บทที่ 190 คุณชายสามเย่แสดงอำนาจแล้ว (2)
“เงินลั่วฉิง ฉันให้เวลาเธอหนึ่งนาที ถ้าหลังจากหนึ่งนาทีฉัน ยังไม่เห็นเธอล่ะก็ ฉันจะเข้าไปจับเธอออกมาเอง” เมื่อรับสาย เสียงที่เย็นชาและกดดันของเย่ซื้อเฉินก็ดังออกมาทันที
อีกทั้งประโยคเมื่อสักครู่ของเขานั้น ยิ่งทำให้ใจที่ตื่นตระ หนกของเวินลั่วฉิงแทบจะหยุดเต้น ตอนนี้เธอไม่สนว่าคุณปู่ เงินจะสงสัยอะไรแล้ว เธอจับโทรศัพท์แน่นแล้วรีบออกไป ด้านนอกทันที
เธอรู้ดีว่าเย่ซื่อเฉินเป็นคนพูดจริงทำจริง
คุณปู่เงินนิ่งอึ้งไป จากนั้นก็ยิ้มออกมา รอยยิ้มนั้นช่าง เหมือนจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์เสียจริง
เป็นลั่วนิ่งรีบร้อนออกจากโรงแรม จากนั้นก็เห็นรถของ เย่ซื้อเฉินจอดอยู่ด้านนอกประตูโรงแรม
เป็นลั่วนิ่งรีบวิ่งเข้าไป เปิดตูรถ และขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว
“ที่รัก ยังไม่ไปอีกเหรอ” เงินลั่วฉิงเมื่อขึ้นรถแล้วก็มองไป ยังเย่ซื้อเฉินที่ทำหน้าเคร่งขรึมอยู่ เธอทำเป็นยิ้มทักทาย เพราะเธอดูออกว่าเย่ซื่อเฉินอารมณ์ไม่ดี ฉะนั้นเธอจึงไม่ยั่ว แหย่อะไรเขาได้แต่ตามน้ำไป
แต่ไหนแต่ไรมาเธอเป็นคนไม่กลัวอะไรทั้งนั้น แต่ไม่รู้ทำไมถึงใต้กลัวเสียชื่อเฉินทุกครั้ง
เธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วท่าไมต้อง กลัวเขาด้วยล่ะ เธอรู้สึกว่าตัวเองยิ่งอยู่ก็ยิ่งไม่ได้เรื่อง
“ที่หลังไม่ต้องมายิ้มแบบนี้อีก” เย่ซื้อเฉินหรี่ตาลง อยู่ ๆ เขาก็นึกถึงตอนที่เธอยิ้มแบบนี้ต่อหน้าเย่อหยู่นาน เธอไม่รู้ หรือไงว่าเวลาที่เธอยิ้มแบบนี้มันดูสดใส เย้ายวนตาเย้ายวน ใจมากแค่ไหน
“ทำไมล่ะ” เงินลั่วฉิงขมวดคิ้วสงสัย ไม่ใช่ว่าถ้ายอมรับผิด แล้วจะไม่โดนตีหรอกเหรอ เธอยิ้มให้เขาก็ผิดเหรอ
“รำคาญตา” แน่นอนว่าคุณชายสามเยดไม่ยอมรับหรอกว่า ตัวเองทิ้ง เลยหาข้ออ้างพูดไปเรื่อย แต่ทว่าตอนนั้นที่เขาเห็น เธอยิ้มแบบนั้นให้เย่อหยู่นาน เขารู้สึกรำคาญตาจริง ๆ ฉะนั้นเหตุผลที่เขาอ้างมานี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องจริง
เวินลั่วฉิงกระพริบตาเล็กน้อย รำคาญตาเหรอ รอยยิ้มของ เธอมันน่ารำคาญสายตามากเหรอ
ถ้าเขารู้สึกรำคาญตาก็ไม่ต้องมองสิ
เวินลั่วฉิงนึกถึงเหตุผลในตอนแรกที่เขาขอเธอแต่งงาน ตอนนั้นเขาบอกว่าที่เขาเลือกเธอ เพราะเธอหน้าตาน่า
เกลียด
เงินลั่วชิงยกมุมปากขึ้น ฉีกยิ้มไม่หยุต อีกทั้งยิ่งยิ้มอย่างสดใสมากขึ้น แถมเธอยังจงใจยื่นหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม นั้นยื่นเข้าไปใกล้เขาอีกด้วย
รําคาญดาใช่ไหม งั้นเธอก็ยิ้มจนเขาตาบอดไปเลย
เย่ซื่อเฉินตะลึงไปนิดหน่อย กระพริบตาเล็กน้อย เขาเป็น คนฉลาดมาก มีเหรอที่จะดูไม่ออกว่าใจเธอติดอะไรอยู่ เขา เอ่ยปากพูดว่า : “อยู่ต่อหน้าฉันเธอมีสิทธิ์ยิ้มได้” เมื่อพูด ประโยคนั้นจบเขาก็หยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อว่า : “เพราะ ฉันชอบ..
