บทที่ 454 อาการหึงหวงคุณชายสามเย่กำเริบ (4)
“ค่ะ”สถานการณ์เช่นนี้ เวินลั่วฉิงได้แต่พยักหน้ารับปาก ถึงแม้จะเป็นคนแปลกหน้า เธอก็ไม่อาจละเลยความเป็นตายร้ายดีของคนอื่นได้
ไป๋ยี่รุ่ยยังไม่ฟื้น แต่เขากลับจับมือเธอไว้ไม่ปล่อย
เวินลั่วฉิงนั่งอยู่อย่างนี้เป็นเวลาหลายชั่วโมง
ระหว่างนั้นเวินลั่วฉิงโทรศัพท์หาคุณปู่ เธอไม่ได้บอกเรื่องไป๋ยี่รุ่ยได้รับบาดเจ็บ บอกเพียงว่าเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย ทำให้เธอกลับไปไม่ได้ชั่วคราว
คุณปู่นึกว่าเธอคืนดีกับไป๋ยี่รุ่ยกันแล้ว จึงมีเรื่องต้องคุยกันมากมาย ฉะนั้นจึงไม่ได้ซักไซ้อะไรให้มากความนัก
ตอนกลางคืน เย่ซือเฉินไปที่โรงพยาบาล ตอนที่เธอจากไปในตอนเช้า เขาบอกว่าจะไปรับเธอที่โรงพยาบาล บอกให้เธอรอเขา
เขาคิดว่าตอนนี้เธอต้องอยู่ที่โรงพยาบาลที่คุณปู่เวินรักษาแน่ๆ
เพราะตอนนี้คุณปู่เวินยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ยิ่งไปกว่านั้นเธอรู้ว่าแล้วผู้ชายที่เธอได้เสียกันในห้าปีก่อนเป็นเขา เธอต้องรู้สึกผิดและเชื่อฟังเป็นพิเศษแน่ๆ
ขณะที่เย่ซือเฉินเดินเข้าโรงพยาบาล อดยกมุมปากขึ้นมายิ้มไม่ได้
เย่ซือเฉินเดินไปยังห้องคนไข้ของคุณปู่เวินโดยตรง จากนั้นมองผ่านหน้าต่างบานเล็กตรงประตูไปยังด้านในห้องคนไข้ แต่ทว่าก็ไม่พบเห็นเงาของเธอแต่อย่างใด
เย่ซือเฉินกำลังคิดว่า เธออาจจะมีธุระออกไปด้านนอก เขาจึงรอเธออยู่ตรงนี้อย่างไม่เร่งรีบ
เขาทราบดี เธอไม่อยากให้คุณปู่เวินรู้เรื่องราวของพวกเขา ฉะนั้นเย่ซือเฉินจึงไม่ไปปรากฏตัวต่อหน้าคุณปู่เวินเป็นการชั่วคราวก่อน
เขาไม่อยากบีบคั้นเธอมากเกินไป บางครั้งจำเป็นต้องค่อยเป็นค่อยๆไป
เรื่องนี้ต่างจากเรื่องในห้าปีก่อน
“คุณปู่เวินค่ะ ญาติของคนล่ะคะ?ดิฉันมีเรื่องต้องกำชับญาติของคุณค่ะ”ด้านในห้องคนไข้ พยาบาลกำลังตรวจร่างกายของคุณปู่เวินอยู่
“ภรรยาของผมออกไปซื้อของแล้วครับ”ขณะที่คุณปู่เวินพูดถึงภรรยาของตนอยู่นั้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
“แล้วหลานสาวของท่านล่ะคะ?ช่วงนี้ คุณหนูใหญ่ตระกูลเวินมาอยู่เฝ้าไข้ท่านทุกวันเลยไม่ใช่เหรอคะ?ทำไมวันนี้ไม่เห็นหน้าเธอทั้งวันเลยคะ?”ด้านในห้องคนไข้ พยาบาลน้อยถามต่ออีกหนึ่งประโยค
พอได้ยินคำพูดของพยาบาล สีหน้าของเย่ซือเฉินก็เคร่งขรึม ไม่เห็นหน้าเธอมาทั้งวัน?
หมายความว่าอะไร?หรือตลอดทั้งวันนี้เธอไม่ได้มาที่โรงพยาบาลเลย?
