บทที่406 คุณชายสามเย่เจอลูกสาวแล้ว (6)
“เธอสร้างเรื่องพวกนี้ออกมา จากนั้นก็ไปนอน เหนื่อย ใครไม่เหนื่อยว่ะ พวกเราสอบสวนติดต่อกันมาหลายวันแล้ว หลาย วันมานี้ไม่ได้พักผ่อนเต็มที่เลยแม้แต่น้อย จะไม่เหนื่อยเลยรึไง”หมิงหยวนพูดเสริมขึ้นมาอีกประโยคหนึ่งด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก
เล้งหรงหรี่สายตาลง เพราะเขาก็ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเวินลั่วฉิงเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถตอบคำถามของหมิงหยวนได้ ตอนนี้ทั้งท้องของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยไปหมด
และในตอนนี้ทางด้านเย่ซือเฉินก็เช็กที่อยู่ของถังไป๋เชียนได้แล้ว
เย่ซือเฉินจ้องมองโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ตรงหน้า แล้วหรี่สายตาลง ถังไป๋เชียนรู้ข้อมูลตั้งนานแล้ว แต่จนถึงตอนนี้กลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น นี่ปกติเหรอ
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ปกติ
ถังไป๋เชียนแอบเอาเวินลั่วฉิงย้ายไปแล้วใช่ไหม
เวินลั่วฉิงรู้การมาของเขา หลังจากก็ทำตามความคิดของถังไป๋เชียนย้ายออกไปใช่ไหม
หากเป็นเช่นนั้น เขาจะบีบเธอให้ตายจริงๆด้วย
เย่ซือเฉินกำมือไว้อย่างแน่น จากนั้นก็คลายมือออก หาเธอให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน
“ถังไป๋เชียนซ่อนได้เก่งจริงๆ ถึงกับมาซ่อนไว้ในโรงพยาบาลเลยนะเนี่ย”จางผิงที่ตามมาด้วยอดที่จะเอ่ยออกมาไม่ได้ เย่ซือเฉินแสยะยิ้ม แต่ถึงยังไงเขาก็หาเจอจนได้แล้ว จะมีประโยชน์อะไรอีก
ตอนนี้เขากลัวแค่ว่าเวินลั่วฉิงจะรู้ว่าเขามา แล้วตัวเองก็ซ่อนตัวไว้
ถังไป๋เชียนได้รับข่าวมานานแล้วจริงๆแหละ ดังนั้น จึงรู้ว่าเย่ซือเฉินมาตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้เวินลั่วฉิงไม่อยู่ เวินลั่วฉิงกลับเมืองAไปแล้ว ถังไป๋เชียนกลับคาดหวังให้เย่ซือเฉินเสียเวลากับทางนี้เยอะๆ เพราะฉะนั้น ทางด้านถังไป๋เชียนจึงไม่เคลื่อนไหวใดๆเลย
ตอนนี้เขาคิดจะไม่ทำอะไรทั้งนั้น เพื่อให้เย่ซือเฉินเสียเวลา
แต่ว่า……
เย่ซือเฉินเพิ่งเข้ามาในโรงพยาบาล เสียงร้องไห้ที่ดังลั่นจู่ๆก็ลอยเข้ามา
“หนูจะเอาคุณแม่ จะเอาคุณแม่ หนูจะเอาคุณแม่เท่านั้น” ถังจื่อซีในตอนนี้น้อยใจสุดๆ ทำไมเธอนอนหลับไปแล้วตื่นขึ้นมา คุณแม่ของเธอก็ไม่อยู่ข้างกายอีก
เย่ซือเฉินที่ฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ใจเหมือนกับจู่ๆก็โดนอะไรมาแทง เหมือนรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย
เด็กน้อยจื่อซีนั้นหลังตื่นจะงอแงอยู่แล้ว ตอนนี้ตื่นขึ้นมาก็หาเวินลั่วฉิงไม่เจออีก ดังนั้นจึงร้องไห้เสียใจเป็นพิเศษ และเสียงดังเป็นพิเศษ