รอยยิ้มบนใบหน้าเป็นลั่วฉิงนิ่งค้างไป ดวงตาคู่นั้นของเธอ กลมโตจ้องมองไปที่เขาเหม่อมองไปที่เขาอยู่ครู่หนึ่ง
เขาชอบเหรอ เขาชอบอะไร ชอบดูเธอยิ้มแบบนี้เหรอ
เมื่อกี้เขายังพูดอยู่เลยว่ารอยยิ้มเธอมันน่ารำคาญตานัก แล้วทำไมถึงชอบ
เขาต้องไม่อยากเห็นเธอยิ้มแน่ ๆ เลยจงใจพูดออกมา แบบนี้
เขาจงใจพูดในสิ่งที่ตรงกันข้าม
อืม ต้องเป็นแบบนี้แน่นอน
ที่จริงแล้ว เขาเป็นคนที่ร้ายลึก ร้ายกาจที่สุด
“งั้นเหรอ ถ้านายชอบ ฉันก็จะยิ้มแบบนี้ให้นายทุกวันเลย”เป็นลั่วจึงรู้สึกว่าตัวเองไม่น่าจะติดผิด ดังนั้นเธอจึงฉีกยิ้ม สดใสให้เขาอีกครั้ง
ขณะที่เธอพูดอยู่นั้น ก็จงใจที่จะเอียงตัวไปที่ด้านหน้าเขา
เย่ซื่อเฉินเห็นท่าทางของเธอ ในใจก็อตที่จะขำไม่ได้ เขา รู้สึกว่าบางครั้งเธอก็ซ่างน่ารักจริง ๆ ไร้เดียงสา ใสชื่อ บริสุทธิ์
สีหน้าท่าทางของเขาดูอบอุ่นขึ้นเป็นกองเลย แต่ในขณะที่ เธอโน้มตัวมาที่ด้านหน้าเขานั้น ชุดที่เธอสวมใส่มันทำให้ เห็นเรือนร่างของเธอชัดเจนยิ่งขึ้น รูปร่างเธอนั้นช่างเย้ายวน ซะจริงเชียว ถึงขั้นที่สามารถยั่วยวนให้คนทำผิดได้เลยที เดียว
สีหน้าของเยีชื่อเฉินเคร่งขรึมขึ้นมาทันที ดวงตาคู่นี้หรี่ลง : “ใครใช้ให้เธอแต่งตัวแบบนี้ไปร่วมงานเลี้ยง”
เงินลั่วชิงขมวดคิ้ว เอ๊ะ อยู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่อง จะมาไม้ไห นอีกเนี่ย หรือเขารู้สึกว่าเธอยิ้มจนน่ารำคาญมากเกินไปแล้ว ทนดูต่อไปไม่ได้แล้วเหรอ แล้วจงใจเปลี่ยนเรื่องคุย
“ชุดราตรีที่คุณปู่เตรียมให้ฉันถูกเวินหรวนหรวนทำเสีย หายจนหมด” ในเมื่อเย่ซื้อเฉินถามขึ้นมา เวินลั่วฉิงก็ตอบเขา ไปตามความจริง
“ดังนั้น เธอก็เลยเลือกชุดนี้เหรอ เอามาจากไหน” เยชื่อเงินไม่พอใจกับคำตอบของเธอนัก ถึงแม้ชุดเดิมจะโดน ทำลาย แต่เธอก็ไม่ควรจะเลือกใส่ชุดนี้
ชื่อเฉินแอบคิด ถ้าหากเขารู้ว่าใครขายชุดนี้ให้เธอล่ะก็ เขาจะสั่งปิดร้านนั้นซะ
เป็นลั่วจิงฟังเสียงเขาที่กัดฟันถามออกมาอย่างสงสัย เธอ กระพริบตา ได้ยินมาว่าผู้ชายเป็นเพศที่หวงของมากที่สุด จะ ไม่เต็มใจให้ภรรยาตัวเองสวมชุดเซ็กซี่ยั่วยวนต่อหน้าผู้ชาย คนอื่นเด็ดขาด เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับความรู้สึกอะไรหรอก แต่ เป็นเรื่องของผู้ชายที่มีความคิดว่าผู้ชายต้องเป็นใหญ่
ฉะนั้น ซื้อเฉินจึงไม่พอใจในชุดราตรีที่เธอสวมใส
“ฉันให้มู่หรงตัวหยางเป็นคนออกแบบให้ แต่ฉันก็คิดไม่ ถึงว่าเขาจะออกแบบเป็นอย่างนี้” เป็นลั่วฉิงคิดว่า ไหน ๆ เย่ซื้อเฉินก็ถามแล้ว เธอก็ตอบ ๆ ตามความจริงไปจะได้จบ ๆ เธอเป็นเด็กที่ซื่อสัตย์คนหนึ่ง อีกอย่าง เธอไม่กล้าโกหก เยซื้อเฉินด้วย