“ฉิงฉิงเคยมาตอนเช้า จากนั้นก็มีธุระออกไปด้านนอก”เวินลั่วฉิงไม่อาจทนให้คนอื่นเข้าใจในตัวเวินลั่วฉิงผิดไม่ได้ ฉะนั้นจึงรีบอธิบาย
ได้ฟังคำพูดของคุณปู่เวิน สีหน้าของเย่ซือเฉินเคร่งขรึมเพิ่มขึ้นหลายส่วน ตอนเช้าเคยเข้ามา จากนั้นมีธุระออกไป?แล้วก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย?!
เธอพูดเองว่าจะมาดูแลคุณปู่ แต่ทว่าเธอแค่โผล่หน้ามาตอนเช้า จากนั้นก็หายตัวไปเลย
แล้ววันนี้ทั้งวันเธอไปไหนแล้ว?
ยัยบ้านี่สมควรตายจริงๆ เคยบอกว่าอย่าหายตัว แต่ผู้หญิงคนนี้ยังกล้าหายตัวเฉยซะงั้น
เย่ซือเฉินรีบนำมือถือออกมาโทร
อีกฝั่งหนึ่ง ด้านในห้องคนไข้ไป๋ยี่รุ่ย มือถือของเวินลั่วฉิงดังขึ้นมากะทันหันจนทำให้เธอสะดุ้งตกใจ เพราะมือขวากำลังจับมือของไป๋ยี่รุ่ยเอาไว้ เธอจึงจำเป็นต้องใช้มือซ้ายในการเอามือถือออกมา ซึ่งมันไม่สะดวกเอาซะเลย จึงมีความเชื่องช้าเล็กน้อย
กว่าจะเอามือถือออกมาได้นั้นไม่ง่ายเลย เธอเห็นรายชื่อผู้โทรเข้าในหน้าจอมือถือก็ตกใจจนหัวใจเต้นแรงตุกๆทันที
เวินลั่วฉิงนึกถึงเรื่องในเมื่อเช้า ตอนที่เธอออกมา เย่ซือเฉินบอกว่าจะมารับตอนกลางคืน หากไม่เจอตัว ให้ตนรับผิดชอบเอาเอง……
ดวงตาของเวินลั่วฉิงกะพริบเบาๆ ตอนนี้เธอนึกขึ้นมาได้ว่าผู้ชายในห้าปีก่อนเป็นเขา เธอก็รู้สึกผิดในใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
จนมาจนปู่นี้แล้ว เธอยังไม่เคยรู้สึกผิดในใจเท่านี้มาก่อนเลย
เพราะรู้สึกผิดและตื่นเต้น บวกกับมือขวาจับมือของไป๋ยี่รุ่ยเอาไว้ เธอจึงต้องใช้มือซ้าย จากนั้นไม่ระวังไปกดวางสายเสียอย่างนั้น
เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก เมื่อกี้เธอวางสายของเย่ซือเฉินทิ้งเหรอ?อันที่จริงเธอคิดจะรับสาย เพียงแต่ไม่ระวังกดผิดที่เอง
จริงๆ ไม่ระวังกดผิดจริงๆ!!
เห็นถูกตัวเองกดวางสายโดยไม่ตั้งใจ ดวงตาของเวินลั่วฉิงก็กะพริบ ยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่
เห็นโดนวางสาย ใบหน้าของเย่ซือเฉินก็มืดขึ้นมาทันควัน ผู้หญิงคนนี้เล่นหายตัวกับเขาก็แล้ว ตอนนี้เธอยังกล้ากดสายของเขาทิ้งอีก!
ตอนนี้เธอยิ่งกล้าไปใหญ่แล้ว
ไม่ได้รีรอแม้แต่นิด เย่ซือเฉินโทรออกไปอีกครั้ง
เห็นมือถือสว่างขึ้นมาอีกครั้ง ทันใดนั้นเวินลั่วฉิงก็รู้สึกขนหัวลุก ปกติเธอเป็นคนไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน แต่บัดนี้เธอรู้สึกกลัวเล็กน้อย
ตอนนี้เธอจะรับสายดี?หรือไม่รับสายดี?
รับแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?ไม่รับสายแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?