“ทำไมถึงมีเด็กได้ ถังไป๋เชียนเริ่มลักพาเด็กมาขายเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพแล้วเหรอ”เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ หลายคนเริ่มประหลาดใจเล็กน้อย ว่ากันตามเหตุผลแล้ว ข้างกายถังไป๋เชียนเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเด็กอยู่ด้วยหนิ
นัยน์ตาเย่ซือเฉินประกายแวววับเด็กน้อย เขาดูแปลกมาก ถังไป๋เชียนครั้งนี้คือการหลบหนี เป็นการซ่อนตัวอยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้น เขาเชื่อว่าคนในโรงพยาบาลนี้น่าจะเป็นคนของถังไป๋เชียนทั้งนั้น
งั้นเด็กคนนี้มันเป็นยังไงกันแน่
เสียงร้องไห้ของเด็กแล้วน่าจะยังเล็กอยู่มาก น่าจะยังเป็นเด็กสาวตัวน้อย
เป็นการร้องไห้ที่เสียใจจริงๆ รู้สึกเหมือนถูกลักขโมยมานิดๆ แต่เย่ซือเฉินรู้ ว่าถังไป๋เชียนถึงจะเป็นยังไงอีกก็ไม่ขโมยเด็กของคนอื่นมาแน่
เด็กจื่อซียิ่งร้องยิ่งเสียงดัง ยิ่งร้องยิ่งเสียใจ เย่ซือเฉินที่ฟังอยู่ ใจก็รู้สึกยิ่งทรมานขึ้นเรื่อยๆ ปกติเขาไม่ค่อยจะชอบเด็ก ปกติได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ก็จะรู้สึกรำคาญ
วันนี้เป็นอะไรไปเหรอ ทำไมได้ยินเสียงเด็กน้อยร้องไห้ ในใจเขาทำไมถึงไม่สบายแบบนี้
หลังจากนั้น จู่ๆเย่ซือเฉินก็ก้าวเดินอย่างรวดเร็ว ไปในทางเสียงร้องไห้ที่ดังลั่นนั้น
ตอนนี้ ถังจื่อซีอยู่ที่ชั้นสอง เย่ซือเฉินเดินตรงไปทางบันได ชั้นหนึ่งในตอนนี้เขาไม่เช็กดูอะไรเลย
เย่ซือเฉินได้ยินเสียงเด็กร้องไห้แล้ว ถังไป๋เชียนก็คงได้ยินเช่นเดียวกัน
ถังไป๋เชียนสะดุ้งอย่างแรง เขาคิดไม่ถึงว่าในเวลานี้จู่ๆจื่อซีจะร้องไห้ได้ แถมยังร้องเสียงดังขนาดนี้ด้วย
ตอนแรกเขาคิดว่า รอถึงตอนที่เย่ซือเฉินมาหาถึงชั้นสองก่อน จากนั้นเขาก็จะออกมาขว้างไว้ แล้วต่อจากนั้นก็ให้คนแกล้งปลอมตัวเป็นเวินลั่วฉิง ให้ซ่งหยุนพาคนออกจากประตูด้านหลัง
ถึงตอนนั้นเย่ซือเฉินต้องตามซ่งหยุนออกไปแน่
ทักษะการขับรถของซ่งหยุนนั้นเจ๋งมาก ให้ซ่งหยุนพาคนออกไป คนของเย่ซือเฉินถึงจะเก่งยังไงก็ไม่สามารถตามไปได้ง่ายๆ
เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ยิ่งทำให้เย่ซือเฉินเสียเวลามากขึ้น
แน่นอน เขารู้ดีว่าอย่าเย่ซือเฉินไม่ได้หลอกง่ายขนาดนั้น ตอนนั้นเย่ซือเฉินต้องให้คนอยู่ทางนี้คอยตรวจสอบแน่นอน แต่ว่า เวินลั่วฉิงไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วยสิ เขาจึงไม่กลัวการค้นหาของเย่ซือเฉินอยู่แล้ว
แต่ว่า ถังไป๋เชียนวางแผนไว้อย่างดียังไง สิ่งเดียวที่คิดไม่ถึงคือจู่ๆจื่อซีจะมาร้องไห้ในตอนนี้ได้ แถมยังเกิดตอนที่เย่ซือเฉินเข้ามาในนี้ด้วย