“มู่หรงตัวหยางเหรอ ได้ ดีมาก” เลยชื่อเฉินกัดฟันแน่น เสียงเย็นยะเยือกนั้นรู้สึกเหมือนจะฆ่าคนได้เลยทีเดียว
มู่หรงดัวหยางออกแบบชุดราตรีอย่างนี้ให้ภรรยาเขางั้น เหรอ ได้ เดี๋ยวเห็นดีกัน
เขากล้ารับประกันว่ามู่หรงตัวหยางจงใจทำ
เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ดูสถานการณ์แล้ว ปัญหาหลังจากนี้คงจะหนักน่าดู คงเป็นเรื่องใหญ่แน่ เธอรู้สึก ได้ถึงรังสีอำมหิต
เธอได้แต่แอบอธิษฐานในใจให้แก่มู่หรงตัวหยาง อธิษฐานให้มู่หรงตัวหยางขอพรให้ตัวเองสำเร็จด้วยเถอะ
ทันใดนั้น อีกฟากหนึ่ง มู่หรงตัวหยางอยู่ ๆ ก็รู้สึกหนาวสั้น ไปทั้งตัว
“ไม่ได้การแล้ว ไม่ได้การแล้ว ฉันรู้สึกว่าฉันต้องหลบหนี แล้ว รอให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปก่อนสักพัก เรื่องนี้เงียบไปแล้ว ฉันค่อยกลับมา” มู่หรงตัวหยางลุกขึ้นทันที จากนั้นก็รีบเก็บ ข้าวของของตัวเองอย่างรวดเร็ว
ฉิงฉิงของเขาแต่ไหนแต่ไรมาเป็นคนขี้ใจอ่อน รอให้ผ่าน ช่วงนี้ไปก่อนก็คงหายโกรธเขาไปเองแหละ เดี๋ยวเรื่องนี้ก็ ผ่านพ้นไป
ใช่ เขาสามารถหลบเงินลั่วชิงได้ แต่ถ้าหากเป็นคุณชาย สามเย่ล่ะ เขาจะหลบได้เหรอ
“ที่รัก ธุระที่ประเทศ R นายจัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ” เงินลั่วนิ่งไม่ได้ตั้งใจจะอยากรู้เรื่องของเขา แต่เธอรู้สึกว่า ตอนนี้บรรยากาศตึงเครียดเกินไป เลยอยากเปลี่ยนเรื่อง คุยสักหน่อย
เชื่อเงินจ้องหน้าเธอเธอยังกล้าถามเรื่องนี้ออกมาอีกเท รอ เป็นเพราะเธอไปร่วมงานเลี้ยงหาคู่นั้นใจ เขาเลยต้องทิ้ง งานที่นั่นแล้วรับกลับมา
แต่โชคดี ที่เขากลับมาทันเวลาพอดี
เวินรั่วฉิงแอบถอนหายใจ ค่ำวันนี้รอบ ๆ ตัวเขากลายเป็น เขตที่มีแต่ทุ่นระเบิด เหยียบไปตรงไหนตรงนั้นก็ระเบิดออก มางั้นเธออยู่อย่างเงียบ ๆ จะดีกว่า
เย่ซื่อเฉินเห็นเธอเงียบไม่พูดอะไรต่อ เลยทำเสียง เหอะ ออกมาค่าหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ตั้งหน้าตั้งตาขับรถ ออกไป
เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ เย่ซือเฉินขับรถไปจอด เวินลั่วฉิงจึง ลงจากรถก่อน ขณะที่เงินลั่วชิงกำลังจะเอ่ยปากขอตัวเข้าไป ด้านในก่อนนั้น เสียงโทรศัพท์เธอก็แจ้งเตือนว่ามีข้อความ เข้า
เป็นลั่วถึงตาเป็นประกายเล็กน้อย นี้เป็นเสียงที่เธอจงใจ ตั้งขึ้น เป็นเสียงแจ้งเตือนที่ไว้ใช้เฉพาะกับ…