทเลินเล่ออีกต่อไป
แม้ว่าซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนคนหนึ่งจะเป็นถึงปราชญ์ราชันย์ อีกคนคือราชาอาวุโสอยู่ข้างกายตี้อู่เฮ่ออี้จึงทำให้เขาไม่ต้องตกอยู่ในสภาวะอันตรายดังเช่นที่ผ่านมา แต่ทว่านี่เป้นครั้งแรกที่น้องสาวและน้องเขยของเขาเดินทางไปยังเผ่าตันซ้าย ตี้อู่เฮ่ออี้แทบอยากที่จะมีปีกให้มันรู้แล้วรู้รอด จะได้บินกลับไปแจ้งข่าวดีนี้ให้กับครอบครัวได้รู้
ซึ่งอาการ ‘จดจำทางไม่ได้’ ของตี้อู่เฮ่ออี้อวี้เฟยเยียนเคยได้ประจักษ์แก่สายตาตัวเองมาแล้ว
ตี้อู่เฮ่ออี้รู้จักเพียงแค่ ซ้ายขวาหน้าหลัง โดยที่แยกเหนือใต้ออกตกไม่ออก
ยังดีที่ซย่าโหวฉิงเทียนได้เตรียมแผนที่เมืองอู๋โยวเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่แรก มีซย่าโหวฉิงเทียนอยู่ ร่วมกับการที่ตี้อู่เฮ่ออี้บรรยายลักษณะภูมิทัศน์ของโดยรอบของหมู่บ้านหลังฮั่นแล้ว ในที่สุดคนทั้งสามก็เดินทางมาถึงเขาหลัวฮั่นในช่วงปลายเดือนหกในที่สุด
“ใช่แล้ว! ที่นี่แหละ!” ตี้อู่เฮ่ออี้ร้องขึ้นด้วยความดีใจพร้อมกับชี้ไปยังทิวเขาที่มองเห็นจากที่ไกลลิบนั่น
“น้องพี่ เจ้าดูสิ เขาลูกนั้นรูปร่างเหมือนพระนอนหรือไม่?”
“เหมือนจริงๆด้วย!” อวี้เฟยเยียนกล่าวไปก็ปาดเหงื่อไปด้วย
นางไม่เคยพบผู้ชายคนไหนที่มีเซ้นต์ในการเดินทางแย่เท่านี้มาก่อนเลย! ยังโชคดีที่ในที่สุดนางก็เดินทางมาถึงจุดหมายจนได้!
แต่ทว่า หลบซ่อนตัวของชาวตันวาช่างหายากยิ่งนัก รอบด้านเต็มไปด้วยภูเขาและป่าลึกรกชัด ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ป่าดุร้ายงูเงี้ยวเขี้ยวขอที่มีพิษมากมาย เส้นทางก็ราวกับวังปริศนาอย่างไรอย่างนั้น วกไปวนเสียเหลือเกิน
หากมิใช่ตี้อู่เฮ่ออี้คุ้นเคยกับเส้นทางด้านในเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงตระเตรียมหยูกยามาด้วยแล้วก็ ไม่รู้ว่าพวกนางจะต้องเสียเวลามากเพียงไหนกัน
“ตามข้ามา!” เมื่อใกล้จะถึงประตูหน้าบ้านก็ทำให้ตี้อู่เฮ่ออี้ดีอกดีใจเป็นอย่างมาก ตอนที่เขาจากมานั้นทิ้งเอาไว้เพียงแค่จดหมายฉบับเดียว ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อท่านพ่อเห็นแล้วจะโกรธเคืองใหญ่โตหรือไม่
ยังดีที่ในครั้งนี้ได้พบกับน้องสาว ถึงตอนนั้นทำคุณไถ่โทษ ท่านพ่อก็คงจะไม่กับใช้กฎบ้านกับเขาหรอกกระมัง ตี้อู่เฮ่ออี้ครุ่นคิดอยู่ในใจ
อวี้เฟยเยียนเดินตามหลังตี้อู่เฮ่ออี้เข้ามา ที่ด้านหลังของนางคือซย่าโหวฉิงเทียน
“น้องพี่ เจ้าวางใจเถอะ ไม่มีใครตามแน่นอน!” เมื่อเห็นซย่าโหวฉิงเทียนส่งดวงจิตคอยติดตามอยู่โดยรอบของคนทั้งสาม ตี้อู่เฮ่ออี้ก็ยิ้มออกมา
ตลอดเวลาที่เดินทางกันมา ซย่าโหวฉิงเทียนคอยระแวดระวังตลอดเวลา
หายากนักที่เขาจะคิดเช่นนี้ได้!