ไม่พูดไม่ได้เลย ว่าเด็กถังจื่อซีร้องได้ถูกเวลามากๆ น่าจะพูดว่าเด็กถังจื่อซีร้องไม่ถูกเวลาจริงๆเลยสักนิด
ที่จริงถังไป๋เชียนก็อยู่ห้องข้างๆนี่แหละ เขาจึงรีบเปิดประตูออกมา ไปในห้องถังจื่อซี เห็นเยว่หงหลิงกำลังปลอบถังจื่อซีอยู่ สีหน้าเขาก็เริ่มหมองลงเล็กน้อย “รีบปลอบให้เสร็จ อย่าให้เธอร้องอีก”
“ลูกพี่ นิสัยของถังจื่อซีลูกพี่ไม่รู้หรือไง หรือลูกพี่จะมาปลอบดูล่ะ”เยว่หงหลิงตะลึงงันไปสักพัก แล้วโต้กลับทันที
ไอ้คนนี้นี่มันเป็นอะไรไป เป็นเพราะจื่อซีไม่เจอเวินลั่วฉิงถึงร้องไห้ นี่เป็นเรื่องที่สามารถปลอบได้ง่ายๆหรือไง
เธอกำลังเป็นห่วงอยู่เนี่ย ถังไป๋เชียนยังจะมาโทษเธออีก
แถมเธอฟังความหมายของถังไป๋เชียนเหมือนกับจะไม่พอใจที่จื่อซีร้องไห้จะรบกวนมาถึงเขา
ดังนั้นน้ำเสียงเยว่หงหลิงในตอนนี้จึงแย่มาก
เด็กจื่อซีเหมือนได้รับรู้อารมณ์ของถังไป๋เชียนแล้ว ต่อจากนั้นก็ยิ่งร้องไห้ดังขึ้นไปอีก ยิ่งเสียใจไปอีก
ถังจื่อซีในตอนนี้แม้แต่ฟังคำพูดของถังจื่อโม่ก็ไม่ฟัง
ถังจื่อโม่มองถังไป๋เชียนแวบหนึ่ง ในแววตามีความซับซ้อนเล็กน้อยที่ถูกซ่อนอย่างรวดเร็ว
ถังไป๋เชียนนิ่งอึ้งไปทันที จึงรู้ว่าในเมื่อกี้ได้เกิดใจร้อนมากไปในเวลาชั่วครู่ ตอนนี้ในสิ่งที่เขาควรจะทำคือหาทางมาขวางเย่ซือเฉินไว้
เดิมที เขาไม่ได้คิดแผนไว้สำหรับสถานการณ์ของเด็กสองคนนี้ไว้ เพราะเขาคิดว่าเย่ซือเฉินแค่มาหาเวินลั่วฉิงเท่านั้น ถึงจะเห็นเด็กทั้งสองก็ไม่สนใจอะไรมาก และถามอะไรมาก ในเมื่อหน้าตาเด็กทั้งสองก็ไม่ค่อยเหมือนกับเย่ซือเฉินสักเท่าไหร่
เขารู้ว่าเด็กทั้งสองไม่เคยพบเย่ซือเฉินมาก่อน เพราะฉะนั้นเด็กทั้งสองต้องไม่พูดอะไรกับเย่ซือเฉินอย่างแน่นอน
แต่ในตอนนี้การร้องไห้ของจื่อซี ได้ดึงดูดความสนใจทั้งหมดในทันที ตอนแรกเย่ซือเฉินไม่ควรสนใจ ก็อาจเป็นเพราะเสียงการร้องไห้ของถังจื่อซีจึงได้เกิดการสนใจก็เป็นไปได้สุดๆ
เมื่อเย่ซือเฉินเริ่มให้ความสนใจกัยเด็กทั้งสอน
แค่กลัวว่า……
สิ่งที่ถังไป๋เชียนไม่รู้คือ เย่ซือเฉินไม่เพียงสังเกตเห็นแล้ว แถมยังสังเกตเห็นเป็นพิเศษด้วย เพราะในขณะนี้เย่ซือเฉินกำลังเดินมาแล้ว
ถังไป๋เชียนรีบพาสองสามคนออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ขวางเย่ซือเฉินไว้ตรงหน้าบันได
เย่ซือเฉินเห็นถังไป๋เชียนที่เพิ่งออกมาอยู่ตอนนี้ ก็หรี่สายตาลงเล็กน้อย ในมุมปากปรากฏความเยือกเย็นเล็กน้อย
บนตึก เสียงร้องไห้ที่ของเด็กจื่อซีก็ลอยเข้าอย่างต่อเนื่อง และยังคงเหมือนเดิมคือความดังลั่น ความแสบแก้วหู และเศร้าเสียใจสุดๆนั้น
ในตอนนี้เย่ซือเฉินฟังแล้ว ก็รู้สึกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก