บทที่423 คุณชายสามเย่บอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ(1)
คนเมื่อกี้นี้เป็นลูกน้องของโม่เซินที่เป็นศัตรูตัวร้ายที่สุดของเย่ซือเฉิน เป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถคนนึงของโม่เซิน มีชื่อว่าลาปาตี๋
เพียงแต่ว่า อำนาจของโม่เซินไม่ได้อยู่ที่เมืองM เพราะฉะนั้นที่คนของโม่เซินปรากฏตัวอยู่ในงานเลี้ยงเป็นอะไรที่เย่ซือเฉินไม่คาดคิดเลย
พูดตามหลักแล้ว โม่เซินไม่มีทางรู้ว่าเขาจะปรากฏตัวในงานเลี้ยงนี้ แต่เย่ซือเฉินดูออกว่าคนของโม่เซินนั้นกำลังจดจ้องเขาโดยเฉพาะ
เย่ซือเฉินรู้ว่าต้องมีคนจงใจปล่อยข่าวแน่ๆ
ในขณะที่เย่ซือเฉินหันหน้าไปมองเมื่อกี้นี้ ก็ได้เห็นลาปาตี๋ เพราะฉะนั้นเย่ซือเฉินก็เลยปล่อยมือเวินลั่วฉิง และยังแกล้งทำเหมือนกลับมาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันกับเวินลั่วฉิงเลย
เย่ซือเฉินไม่มีทางเปิดเผยผู้หญิงของตนต่อหน้าศัตรู เพราะเขารู้ว่าการกระทำดังนั้นจะทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายมาก
ครั้งนี้ เย่ซือเฉินไม่ได้มองเวินลั่วฉิงโดยที่ไม่สนใจอะไรเหมือนครั้งก่อน แววตาของเขาเห็นถังไป๋เชียนพาเวินลั่วฉิงออกจากห้องโถง ทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมาก และใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มอ่อนๆตลอดเวลา ไม่มีท่าทีที่ไม่ยินยอมเหมือนตอนที่เขาจับมือเธอก่อนหน้านี้เลยสักนิด
เย่ซือเฉินยกแก้วเหล้าขึ้น และดื่มอย่างดุเดือดอีกครั้ง
ไม่เจอกันหลายวัน ใจของเธอไม่อยู่ที่เขาเลยสักนิด
แปลกจัง ใจของเธอเคยอยู่ที่ตัวเขาเมื่อไหร่กัน?
แต่ว่า ไม่ว่าใจของเธอจะอยู่ที่ตัวเขาหรือไม่นั้น เขาก็จะเอาเธอ
สายตาของเขาหมุนเล็กน้อย และมองไปที่เธออย่างไร้ร่องรอย ส้มปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย ไม่รีบร้อน เราค่อยเป็นค่อยไปกัน วันนี้ ถ้าปรากฏตัวแล้ว เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เธอจากไปแน่ๆ เขาเคยบอกแล้ว ถึงจะต้องแย่ง เขาก็จะแย่งเธอกลับมาให้ได้
ก่อนหน้านี้ เขาก็เคยคิดแล้วว่าเธอจะไม่ยอมกลับไปกับเขาด้วยตนเอง เพราะฉะนั้นนี้ก็เป็นเรื่องปกติ ไม่มีผลกระทบใดๆทั้งนั้น
เธอไม่ยอมรับว่าเธอคือเวินลั่วฉิง? เธอแกล้งทำเหมือนไม่รู้จักเขา?ไม่เป็นไร เขามีวิธีที่จะทำให้เธอยอมรับ?
