บทที่ 197 เขาเป็นพ่อคนแล้ว(2)
บทที่ 167 เขาเป็นพ่อคนแล้ว(2)
ป่าป๋า?! ชั่วขณะนั้นเยชือเฉินรู้สึกว่าเหมือนตัวเองได้ยิน เสียงหลอน..
ชื่อเฉินเพิ่งเห็นผู้หญิงที่ลงจากรถไม่ใช่เวินสั่วฉิง กำลัง อยากจะโทรหาเว็นลั่วอึ้งทันที ดังนั้น โทรศัพท์ดังขึ้น เขาก็
เลยรับทันที แต่ว่า ใครพอจะบอกเขาได้ไหมว่ามันเรื่องอะไรกัน?
ทำไมถึงมีเสียงที่หวานๆ เพราะๆ มาเรียกเขาว่าป่าป่า?
เขาเพิ่งแต่งงานกับเงินลั่วชิง ถึงจะเร็วก็คงจะไม่เร็วขนาดนี้ มั้ง! โดยเฉพาะ พวกเขายังไม่ได้ร่วมหอกันเลย!
เยซื้อเฉินแปลกใจเป็นอย่างมาก น่าตกใจจริง แต่ไม่รู้ว่า เพราะอะไรได้ยินเสียงนี้แล้ว ใจลึกๆของเขาเหมือนจะหวั่น ใหวไปชั่วขณะ
ความรู้สึกนี้มันแปลกมาก
ปกตเขาก็ไม่มีผู้หญิงคนไหน นอกจากผู้หญิงเมื่อห้าปีที่ แล้ว เย่ชื่อเฉิน นัยน์ตาของเย่ซื่อเฉินจู่ๆก็เปล่งประกายขึ้นมา
ทัน
ทางนี้ ถังจื่อโม่ก็ตกใจเหมือนกัน ในใจรู้สึกไม่ดี ป่าป่าคำ นี้จะถูกเปิดเผยโดยตรงมั้ย?
เขาไม่คิดเลยว่าจู่ๆจื่อซีจะพุ่งมาแบบนี้ แล้วมันก็บังเอิญที่ ทำให้โทรออกไป และจื่อซีก็ตะโกนเรียกป่าป้าด้วย
ตอนนี้สถานการณ์กำลังย่ำแย่ควรจะทำยังไงดี? เขารู้ว่า ฐานะของเขากับน้องสาวจะถูกเปิดเผยไม่ได้ โดยเฉพาะที่ เมืองA
ถังจื่อโม่กลอกตาเล็กน้อย ทันใดนั้นก็นึกได้หนึ่งวิธี
ถังจื่อโม่ปรับอารมณ์แป็บเดียว จากนั้นก็ทำเสียงร้องไห้ เรียก: “ป่าป๋า ป่าป้าอยู่ไหน ป่าป้ารีบกลับมานะ แม่กับ คุณย่าทะเลาะกัน หากป่าป้าไม่รีบกลับมา บ้านถล่มแน่”
คุณอามู่หรง เคยบอกไว้ว่า ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ของ ประเทศจีนเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุด ผู้ชายคนหนึ่งต้องอยู่ ระหว่างกลางเป็นเรื่องที่ลำบากใจมาก
ดังนั้น ในสถานการณ์ย่ำแย่แบบนี้ ทันใดนั้นเขาจึงคิดถึง
วิธีนี้
เด็กน้อยถังจื่อซีกลอกตาไปมา มองไปที่คุณแม่ทั้งสองที่ กำลังคุยกันอยู่ในห้องรับแขก แล้วมองมาทางพี่ชายตัวเอง ยกมุมปากขึ้น เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่: “พี่ พี่.
คำว่าโกหกของถังจือทียังไม่ทันได้พูดออกมา ก็ถูกถังจื่อ โม่มาปิดปากไว้เสียก่อน
“น้องเป็นเด็กดีนะ ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวป่าป่าก็กลับมาแล้ว ขนาดที่ถังจื่อโม่ปิดปากของจื่อชีไว้กลัวว่าจะทำให้เยชื่อเฉิน สงสัย เลยได้พูดเสริมขั้นมาประโยคหนึ่ง
ถังจื่อซีกะพริบตา เหมือนจะไม่เข้าใจ และเหมือนจะเข้าใจ ก็ไม่ได้พูดอะไร
เย่ซื่อเฉินอึ้งไปอีกครั้ง ปกติที่เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วแต่ กลับอดไม่ไว้จนต้องถาม: “หนูคือ???”
อันที่จริงก็รู้ว่าน่ะจะเป็นสายที่โทรผิด แต่จู่ๆ ในใจเขามี ความรู้สึกผิดหวังที่อธิบายไม่ได้ ความรู้สึกที่ต่างกันอย่าง กะทันหันนี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัด ชั่วขณะทำให้เขาไม่อยากที่ จะวางสายไปแบบนี้
โดยเฉพาะเสียงของเด็กผู้หญิงคนนั้น ทำให้เขามีความ รู้สึกเสียดายที่จะวางสาย
“ผมเป็นลูกของป่าป๋าไงครับ ป่าป้าแก่จนเป็นอัลไซเมอร์ แล้วเหรอ? ตอนเช้าเพิ่งออกไปเอง ก็ลืมลูกชายตัวเองแล้วเห รอ? เป็นเพราะเมื่อคืนหม่ามทะเลาะกับป่าป้าหรือเปล่า ทำ ให้ป่าป้าโกรธจนเลอะเลือน? ป่าป้า ห้ามลืมผมนะ” เสียง ของถังจื่อโม่เหมือนกำลังร้องไห้ การแสดงนี้แสดงได้สมจริง มาก
“หนูโทรผิดแล้วจ๊ะ ฉันไม่ใช่ผมของหนู” เสียงของเด็ก ผู้ชายยังเป็นเสียงของเด็กน้อย ฟังแล้วก็น่าจะไม่กี่ขวบ ตอน นี้กลัวจนจะร้องไห้ออกมาแล้ว ดังนั้นเยซือเฉินก็เลยไม่ได้ สงสัยอะไร
“ห้า? ผมโทรผิดเหรอเนี่ย? ถังจื่อโม่แกล้งทำเป็นตกใจ “คุณไม่ใช่ป่าป้าของผม ขอโทษครับ งั้นเดี๋ยวพ่อ โทรหาป่า ป๋าอีกครั้ง”
ถังจื่อโม่ถอนหายใจอย่างเงียบ แล้วกำลังจะวางสาย
“รอก่อน หนูชื่ออะไรเอ่ย? แม่หนูชื่ออะไร?” จู่ๆนัยน์ตาของ เยซื้อเฉินเป็นประกาย เมื่อกี้เด็กน้อยบอกว่าคุณแม่ของเธอ กับคุณย่ากำลังทะเลาะกัน ยังบอกว่าบ้านเกือบจะพังแล้ว เขาทำไมถึงไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
เขาไม่อยากสงสัยว่าเด็กโกหก
แต่เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรที่ผิดปกติ รู้สึกว่าเรื่องนี้มีหลายจุดที่
แปลกๆ
แน่นอน เขาจะไม่ยอมรับไม่ได้ ขณะนี้ยังคงมีช่องว่างที่ไม่
สบายใจภายในใจของเขา
ดังนั้น เขาถามอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้
“แม่ผมชื่อเห่อถงถง ผมชื่อ โม่โม่ครั้ง คุณอา คุณอายังมี อะไรจะถามไหมครับ? ผมยังต้องโทรป่าป่าของผมอีกครับ”ตอนที่ถังจือโม่คิดจะวางสายนั้น ก็ได้ยินคำถามนี้ ใจดวงนี้ ถูกแขวนขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ได้ตัดสินใจตอบออกมาทันที
ไม่ถือว่าเขาพูดโกหก เพราะเขาก็เรียกเห่อถงถงว่าแม่ จริงๆ ส่วนชื่อจริงของแม่แท้ๆนั้น ถังจื่อโม่รู้ว่าเวลานี้ไม่ สามารถที่จะบอกเยชือเฉินได้
ถังจื่อโม่ตอบคำถามได้เร็วมาก และเป็นธรรมชาติมาก ด้วย ทำให้เยซื้อเฉินที่อยู่อีกฝั่งอึ้งไปชั่วขณะ แล้วก็รีบถาม อีกหนึ่งคำถาม: “น้องสาวหนูอายุเท่าไหร่แล้ว? และหนูอายุ เท่าไหร่?”