ผู้คนมากมายคอยเที่ยวตามหาตันซ้าย แต่หลายปีที่ผ่านมาตันซ้ายสามารถดำรงอยู่มาได้อย่างปลอดภัยไม่เพียงแต่อาศัยความซับซ้อนยากลำบากของเขาลั่วฮั่นเท่านั้นเสียเมื่อไหร่!
“อื้ม!” ซย่าโหวฉิงเทียนตอบรับ
ใกล้จะถึงบ้านของครอบครัวอวี้เฟยเยียนแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้เพราะอะไรซย่าโหวฉิงเทียนถึงได้รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เข้าข่าย ลูกเขยขี้ริ้วขี้เหร่อย่างไรก็ยังต้องพบแม่พ่อภรรยาอยู่วันยังค่ำ
ก่อนหน้านี้ที่ต้องไปปู่ของอวี้เฟยเยียน เขายังไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย!
‘หรือเป็นเพราะว่าสมาชิกในครอบครัวชาวตนซ้ายมีจำนวนมากเกินไป?’
‘ที่เขาว่า บ้านเมียมีสมาชิกมากมายไม่ใช่เรื่องดีเสมอไปจริงเสียด้วย——‘
ซย่าโหวฉิงเทียนคลายคอเสื้อให้หลวมลงเล็กน้อย อวี้เฟยเยียนเหลือบมองไปยังซย่าโหวฉิงเทียนเช่นนั้นก็ฉีกยิ้มออกมา
หายากนักที่จะได้เห็นซย่าโหวฉิงเทียนในอากัปกริยาแบบนี้ ท่าทางของเขาในตอนนี้ดูน่าสนุกยิ่งนัก!
มองออกว่าอวี้เฟยเยียนกำลังหัวเราะตนเอง ซย่าโหวฉิงเทียนจึงรีบก้าวอาดๆเข้าไปหานางทันที
“เจ้าดูสิ ว่าเสื้อผ้าของพี่เป็นอย่างไร? ผมเผ้าละ? เป็นระเบียบเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง?”
“ดีมาก สมบูรณ์แบบทุกอย่าง!” อวี้เฟยเยียนยิ้ม
“ท่านตื่นเต้นใช่หรือไม่?”
“เปล่าสักหน่อย” ซย่าโหวฉิงเทียนรีบปฏิเสธทันที
“ทำไมพี่ต้องตื่นเต้นด้วย!” ปากก็กล่าวไปเช่นนั้นแต่สีหน้าของเขากำลังบ่งบอกความในใจทุกอย่างของเขาออกมา
“ทุกอย่างมีข้าอยู่!” อวี้เฟยเยียนเอื้อมมือออกไปกุมมือใหญ่ของซย่าโหวฉิงเทียนเอาไว้
“เคียงข้างเจ้านะ!” คำพูดนี้ของนางทำให้ดังยาขนานเอกที่ทำให้หัวใจของซย่าโหวฉิงเทียนสงบ
ดูจากท่าทีของตี้อู่เฮ่ออี้แล้ว ชาวตันซ้ายควรจะเข้าหาได้ไม่ยาก อีกอย่าง ต่อให้พวกเขาเป็นพวกเข้าถึงยากก็ตาม เขาและแมวน้อยเป็นสามีภรรยากัน จึงม่มีอะไรต้องกังวล
เมื่อคิดจนเข้าใจอะไรๆขึ้นมาได้ จิตใจของซย่าโหวฉิงเทียนก็สงบลงมาก เขาจึงเป็นฝ่ายกุมมืออวี้เฟยเยียนเอาไว้
“พี่มีเจ้า!” สำหรับการแสดงความรักต่อกันชนิดหวานเยิ้มหยดย้อยเช่นนี้ตี้อู่เฮ่ออี้เห็นจนเคยชินเสียแล้ว
‘โจมตีกันเช่นนี้ มันจะดีหรือ?’