เขาจำได้ว่า เธอกลัวเหล้าที่สุด ถ้าโดนเหล้านิดหน่อยก็จะมึนศีรษะ เพราะฉะนั้นแค่ทดลองด้วยวิธีนี้ก็จะรู้ผลแล้ว
แต่ว่า เวลานี้มีคนของโม่เซินอยู่ในนี้ด้วย เย่ซือเฉินไม่รีบร้อนไปเข้าใกล้เวินลั่วฉิงอีก
เย่ซือเฉินแววตาของลาปาตี๋แอบมองเวินลั่วฉิงหลายครั้ง สิ่งที่เขามองมากที่สุดก็คือมือของเวินลั่วฉิงที่เก็บเข้าไปใต้แขนเสื้อ
เย่ซือเฉินลืมตาลงเล็กน้อย เมื่อกี้ตอนที่ลาปาตี๋เดินเข้ามา เขายังจับมือเวินลั่วฉิงอยู่ เห็นได้ชัดว่าลาปาตี๋คงจะเห็นแล้วล่ะ
เพียงแต่ว่า เวลานั้นลาปาตี๋เพิ่งจะเดินเข้ามา จึงไม่พบอะไรผิดปกติมาก
เพียงแต่ว่า ก่อนหน้านี้เธอจับมือเธอตลอด จับแรงเกินไป มันต้องเหลือร่องรอยอะไรไว้แน่ๆ
ถึงแม้ว่า ตอนนั้นเวินลั่วฉิงจะซ่อนมันยังรวดเร็ว แต่ว่าลาปาตี๋น่าจะสังเกตเห็นอะไรสักอย่างในวินาทีที่เขาปล่อยมือแน่
แววตาเย่ซือเฉินจมลง มีความเยือกเย็นบ้างเล็กน้อย คงต้องหาวิธีจัดการคนที่ขัดหูขัดตาคนนี้ซะแล้วล่ะ
หลังจากนั้นเย่ซือเฉินพบว่า คนที่มาไม่ได้มีเพียงลาปาตี๋ เขายังเห็นอีก 2 คน สองคนนั้นปกติแล้วจะติดตามอยู่ข้างกายโม่เซิน สองคนนั้นปรากฏตัวที่นี่ งั้น….
เย่ซือเฉินเม้มริมฝีปากเบาๆ ดูท่าแล้วคืนนี้คงจะไม่สงบแน่
เย่ซือเฉินทั้งสองคนนั้นโดนไปอยู่ข้างๆลาปาตี๋ คุยกันสักพัก จากนั้น เย่ซือเฉินก็พบว่าสองคนนั้นก็เริ่มจับตามองเวินลั่วฉิง
ในใจของเย่ซือเฉินจมลง เพราะเขารู้ดีถึงฝีมือของโม่เซินพวกเขา โม่เซินยอมฆ่าผิดคนนับพัน ก็ไม่ยอมปล่อยไปแม้แต่คนเดียว
เพราะฉะนั้น ในสถานการณ์แบบนี้ เพียงแค่พวกเขาสงสัยในตัวเวินลั่วฉิงเล็กๆน้อยๆ เวินลั่วฉิงก็จะตกอยู่ในภาวะอันตรายมาก
ในสถานการณ์แบบนี้ จู่ๆเขาจะพาเธอจากไปไม่ได้ เพราะเย่ซือเฉินก็ไม่รู้ชัดว่าตอนนี้ภายนอกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน
อีกอย่าง เขาต้องหาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาที่มีต่อเวินลั่วฉิงไปที่อื่น เพียงแต่ว่า การที่เขาจะหันเหความสนใจของคนพวกนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
และเวลานี้เอง หลี่ยุ่นยกแก้วเหล้า 1 แก้ว เดินไปด้านหน้าเขา เย่ซือเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย
“ประธานเย่ ฉันขอเชิญคุณดื่มเหล้าแก้วนึง”หลี่ยุ่นถือแก้วเหล้ายื่นไปให้ด้านหน้าเขา เธอเงยหน้าขึ้น มองหน้าเขา
มีดวงตาคู่นึงมองมาที่เหล้าในมือหลี่ยุ่น มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็รับเหล้าจะมือเธอ และยังกล่าวขอบคุณ
หลี่ยุ่นเห็นว่าเขารับเหล้าจากเธอ มือคู่นั้นค่อยๆเก็บลง ดวงตาคู่นั้นมองไปที่เขา ภายในแววตาซ่อนไปด้วยความร้อนใจ และยังมีความกังวลเล็กน้อย
เขาจะดื่มไหมนะ?จะดื่มหรือเปล่า?