ถังจื่อโม่เป็นเด็กที่ฉลาดมาก ฟังออกว่าเยซื้อเฉินกำลัง สงสัยเขา เมื่อกี้ก็ตกลงกันดิบดี ว่าจะวางโทรศัพท์แล้ว จู่ๆ ทำไมถึงสงสัยเขาขึ้นมา?
สามีใหม่ที่แม่หานั้นเหมือนจะหลอกไม่ได้ง่ายๆ!
“น้องผมปีนี้สามขวบครึ่ง ผมเจ็ดขวบครับ” ถังจื่อโม่ยังคง ตอบอย่างฉะฉานและรวดเร็ว แต่ในใจกำลังคิดว่าทำไมอยู่ๆ เยซื้อเฉินถึงเกิดความสงสัย
เขากลอกตาไปหนึ่งรอบ แล้วก็รู้ว่ามีปัญหาตรงไหน เมื่อกี้ เขาบอกว่าแม่กำลังทะเลาะกับย่า แต่ว่าในห้องนี้มันเงียบ สงบเกินไป
ไม่ได้ เขาต้องคิดหาวิธีให้มีเสียง ทำให้มีเสียงของการทะเลาะที่รุนแรง
ดังนั้น เขาต้องคิดหาวิธีใหม่
ถังจื่อ โม่กลอกตาไปมาจู่ๆก็มีความคิดขึ้นมา เขาลุกขึ้น ยืน จงใจกระทืบเท้าอยู่ที่เดิม แล้วทำเสียงที่ร้อนใจตะโกน “น้อง อย่าวิ่งไปเรื่อย เดี๋ยวหลงจะทำยังไง?”
เพื่อให้สมจริง ถังจื่อโม่ยังไปผลักถังจื่อซีให้เดิน เพื่อให้ เธอทำเสียงเดินออกมา
เขาเพียงแต่แค่ผลักเบาๆเท่านั้น จู่ๆถังจื่อซีก็ล้มลงไปบน พื้น หลังจากนั้นก็ร้องให้ทันที: “พี่คะ เจ็บ”
ถังจื่อโม่อึ้งไปชั่วขณะ เมื่อกี้เขาก็ไม่ได้ใช้แรงมากนะ และ ปกติน้องสาวก็ไม่ค่อยร้องไห้ ปกติล้มลงบนพื้นจนผิวหนัง ถลอกยังไม่ร้องเลย ครั้งนี้เป็นอะไรเหรอ?
ก็ดีเหมือนกัน แบบนี้ยิ่งทำให้สมจริงมากขึ้น ถังจื่อโม่รีบ เอาปากไปจ่อไว้ที่โทรศัพท์แล้วพูดกับเย่ซือเฉิน: “คุณอาครับ ผมกับน้องตอนนี้หลบอยู่ข้างนอก น้องสาวผมวิ่งหนีแล้ว คุณ อาครับผมไม่คุยกับอาแล้วนะครับ ผมจะไปหาน้องแล้ว”
ครั้งนี้ เยซือเฉินก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกต่อไป และคำ พูดของถังจื่อโม่ที่บอกว่าหลบอยู่ข้างนอกก็ได้อธิบายความ สงสัยก่อนหน้านั้นของเขา สถานการณ์แบบนี้ เขาก็ควรที่จะ วางสายได้แล้ว
เพียงแต่ ในห้องรับแขกเว้นลั่วชิงและเห่อถงลงใต้ยินเสียง ร้องไห้ของถังจื่อซี ก็รีบวิ่งมาอย่างรวดเร็ว
“เป็นอะไร? ลูกรักเป็นอะไรจ๊ะ?”
เย่ซื่อเฉินที่กำลังจะวางสาย ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของผู้ หญิง ท่าทางที่จะวางสายของเขาถูกระงับทันที
ถังจื่อโม่ที่คิดจะวางสาย พอเห็นเวินลั่วฉิงเข้ามาอย่าง กะทันหัน ตื่นเต้นจนไม่ได้วางสาย แต่กลับกดเปิดลำโพงอีก จากนั้นคำพูดของเยซือเฉินที่ส่งผ่านมาจากโทรศัพท์ทำให้ จิตวิญญาณของเวินสั่วฉิงกระจัดกระจายไปทั่ว
เจ้าหนูน้อย หนูกำลังโกหก เสียงของเย่ซื้อเฉินที่ส่งมาจาก โทรศัพท์ยังคงมีพลังอำนาจที่ทำให้คนตกใจ