ตอนที่ 123 คุณชายสามเย่ที่หยิ่งผยอง
“แจ้งไปว่าให้มาประชุมทันที”คุณชายสามเย่หรี่ ตามองเลขาหลิว จากนั้นก็นำข้ออ้างเมื่อกี้มาทำให้เป็น จริง เขาก็เป็นคนเอาแต่ใจอย่างนี้แหละ ใครใช้ให้เขา เป็นเจ้านายกันเล่า?
เลขาหลิว”…”
ตอนนี้กี่โมงแล้ว? เป็นเวลาเลิกงานแล้ว บางคน ก็ได้กลับไปแล้วด้วย เขาจะไปแจ้งให้มาประชุมที่ไหน ได้ล่ะ?
“ท่านประธานครับ ตอนนี้เลิกงานแล้วครับ”เลขา หลิวรวบรวมความกล้าตอบหนึ่งประโยค ทุกครั้งที่ บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปนัดประธานก็จะวางแผนล่วงหน้า และแจ้งก่อนล่วงหน้าเสมอ ประชุมที่ท่านประธานเข้า ร่วมจะเป็นเรื่องที่สำคัญ ละเอียดอ่อน ครอบคลุมทุก สิ่ง
ท่านประธานพูดว่าจะประชุม นี้ไม่ใช้จงใจจะ ทำให้เขาลำบากใจหรือ?
“นายหมายความว่าไม่สามารถประชุมได้แล้วใช่ ไหม? “หางตาคุณซายสามเย่ยกขึ้น ดวงตาที่ชำเลือง มองเลขาหลิวไม่มีอารมณ์เมื่อกี้แล้ว ดูไม่ออกว่าจะมี
ภัยพิบัติอะไรแล้ว
ถึงแม้ว่าเวลานี้น้ำเสียงของเขาจะเรียบต่ำ แต่ว่าก็ เป็นเหมือนปกติ ดูความผิดปรกติไม่ออก
ราวกับว่าเมื่อสักครูนี้ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลย
“ผมจะรีบไปแจ้งว่าประชุมครับ”เลขาหลิวตัวสั่น เล็กน้อย ไม่กล้าพูดอะไรอีก
เขารู้สึกว่าตอนนี้ท่านประธานสงบเงียบอย่างนี้มัน น่ากลัวกว่าตอนที่เขาโกรธเมื่อสักครู่เสียอีก
เลขาหลิวรีบเดินออกจากห้องทำงาน เขารู้สึกว่า ถ้าเขาอยู่ต่อต้องไม่ตายดีแน่ๆ
หลังจากออกจากห้องทำงานแล้ว เลขาหลิวจึงรีบ นำมือถือออกมา เลขาหลิวรู้ว่าท่านประธานมีอารมณ์ ชั่ววูบ ออไม่สิ ถ้าพูดให้ตรงๆก็คือกำลังงอนคุณนายอยู่ แต่เรื่องนี้ก็ทำไปเรื่อยไม่ได้
ควรจะแจ้งบอกก็ต้องแจ้ง! !
เลขาหลิวโทรหาผู้บริหารระดับสูงของบริษัททีละ
คน
ยังดีที่เพิ่งจะเลิกงานไม่นาน คนที่ออกไปแล้วก็ไป ได้ไม่ไกลนัก จึงใช้เวลากลับมาไม่นานนัก
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ผู้บริหารระดับสูงของบริหารก็มา ถึงที่ห้องประชุมครบถ้วน
“ท่านประธานครับ เตรียมเสร็จแล้วครับ ไป ประชุมได้เลยครับ”เลขาหลิวไปเชิญคุณชายสามเย่พูดตามความจริงเวลานี้เขาไม่อยากจะไปหาท่าน ประธาน แต่เขาไม่มีทางเลือก
เลขาหลิวเชิญประธานของตนเข้าห้องประชุม แต่ หลังจากที่ประธานของตนนั่งลงก็ไม่ได้เอ่ยปากพูด อะไร ทุกคนในห้องจึงรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง
“ท่านประธานครับ ประชุมครั้งนี้จะหารือ เรื่อง …”เลขาหลิวรู้ดีว่าทำไมจู่ๆจึงได้มีการประชุมครั้ง นี้ ดังนั้นเกรงว่าประธานของตนก็ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าจะ หารือเรื่องอะไร
แต่ว่าในเมื่อมานั่งที่ห้องประชุมแล้ว ก็ต้องพูดอะไร บ้างสิ? ไม่เช่นนั้นแค่นั่งอยู่เฉยๆจะรู้สึกอึดอัดได้
“หารือเรื่องที่เกี่ยวกับการลงทุนในด้านของเพชร พลอย”คุณชายสามเย่ไม่ได้ยกสายตามองแม้แต่น้อย เพียงแต่ตอบด้วยเสียงเรียบๆหนึ่งประโยค
เลขาหลิวตกตะลึง เรื่องที่เกี่ยวกับการลงทุนใน ด้านของเพชรพลอย ท่านประธานยังไม่ได้พูดถึงราย ละเอียดอะไรเลย เลขาหลิวรู้ดีว่า ท่านประธานกำลัง รอดูสถานการณ์ของบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปอยู่แล้วจึงจะ ตัดสินใจ
ตอนนี้ทางบ้านของคุณนายยังไม่บอกว่าจะเข้า ร่วมเลย มีอะไรให้หารือกันนะ?
ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทไม่ทราบสาเหตุของ การประชุมที่แท้จริง พวกเขาเห็นว่าท่านประธานรีบร้อนที่จะประชุม เลยเข้าใจว่าเร่งด่วนมาก ท่าน ประธานถึงได้เรียกประชุมหารือแผนงานตอนนี้ ดังนั้น ทุกคนต่างนำเสนอความคิดของตนเอง เพื่อหวังว่าจะ ได้รับความเห็นชอบจากท่านประธาน
แต่ดูออกว่าคุณชายสามแต่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาฟังไม่เข้าเลยสักนิด
คุณชายสามเย่บอกว่าประชุม แต่ไม่พูดอะไรเลย ในที่ประชุมและยังดูมือถืออยู่ตลอดเวลา
เลขาหลิวเห็นก็รู้ว่าประธานของตนกำลังรอสาย จากคุณนายอยู่
ตอนคุณนายโทรมายังคิดจะหยิ่งผยอง ตอนนี้ยัง คิดที่จะให้คุณนายโทรมาหาอีก?
ท่านประธานคิดเป็นจังเลย…
สามารถเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทตระ กูลเย่กรุปก็ต้องเป็นคนที่เฉลียวฉลาดอย่างแน่นอน ใน ไม่ช้าก็สังเกตเห็นว่าจิตใจของท่านประธานไม่อยู่กับ ร่องกับรอย ทุกคนต่างจ้องหน้ากัน ไม่เข้าใจว่าท่าน ประธานกำลังคิดจะทำอะไรอยู่?
“ท่านประธานครับ ผลงานการออกแบบของคุณ เฉียวนั้นโดดเด่นสร้างสรรค์ไม่มีใครเทียบ”มีผู้บริหาร ระดับสูงคนหนึ่งลองพูดหนึ่งประโยค ถ้าหากตอนนี้ใจ ของท่านประธานไม่อยู่กับร่องกับรอย นั่นแสดงว่ามีคำ ตอบในใจแล้วแน่ๆเลย แค่อยากให้พวกเขาพูดออกมา
ผู้บริหารท่านนี้นึกขึ้นเรื่องที่เฉียวหยูหนานให้ สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าท่านประธานมีความต้องการจะ ร่วมลงทุนกับเฉียวชื่อจิวเวอร์รี่ตั้งนานแล้ว ดังนั้นเขา คิดว่าท่านประธานได้ตัดสินใจร่วมลงทุนกับตระกูล เฉียวตั้งแต่แรกแล้ว
จากตอนแรกเย่ซื้อเฉินที่เพ่งความสนใจอยู่ที่มือ ถืออยู่นั้น เมื่อได้ยินคำนี้ก็รีบมองไปยังผู้ออกความคิด เห็นนี้ทันที พูดด้วยเสียงไม่หนักไม่เบาว่า”ความหมายที่ คุณพูดคือเลือกตระกูลเฉียวแล้ว….”