เพียงแค่เขาดื่ม ในคืนวันนี้ เขาก็จะเป็นของเธอแล้ว
ได้ยินว่า ยานี้แรงสุดยอดมาก เพียงแค่เขาดื่มเหล้าแก้วนี้ เขาจะไม่ยอมหยุดลง ในค่ำคืนวันนี้ทั้งคืนเลย
หลี่ยุ่นคิดแบบนั้นแล้ว ในใจก็รู้สึกตื่นเต้น เธออยากได้เขามานานแล้ว นานมากแล้ว วันนี้ก็ควรจะให้เธอได้สมหวังแล้วสักที
เย่ซือเฉินถือเหล้าแก้วนั้น ค่อยๆเข้าใกล้ถึงฝีปาก เราดมกลิ่น ยังไม่รีบที่จะดื่ม กลับมองหน้าหลี่ยุ่นทีนึง
หลี่ยุ่นเมื่อสบตากับเขา ในใจก็กังวลขึ้นไปอีก ร่างกายแข็งทื่อ
เขาจะพบอะไรหรือเปล่านะ?
คนที่ให้ยาเธอบอกว่า ยาแบบนี้ไร้สีไร้กลิ่น ยังไงก็ไม่มีทางรู้แน่
เมื่อเห็นท่าทีการตอบสนองของเธอ ดวงตาเย่ซือเฉินที่หรี่ลงเล็กน้อยประกายความเยือกเย็น
ความจริงแล้ว ยาตัวนั้นไร้กลิ่นไร้สีจริงด้วย และดูไม่ออกว่ามีอะไรด้วยซ้ำ แต่จากท่าทีการตอบสนองของหลี่ยุ่นเมื่อกี้นี้กระทำให้เย่ซือเฉินเกิดความสงสัยในใจ
“ประธานเย่ทำไมไม่ดื่มคะ?”เวลานี้หลี่ยุ่นตื่นเต้นมาก แต่เธอลุ้นมากกว่า เวลานี้เธอชักอยากจะบังคับเย่ซือเฉินให้ดื่มให้หมดแก้วเลย
เย่ซือเฉินไม่พูดอะไร เพียงแค่ถือแก้วเหล้ามาใกล้ริมฝีปาก เราลืมไปคำนึง
หลี่ยุ่นเห็นว่าเขาดื่มแล้ว ก็รู้สึกดีใจมาก ความรู้สึกดีใจนี้แสดงออกมาหมดเลยไม่สามารถซ่อนเอาไว้ได้
ในเมื่อเขาดื่มเหล้าแล้ว งั้นเรื่องต่อมาก็ต้องตามใจเธอหมดแล้ว
“ดื่มอีกหน่อยสิคะ”หลี่ยุ่นเห็นว่าเขาดื่มเพียงคำเดียวก็หยุด เลยอยากให้เขาดื่มเพิ่มอีกหน่อย ร่างกายของเธอเข้าใกล้เขา ยกมือขึ้น อยากไปดันแก้วเหล้าในมือเขา
จู่ๆเย่ซือเฉินก็ยื่นมือไป จับมือของเธอไว
หลี่ยุ่นตกใจ คิดว่าเย่ซือเฉินรู้ตัวแล้ว ถึงแม้เธอจะอยากได้เย่ซือเฉิน แต่เธอก็กลัวเย่ซือเฉินเหมือนกัน เวลานั้น ร่างกายของหลี่ยุ่นสั่นอย่างเห็นได้ชัด มองเย่ซือเฉินด้วยความตื่นตระหนก
แต่ว่า หลี่ยุ่นพบว่า พบว่าใบหน้าของเย่ซือเฉินไม่มีร่องรอยความโมโหเลยสักนิด และไม่มีความเย็นชาเหมือนปกติทั่วไป เวลานี้เขากำลังจับตามองเธอ แววตาราวกับมีความตั้งใจและลึกซึ้งมาก
ในเวลานี้ เขาจับมือของเธอไว้ ไม่ออกแรงใดๆ และถอยห่างจากตัวเธอ
หลี่ยุ่นเงิบ ตามด้วยแอบดีใจ นี่แสดงว่ายาออกฤทธิ์แล้วเหรอ?
หรือเป็นเพราะว่าในที่สุดเย่ซือเฉินก็เห็นความสวยงามของเธอ และหลงใหลกับความงามของเธอ!!
หลี่ยุ่นยิ้มเล็กน้อย จงใจนำร่างกายเข้าไปใกล้เขามากขึ้น มากขึ้น