ไม่งั้นก็รับสายเถอะ รับสายแล้วก็อธิบายให้เขาฟังดีๆ เพียงแต่นึกถึงบทสนทนากับเขาในตอนเช้า เธอรู้สึกว่าอธิบายให้เขาเข้าใจในมือถือนั้นยากมาก
หลังจากที่พินิจพิจารณาไปชั่วครู่ เวินลั่วฉิงก็กดปุ่มรับสาย
ขณะที่รับสาย เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นเร็วเพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย
เธอรู้สึกว่า ตอนนี้เธอรับสายของเย่ซือเฉินนั้นอันตรายกว่าเรื่องไหนๆ
เธอไม่เข้าใจเอาเสียเลย ปกติเธอเป็นคนใจเย็นสุขุม ทำไมแค่รับสายของเย่ซือเฉินก็รู้สึกว้าวุ่นใจเสียแล้ว?
“เวินลั่วฉิง คุณเก่งมาก กล้าเล่นหายตัวกับผม กล้าวางสายของผม”เมื่อรับสาย เสียงของเย่ซือเฉินก็ส่งผ่านมาทันควัน เวินลั่วฉิงสัมผัสผ่านทางมือถือได้ว่าตอนนี้เขากำลังมีเพลิงโกรธ สามารถเผาคนให้มอดไหม้ได้
ฟังออกมาเขาโกรธมาก โกรธมากที่สุด!!
“……”เวินลั่วฉิงคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ มุมปากของเธอกระตุกอย่างแรง อยากอธิบายด้วยจิตใต้สำนึก “เมื่อกี้ฉัน……”
เวินลั่วฉิงอยากจะพูดว่าเมื่อกี้เธอไม่ได้จงใจวางสาย เป็นเพราะไม่ระวัง แต่เวินลั่วฉิงรู้ว่าเขาคงไม่เชื่อเด็ดขาด
เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก เพราะความเข้าใจผิดในเรื่องหย่าแท้ๆ จนทำให้เขาต้องมารังควานเธอขนาดนี้ ตอนนี้เขายังรู้เรื่องห้าปีก่อนอีก คาดว่าชีวิตดวงน้อยๆของเธอต้องจะรักษาไว้ยากเสียแล้ว
เธอจะอยู่ให้ห่างๆจากเขา ห่างจากเขา ห่างจากเขา จำเป็นต้องอยู่ให้ห่างจากเขา
ทางที่ดีคือตัวสายสัมพันธ์กับเขาทิ้งตลอดกาล และไม่ต้องเจอหน้ากันอีก
แต่ทว่าเวินลั่วฉิงก็รู้ดี สถานการณ์เช่นนี้เธออยากหลบหน้าเขานั้นยากเย็นนัก
สิ่งที่เย่ซือเฉินอยากจะทำ ไม่มีใครขัดขวางได้ และเธอก็ไม่มีความสามารถอย่างนั้นด้วย
ตอนนี้เวินลั่วฉิงรู้สึกเสียใจภายหลังเหลือเกิน หากรู้แต่แรก ตีให้ตายเธอก็ไม่ยินดีตอบตกลงแต่งงานตามกับเย่ซือเฉินแบบมีเงื่อนไขเด็ดขาด
“คุณอยู่ไหน?”เสียงของเย่ซือเฉินส่งมาอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่ามีความดุดันหลายส่วน ดุดันในลักษณะที่อยากจะกัดเธอให้ตาย
เวินลั่วฉิงได้ยิน มือก็สั่นเทาด้วยจิตใต้สำนึก
“ฉิงฉิง”เวินลั่วฉิงยังไม่ทันตอบ จู่ๆไป๋ยี่รุ่ยก็ลืมตาขึ้นมามองเวินลั่วฉิง ก่อนที่จะเรียกเธอ
ถึงแม้เสียงของไป๋ยี่รุ่ยไม่ดังมาก แต่ก็ไม่ได้เบาจนเกินไป
และบัดนี้ มือของเวินลั่วฉิงยังคงถูกไป๋ยี่รุ่ยกุมเอาไว้ ฉะนั้นเธอจึงกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าเตียง ซึ่งพวกเขาอยู่ในระหว่างที่ใกล้กันอยู่แล้วไป๋ยี่รุ่ยพูดขึ้นมากะทันหันเช่นนี้ อีกฝั่งหนึ่งของสาย เย่ซือเฉินก็คงจะได้ยินแน่ๆ
เวินลั่วฉิงสะดุ้งตกใจ!!