น้ำเสียงของเย่ซือเฉินต่ำ ไม่สามารถแยกแยะได้ ว่าเป็นคำพูดที่แสดงความแน่นอนหรือเป็นประโยค คำถามได้ในเวลาอันสั้นนี้
เลขาหลิวหยุดชะงัก เป็นสถานการณ์แบบไหน
กัน?
เป็นเพราะท่านประธานทะเลาะกับคุณนาย จาก นั้นก็เลยไม่คิดจะให้โอกาสกับบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปแล้ว หรือ?
ท่านประธานที่เคารพ ถ้าคุณทำอย่างนี้ต้องเสียใจ ภายหลังอย่างแน่นอน ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ควรหุนหันพลัน แล่น
เลขาหลิวคิดที่จะเอ่ยปากเตือน
“ท่านประธานหมายถึง…”ผู้บริหารคนนั้นคิดว่าตัว เองเดาใจประธานถูกแล้ว แอบรู้สึกดีใจนิดๆ
“ผู้จัดการหู คุณกำลังคิดว่าผมกินอิ่มจนแน่นท้อง ไม่มีอะไรทำใช่ไหม? “เย่ซือเฉินมองเขาด้วยดวงตาที่ เยือกเย็น
ได้ยินประธานของตนพูดเช่นนี้ ผู้จัดการหูก็ตกใจ
จนเหงื่อท่วมตัว เขาพูดอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ถึง
จะให้พลังความกล้ากับเขาเพียงใด เขาก็ไม่กล้าว่าท่าน
ประธานอย่างนี้หรอก! ! คนอื่นต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หลังจากนั้น ก็เข้าใจแล้วว่าถ้าท่านประธานคิดจะร่วมลงทุนกับ ตระกูลเฉียวแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องจัดกิจกรรมครั้งนี้สัก
ใหญ่โตหรอก เลขาหลิวขยิบปาก ไม่ใช่ว่าท่านประธานกินอิ่มจน แน่นท้องไม่มีอะไรทำหรอกเหรอ?
คุณนายโทรมาเรียกให้ท่านประธานกลับบ้าน แต่ ท่านประธานไม่กลับ แล้วยังจะทำให้คนมากมายมา เสียเวลาเหนื่อยด้วยกันอย่างนี้
โอ้ย! การประชุมนี้เมื่อไหร่จะจบจะสิ้นกันเสียที?
เลขาหลิวอยากจะโทรหาคุณนาย เชิญคุณนายมา ช่วยคลายสถานการณ์ให้หน่อย แต่เขาไม่มีเบอร์ โทรศัพท์ของคุณนาย
ในห้องประชุมจึงเงียบกริบ เพราะทุกคนไม่รู้ว่า ท่านประธานหมายความว่าอย่างไร จึงไม่มีใครกล้าเอ่ย ปากพูด
ในขณะนี้ มือถือของคุณชายสามเย่ก็ดังขึ้น
ดวงตาคุณชายสามเย่วิบวับ รีบเอามือถือขึ้นมา นาทีนั้น จากปกติที่มีสีหน้าไม่เคยเปลี่ยนแปลงก็ สามารถดูออกว่ามีอารมณ์ผิดไปจากเดิม
ผู้คนในห้องประชุมต่างตกตะลึงตาค้าง พวกเขา เป็นพนักงานระดับสูงของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป ทำงาน อยู่ที่นี่ตั้งนานแต่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นท่าน ประธานรอรับสายโทรศัพท์เช่นนี้
เป็นสายของใครกันนะที่ทำให้ท่านประธานรอ คอยอย่างรีบร้อน?
เลขาหลิวหยุดชะงัก หรือเป็นคุณนายที่โทรมา อีก?
ถ้าเป็นเช่นนี้ คุณนายก็เป็นคนที่มีคุณธรรม ใจคอ กว้างขวางโอบอ้อมอารีเป็นอย่างยิ่ง เขาต้องนับถือ คุณนายเป็นอย่างมาก! !
แน่นอน เลขาหลิวหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นสาย
เรียกเข้าจากคุณนาย ถ้าเป็นเช่นนี้พวกเขาก็ไม่ต้องมา
นั่งทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป
ขณะนี้คุณชายสามเย่ได้เอามือถือขึ้น ดวงตาทั้ง สองรีบมองอย่างใจจดใจจ่อ พอตอนเห็นชื่อที่แสดงบน หน้าจอมือถือ…