รู้ทั้งรู้ว่าเชียนเย่เสวี่ยไม่อยู่ข้างกายเขา แต่สองคนนี้ก็ยังแสดงความรักเผื่อแผ่มาถึงคนอื่นไม่เลิก ตั้งใจจะตอกย้ำกันชัดๆ!
เดินเท้ามาร่วมสองชั่วยามกว่าๆ ในที่สุดคนทั้งสามก็เดินมาถึงยังหุบเขาเล็กแคบแห่งหนึ่ง
“ถึงแล้ว!” ตี้อู่เฮ่ออี้ยืนอยู่เบื้องหน้าของก้อนหินขนาดใหญ่
“ที่นี่” ซย่าโหวฉิงเทียนกวาดสายตามองไปโดยรอบ นี่เป็นเพียงแค่ถ้ำบนเขาธรรมดาๆเท่านั้นเอง แล้วตันซ้ายอยู่ที่ไหนกันละ?
ราวกับมองออกว่าซย่าดหวฉิงเทียนกำลังข้องใจ ตี้อู่เฮ่ออี้จึงยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วหันไปพูดกับก้อนหินก้อนใหญ่นั้นว่า
“โสมภูเขา โสมภูเขา จงเปิดประตู!”
พรวด เมื่อได้ยินดังนั้น ทำเอาอวี้เฟยเยียนแทบจำลักเลยทีเดียว นี่มันต่างอะไรกับ เซซามี ประตูจงเปิดออก ในอาลาดินตรงไหนกัน?
เมื่อตี้อู่เฮ่ออี้กล่าวจบ ก้อนหินขนาดใหญ่นั้นก็เร่มเคลื่อนตัวออกจนสั่นสะเทือนไปทั่ว เผยให้เห็นเส้นทางเข้าไปสู่ด้านในถ้ำหินที่ทั้งเล็กและแคบ ซึ่งมีความสูงราวสองเมตรกว้างราวหนึ่งเมตรเห็นจะได้ออกมา
“น้องพี่ น้องเขย พวกเรารีบเข้าไปด้านในกันเถอะ!” ตี้อูเฮ่ออี้กล่าวพร้อมกับผายมือเชื้อเชิญ รอจนกระทั่งทุกคนเข้าไปด้านในกันครบแล้ว ตี้อู่เฮ่ออี้ถึงได้กลับหลังหันไปด้านทางเข้าอีกครั้งพร้อมกับเอ่ยว่า
“โสมแดง โสมแดง จงปิดประตู!”
ตี้อู่เฮ่ออี้นำทาง
ด้านในเดี๋ยวเดินอ้อมแม่น้ำใต้ดิน เดี๋ยวก็เดินทะลุหินงอกหินย้อย…
“อย่าแตะสิ่งเหล่านี้เด็ดขาด เดินตามรอยเท้าของข้า เพราะสิ่งโดยรอบนี้ล้วนแต่มีพิษร้ายแรงทั้งสิ้น! พวกเจ้าต้องระวังตัว!” ตี้อู่เฮ่ออี้เดินไปพลางก็กำชับไปพลาง
เดินต่อไปราวครึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็พบเจอแสงสว่าง ภาพของหมู่บ้านๆหนึ่งปรากฏต่อหน้าคนทั้งสาม
นี่เป็นหมู่บ้านเล็ก ที่มีสมาชิกราวสามสิบสี่สิบครอบครัว ทุกบ้านสร้างมาจากกระบอกไม้ไผ่ และพื้นที่โดยรอบก็ปลูกต้นไผ่เอาไว้